xs
xsm
sm
md
lg

พท.จัดทัพร่วมรัฐบาลแห่งชาติ!?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร - คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
เมืองไทย 360 องศา

ถ้าบอกว่าเหนือความคาดหมายก็ต้องพูดว่าแบบนั้นก็ได้ สำหรับการทยอยลาออกจากตำแหน่งสำคัญในพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่เมื่อเย็นวันศุกร์-เสาร์ ที่ผ่านมา เริ่มจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลาออกจากตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ของพรรค และตามมาด้วยการลาออกจากกรรมการด้านยุทธศาสตร์พรรคของ นายโภคิน พลกุล และนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายวัฒนา เมืองสุข เป็นต้น แต่ยังคงเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ต่อไป

จากนั้นก็ตามมาด้วย การยื่นใบลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารของพรรคเพื่อไทย ทั้งหมดต้องสิ้นสุดลงตามไปทันที ซึ่งในกรณีการลาออกขอก นายสมพงษ์ ดังกล่าว ยังส่งผลทำให้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรของเขาต้องสิ้นสุดลงไปด้วย

การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ โดยล่าสุด มีการนัดประชุมพรรคในวันที่ 28 กันยายนนี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากจังหวะเวลา และ “ภาพ” การเคลื่อนไหวที่ปรากฏและมีผลที่ต่อเนื่องตามมาภายในพรรคเพื่อไทยย่อมทำให้เกิดความสนใจและสงสัยจากสังคมภายนอก รวมไปถึงบรรดา ส.ส.ของพรรค รวมไปถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทยระดับปลายแถว หรือแม้แต่บรรดามวลชนที่สนับสนุนพรรคมานานย่อมงุนงงว่าเกิดขึ้นอะไรขึ้น เพราะแม้ว่าจะมีหลายคนในพรรคพยายามอธิบายว่า “ไม่มีอะไร” แต่เมื่อได้เห็นการเคลื่อนไหวดังกล่าวย่อมต้องเข้าใจตรงกันว่า “มันผิดปกติ” แน่นอน

ที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีสมาชิกพรรคคนใดสามารถอธิบายถึงเหตุผลของการตบเท้าลาออกจากตำแหน่งสำคัญในพรรคเพื่อไทยอย่างกะทันหันดังกล่าวได้ ตรงกันข้ามเหมือนกับว่า “บางคน” พยายามจงใจ “ทิ้งปริศนา” การลาออกของตัวเองเอาไว้ให้สังคมได้ขบคิด เช่น การลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จากตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ของพรรค รวมไปถึงบุคคลอื่นๆ ในพรรคที่มีความใกล้ชิดในกลุ่มเดียวกับเธอ ต่างก็มีการพูดในแบบ “อ้ำอึ้ง” ไม่เต็มปากเต็มคำ

ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลาก่อนหน้านั้นไม่นาน หากมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่น่าจะใช่กับ “ภาพสำคัญ” บางภาพของ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยาของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรากฏตัวพร้อมคนในครอบครัวใน “ชุดเหลือง” ช่วง “ข่าวสำคัญ” ในตอนค่ำ ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตทันที และก็ตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคเพื่อไทย โดยเริ่มจากการลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และทีมยุทธศาสตร์ของพรรค และ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่ทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคต้องสิ้นสุดทันที และทำให้มีการเลือกตั้งชุดใหม่ในเร็วๆ นี้

หากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์ และความเข้าใจจากภายนอก ก็ย่อมรับรู้กันดีว่า คนในครอบครัวชินวัตร ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน (ณ ป้อมเพ็ชร) มีอิทธิพลอย่างสูงกับพรรคเพื่อไทย ถึงขั้นบางครั้งถึงกับเชื่อว่า พวกเขาเป็น “เจ้าของพรรค” ตัวจริง อย่างน้อยก็รับรู้ว่าที่ทำการพรรคในปัจจุบันนี้ ยังเช่าตึกของ คุณหญิงพจมาน อีกด้วย

อีกทั้งเมื่อโยงใยถึงแบ็กกราวนด์ก็ยังมีการรับรู้อีกว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง คุณหญิงพจมาน กับ คุณหญิงสุดารัตน์ ไม่ค่อยราบรื่นนักโดยมักมีรายงานว่า การสนับสนุน มักจะเทไปทางกลุ่ม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ มากกว่า ในท่ามกลางหลายกลุ่มก๊วนในพรรค

อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ ถือว่าน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งทั้งจากคนในพรรคเองรวมไปถึงบุคคลภายนอก ที่มองว่า “ไม่ธรรมดา” เพียงแต่ว่ายังไม่อาจมองเห็นภาพได้ชัดเจน เนื่องจากยังไม่มีใครสามารถอธิบายเหตุผลได้ เพราะเป็นพรรคที่มีการชี้นำจากคนในบางครอบครัว เช่น ถูกมองมาตลลอดเวลาว่ามาจากครอบครัวของ นายทักษิณ ชินวัตร ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นก็ถูกมองว่าต้องมาจากคนในครอบครัวนี้ ซึ่งคราวนี้โฟกัสไปที่ “คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร” อดีตภรรยา

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาการเคลื่อนไหวจากภายนอก โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปรากฏเสียงเรียกร้องคัดค้าน “รัฐบาลแห่งชาติ” เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้อง ซึ่งหากไม่มีกรณีที่เกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทย และ“ภาพชุดเหลืองของคุณหญิงพจมาน”ก็ยังมองไม่ออกว่าจะเกิดรัฐบาลแห่งชาติได้อย่างไร แต่เมื่อได้เห็นปรากฏการณ์ดังกล่าว ก็ทำให้เห็นโอกาสความเป็นไปได้มากขึ้น สำหรับรัฐบาลแห่งชาติที่มี “พรรคเพื่อไทยเข้าร่วมรัฐบาล” แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วมันก็เป็นไปได้ยากเต็มที แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว เมื่อการเมืองเป็นอะไรก็ได้ จนอาจเหนือความคาดหมายได้เสมอ หากสมประโยชน์

ดังนั้น หากพิจารณาปรากฏการณ์ในพรรคเพื่อไทย ณ เวลานี้อาจยังมองไม่เห็นภาพชัดเจน จนกว่าจะมีการประชุมพรรค ในวันที่ 28 กันยายน แต่เมื่อเห็นจากความเคลื่อนไหวดังกล่าว คงมีการ “ผ่าตัด” กันครั้งใหญ่ ส่วนจะทำให้เกิดเอกภาพมากกว่าเดิมหรือว่า “แตก” แบบทางใครทางมัน ก็น่าจับตา แต่หากให้มองอนาคตถือว่า “กลุ่มของสมพงษ์” น่าจะมีภาษีดีกว่ากลุ่มของ “เจ๊หน่อย” หลายขุม และยังเป็นไปได้ที่อาจกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกรอบ ก็เป็นได้ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น