เจ้าของพรรคบัญชา ลุ้น “เพื่อไทย” เอาไง? หลัง “คุณหญิงหน่อย” นำทีม “ลาออก” เปิดทาง “วัน” จมูกไว ชี้เปรี้ยงทันควัน “ผ่าตัดใหญ่” “ไพศาล” ชี้ปรับขั้วการเมือง “สุวินัย” เชื่อเป็นประกาศิต “คุณหญิงอ้อ” ถอนฟืนออกจากไฟ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (26 ก.ย. 63) กระแสใหญ่ คือ ข่าวการลาออกจาก ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยของ “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ตามด้วยแกนนำพรรคหลายคนต่างทยอย “ลาออก” เช่นกัน คำถามคือเกิดอะไรขึ้น เพราะเป็นการลาออกอย่างปัจจุบันทันด่วนนั่นเอง
เรื่องนี้ เฟซบุ๊ก วัน อยู่บำรุง ของ นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.พรรคเพื่อไทย โพสต์ทันควันว่า “เพื่อไทยเตรียมผ่าตัดใหญ่!!!!” แต่ไม่ได้บอกอะไรมากกว่านี้
ขณะเดียวกัน นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “ฝนตกบ้านน้อง ฟ้าไปร้องถึงบ้านพี่!!!”
โดยระบุว่า การลาออกจากตำแหน่งสำคัญในพรรคเพื่อไทย ของแกนนำหลายคน บ่งบอกสัญญาณการปรับขั้วการเมืองครั้งสำคัญ
งบประมาณผ่านแล้ว
ฟันธง! เป็นสัญญาณปรับใหญ่
พวกโกงได้โกงเอา พวกขี้เท่อ หน้าด้านเส็งเคร็ง คงหนาว!!!
ทวงกระทรวงสำคัญดีนัก ต้องสั่งสอนเสียให้เข็ด ให้รู้เสียมั่งว่า ไผเป็นไผ!!!
ลุงสนธิรัตน์ของผมจะคัมแบ็กไหมเนี่ย?”
ที่น่าสนใจ ไม่แพ้กัน เฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai ของ ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์หัวข้อ “หมากประกาศิตของคุณหญิงพจมาน”
เนื้อหาระบุว่า “การเมืองไทยแต่เดิมก็เป็นการเมืองเชิงสัญลักษณ์อยู่แล้ว
อาการแพแตกของพรรคเพื่อไทยในคืนนี้ น่าจะเพราะได้รับสัญญาณบางอย่างจากเจ้าของพรรคตัวจริงนั่นเอง
ถ้าอาการแพแตกของพรรคเพื่อไทยในคืนนี้ ทำให้ถอนฟืนออกจากกองเพลิงได้
เราคงต้องขอบคุณคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ขยับหมาก “ประกาศิต” นี้เพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง
#คุณหญิงพจมานฉลาดและล้ำลึกจริงๆ
ถ้าคนอ่านเกมขาด หมากนี้ของคุณหญิงพจมาน บอกได้คำเดียวว่า
“มันจบแล้วท่าน”
หลังจากนี้ พวกเสื้อแดงคงต้องตัวใครตัวมันแล้วละ
ส่วนม็อบวันที่ 14 ตุลา เดือนหน้าคงเกิดยากแล้ว”
ทั้งนี้ ภายหลังประกาศลาออกจากประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ล่าสุด “คุณหญิงหน่อย” ได้เปลี่ยนรูปภาพปกหลังเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นรูปภาพขณะลงพื้นที่พบปะประชาชน พร้อมข้อความระบุว่า “ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด หัวใจของดิฉันอยู่กับประชาชน”
ส่วนความเคลื่อนไหวจากพรรคเพื่อไทย ภายหลังคุณหญิงสุดารัตน์ ลาออก ก็ได้มีแกนนำคนสำคัญหลายคนลาออกตาม เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายโภคิน พลกุล ลาออกจากกรรมการยุทธศาสตร์พรรค
รวมทั้ง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค ก็มีข่าวเตรียมลาออกจากหัวหน้าพรรค ซึ่งก็จะส่งผลให้หลุดจากการเป็นผู้นำฝ่ายค้านด้วย และล่าสุด ก็ได้ยื่นจดหมายลาออกแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค ซึ่งถือเป็นสายตรงคุณหญิงสุดารัตน์ จะมีการเปลี่ยนแปลงด้วย โดยเลขาธิการพรรคคนใหม่ จะเป็น ส.ส.ที่เป็นสายตรงของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งตอนนี้กำลังพิจารณาผู้ที่มีความเหมาะสม
ที่สำคัญ มีการวิเคราะห์กันว่า การลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ กรรมการยุทธศาสตร์ และกรรมการบริหาร ก็เพื่อให้มีการปรับโครงสร้างพรรค จากนั้น ก็จะมีการเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ในการประชุมพรรคที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 28 ก.ย.นี้
ยิ่งกว่านั้น มีรายงานว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ จะแถลงท่าทีสนับสนุนรัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อลดความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ อีกทั้งลดกระแสการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมประชาชนปลดแอก ที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาลอย่างรุนแรงอีกด้วย
นอกจากนี้ รายงานข่าวเปิดเผยถึงสาเหตุความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย จนนำมาซึ่งการตัดสินใจลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ และแกนนำหลักๆ อีกหลายคน ว่า ส.ส.บางส่วนไม่พอใจนายสมพงษ์ ที่ตัดสินใจผิดพลาด ไปลงชื่อในแถลงการณ์พรรคร่วมฝ่ายค้าน สนับสนุนการชุมนุมของม็อบนักศึกษา ที่ประกาศนัดชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา
จากนั้นได้มีคำสั่งจาก “บิ๊กเนม” ตัวจริงของพรรค ให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระดมมวลชนคนเสื้อแดงจากต่างจังหวัดเพื่อร่วมชุมนุมกับม็อบเยาวชนที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 24 ก.ย.เพื่อติดตาม และกดดัน ส.ว. และฝ่ายรัฐบาลให้รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 6 ฉบับ แต่ปรากฏว่า เมื่อแกนนำหลักๆ ของพรรคระดมคนเสื้อแดงมาได้ กลับไม่มีการดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย จาก “บิ๊กเนม” ขณะที่ ส.ส.และแกนนำของพรรค ต่างไม่มีใครรับผิดชอบ ทำให้คนเสื้อแดงพากันเดินทางกลับ...
อีกด้านที่เป็นความเคลื่อนไหว ก็คือ ในกลุ่มไลน์ทางการ ส.ส.เพื่อไทย มีการแสดงความเห็นอย่างหลากหลาย โดยหนึ่งใน ส.ส.อีสาน ได้เสนอบุคคลที่มีความเหมาะสมจะเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป โดยระบุว่า เมื่อเหตุการณ์และสถานการณ์ของพรรคเราเป็นเช่นนี้ ณ วันนี้ทุกตำแหน่งของฝ่ายบริหารต้องแสดงสปิริตลาออก เพื่อปรับกระบวนการของพรรคใหม่ พรรคพวกที่เป็นส.ส.ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเราทำเพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อพร้อมในการต่อสู้อนาคตอันใกล้นี้
ในความคิดเห็นส่วนตัว ถึงเวลาแล้วที่เราจะขอคนอีสานเป็นคนนำ แต่การทำงานในบริบทความเป็นพรรคการเมือง ต้องการการมีส่วนร่วม คนทำงานที่มีความสามารถ เชื่อเถอะครับว่า คนอีสานมีความพร้อมและพร้อมจับมือไปข้างหน้าให้มีเกียรติศักดิ์ศรี
มีรายงานอีกว่า สำหรับบุุคคลที่ ส.ส.อีสานเห็นว่ามีความเหมาะสมจะดันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค คือ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เนื่องจากเป็นผู้มีประสบการณ์การเมือง ทันเกมในสภา มีบุคลิกประนีประนอมประสานงานได้ทุกฝ่าย และได้รับการยอมรับจากคนอีสาน และ ส.ส.อีสาน
แต่ขณะเดียวกัน กลุ่มทางภาคเหนือ โดยเฉพาะ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ มองว่า ในสถานการณ์เวลานี้ ยังไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนหัวหน้า รวมทั้งที่ผ่านมา นายสมพงษ์ ยังทำหน้าที่ได้ดี ควรดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านต่อไป
พูดถึง นายทักษิณ เพิ่งมีความเคลื่อนไหวเมื่อไม่นานมานี้ ในวันครบรอบ 14 ปี รัฐประหาร 19 ก.ย. 49 โดยโพสต์ข้อความระบุว่า
“ผมขอฝากคำถามเดียวครับว่า 14 ปีมานี้ ชีวิตคนไทยโดยรวมๆ เป็นไงบ้าง ประเทศไทยในสายตาโลกเป็นไงบ้าง”
เด็กๆ ที่อายุระหว่าง 20 ถึง 30 ในปัจจุบัน 14 ปีที่แล้ว เขาได้ยินได้เห็นพ่อแม่เขาคุยกันว่า เขากำลังมีงาน มีธุรกิจ มีรถ มีบ้าน แต่วันนี้เขาได้ยินว่า เขากำลังตกงาน ธุรกิจอยู่ไม่ได้ กำลังเสียรถ เสียบ้าน และตัวเขายังมองไม่เห็นอนาคตตัวเองถึงจะมีการศึกษาที่ดี เพราะวิธีคิดของเรากำลังถูกเอาเปรียบโดยทุนนิยมโลกที่เรารู้ไม่เท่าทัน เราล้าสมัยในหลายด้าน
ถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะปรับวิธีคิดใหม่ ทั้งฝ่ายบริหารบ้านเมืองและการเมือง เพราะที่ผ่านมา 14 ปีแล้ว เราไม่ทันโลกจริงๆ มีแต่ถูกเอาเปรียบ โลกไม่เหมือนเดิม คิดแบบเดิมไม่ได้ นโยบายที่เคยใช้ได้ในอดีต ปัจจุบันยิ่งใช้ยิ่งแย่ โดยเฉพาะโลกหลังโควิด จะเป็นโลกที่เห็นแก่ตัวมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อนที่แสนดีจะหายากขึ้น ผมหมายถึงการเมืองระหว่างประเทศ
“ถึงแม้ผมไม่ได้ถือ passport ไทย แต่ผมตระหนักตลอดเวลาว่า ผมเป็นคนไทย รักคนไทย รักผืนแผ่นดินไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลง”
คล้อยหลัง 1 ชั่วโมง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวนายทักษิณ ซึ่งถูกทำรัฐประหารเช่นเดียวกันเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กโดยอ้างอิงโพสต์ของพี่ชาย ระบุข้อความสั้นๆ ว่า “ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะเปลี่ยนวิธีคิด”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ จากหลายความเห็น ดูเหมือนโน้มเอียงไปในทางที่จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ หลังพรรคเพื่อไทยจัดทัพเสร็จเรียบร้อย
โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่หลายคนแอบลุ้นอยู่ก็ได้ ขอให้เกิดขึ้น แม้ว่า แท้จริงแล้วยังไม่อาจคาดเดาได้ก็ตาม นั่นคือ การหันมาสนับสนุนรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะปรับ ครม.ดึงพรรคเพื่อไทย เข้าร่วม เพราะถ้าสนับสนุนโดยไม่มีการดึงเข้าร่วมรัฐบาล ก็ดูไม่เหมาะสมเท่าใดนัก หรืออีกแนวทาง ก็อาจมี “รัฐบาลแห่งชาติ” เพื่อมุ่งเน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับประชาชน แต่ก็ยังเป็นคำถามว่า ยอมหรือไม่?
ความจริงพรรคเพื่อไทย ยอมหรือไม่ อาจอยู่ที่ “เจ้าของพรรค” ตัวจริงเอาอย่างไร ก็พอแล้ว หรือว่านี่เอง จึงจำเป็นจะต้องเอาคนที่ทำงานร่วมกับ รัฐบาลได้ มาเป็นผู้นำพรรค?
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็นับว่าน่าจับตามองการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพรรคเพื่อไทย เพราะนอกจากการปรับขั้วเพื่อร่วมรัฐบาลดังกล่าวแล้ว ก็ยังมองไม่เห็นเหตุผลอื่นว่าจะปรับเพื่ออะไร ยิ่งถ้าบอกว่า เพื่อร่วมหัวจมท้ายกับม็อบเยาวชนปลดแอก หรือม็อบปฏิรูปสถาบันฯ ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ เพราะอย่าลืม สิ่งที่ “ทักษิณ” และครอบครัวชินวัตร คาดหวังสูงสุดในเวลานี้ คือ อยากให้รู้ว่ามีความจงรักภักดีนั่นเอง