ลือหนักมาก “มโน” ได้อีก “ทักษิณ” จะกลับบ้านเป็น “นายกฯคนกลาง” แก้เศรษฐกิจ ลดกระแส “ปฏิรูปสถาบัน” “จอม” เชื่อใกล้เคียงความจริง หวั่นฝ่าย “ปชต.” ขัดแย้งกันเอง “ปวิน” เย้ย ฝัน! พร้อม “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” ปลุกเสื้อแดงก้าวข้าม
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (27 ก.ย. 63) ท่ามกลางกระแสปรับทัพใหญ่ของพรรคเพื่อไทย เพื่อรองรับอะไรสักอย่างที่ยังเป็นปริศนา และข่าวลือให้มโนกันต่างๆ นานา เฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ของ นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความระบุว่า
“ความเคลื่อนไหวในพรรคเพื่อไทย ตามข่าวนี้ ถือว่าใกล้เคียงกับความเป็นจริงอย่างมาก (ความจริงที่กำลังเกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทย) ..หากเป็นเช่นนี้ คำถามใหญ่ของฝ่ายประชาธิปไตย คือ ด้วยสำนึกแห่งความภักดีเป็นหลักใหญ่ของตระกูล “ชินวัตร” สุดท้ายจะทำให้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” จะถูกเจ้าไทยหลอกใช้ เพื่อตัวเองจะได้รอดจากการตกเป็นเป้านิ่งให้กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่จาบจ้วงโจมตีเท่านั้นหรือไม่
และหาก “ทักษิณ-เพื่อไทย” เข้ามาแก้ไขวิกฤตการเมืองเพียงแค่แก้รัฐธรรมนูญบางมาตรา แต่ปกป้องไม่แตะปัญหาของสถาบันกษัตริย์ และเร่งแก้เศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง (ซึ่งไม่ง่ายสำหรับ ทักษิณ อีกแล้ว) เพื่อเบนความสนใจของสังคม และเมื่อเสร็จภารกิจ เจ้าไทยจะเฉด ทักษิณ เพื่อไทย ให้พ้นไปจากกระดานการเมืองอีกครั้งหรือไม่
ที่สำคัญ หมากเกมนี้ จะทำให้ “ทักษิณ-เสื้อแดง-เยาวชนที่สู้เพื่อประชาธิปไตย” ขัดแย้งกันเอง โดยที่ฝ่ายเจ้าเครือข่ายชนชั้นนำ กองทัพ นั่งอยู่บนภู..ดู...กัดกัน”
ส่วนข่าวที่ “จอม” อ้างถึง หัวเรื่อง “หญิงอ้อ” คุมปรับยุทธศาสตร์เพื่อไทยดึง “กลุ่มแคร์” จัดทัพใหม่
เนื้อหาระบุว่า “เมื่อวันที่ 27 ก.ย. รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทย ว่า เพราะต้องการสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่เหมือนสมัยพรรคไทยรักไทย กอบกู้วิกฤตศรัทธา ทำพรรคให้มีทิศทางฝากความหวัง ชิงกระแสประชาชน ประชาธิปไตย จากพรรคก้าวไกล กลับมาเป็นเสาหลักอย่างแข็งแกร่งเหนือใคร หลังจากรัฐธรรมนูญปี 60 ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวทำให้ต้องแตกพรรคแกนนำส่วนหนึ่งออกไป
และเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ทำให้ขาลอย หลายคนก็แยกตัวออกไปเพราะเข้ากับแกนนำซีกคุณหญิงสุดารัตน์ (เกยุราพันธุ์)ไม่ได้ และต้องการกลับมาเพียงแต่โครงสร้างพรรคไม่เอื้ออำนวย
ดังนั้น จึงต้องทำการปรับโครงสร้าง เพื่อเปิดทางให้ทุกคน ทุกกลุ่มสามารถกลับมาทำงานร่วมกันในลักษณะคานอำนาจ แยกกลุ่ม ก๊วน และรวมกันเพื่อต่อสู้เลือกตั้งครั้งใหม่ บนสมมติฐานการคาดหวังว่า จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ อาจต้องเปลี่ยนแผนแยกพรรคเช่นเคย
สำหรับการกลับมารวมกันจำเป็นต้องได้ผู้มีบารมีตัวจริงมาอยู่เบื้องหลังการนำพรรค ดังนั้น คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเข้ามานำทัพและเป็นผู้ประสานงานด้วยตัวเอง โดยจะไม่รับตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะมีการยุบ “คณะกรรมการยุทธศาสตร์” ให้มาอยู่ภายใต้คุณหญิงพจมานโดยตรง และจะให้มีกรรมการบริหารพรรคน้อยลงกว่าเดิม แต่กระจายตัวแทนจากทุกกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น นายสมพงษ์ (อมรวิวัฒน์) จะยังคงเป็นหัวหน้าพรรค เช่นเดิม ส่วน เลขาธิการพรรค ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ ระหว่าง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา อดีต รมช.คมนาคม หรือ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล อดีต รมว.ศึกษาธิการ
นอกจากนี้ กลุ่มแคร์ ก็จะเข้ามาช่วยกันเป็นผู้บริหารพรรค อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล (เฮียเพ้ง) และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รวมถึง นายพิชัย นริพทะพันธุ์
อย่างไรก็ตาม มีรายงานอีกว่า ส.ส.อีสานเคลื่อนไหว เสนอ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม เป็นหัวหน้าพรรค เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การเมือง ทันเกมในสภา มีบุคลิกประนีประนอม ประสานงานได้ทุกฝ่าย และได้รับการยอมรับจากคนอีสาน และ ส.ส.อีสาน แต่ขณะเดียวกัน กลุ่มทางภาคเหนือ โดยเฉพาะ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ “เจ๊แดง” ยังมองว่า สถานการณ์เวลานี้ ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนหัวหน้า รวมทั้งที่ผ่านมา นายสมพงษ์ ยังทำหน้าที่ได้ดี ควรดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านต่อไป (ข่าวจากโพสต์ทูเดย์)
ขณะเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ผู้ต้องหาคดี ม.112 ลี้ภัยในญี่ปุ่น โพสต์ข้อความที่สำคัญว่า
“บางทีอาจต้องสงสาร มากกว่าด่าว่าโง่ คนที่ยังก้าวไม่พ้นทักษิณ กี่ครั้งกี่หนที่เค้าถูกหลอก มันเป็นเกมที่หลอกกันไปมา เจ้าหลอกทักษิณ ทักษิณหลอกมวลชน
ข่าวที่ลือกันล่าสุดว่า จะยอมให้ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ กลับบ้าน ไม่พอ ยังจะกลับมาเป็นนายกฯคนกลาง แล้วติ่งทักษิณก็ฉลองล่วงหน้า อันนี้บอกตรงๆ สงสารในความซื่อ ในความที่ไม่รู้เดียงสาว่า นี่เป็นอีกครั้งที่ถูกหลอก....
...วันนี้ พอเถอะค่ะ ไม่มีดีลอะไรหรอก ดิชั้นเขียนไปแล้วเมื่อวาน แต่ต่อให้มีดีล ดีลก็ไม่ตกมาถึงประชาชน ก้าวข้ามผู้มีบารมีทางการเมืองกันได้แล้ว ขอเขียนอีกครั้ง คนต่อสู้ทุกคนคือไอดอลของตัวเอง”
ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ชี้ให้เห็นปัญหาที่เป็นไปไม่ได้เอาไว้เช่นกัน ที่สำคัญระบุว่า
“ตื่นเต้น ตกใจ ตีความกันใหญ่ เห็นครอบครัวชินวัตร ถวายของ/เงิน แถมด้วยรูปครอบครัว... ใส่เสื้อผ้าสีเหลืองแม๊ชกันทุกคน ตีความไปว่า นี่อาจเป็นสัญญาณการคืนดี... และทักษิณจะได้กลับบ้าน
....555555 ขอหัวเราะเป็นภาษากะเทย
....ฝันแล้วตื่น ตื่นแล้วฝัน ไม่มีทางเป็นไปได้... จะเอาทักษิณกลับมาทำไม กลับมาให้ชนชั้นกลางที่เป็นแรงหนุนสถาบันโกรธหรอ เพราะกลุ่มพวกนี้ยังเกลียดทักษิณ ต่อให้ทักษิณตายก็ยังเกลียด ทำไมอยู่ดีๆ ถึงอยากเสียแรงหนุนตรงนี้ไป เพราะเอาทักษิณกลับมา...
...ทางเดียวที่ทักษิณจะยังมีความหมายทางการเมือง คือ การปรับจุดยืนและสนับสนุนนักศึกษา มิฉะนั้น คุณคือได้โนเสาร์ที่ต้องเข้าไปอยู่ในพิพิทธภัณฑ์เท่านั้น”
นอกจากนี้ เพจฟอร์ด เส้นทางสีแดง ของ นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ แกนนำกลุ่ม คนอยากเลือกตั้ง โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า
“มีคำถามว่า คนเสื้อแดงควรจะต่อสู้ร่วมกับนักศึกษาอย่างไรในอนาคต คำถามนี้เป็นคำถามที่ดีมาก คนเสื้อแดงได้ร่วมชุมนุมทางการเมืองกับนักศึกษามาหลายครั้ง แต่ที่ออกหน้าชัดเจนมากที่สุด คือ วันที่ 19 กันยา ที่ท้องสนามหลวง
แต่อะไรเล่าคือข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดง ในอดีตคนเสื้อแดงได้ชื่อว่า ต่อสู้เพื่อทักษิณ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ นักศึกษาได้ชูข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาการเมืองไทยในระยะยาว ผมขอเรียกร้องให้คนเสื้อแดงให้ก้าวคุณทักษิณออกมายืนเคียงข้างนักศึกษา ชูกำปั้นขึ้นมาเปล่งเสียงคำว่า “#ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” และ “#เลิกหมอบกราบมนุษย์เราต้องเท่ากัน” เพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมานานหลายปี”
อย่างไรก็ตาม พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ “องคุลิมาล.. ตถาคตนะหยุดแล้วแต่เธอซิยังไม่หยุด” โดยระบุว่า
การเปลี่ยนแปลงท่าทีที่ชัดเจนยิ่งขึ้นของคุณหญิงพจมาน ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใด ถือว่าเป็นเรื่องดีต่อบ้านเมืองโดยส่วนรวม เพราะ
1. คุณหญิงเป็นที่รักเคารพนับถือของบุคคลหลายฝ่ายในพรรคเพื่อไทย และพวกคนเสื้อแดง ดังนั้น ต่อไปนี้ การเคลื่อนไหวของบุคคลกลุ่มนี้คงจะมาแอบอ้างคุณหญิงและครอบครัวอีกไม่ได้แล้ว
2. เรื่องนี้จะทำให้เกิดความชัดเจนระหว่างพวกที่ต้องการล้มสถาบันจริงกับพวกที่รับจ้างมาเพื่อเคลื่อนไหว
3. พรรคเพื่อไทย ก็จะกลับมาเป็นพรรคการเมืองตามปกติ ไม่ใช่พรรคฝ่ายแค้น เหมือนเช่นที่เป็นมาหลายปี การเมืองในประเทศไทยก็จะดีขึ้นตามลำดับ เพราะบุคลากรของพรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ จำนวนมากแต่ถูกจำกัดบทบาทไว้ด้วยความแค้น ที่ไม่ใช่ของตัวเอง
4. ม็อบเด็กที่มีการ์ดเสื้อแดงดูแลอยู่ ก็จะได้มีนายที่ชัดเจนเสียที
5. ส่วนคุณทักษิณ ก็คงถึงคราวที่จะรู้ตัวได้แล้วว่า “อัตตา” ส่วนตัวที่มีมาถึง 15 กว่าปี ควรจะลดลงบ้าง เพราะมีตัวอย่างให้เห็นแล้วทั้งคุณหญิง และ องคุลิมาล
“เมื่อองคุลิมาล วิ่งไล่พระพุทธองค์ที่ทรงเดินตามปกติไม่ทัน ก็ตะโกนบอกว่าท่านหยุดเสียที” พระพุทธองค์จึงตอบว่า “เราหยุดแล้ว แต่เธอซิยังไม่หยุด” สุดท้ายต้องขอขอบคุณ คุณหญิงพจมาน ในความกล้าหาญครั้งนี้ด้วยครับ
แน่นอน, ในเมื่อเจ้าตัวที่ถูกพาดพิง ยังไม่ออกมายอมรับหรือปฏิเสธ ย่อมทำให้ข่าวลือ หรือ กระแส “มโน” ของแต่ละฝ่ายขยายวงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในแวดวงกลุ่มคนรัก “ทักษิณ” มวลชนคนเสื้อแดงบางส่วน เชื่อว่า เป็นข่าวดี เป็นความหวังที่จะได้เห็น “ทักษิณ” กลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เจริญก้าวหน้า ยกระดับราคาพืชผลให้รากหญ้า เหมือนกับที่เคยทำได้ ซึ่งแม้หลายคนจะเห็นว่าไม่ง่าย และไม่แน่ว่า “ทักษิณ” จะทำได้เหมือนเดิม ก็ตาม
ขณะเดียวกัน ดูเหมือนในฝ่ายที่ต้องการอยากเห็นความขัดแย้งทางการเมืองลดระดับความร้อนแรงลง ก็เชื่อว่า “ทักษิณ” และคุณหญิงพจมาน จะช่วยได้ เพราะเท่ากับอย่างน้อย เป็นการดึงมวลชนส่วนร่วมจำนวนมากออกมาจากขบวนเหยื่อ “ล้มเจ้า” นั่นเอง เมื่อชัดเจนว่า ท่าทีตระกูลชินวัตร ต่อ “สถาบัน” เป็นอย่างไร
เหนืออื่นใด ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อไปว่า ข่าวลือจะเป็นข่าวจริงมากน้อยแค่ไหน หรือไม่มีอะไรในก่อไผ่ ก็ไม่แน่เหมือนกัน!?