เอาล่ะสิ “ดรามา” เร็วไวถึงสหรัฐฯ “จอม” ส. ข้ามทะเล อ้างคุยกับ “คุณพิม” ยืนยัน “สรพงษ์” ไม่พอใจ “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส” แถมพูดกระจายเสียงเชียร์ “ลุงตู่” ไล่ส่ง ขณะ “พี่เอก” แจง คงเข้าใจผิด ใครใส่เสื้ออะไรมาที่วัดก็ได้ ไม่มีปัญหา
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ เฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ของ นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา โพสต์รับลูก “ดรามา” สรพงษ์ ชาตรี หรือ “พี่เอก” ไม่พอใจ คนใส่เสื้อที่มีข้อความ “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส” และไล่ออกจากวัดหลวงพ่อโต หรือ “วัดสรพงษ์” หัวข้อ “# สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส” ข้อความที่ “สรพงษ์ ชาตรี” รับไม่ได้
โดยระบุว่า “ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณพิม (ธนาพร) เจ้าของเรื่องที่โดน คุณสรพงษ์ ชาตรี ไล่ให้ออกไปห่างๆ จากวัด (เจ้าตัวไม่ได้บอกว่า ไล่ออกไปนอกวัด)
คุณพิม เล่าว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณบ่าย 2 โมง ขณะที่นั่งรถกลับบ้าน หลังจากเสร็จการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ซึ่งก็ผ่านวัดหลวงพ่อโต ของคุณสรพงษ์ ชาตรี พอดี คุณพิม กับเพื่อนอีก 3 คน ก็จะขอแวะไหว้พระ ซึ่งเมื่อ 10 ปีก่อน ขณะที่วัดนี้กำลังบูรณะก่อสร้างอยู่ เธอก็เคยมาทำบุญแล้ว
และครั้งนี้ก็กะว่าจะแวะลงมาไหว้พระที่วัดอีกครั้ง
ขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ เขาไม่เข้าไปในวัด เขาบอกว่า ไม่ศรัทธา เพราะเห็นเป็นวัดที่เน้นพุทธพาณิชย์มากไป
คุณพิมกับเพื่อนๆ อีก 3 คน ก็เดินเข้าไปในวัด เพื่อจะไปไหว้พระ และโชคดีได้เจอกับคุณสรพงษ์ กำลังพูดผ่านเครื่องขยายเสียงอยู่พอดี เพื่อแนะนำสถานที่ภายในวัด ซึ่งในจุดนั้นไม่มีคนอื่นเลยนอกจากคุณพิมและเพื่อนๆ รวม 4 คน
เมื่อ คุณพิม เห็นว่า เป็นโอกาสดีที่จะได้เจอกับคุณสรพงษ์ เพราะมาครั้งที่แล้วก็ไม่ได้เจอ ก็เลยขอถ่ายรูป และขออนุญาตเอามาสก์ปิดหน้าและหมวกออก เพื่อจะให้รูปที่ได้เห็นหน้าชัดเจน แต่เมื่อ คุณสรพงษ์ เห็นข้อความที่อยู่บนเสื้อคือ “#สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส” สีหน้าและน้ำเสียงก็เปลี่ยนไปเลย เขาแสดงความไม่พอใจผ่านน้ำเสียง และสีหน้าออกมาอย่างชัดเจนมาก (สังเกตจากภาพถ่าย) เขาคงรู้ว่าเพิ่งจะเสร็จมาจาการชุมนุม
พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งว่า “ออกไป ..ออกไปห่างๆ” ทั้ง 4 คนก็เลยออกมา ซึ่งขณะนั้นมีแต่คณะของคุณพิมเท่านั้นไม่มีคนอื่นเลย
จากนั้น คุณสรพงษ์ ก็พูดผ่านเครื่องขยายเสียง บรรยายสรรพคุณของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่างๆ นานา คณะของคุณพิม ก็เลยพากันเดินออกมา และแทนที่จะช่วยทำบุญก็เลยหยอดเงินช่วยค่าห้องน้ำแค่ 5 บาทเท่านั้น
คุณพิม บอกว่า คุยกับเพื่อนๆ ว่าจะนัดรวมพลใส่เสื้อ #สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส มาเดินเล่นในวัดนี้กันสักครั้ง...”
อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊ก การเมืองไทย ในกะลา โพสต์หัวข้อ “สรพงษ์” แจงปมดรามา ไล่คนออกจากวัดขณะมาไหว้พระ เพราะใส่เสื้อการเมือง
เนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความและรูปภาพในกลุ่มเฟซบุ๊ก “รักประชาธิปไตย” โดยระบุว่า ถูก สรพงษ์ ชาตรี นักแสดงชื่อดังและศิลปินแห่งชาติ ไล่ออกจากวัด ขณะเข้ามากราบไหว้หลวงพ่อโต ที่วัดโนนกุ่ม หรือวัดหลวงพ่อโต ใน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เนื่องจากใส่เสื้อที่มีข้อความแสดงความคิดเห็นทางการเมือง “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส”
โดยระบุในเฟซบุ๊กว่า “สรพงษ์ ชาตรี วัดนี้ท่านสร้างด้วยเงินส่วนตัวหรือ สรพงษ์ ไม่พอใจผู้ที่มากราบหลวงพ่อโต ใส่เสื้อตัวนี้” จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์นั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 23 ก.ย. สรพงษ์ ชาตรี ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า ส่วนตัวแล้วจำไม่ได้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ปัจจุบันภายในวัดมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งอาจเป็นจังหวะที่ตนบอกให้ถอยออกเพื่อเว้นระยะ หรืออาจเป็นช่วงที่มีคนเข้ามาไหว้พระและถ่ายรูปกันเยอะ แล้วตนบอกว่า ออกไปก่อน เพื่อจะได้ไม่กีดขวางกันในจุดถ่ายรูป
ซึ่งผู้โพสต์อาจเข้าใจผิดว่า ไล่ตัวเขา แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ใครจะใส่เสื้ออะไรมาที่วัดก็ได้ ไม่เคยมีปัญหาในจุดนี้”
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_4968326
สำหรับเรื่องนี้ “ผู้จัดการออนไลน์” รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย. เฟซบุ๊ก “Chanokporn Yomsung” ได้ออกมาโพสต์ภาพ พร้อมเผยเรื่องราวระบุว่า มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินทางไปไหว้พระวัดหลวงพ่อโต อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งวัดแห่งนี้นั้น มีดาราดัง นายสรพงษ์ ชาตรี เป็นตัวตั้งตัวตีในการสร้างจากแรงศรัทธา
โดยสรพงษ์นั้นได้ห้ามชายหญิงคู่ดังกล่าวเข้าวัด เนื่องจากข้อความบนเสื้อ โดยหญิงในภาพได้สวมเสื้อสีดำพิมพ์อักษรสีแดงว่า #สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส ยืนถ่ายรูปกับ นายสรพงษ์ ชาตรี ในจุดถ่ายรูปที่กำหนดระยะห่างตามนโยบายเว้นระยะห่าง Social Distancing
ด้านผู้โพสต์ได้ระบุเนื้อหาบนโพสต์ว่า “ทัวร์ลงพ่อหรือยัง “พี่เอก สรพงษ์ ชาตรี ไม่พอใจ ที่มีหญิงชายใส่เสื้อ “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส” เข้ามาในวัดไหว้หลวงพ่อโต Xxเลยถามกลับ “วัดนี้ใช้เงินส่วนตัวสร้างหรือไง”
ทั้งนี้ หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ หลายคนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางรายชี้ว่า ไม่ควรไล่ใครออกจากวัด แม้ สรพงษ์ ชาตรี จะเป็นตัวตั้งตัวตีในการสร้าง เพราะบุคคลดังกล่าวไม่ได้แต่งตัวโป๊ และข้อความบนเสื้อก็ไม่ใช่คำหยาบคาย และมีอีกหลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นว่า ควรรอฟังความจริงจากปากของสรพงษ์ดีกว่า อย่าตัดสินภาพแค่ภาพๆ เดียว เพราะอาจไม่ใช่ความจริงอย่างที่ผู้โพสต์กล่าวอ้าง โดยมียอดกดไลก์ถึง 400 ครั้งด้วยกัน
ส่วน “วัดหลวงพ่อโต” หรือ “วัดสรพงษ์” ที่จริงเป็นมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารี ที่ สรพงษ์ ชาตรี สร้างขึ้นด้วยพลังแห่งศรัทธา ตั้งอยู่ที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ไม่ได้อยู่ที่ความจริงคืออะไร สรุปแล้วใครพูดความจริง หรือใครบิดเบือนหรือไม่ เพราะมีการชี้แจงออกมาแล้ว ว่า ไม่จริง
แต่ประเด็นอยู่ที่ การยอมรับความจริงอีกข้อหนึ่ง โดยเฉพาะฝ่ายที่ใส่เสื้อ “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส” จะต้องระลึกอยู่เสมอว่า ในสังคมไทยยังมีคนอื่นที่มีความเห็นต่าง และจะต้องยอมรับความเห็นต่างด้วย เพราะต่างก็มีเหตุมีผลที่ทำให้มีความเห็นต่าง ตามระบอบประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพที่มีความเห็นต่างได้ และไม่มีสิทธิที่จะไป “บูลลี่” หรือ “ล่าแม่มด” คนเห็นต่าง นอกจากทำใจยอมรับให้ได้ มิเช่นนั้น จะมุ่งสร้างแต่ความขัดแย้งแตกแยกในสังคมไทย
อีกอย่าง การที่นำเอาเรื่องนี้ไปขยายผลทางการเมือง เพื่อประจาน หรือ ประณาม ทำให้พลังศรัทธาของวัดเสื่อมถอย ซึ่งก็ไม่ต่างจากการ “บอยคอต” สินค้าและธุรกิจ ที่พักหลังทำกันเป็นว่าเล่น เพื่อสนองตัณหาทางการเมือง คือ สิ่งที่เลวร้ายที่สุด และไม่ควรที่จะเป็นอาวุธของฝ่ายประชาธิปไตย เพราะเป็นวิธีสกปรก และอำมหิตอย่างมาก สำหรับคนบริสุทธิ์ที่จะต้องโดนกระทำ หรือเพียงแค่เห็นต่าง ลองคิดดูถ้าเรื่องนี้เกิดกับคุณ!