สรพงษ์ ชาตรี นักแสดงอาวุโสชื่อดัง แจงกรณีดรามา ไล่ชายหญิงที่ตั้งใจมาไหว้หลวงพ่อโต จ.นครราชสีมา เพียงเพราะข้อความบนเสื้อเขียนว่า “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส” ยืนยันไม่เกี่ยวข้องการเมือง และอาจเป็นความเข้าใจผิด และจำไม่ได้ว่าเหตุเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ไม่มีทางไล่ใครเพียงเพราะข้อความบนเสื้อ
จากกรณีโซเชียลแห่แชร์ภาพ นักแสงอาวุโสชื่อดัง “สรพงษ์ ชาตรี” ไม่พอใจไล่ชายหญิงคู่หนึ่งออกจากวัดหลวงพ่อโต เพียงเพราะข้อความบนเสื้อเขียนว่า “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส”
ล่าสุด นายสรพงษ์ ชาตรี ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า วัดหลวงพ่อโต มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไหว้พระเป็นจำนวนมาก ส่วนตัวแล้วจำไม่ได้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ปัจจุบันภายในวัดมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งอาจเป็นจังหวะที่ตนบอกให้ถอยออกเพื่อเว้นระยะ หรืออาจเป็นช่วงที่มีคนเข้ามาไหว้พระ และถ่ายรูปกันเยอะ แล้วตนบอกว่าออกไปก่อน เพื่อจะได้ไม่กีดขวางกันในจุดถ่ายรูป ซึ่งผู้โพสต์อาจเข้าใจผิดว่าไล่ตัวเขา แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ใครจะใส่เสื้ออะไรมาที่วัดก็ได้ ไม่เคยมีปัญหาในจุดนี้ พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง ผู้ที่นำไปโพสต์อาจจะมีการเข้าใจว่าเป็นการไล่ ส่วนตัวยังจำเหตุการณ์ไม่ได้เลยว่า เกิดเหตุวันไหนอย่างไร
ทั้งนี้ วัดดังกล่าว คือ มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ มูลนิธิหลวงพ่อโต หรือวัดที่ นายสรพงษ์ ชาตรี ดาราอาวุโสสร้างขึ้นและยืนยันว่า ไม่ใช่วัด แต่เป็นมูลนิธิ หากแต่บุคคลทั่วไปจะเรียกกันแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า วัดหลวงพ่อโต อำเภอสีคิ้ว ซึ่งที่นี่เดิมคือวัดโนนกุ่ม ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข 2) อำเภอสีคิ้ว ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 42 กิโลเมตร หากเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปนครราชสีมา จะผ่านและเห็นได้อย่างชัดเจน และที่มูลนิธิหลวงพ่อโต อ.สี่คิ้ว เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อทองเหลืองรมดำหลวงพ่อโต (สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) ที่มีขนาดใหญ่