xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เคาะขยายเขตพื้นที่จัดการน้ำเสียครอบคลุมทั่วประเทศ จับมือท้องถิ่นแก้ปัญหาน้ำเสียเต็มรูปแบบและยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดเขตพื้นที่จัดการน้ำเสียเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกจังหวัดของประเทศไทย ขององค์การจัดการน้ำเสีย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ มท. รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไป


วันนี้ (23 ก.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปัญหาน้ำเสียที่ประเทศไทยเผชิญมาเป็นระยะเวลานานและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำเสียจากชุมชนเฉลี่ยวันละ 9.50 ล้านลูกบาศก์เมตร ในจำนวนนี้แบ่งเป็นน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดด้วยระบบบำบัดน้ำเสียตามกฎหมายควบคุมอาคาร และการบำบัดได้เองตามธรรมชาติ จำนวน 4.6 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน น้ำเสียที่ผ่านระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 3.2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จึงยังมีน้ำเสียที่ไม่ได้ผ่านการบำบัดอีกจำนวน 1.7 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน กลายเป็นปัญหามลพิษทางน้ำที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงคุณภาพสิ่งแวดล้อมของประเทศ ที่ผ่านมารัฐบาลมีความตั้งใจในการแก้ปัญหาน้ำเสียอย่างจริงจัง แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ครอบคลุมทุกจังหวัด เนื่องจากติดขัดด้วยข้อกฎหมายตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย พ.ศ. 2538 ที่กำหนดให้องค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) มีเขตพื้นที่จัดการน้ำเสีย รวมทั้งสิ้น 45 พื้นที่ ใน 26 จังหวัด ทำให้ อจน.ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียและบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียของชุมชนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งอยู่นอกเขตพื้นที่รับผิดชอบได้

เพื่อเป็นการแก้ไขอุปสรรคดังกล่าว ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (22 กันยายน 2563) จึงมีมติเห็นชอบกำหนดเขตพื้นที่จัดการน้ำเสียขององค์การจัดการน้ำเสียเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกจังหวัดของประเทศไทย เพื่อเร่งรัดการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำเสียของประเทศให้ดำเนินไปอย่างมีมาตรฐาน และเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ปัญหามลพิษทางน้ำได้อย่างทันสถานการณ์ ซึ่งจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง ดังนี้ 1) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเสียทั่วประเทศในการดูแลรักษาคุณภาพแห่งน้ำ ระบบนิเวศทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เพิ่มศักยภาพและมูลค่าให้แก่แหล่งท่องเที่ยว 2) เพิ่มโอกาสเชิงพาณิชย์ในการบริการหรือกิจการเกี่ยวเนื่องในพื้นที่บำบัดน้ำเสีย เช่น การนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ การผลิตพลังงานจากน้ำเสีย 3) ไม่เป็นภาระงบประมาณภาครัฐ โดยใช้วิธีการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนสำหรับโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ ควบคู่กับการจัดเก็บค่าบริการ ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

มากไปกว่านั้น ครม.ยังได้มีมติอนุมัติงบกลางประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 รายการเงินสำรองจ่าย วงเงิน 385.64 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโรงบำบัดน้ำเสียและ
สถานีสูบป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จำนวน 2 โครงการ และโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดระยอง จำนวน 2 โครงการ โดยให้เบิกจ่ายจากงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ
และให้ใช้เงินรายได้ของท้องถิ่นเมืองพัทยาและ องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง สมทบอีดจำนวน 42.85 ล้านบาท รวมงบประมาณทั้ง 4 โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น 428.49 ล้านบาท 

สำหรับรายละเอียดแต่ละโครงการ มีดังนี้ 1) โครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ในระบบบำบัดน้ำเสีย จังหวัดชลบุรี วงเงิน 175.25 ล้านบาท เพื่อบำบัดน้ำเสียที่เกิดขึ้นในพื้นที่และรองรับปริมาณน้ำเสียในพื้นที่ใกล้เคียง 2) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบป้องกันน้ำท่วมจังหวัดชลบุรี วงเงิน 77.54 ล้านบาท เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจและจัดการควบคุมน้ำเสีย 3) โครงการป่าชายเลนในเมือง จังหวัดระยอง วงเงิน 81.7 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างสะพานและเส้นทางเดินสำรวจ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ และ 4) โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ศูนย์พัฒนาปลวกแดง ตามพระราชดําริ จังหวัดระยอง (ระยะที่ 3) เป็นการปรับปรุงอาคาร คอกสัตว์ ภูมิทัศน์ ฐานการเรียนรู้ และงานอื่นๆ ภายในศูนย์ รวมถึงระบบไฟฟ้า และระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์


กำลังโหลดความคิดเห็น