xs
xsm
sm
md
lg

แอบเปิดตัว! ค.ก้าวหน้า ปลุกสู้ “ระบอบกินคน” “ชาญวิทย์” พลิ้ว ไม่ใช่ “ล้มเจ้า”? “พี่ศรี” เตือน “ยุบพรรค”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ แกนนำคณะก้าวหน้า จากแฟ้ม
ถือธงนำเลยดีมั้ย!? คณะก้าวหน้า หนังม้วนเก่า ดับเครื่องชน “รัฐประหาร” ปลุกระดมคนร่วมม็อบ 19 ก.ย. “ชาญวิทย์” ยก “รุ้ง-อั๋ว-เพนกวิน” เทียบนักสู้ธรรมศาสตร์ อวยใหญ่ คณะราษฎร์ จอมพล ป. ปฏิรูปสถาบัน ไม่ใช่ล้มเจ้า

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (18 ก.ย. 63) เฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ของ กลุ่ม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธาน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการ “ช่อ” น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหาร โพสต์ข้อความระบุว่า

“14 ปี ระบอบกินคน เริ่มมาตั้งแต่การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 มาจนรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน

มีทั้งล้มเลือกตั้ง ยึดอำนาจทำรัฐประหาร ดำเนินคดี-ตัดสิทธิผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยุบพรรคแล้วยุบพรรคอีก ทำลายกระบวนการยุติธรรม บังคับใช้กฎหมายหลายมาตรฐาน บิดผันกระบวนการยุติธรรม จับกุมคุมขังผู้ออกมาต่อต้าน ปิดกั้นสื่อ ล้อมปราบประชาชน เขียนรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ตั้งพวกพ้องเป็น ส.ว.สอพลอ ร่วมกันยึดประเทศ ฯลฯ

นี่คือ การดิ้นเฮือกสุดท้ายเพื่อยึดครองประเทศเอาไว้กับพวกพ้องตัวเอง ไม่สนใจว่าผู้คนจะเดือดร้อน ประเทศจะพินาศ ลูกหลานจะไม่มีอนาคต

พอกันที 14 ปีของระบอบกินคน สูบเลือดสูบเนื้อประชาชน ทำลายทุกอย่างเพื่อให้คนไม่มีคนไม่กี่ตระกูลได้ครองอำนาจ

ให้มันจบที่รุ่นเรา 19 กันยายนนี้ ที่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์

#สู้เป็นไทถอยเป็นทาส
#ให้มันจบที่รุ่นเรา
#19 กันยา ทวงคืนอำนาจราษฎร”

ภาพ จากเฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า
ก่อนหน้านี้ ไม่กี่ชั่วโมง เฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า - Progressive Movement โพสต์หัวข้อ [จาก “ลานโพธิ์” ถึง “ทำเนียบรัฐบาล” บนเส้นทางทวงคืน “ประชาธิปไตย”]

สาระสำคัญ ระบุว่า “การชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 19 กันยายนนี้ กำลังเป็นที่จับตาของคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะในแง่ของเนื้อหาที่กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมปราศรัยนำเสนอ ไม่ว่าจะในแง่ของจำนวนผู้คนที่จะเข้าร่วมการชุมนุม โดยคาดการณ์กันว่า น่าจะมีไมต่ำกว่าครึ่งแสน และนอกจากนี้ ยังมี “ไฮไลต์” อยู่ที่การปักหลักค้างคืนในมหาวิทยาลัย ก่อนที่รุ่งเช้าจะทำการเคลื่อนขบวนมุ่งหน้า “ทำเนียบรัฐบาล”

ท่ามอุปสรรคต่างๆ ที่กลุ่มผู้ชุมนุมประสบ ไม่ว่าจะเป็นการห้ามใช้สถานที่มหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นคดีความสารพัดที่โดนกันเรียงตัวคนละหลายๆ ข้อหา ยิ่งทำให้การชุมนุมครั้งนี้ได้รับความสนใจ และอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งของสังคมไทย

ดังนั้น ก่อนที่ “ผู้ชุมนุม” จะมีการเคลื่อนขบวน เราขอ “ลองเดิน” และจับเวลา พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราวของ “สถานที่” ในมุมของประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย...”

#คณะก้าวหน้า #ลานโพธิ์ #ธรรมศาสตร์ #ทำเนียบรัฐบาล

ภาพ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ติ่งส้มคนหนึ่ง โพสต์ข้อความหัวข้อ “เรียนท่านอธิการบดี (จดหมายเปิดผนึก)”

เนื้อหาระบุว่า “ผมยังคิดว่า คนอย่างรุ้ง คนอย่างอั๋ว (จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์) กับเพนกวิน

a girl like Rung or Oar or a boy like Penquin

ผมเชื่อว่า คนแบบรุ้ง แบบอั๋ว แบบเพนกวิน และแบบ นศ.ธรรมศาสตร์ส่วนมาก ทั้งปัจจุบันและอดีต รวมทั้งเยาวชนคนหนุ่มสาวรุ่น gen Z ส่วนใหญ่

ยึดมั่นในหลักการที่ท่านผู้ประศาสน์การปรีดี พนมยงค์ มธก.ผู้ทำการปฏิวัติเมื่อปี 2475 ที่มุ่งหมายสร้างระบอบใหม่ คือ “ราชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ”

นั่น ก้อคือ Constitutional Monarchy ไม่ใช่ “”เจ้า”

และยังยึดมั่นในนโยบายของท่านอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตอธิการฯ อดีต นรม.ที่ยืนยันว่า “ธรรมศาสตร์ มีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว”

รวมทั้ง อ.ป๋วย อึ้งภากรณ์ อดีตอธิการฯ ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ “สันติประชาธรรม”

ตลอดจนทั้งจอมพล ป.พิบูลสงคราม อธิการบดี คนแรกของ มธ. ผู้ที่ร่วมทำการปฏิวัติปี 2475 ที่เคยกล่าวไว้ว่า “การต่อสู้ระหว่างระบอบใหม่ กับระบอบเก่า จะดำเนินไปอีกยาว”

ครับ ผมเชื่อในอุดมการณ์ดังกล่าวและเมื่อพิจารณาจาก ปวศ.ของมนุษยชาติแล้วก้อพบว่า “เสรีภาพ จะบังเกิดขึ้นได้ ก้อด้วยการต่อสู้”

ขอให้รุ้ง ขอให้อั๋ว ขอให้เพนกวิน และคนรุ่นใหม่ รุ่นกลาง รุ่นเก่าที่รักใน “เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ” ขอให้ได้ร่วมมือกัน และประสบความสำเร็จ ปลอดภัยในเส้นทางแสวงหาประชาธิปไตย

ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยที่ธรรมศาสตร์ เปิดพื้นที่และอำนวยความปลอดภัยให้ด้วย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาด้วย
จักเป็นพระคุณยิ่ง ครับ.”

ภาพ นายศรีสุวรรณ จรรยา จากแฟ้ม
ด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เตือนสติ 6 พรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาฯว่า

“6 พรรคฝ่ายค้านประกาศหนุนม็อบ 19 ก.ย. ระวังจะเข้าข่ายผิดตาม ม.92(2) พ.ร.ป.พรรคการเมือง 60 โทษถึงขั้นยุบพรรคเลยนะครับ”

ขณะที่ ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“พายุเข้า = ฝนเทียม
ตำรวจดูแล = ตำรวจปราบปราม
ถูกหมายเรียกเพราะทำผิดกฎหมาย = รัฐบาลคุกคาม
เตือนระวังโควิด = ขู่ไม่ให้มาชุมนุม

รวมทั้ง ระบุในช่องแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “วาทกรรมบิดเบือนเพื่อใส่ร้ายรัฐบาลให้มีภาพเป็นเผด็จการใจร้าย”

แน่นอน, ในวันที่ 19 ก.ย. มีการคาดหมายกันว่า คนทั่วทุกสารทิศ จะมุ่งหน้าสู่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ทั้งคนที่นักการเมืองจัดตั้ง คนที่กลุ่มการเมืองบางคณะจัดตั้ง คนที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านขนมาร่วม และนักศึกษา ประชาชน ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมอีกจำนวนมาก สรุปว่า คนที่เข้าร่วมประกอบไปด้วยความหลากหลายในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น วาระของการเข้าร่วม พฤติกรรมการแสดงออก ความรุนแรงทางความคิด ความคาดหวังในการต่อสู้ ฯลฯ

เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่หลายคนเป็นห่วง และตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็คือ การมีสติ และสันติ ในการต่อสู้เรียกร้อง รวมทั้งความอดทนอดกลั้น คิดถึงผลเสียที่คนส่วนใหญ่จะได้รับเป็นสำคัญ ไม่ใช่ห้ามไม่ให้มีการชุมนุม หรือ ปิดกั้นเสรีภาพแต่อย่างใด

อย่าคิดว่า ชุมนุมครั้งเดียวจะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ หรือ ต่อสู้ด้วยความรุนแรงเท่านั้นจึงจะได้ “ประชาธิปไตย” เพราะนั่นคือการบิดเบือน สร้างเงื่อนไข หา “เหยื่อ” ความรุนแรง หรือ ข้ออ้างถูกคุกคาม จนนำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกอย่างรุนแรงภายในประเทศในที่สุด

อย่าลืมทุกการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ต้องซ่อมสร้างประเทศอีกหลายปี ไม่ใช่ยืนอยู่ที่จุดเดิม และไม่รู้ว่า กลุ่มผู้ชนะจะแย่งชิงกันเป็นใหญ่อีกกี่รอบจึงจะสาสมแก่ใจ ไม่รู้จะมีฝ่ายต่อต้านอยู่หรือไม่ เศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่ในเวลานี้ คิดดูว่าจะดิ่งลงแค่ไหน อย่าว่าแต่ตกก้นเหวเลย อาจแหลกสลายอีกต่างหาก จะเอาถึงขั้นนั้นหรือไม่ ตรองดูเอาเถิด!


กำลังโหลดความคิดเห็น