คนรุนใหม่ต่อต้าน “มู่หลาน” ไม่พอใจ “หลิว อี้เฟย์” ที่สนับสนุนตำรวจใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมฮ่องกง “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” งงหนักมาก แบนตำนานผู้รักชาติ “เนติวิทย์” แสดงจุดยืนร่วมเครือข่าย “พันธมิตรชานม ฮ่องกง-ไต้หวัน-ไทย”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (5 ก.ย. 63) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “มู่หลานคือใคร : ต่อต้านทำไม”
โดยระบุว่า “มู่หลาน เป็นตำนานของหญิงสาวผู้รักชาติ ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อน
ตำนานของมู่หลาน ถูกเล่าขานต่อๆ กันในทั้งในรูปนิทาน อุปรากร แต่ละตำนานก็มีความแตกต่าง แต่งเติมกันไป
ที่เหมือนกันชัดเจน คือ มู่หลานเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่อาสาออกรบแทนบิดาที่ป่วยไม่สามารถรับใช้ประเทศได้ แต่มู่หลานมีความกล้าหาญ กล้าเสียสละ ไม่กลัวตาย ไม่กลัวความยากลำบาก อาสาออกรบเพื่อปกป้องประเทศแม้จะเป็นหญิง ไม่สนใจชื่อเสียง และยศฐาบรรดาศักดิ์ ทำงานโดยไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทนใดๆ
ก็ไม่เข้าใจว่า คนรุ่นใหม่ออกมา
แบนมู่หลาน ด้วยเหตุผลใด เป็นงง
ก่อนหน้านี้ (3 ก.ย. 63) เฟซบุ๊ก Netiwit Ntw ของนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความระบุว่า
“พรุ่งนี้ Mulan เริ่มฉายวันแรกแล้ว แต่พวกเรายังไม่ลืมกรณีที่นักแสดงหลักมู่หลาน หลิว อี้เฟย์ (Liu Yifei) รีโพสต์ใน Weibo และติดแท็กสนับสนุนตำรวจที่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมฮ่องกงที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย
ผมขอเชิญชวนทุกคน #BoycottMulan #BanMulan และแบนโฆษณาที่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงของรัฐต่อผู้ชุมนุม เพื่อให้ทางดิสนีย์ บริษัทต่างๆ และรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนรู้ว่า การใช้ความรุนแรงของรัฐที่ละเมิดเสรีภาพของผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราในฐานะประชาชนสามารถกระทำได้อยู่แล้วนั้น เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ตามระบอบประชาธิปไตย และยอมรับไม่ได้ในโลกสากล
เราจึงขอแสดงจุดยืนร่วมกับประชาชน และเพื่อนๆ ชาวฮ่องกงในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อในทุกวิถีทาง”
สำหรับภาพยนตร์ “มู่หลาน” ข้อมูลจากวิกิพีเดีย ระบุว่า เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวสงครามย้อนยุค ผู้กำกับ คือ นิกี คาโร ผู้เขียนบท คือ เอลิซาเบธ มาร์ทิน, ลอเรน ไฮเนก, กับริก จัฟฟา และอะแมนดา ซิลเวอร์ ผู้อำนวยการผลิต คือ วอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์ เป็นการนำเอาตำนานจีนเรื่องฮวา มู่หลาน มาดัดแปลง ถ่ายทำในนิวซีแลนด์และจีนช่วงสิงหาคมถึงพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 นักแสดงนำ คือ หลิว อี้เฟย์ เป็น มู่หลาน นักแสดงสมทบ คือ เจิน จื่อตัน, หลี่ เจี๋ย, อาน โย่วซิน, กง ลี่, และหลี่ เหลียนเจี๋ย
เดิม มู่หลาน มีกำหนดออกฉายวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ก่อนจะถูกเลื่อนวันฉายออกไป 3 ครั้ง ต่อมาวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ดิสนีย์ประกาศเลื่อนวันฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนาที่กำลังดำเนินอยู่ แต่ท้ายที่สุดดิสนีย์ประกาศฉายมู่หลานในสหรัฐฯ ผ่านทางสื่อส่งผ่านสัญญาณต่อเนื่องดิสนีย์ ในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2563
มีรายงานว่า หลังจากมู่หลานเข้าฉาย สามารถเก็บรายได้จากการฉายรอบแรกเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลไปถึง 2 ล้านบาท ถือเป็นรายได้ที่สูงที่สุดในประเทศไทยนับตั้งแต่รัฐบาลปลดล็อกเข้าชมภาพยนตร์ได้ หลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้เสียงวิจารณ์ต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ยังออกมาดีมากๆ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้มีการคาดเดากันว่า “มู่หลาน” อาจจะทำรายได้ในบ้านเราขึ้นไปสูงถึง 100 ล้านบาท (จากไทยโพสต์ออนไลน์)
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) (5 ก.ย. 63) เผยว่า
กลุ่มผู้ประท้วงจากฮ่องกง, ไต้หวัน และไทย ได้ออกมาเรียกร้องให้คว่ำบาตรการเปิดฉายภาพยนตร์เรื่อง “มู่หลาน” ของค่ายดิสนีย์ในหลายประเทศเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) โดยมีสาเหตุมาจากการที่ “หลิว อี้เฟย” นักแสดงนำหญิงที่รับบทมู่หลานเคยแสดงความเห็นสนับสนุนตำรวจฮ่องกงในการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปีที่แล้ว
กระแสต่อต้านดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนกับฮ่องกง และไต้หวัน ขณะที่จีนเดินหน้าสกัดกั้นกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยและการแยกตัวจากจีนทั้งในฮ่องกงและไต้หวัน
กลุ่มนักเคลื่อนไหวในฮ่องกงทวีตในวันศุกร์ว่า “ขอให้นึกถึง ... หลิว อี้เฟย์ ที่เคยแสดงการสนับสนุนความโหดร้ายของตำรวจฮ่องกงในเดือน ส.ค. 2562”
“ไม่สมควรที่จะสนับสนุนระบอบเผด็จการ ขอให้เข้าร่วมการต่อสู้ของชาวฮ่องกง และร่วมรณรงค์ด้วยการติดแฮชแท็ก #คว่ำบาตรมู่หลาน) #ไม่ใช่มู่หลานของฉัน (#NotMyMulan)”
กลุ่มนักเคลื่อนไหวในไต้หวันและไทยก็แสดงการสนับสนุนผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มความร่วมมือใหม่ ที่นำโดยพลเมืองในภาคพื้นเอเชียที่เรียกว่า กลุ่ม “พันธมิตรชานม” (Milk Tea Alliance) โดยมีเป้าหมายในการต่อสู้กับอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน รายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงชาวฮ่องกงเรียก แอกเนส โจว แกนนำนักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกงว่า “มู่หลานตัวจริง” และ “มู่หลานของเรา”
ด้าน โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวระดับแกนนำอีกคนของฮ่องกง ก็ได้ทวีตเกี่ยวกับการแบนภาพยนต์มู่หลานเมื่อวันศุกร์ว่า “ดิสนีย์ยอมศิโรราบให้กับจีน”
เขาทวีตว่า “มู่หลานเปิดฉายวันนี้ (4 ก.ย.) แต่เพราะดิสนีย์ยอมอ่อนข้อให้กับจีน และเพราะหลิว อี้เฟย์ แสดงการสนับสนุนความโหดร้ายของตำรวจฮ่องกงอย่างเปิดเผย ผมจึงเรียกร้องให้ทุกคนซึ่งเชื่อในสิทธิมนุษยชนทำการคว่ำบาตรภาพยนตร์เรื่องนี้ #BoycottMulan”
ทั้งนี้ ภาพยนตร์เรื่องมู่หลานเปิดฉายพร้อมกันวันแรกเมื่อวานนี้ในสหรัฐฯ, ไทย, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และบางส่วนของยุโรป โดยแต่เดิมนั้นมีกำหนดเปิดฉายในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ต้องถูกเลื่อนเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
แน่นอน, นี่คือคำตอบให้กับนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เพื่อหาย “งง”
และอย่างงไปเลย เพราะกลุ่มผู้ประท้วงชาวฮ่องกงเรียก แอกเนส โจว แกนนำนักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกงว่า “มู่หลานตัวจริง” และ “มู่หลานของเรา”
ประเด็นที่แทบไม่ต้องสงสัยของเรื่องนี้ก็คือ การทดสอบพลัง กลุ่มความร่วมมือใหม่ ที่นำโดยพลเมืองในภาคพื้นเอเชียที่เรียกว่า กลุ่ม “พันธมิตรชานม” ว่าแสนยานุภาพจะน่าเกรงขามแค่ไหน ถ้าท้ายที่สุดมีงานใหญ่รออยู่เบื้องหน้า จะเผด็จศึกได้หรือไม่
ส่วนแท้จริงจะเป็นประการใด ในเมื่อเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีเยาวชนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องก็นับว่าน่าคิด น่าติดตามอย่างใกล้ชิด เหมือนกับทุกเรื่องที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในเวลานี้
