รู้จัก “อู่ฮั่น” ผ่านภาพยนตร์จากจีนแผ่นดินใหญ่ ตั้งแต่เรื่องเล่าในยุคโบราณเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่มาของดินแดนแห่งนี้ จนไปถึงหนังร่วมสมัยที่ถ่ายทอดความเป็นไปของคนในอู่ฮั่น ดินแดนที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกจากไข้หวัดโคโรน่า
อู่ฮั่น เป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นนครที่ใหญ่ที่สุดในมณฑล มีประชากรกว่า 11 ล้านคน ทำให้เป็นนครที่มีประชากรมากที่สุดในภาคกลางของประเทศจีนและเป็นนครที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 7 ในประเทศจีน และเป็นหนึ่งในนครศูนย์กลางแห่งชาติทั้งเก้าแห่งของประเทศจีน
ชื่อ "อู่ฮั่น" มาจากการรวมกันของเมืองในประวัติศาสตร์ ได้แก่ เมืองอู่ชาง ฮั่นโข่ว และฮั่นหยาง ซึ่งทั้งสามเมืองรู้จักกันในชื่อ "เมืองทั้งสามของอู่ฮั่น" นครอู่ฮั่นตั้งอยู่ในทางตะวันออกของที่ราบเจียงฮั่น ซึ่งเป็นที่บรรจบของแม่น้ำแยงซี กับลำน้ำสาขาที่ใหญ่ที่สุดของแม่น้ำแยงซีซึ่งก็คือแม่น้ำฮั่น และนครอู่ฮั่นรู้จักกันในชื่อ "ทางสู่มณฑลทั้งเก้า"
แม้จะไม่ได้เป็นเมืองใหญ่ลำดับต้น ๆ ของจีน แต่ก็มีเหตุการณ์ และบุคคลสำคัญในประวัติศาตร์หลายคนที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่นี่
“มู่หลาน” กับ “บู๊ตึ้ง” มีถิ่นกำเนิดใน อู่ฮั่น
เมื่อปี 2018 ผู้สร้างภาพยนตร์จากฮอลลีวูดได้เดินทางไปยัง อู่ฮั่น เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ สำหรับการเก็บข้อมูล หาแรงบันดาลใจเพื่อใช้ในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Mulan ซึ่งดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อเดียวกันของ Disney ที่มีพื้นเพเดิมมาจากบนกลอนในสมัยราชวงศ์ถังนั่นเอง
มู่หลาน เป็นตำนานจีนโบราณ เกี่ยวกับหญิงสาวชาวบ้านจึงตัดสินใจไปเป็นทหารแทนบิดา มู่หลานแต่งกายเป็นชาย โดยที่เพื่อนร่วมทัพไม่รู้ระแคะระคายแม้แต่น้อย หลังจากรบทัพจับศึกได้สิบสองปี กองทัพก็กลับคืนสู่พระนคร มีการปูนบำเหน็จ มู่หลานมีความชอบมาก จะได้เป็นขุนน้ำขุนนาง แต่นางบอกปัดตำแหน่งลาภยศใด ๆ ขอเพียงม้าเร็วให้ขึ้นขี่กลับไปบ้านได้ทันใจก็พอ ที่ผ่านมา มู่หลาน ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง ที่คราวที่ประสับความสำเร็จที่สุดก็คือหนังการ์ตูนเมื่อปี 1998 ที่สร้างโดย Disney ที่กำลังจะถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งในรูปแบบของภาพยนตร์คนแสดง
ซึ่งนอกจาก มู่หลาน แล้ว อู่ฮั่น ก็ยังเป็นฉากหลังของเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์อีกครั้งหลายครั้ง ว่ากันว่าสำนักบู๊ตึ้งอันโด่งดังในนิยายกำลังภายในก็มีถิ่นกำเนิดใน อู่ฮั่น ด้วย
โรคระบาดที่ผาแดง เหตุการณ์สำคัญใน “สามก๊ก”
อีกเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในอู่ฮั่น ก็คือ ยุทธการที่ผาแดง ศึกสำคัญที่สุดศึกหนึ่งในประวัติศาสตร์ช่วงสามก๊ก ที่เพิ่งจะถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์โดย จอห์น วู เมื่อไม่กี่ปีก่อนนั่นเอง
แม้ในพงศวดารจะรุบว่าจะระบุว่า โจโฉ ต้องพ่ายแพ้การศึกเพราะกลสงครามของฝ่าย เล่าปี่ กับ ซุนกวน แต่ก็มีบันทึกของนักประวัติศาสตร์ที่แสดงความเห็นเอาไว้ว่าจริง ๆ แล้ว ทัพของโจโฉอาจจะไม่ได้พ่ายแพ้สงครามให้กับศัตรู แต่ต้องล่าถอยเพราะโรคระบาดต่างหาก
เชื่อกันว่าทหารของ โจโฉ ต้องเสียชีวิตไปไม่น้อยจากโรคพยาธิใบไม้ในเลือด ตัวของ โฉโจ เองก็อ้างเหตุผลนี้ในการเผาเรือทั้งหมด ก่อนจะยกทัพกลับ แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ตาม
ยุทธการเขื่อนแตก จุดเริ่มต้นของวิบากกรรมความอดอยากครั้งใหญ่ใน อู่ฮั่น
จนถึงในปี 1938 อู่ฮั่น กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ในระหว่างสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง เพื่อเป็นการสกัดกั้นการรุกคืบหน้าอย่างรวดเร็วของกองทัพญี่ปุ่น
เพื่อหยุดการโจมตีของญี่ปุ่นไม่ให้รุกคืบไปทางตะวันตกและทางใต้ของจีน และถ่วงเวลาเพื่อเตรียมการสำหรับยุทธการอู่ฮั่น เจียง ไคเชกและที่ปรึกษาได้ตัดสินใจทำลายคันกั้นน้ำริมแม่น้ำหวง ใกล้กับเมืองเจิ้งโจว เดิมกำหนดจุดทำลายที่ตำบลจ้าวโข่ว แต่ประสบกับอุปสรรคจึงย้ายมาที่ตำบลฮั่วหยวนโข่ว
น้ำจากแม่น้ำหวงเริ่มไหลบ่าตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 9 มิถุนายน ท่วมพื้นที่ประมาณ 54,000 ตารางกิโลเมตรของมณฑลเหอหนาน มณฑลอันฮุย และมณฑลเจียงซู ประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 500,000 คน ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 12 ล้านคน โดยเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ทางการจีนไม่ได้ประกาศเตือนภัยล่วงหน้าให้ประชาชนเตรียมการอพยพ หลังจากนั้นยังเกิดโรคระบาด อีกทั้งยังเกิดน้ำท่วมซ้ำอีกในปี พ.ศ. 2486 ทำลายพืชผลการเกษตร และมีความอดอยากติดต่อกันมาอีกหลายปี
ความอดยากครั้งใหญ่ครั้งนั้นได้ถูกถ่ายทอดเอาไว้ในภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เรื่อง Back to 1942 กำกับการแสดงโดย เฝิงเสี่ยวกัง (Feng Xiaogang) ผู้กำกับชั้นนำของประเทศจีนที่ใช้เวลานานถึง 18 ปีกว่าจะสร้างสำเร็จ ด้วยงบการสร้างภาพยนตร์ถึง 210 ล้านหยวน
โดยหนังได้นักแสดงชื่อดังมาร่วมงานมากมาย อาทิ จางเกาหลี่, เฉินเต้าหมิง, จางฮั่นหยี่, สวี่ฟาน รวมถึงนักแสดงคนดังจากฮอลลีวูด เอเดรียน โปรดี้ และ ทิม ร็อบบิน หนังนำเสนอภาพความแร้นแค้นของประชาชนชาวจีนในช่วงเวลานั้น รวมถึงคนใน อู่ฮั่น ที่ต้องเผชิญความหิวโหยระหว่างการอพยพ
หลายฉากในหนัง Back to 1942 ต่างสะท้อนให้เห็นความอดอยากชนิดที่ผู้อพยพต้องถากเปลือกไม้ของต้นไม้ มาหั่นและบดต้มกิน แม้กระทั่งลาหรือม้าที่เสียชีวิตก็ถูกปรุงเป็นอาหารไม่เว้นแม้แต่แมว ซึ่งด้วยประวัติศาสตร์ของความอดอยาก ความแร้นแค้น ตลอดจนความไม่มีจะกินที่ไม่น่าจดจำเหล่านี้นี่เองที่ว่ากันว่ามีส่วนเหลือเกินที่ทำให้ชาวเมืองอู่ฮั่นในปัจจุบันเองนิยมทานอาหารแปลก ๆ กระทั่งมันได้กลายเป็นสาเหตุในการแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่าที่กำลังระบาดไปทั่วโลกอยู่ในตอนนี้