xs
xsm
sm
md
lg

วัดใจลุงตู่ จะกล้าเปิดความจริง “ตัวละครลับ” คดีบอสมั้ย ? หรือจะให้ “Deep state” ขี่คอต่อไป ** น่าคิด!! “กลุ่มกบฏประชาธิปัตย์” ประกาศพร้อมจับมือพรรคก้าวไกล ยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว




** วัดใจลุงตู่ จะกล้าเปืดความจริง “ตัวละครลับ” คดีบอสมั้ย ? หรือจะให้ “Deep state” ขี่คอต่อไป สะพัดอัยการ น.เผ่นแล้ว

หลังผลสอบจาก “วิชา มหาคุณ” ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีอัยการสั่งไม่ฟ้อง “คดีบอส” วรยุทธ อยู่วืทยา สังคมก็ได้รู้ว่า “ผลไม้พิษมาจากต้นไม้พิษ” ซึ่งเป็นคำของวิชาว่าไว้ถึงที่คดีบิดเบือน สร้างความอับอาย ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมนั้น เป็นฝีมือของขบวนการเครือข่ายใหญ่ “รัฐซ้อนรัฐ” หรือ Deep state จากอิทธิพลของผู้มีอำนาจแอบอิงรัฐนั่นเอง

คำถามจากนี้ก็คือ “จะโค่นต้นไม้พิษอย่างไร” เมื่อคณะทำงานของวิชา นำข้อเท็จจรืงส่งถืงมือ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลุงตู่จะจัดการกับเครือข่าย Deep state เหลานั้นอย่างไร ?

นี่ก็แว่วว่า ผลจากการสอบข้อเท็จจริงปรากฏ ยังไม่ทันที่จะแอกชั่นต่อ ก็มีข่าว “อัยการ น.” ที่เกี่ยวข้องเผ่นแนบ หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่า ใช่ “เนตร นาคสุข” รองอัยการสูงสุด ที่เป็นผู้สั่งไม่ฟ้องหรือไม่

งานนี้วัดใจนายกฯ เพราะสังคมจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ข้อสรุปที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันก่อน ทั้งรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง ชื่อย่อ และพฤติการณ์ทั้งหลาย “ลุงตู่” จะกล้าเปิดเผยตรงไปตรงมาหรือไม่ว่า ใครทำอะไร อย่างไร แบบไม่ตกๆ หล่นๆ รายชื่อเรียงตัว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
โดยเฉพาะ “ตัวละครลับ” ที่ว่ากันว่า เป็นตัวพ่อคนสำคัญในการเดินเรื่องเชื่อมระหว่างตำรวจ และอัยการ ที่สำคัญ เป็นคนเปลี่ยนแปลงความเร็วรถที่ต่อมาเป็นจุดพลิกคดี
ว่าไปแล้วตัวละครลับตัวนี้ ก็เคยมีเปิดตัวกันออกมาตามหน้าสื่อ และ “รังสิมันต์ โรม” โฆษก กมธ.กฎหมายชุดปัจจุบัน ก็เคยโพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่ว่า คล้ายกับจะเป็น “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” อดีต ผบ.ตร. และนายกสมาคมฟุตบอล หรือไม่ ? เพียงแต่ในเอกสารของผลสอบที่ “อ.วิชา” ส่งให้สื่อเมื่อวันก่อนนั้น ไม่ได้ระบุชัดเจน แต่เมื่อ “อ.วิชา” ถูกถามเรื่องนี้อีกครั้ง ก็ได้แต่ย้ำว่า คณะกรรมการได้เอ่ยชื่อชัดเจน และเรื่องนี้อยู่ในมือนายกรัฐมนตรีหมดแล้ว คณะกรรมการได้ระบุชื่ออยู่ในรายงานฉบับเต็ม ที่ส่งถึงนายกรัฐมนตรีไว้ชัด
ส่วนเหตุผลที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อในเอกสารที่ให้กับสื่อ ก็ไม่ทราบด้วยเหตุใด?
พูดง่ายๆ สังคมจะได้คำตอบมากกว่าชื่อย่อ ชื่อปริศนา ก็ต้องขึ้นกับนายกฯ แล้วว่าจะบอกออกมาหรือไม่ !!
ต้องไม่ลืมว่า คดีนี้ผ่านมาแล้วจะครบ 8 ปี รอมร่อ การทำให้ทุกอย่างให้กระจ่างชัดเพื่อให้สังคมสิ้นสงสัย ทำให้คนรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด บัดนี้เมื่อมีผลสอบที่ชัดเจน ก็เป็นธรรมดาที่คนอยากจะรู้ให้ถึงทึ่สุด นายกฯ ก็แค่กล้าๆ หน่อย

วรยุทธ อยู่วิทยา
เมื่อคณะกรรมการชุด “อ.วิชา” แสดงความกล้าหาญออกมาแล้ว “ลุงตู่” จะอ้ำอึ้ง ยื้อเวลาในการเปิดเผยความจริงออกมา ย่อมส่งผลต่อศรัทธาที่มีต่อตัว “ลุงตู่” เอง และยิ่งตอกย้ำให้สังคมเชื่อว่า ระบบอุปถัมป์อุบาทว์บัดซบ ช่วยเหลือกันปกปิดความผิดมีอยู่จริง
เพราะเพื่อพวกพ้องคนใกล้ชิดนายกฯ แล้ว สิ่งที่ Deep state ที่ครอบงำรัฐบาลอยู่ สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของเครือข่ายกระนั้นหรือ โดยที่ “ลุงตู่” เองเกรงใจไม่กล้าจัดการ
“ลุงตู่” อย่าประเมินเรื่องนี้ต่ำ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนกัน หากสังคมไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน มันก็อาจจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ที่คนขี้สงสัยอาจจะเหมารวม “ลุงตู่” ที่แท้ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ Deep state คนหนึ่งด้วย
หาก “ลุงตู่” มัวเต้นชะชะช่า ไม่เฉลยผลสอบแบบหมดเปลือก ไม่เด็ดขาด งานนี้บอกเลยว่า จะดูไม่จืดจริงๆ .



** น่าคิด!! “กลุ่มกบฏประชาธิปัตย์” ประกาศพร้อมจับมือพรรคก้าวไกล ยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญปิดสวิตช์ ส.ว. ต้องการให้เกิดผลสำเร็จจริงจัง หรืองานนี้มีวาระซ่อนเร้น !!

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะมีมติในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าให้เสนอร่างแก้ไขเพียงร่างเดียว คือ แก้มาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีการตั้ง ส.ส.ร. 200 คน มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลดังกล่าว ได้ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา มีกำหนดเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯในวันที่ 23-24 ก.ย.นี้
แต่ล่าสุด มีกลุ่ม ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่เรียกตัวเองว่า “กบฏ ปชป.” นำโดย “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ส.ส.ตรัง “พนิช วิกิตเศรษฐ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ “เทพไท เสนพงศ์” ส.ส.นครศรีธรรมราช และ “ธีรภัทร พริ้งศุลกะ” ส.ส. สุราษฎร์ธานี ได้ออกมาแถลงจุดยืนว่า จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาและอำนาจหน้าที่ ส.ว. คือ แก้มาตรา 272 เพื่อ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” ไม่ให้มาร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
“กลุ่มกบฏ ปชป.” อ้างว่า การแก้ไขในประเด็นนี้ เป็นจุดยืนของพรรคมาตั้งแต่ต้น แม้แต่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคก็เห็นด้วย เพียงแต่ติดเงื่อนไขที่มติของพรรคร่วมรัฐบาล ให้ยื่นเพียงร่างเดียว แล้วรายละเอียดในการแก้ไขปล่อยให้ ส.ส.ร.เป็นผู้พิจารณา ...ซึ่งไม่รู้ว่าจะแตะเรื่อง ส.ว.หรือไม่
อีกทั้งเห็นว่า สถานการณ์ทางการเมืองในเดือนนี้ มีแนวโน้มน่าเป็นห่วงจากการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่อาจลุกลามขยายตัวมากขึ้น และอาจไม่ทันต่อสถานการณ์ จึงเห็นว่าควรเสนอแก้ไขเป็นรายประเด็นดังกล่าว
ทั้งนี้ การยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องมี ส.ส.ลงชื่อให้การรับรอง 1 ใน 5 ของจำนวน ส.ส.ในสภาฯ ซึ่งก็คือ 98 คน ซึ่งกลุ่มกบฏ ปชป.นี้ จะว่าไปแล้วก็คือ กลุ่ม ส.ส.ในสาย “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรค ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณไม่ถึง 10 คน
“สาทิตย์” ประกาศดังๆ ว่า พร้อมที่จะขอความร่วมมือจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่เห็นพ้องต้องกัน หรือแม้แต่พรรคฝ่ายค้านอย่าง “พรรคก้าวไกล” ก็ยินดีที่จะจับมือด้วย เพื่อร่วมกันลงชื่อเสนอร่างแก้ไขมาตรา 272 ที่เป็นหัวใจในการตัดตอนการสืบทอดอำนาจของ คสช.
แน่นอนว่า “พรรคก้าวไกล” ก็มีจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตราเช่นกัน โดยเฉพาะ มาตรา 272 ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลัก...

ปิยบุตร แสงกนกกุล
“ปิยบุตร แสงกนกกุล” แกนนำคณะก้าวหน้า ที่เป็นเหมือนเงาทาบทับพรรคก้าวไกล เพิ่งออกมาวิพากษ์วิจารณ์ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ให้มีการตั้ง ส.ส.ร.200 คน ว่า ดูจากที่มาแล้วไม่แคล้วว่า ส.ส.ร.ชุดนี้ คงหนีไม่พ้นการอยู่ภายใต้อำนาจของรัฐบาล เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ก็เอามาให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ และเมื่อรัฐสภาเห็นชอบ ก็ประกาศใช้ได้เลยโดยไม่ต้องลงประชามติ ... เป็นการฝังระบอบ คสช. เข้าไปในรัฐธรรมนูญอีกครั้งหนึ่ง ที่ชอบธรรมกว่าเดิม แนบเนียนกว่าเดิม และดูดีกว่าเดิม !!
ดังนั้น ประชาชนจึงยังต้องชุมนุมเรียกร้อง กดดัน ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในรายมาตรา... ในประเด็นยกเลิก ส.ว. สืบทอดอำนาจ 250 คน ยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ แก้ไขที่มาขององค์กรอิสระ และแก้ไขที่มาของศาลรัฐธรรมนูญ ...การเฝ้ารอให้มีรัฐธรรมนูญใหม่จากการร่างของ ส.ส.ร. คือ การเฝ้ารอความตาย !!
เอาล่ะ! แม้ว่า “กลุ่มกบฏ ปชป.” จะรวมเสียงจาก ส.ส.ก้าวไกล อีก 55 คน และพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน จนได้ครบ 98 คน เพื่อยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” ตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก...และที่ยากยิ่งกว่า คือ ยังต้องไปผ่านด่านสำคัญอีกด่าน เพราะต้องอาศัยเสียง ส.ว.ไม่น้อยกว่า 84 เสียง ให้การสนับสนุนในการโหวต วาระที่ 1 และ 3 ถึงจะไปต่อได้
การปิดสวิตช์ ส.ว.ตามแนวทางนี้จึงแทบเป็นไปไม่ได้ ...ทำให้มีการมองว่า การออกมาเคลื่อนไหวของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่บอกว่าจะไปร่วมมือกับพรรคก้าวไกลนั้น ต้องการให้เกิดผลสำเร็จจริงจังหรือเปล่า... มีเจตนาแอบแฝง หรือ เจตนาต่อรองอะไรกับรัฐบาลหรือเปล่า !! เพราะการเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ช่วงนี้ ดูจะแปลก แปร่ง ทั้งเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องทบทวนการแบนสารพิษ และยังมีเสียงลือว่ารัฐบาลอาจดึงพรรคเพื่อไทยมาเสียบ !!
การเคลื่อนไหวของ “กลุ่มกบฏ ปชป.” ครั้งนี้ จึงน่าคิดว่าเป็นการกระทำเฉพาะกลุ่ม หรือเป็นเพียงแค่คนออกหน้า แต่ยังมีพรรคเป็นแบ็กอยู่ข้างหลัง ...ประชาธิปัตย์กำลังคิดอะไรอยู่ !!




กำลังโหลดความคิดเห็น