xs
xsm
sm
md
lg

“พุทธิพงษ์” มั่นใจเฟซบุ๊กไม่ฟ้อง หลังตอบรับลบเพจผิด กม.พร้อมฟันกลุ่มหมิ่น-ล่าคนเห็นต่าง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รมว.ดีอีเอส แถลง มั่นใจเฟซบุ๊กไม่ฟ้อง หลังตอบรับลบเพจผิด กม. เชื่อไม่กระทบลงทุน-โหมไฟม็อบ เตรียมส่งจม.-คำสั่งศาลให้ปิดกั้นอีกพันยูอาร์แอล ไม่ดำเนินการเจอโทษ ไม่หวั่นกลุ่มหมิ่นฯคืนชีพ พร้อมตามจัดการ พ่วงฟันพวกล่า ทัวร์ลง คนดีเห็นต่าง



วันนี้ (26 ส.ค.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงกรณีเฟซบุ๊กออกแถลงการณ์แสดงความไม่พอใจที่กระทรวงดิจิทัลส่งคำสั่งศาลให้เฟซบุ๊กปิดกั้นเพจที่ผิดกฎหมาย เฉพาะอย่างยิ่งเพจ “รอยัลลิสต์มาร์เก็ต เพลส” โดยยืนยันว่า ดำเนินการทั้งหมดเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ได้เลือกปฏิบัติ หรือกลั่นแกล้งใคร ทุกยูอาร์แอลที่ส่งให้ดำเนินการมีทั้งที่โพสต์เกี่ยวข้องสถาบัน และอื่นๆ แต่เป็นการดำเนินการตามเป็นคำสั่งศาลของไทย โดยเมื่อ15 วันที่แล้ว กระทรวงได้ทำหนังสือแจ้งเตือนพร้อมกับแนบคำสั่งศาลไปถึงเฟซบุ๊กขอให้ช่วยลบและนำข้อความที่ผิดกฎหมายออกจากแพลตฟอร์ม จำนวน 1,129 ยูอาร์แอล ซึ่งครบกำหนด 15 วันเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยถึงวันนี้เฟซบุ๊กได้ลบให้ทั้ง 1,129 ยูอาร์แอลแล้ว และยังมีเว็บที่ไม่เหมาะสมอีกจำนวนหนึ่ง โดยวันนี้จะนำส่งหนังสือแจ้งเตือนการติดตามการปิดกั้นซึ่งมีคำสั่งศาลแล้ว ไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ อีกจำนวน 1,024 ยูอาร์แอล แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก จำนวน 661 รายการ, ยูทูป 289 รายการ, ทวิตเตอร์ 69 รายการ และเว็บอื่นจำนวน 5 รายการ ซึ่งถ้าครบ 15 วันจากวันนี้แล้วแพลตฟอร์มไม่มีการปฏิบัติการตามคำสั่งศาลไทย ก็จำเป็นที่เราต้องดำเนินการตามกฎหมาย

“เรียนว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ความผิดต่างๆ กระทรวงไม่ได้คิดเอง ไม่ได้ใช้ความคิดของตัวเองไปรังแกใคร เราใช้คำสั่งศาลภายใต้กฎหมายของประเทศไทย เราปกป้องอธิปไตยของไทย ซึ่งวันนี้อาจไม่ได้มาในรูปแบบของพื้นที่ ขอบเขตดินแดน เหมือนเดิม แต่เป็นอธิปไตยไซเบอร์ที่มาเร็วและก่อความเสียหายกับคนไทยอย่างต่อเนื่อง วันนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และที่บางคนบอกว่ากระทรวงทำช้า ทำไม่ทัน เรียนว่าวันนี้ที่เราดำเนินการตรวจสอบภายใน 48 ชั่วโมงหลังได้รับแจ้งว่ามีเพจที่ผิดกฎหมายแล้วส่งศาลพิจารณาทันทีไม่เกิดขึ้นมาก่อน เมื่อศาลมีคำสั่งให้ลบก็จะส่งไปยังเจ้าของแพลตฟอร์มให้ดำเนินการ ส่วนความความผิดในคดีอาญาก็ส่งตำรวจถ้ามองว่าตัวเลขการดำเนินการคดียังช้าก็ต้องไปถามทางตำรวจว่าทำไมแต่ในส่วนของกระทรวงเราถือต้องทำเร็วขึ้นและบังคับใช้กฎหมายจริงจังมากขึ้น”

ส่วนที่มีข่าวว่า เฟซบุ๊กจะมีการฟ้องรัฐบาลไทยนั้น ยังไม่เห็นเอกสารอย่างเป็นทางการว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร ถ้ามีการฟ้องจริงก็ต้องมีการตั้งทีมกฎหมายที่จะชี้แจงตามกระบวนการยุติธรรม ว่า การดำเนินการที่ผ่านมาทำเป็นระบบ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะมีการฟ้องร้อง ส่วนหนึ่งเพราะคนไทยใช้เฟซบุ๊กเยอะ และคำขอที่ให้ลบเพจผิดกฎหมาก็เป็นการทำตามคำสั่งศาล ซึ่งได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากเจ้าของแพลตฟอร์ม กระทรวงฯขอยืนยันว่าเรามีมาตรฐานในการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนที่แอดมินเพจ “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” มีการเปิดเพจใหม่ “รอยัลลิสต์ มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง” ก็จะติดตาม หากมีการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย กระทรวงก็ยึดมาตรฐานเดิม ไม่ว่าจะเปิดใหม่อีกกี่เพจก็ตาม และจะใช้มาตรฐานนี้กับทุกเพจที่กระทำผิดกฎหมายไม่ใช่เฉพาะเพจนี้เท่านั้น

“ที่ผ่านมา เราไม่เคยดำเนินการทางกฎหมายกับเจ้าของแพลตฟอร์มไหนเลยแม้กฎหมายจะเปิดช่องให้ทำได้ อย่างกรณีเพจ รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ไม่ได้มีเรื่องของการเมืองอยู่เบื้องหลัง ก่อนหน้านี้เราส่งหนังสือพร้อมคำสั่งศาลไป 2 ครั้งมีการแจ้งเตือนขอความร่วมมือให้ลบทุกครั้งเมื่อครบ 7 วัน แต่ไม่มีการดำเนินการ ครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 เรามีการแจ้งไปว่ามีมาตรา 27 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ ที่กำหนดให้ต้องดำเนินการภายใน 15 วัน เขาอาจจะเพิ่งเข้าใจว่าหากไม่ลบก็จะมีความผิด จึงรีบดำเนินการจะเป็นลักษณะปิดกั้นการมองเห็นของคนไทย หรือว่าลบแอคเค้าท์ อันนี้ไม่รู้แต่คำสั่งศาลไทยคือให้ลบ และถ้าเขาไม่ดำเนินการ เราก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้ตำรวจดำเนินคดีอาญาซึ่งก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานขัดคำสั่งศาล ประกอบกับความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 27”

ส่วนที่เจ้าของเฟซบุ๊กระบุว่า กรณีดังกล่าวมีผลทำให้เฟซบุ๊กต้องทบทวนแผนการลงทุนในไทย ส่วนตัวเห็นว่า การที่บริษัทข้ามชาติจะมาลงทุนในไทย ถือเป็นสิทธิของบริษัทนั้น และเมื่อเขามาทำธุรกิจในไทยก็ต้องเคารพกฎหมายไทย ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายของเราก็ทำอย่างเท่าเทียมกับคนที่กระทำความผิดไม่เฉพาะว่าเป็นคนไทย แล้วต่างชาติได้รับการยกเว้น ซึ่งถ้ากฎหมายไทยไม่ศักดิ์สิทธิ์บริษัทต่างชาติหลายแห่งคงไม่เข้ามาลงทุน รวมทั้งไม่มองว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะมีผลทำให้คนออกมาชุมนุมทางการเมืองกันมากขึ้น เพราะสิ่งที่ดำเนินการเนื่องจากมีการทำผิดกฎหมาย ไม่ได้จะไปจุดไฟอะไร จึงเป็นคนละประเด็นกัน ถ้าไม่มีการโพสต์อะไรที่ผิดกฎหมาย ทำได้หมด แม้กระทั่งการชุมนุมถ้าไม่ทำอะไรผิดกฎหมายก็ชุมนุมได้

นายพุทธิพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีกระบวนการไล่ล่า คนทำดี คนเห็นต่างไม่ว่าใครก็ตาม หรือคนมีชื่อเสียงถูกไล่ล่าทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งลักษณะแบบนี้ถือว่าไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมที่เราใช้อยู่ ชวนกันไปบูลลี่ กดดันให้เขาทำธุรกิจไม่ได้บ้าง ทัวร์ลงบ้าง ทำให้เขาถูกถอดออกจากหน้าที่การงาน ถือเป็นการลิดรอนสิทธิของผู้อื่น ฉะนั้น ถ้ามีการร้องเรียนเข้ามา หรือพบว่ามีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย กระทรวงก็จะรับไปดำเนินการ และส่งให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ไปดำเนินการ




















กำลังโหลดความคิดเห็น