รมว.ดิจิทัลฯ เผยไม่มีปัญหาเฟซบุ๊กเตรียมฟ้องฐานบล็อกเพจหมิ่นสถาบันฯ ลั่นไทยมีกฎหมาย ดำเนินธุรกิจในประเทศต้องเคารพ ชูเป็นรูปแบบหนึ่งที่เราเรียกว่าอธิปไตยของไทย เชื่อไม่กระทบความเชื่อมั่นลงทุน ชี้ ตปท.ก็ฟ้องกัน
วันนี้ (25 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่โรงแรม สตาร์ คอนเวนชั่น จ.ระยอง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีเฟซบุ๊กเตรียมฟ้องรัฐบาลไทย กรณีสั่งบล็อกเพจ “รอยัลสิสต์ มาร์เกตเพลส” ว่าไม่มีปัญหาอะไรตนทำตามกฎหมายและหลังจากนี้จะดำเนินการตามกฎหมายของเราต่อไปหากมีกรณีเช่นนี้อีกเราก็จะฟ้องเช่นเดิม แต่ขณะนี้ตนยังไม่เห็นว่าเฟซบุ๊กจะฟ้องที่ไหนอย่างไรแต่ยืนยันสิ่งที่เราดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายทุกเรื่อง อะไรที่ผิดกฎหมายเราก็ไม่เคยเพิกเฉยและนี่เป็นครั้งแรกที่เราดำเนินการไปถึงเจ้าของแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลไทย เนื่องจากเราส่งคำสั่งศาลไปให้ลบเนื้อหาต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องภายใน 15 วัน หากเขาไม่ดำเนินการเราก็ดำเนินการกับแพลตฟอร์ม ถือเป็นการกดดันและทำตามกฎหมาย แต่หากเขาลบให้เราก็ไม่ดำเนินคดีเขา ส่วนที่เขาจะฟ้องกลับอย่างไรตนก็ยังไม่ได้ดูรายละเอียดแต่ก็ต้องยืนยันว่าประเทศไทยก็มีกฎหมาย “ไม่ว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศเมื่อมาดำเนินธุรกิจต่างๆในประเทศไทยก็ต้องเคารพในกฎหมายไทยด้วย และที่เราทำก็ทำภายใต้กฎหมายไม่ได้รังแกใครเลยเพราะเป็นคำสั่งศาลทั้งสิ้น หากต่อไปมีอะไรผมก็ดำเนินการตามคำสั่งศาลกับทุกแพลตฟอร์มไม่ใช่แต่เฉพาะเฟซบุ๊ก ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เขาก็ลบให้”
นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ของเดิมมีข้อความที่หมิ่นเหม่ในเฟซบุ๊ก 1,120 ยูอาร์แอล ซึ่งเขาก็ทยอยลบให้เช่นเดียวกับกลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มหนึ่งของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ที่เป็นข่าวไปเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ทางเฟซบุ๊กก็ลบให้เนื่องจากเรามีคำสั่งศาลระบุไปว่ามีความผิดเมื่อมีการลบไปเราก็ไม่ดำเนินคดีเพราะเขาให้ความร่วมมือ ส่วนข่าวที่ว่าเฟซบุ๊กจะฟ้องตนก็เพิ่งเห็นข่าวเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับทางเฟซบุ๊กเพราะเรายึดตามกฎหมาย และเชื่อว่าคนไทยทุกคนเข้าใจ อย่างไรก็ตาม 10 วันที่ผ่านมา เฟซบุ๊กได้ลบข้อความที่เราแจ้งไปตามคำสั่งศาลประมาณ 90% รวมทั้งแพลตฟอร์มยูทูป และติ๊กต็อก ก็ลบให้หมดแล้วโดยยึดหลักกฎหมายและดำเนินการทั่งคนไทยและต่างประเทศ นี้ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เราเรียกว่าอธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นมิติใหม่ในระบบไซเบอร์ที่จะปกป้องคุมครองคนไทยภายใต้กฎหมายไทยอธิปไตยไทยที่เราจะต้องทำและตนเชื่อว่าหากเราไม่ทำไม่บังคับใช้กฎหมายในอนาคตจะยิ่งหนักกว่านี้
เมื่อถามว่านายกฯ ได้สั่งการอะไรเรื่องนี้เป็นพิเศษหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ตอบว่า ให้ทำตามกฎหมายอย่างเข้มแข็งทำตามสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้อง และนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด และไม่กังวลว่าเรื่องนี้จะทำให้กระทบความเชื่อมั่นการลงทุนของต่างชาติเพราะไม่ได้เกิดกับประเทศไทยประเทศเดียวในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีการฟ้องกันเอง แม้แต่ตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ยังมีการฟ้องร้องเครือข่ายมีการบล็อก มีการปิด และมีผู้นำบางประเทศถูกสั่งปิดทวิตเตอร์เพราะใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จออกมา เขาดำเนินการตามกฎหมายของเขา เราก็เช่นเดียวกัน ไม่แตกต่างกันเลย ถ้าเทียบกับต่างประเทศก็เป็นกระบวนการเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ได้ไปละเมิดสิทธิของใคร อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเราทำหนังสือชี้แจงทางเฟซบุ๊กมาโดยตลอดโดยยึดข้อกฎหมายและส่งข้อกฎหมายไปให้เขารับทราบและในหลายๆ เรื่องที่เขาปฏิบัติตามก็ต้องขอบคุณเขายอมรับว่าวันนี้เขาให้ความร่วมมือกับเรา
เมื่อถามว่าถึงกรณียูทูปของกรมประชาสัมพันธ์ ปล่อยให้มีการโพสต์คลิปที่ถูกวิจารณ์ว่าสร้างความขัดแย้งป้ายสีเด็ก นายพุทธิพงษ์ตอบว่า ตนยังไม่เห็นถ้ามีการส่งร้องเรียนเข้ามาก็จะเข้าไปตรวจสอบ แต่อยู่ดีดีไม่มีคนร้องทุกข์เข้ามาเราก็จะไม่ไปหยิบขึ้นมาเพราะเราเคารพสิทธิของแต่ละคน เมื่อถามว่าการป้ายสีเด็กถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ตอบว่า ตนขอกลับไปดูอีกที