ผู้จัดการรายวัน 360 - เฟซบุ๊กประกาศเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีรัฐบาลไทย กรณีบล็อกการเข้าถึงกลุ่ม ‘รอยัลลิสต์ มาร์เกตเพลส’ ของ "ปวิน" อ้างต้องการปกป้องรักษาสิทธิของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต รวมทั้งการแทรกแซงบั่นทอนการลงทุนในไทย "บิ๊กตู่"จวก"สมศักดิ์ เจียม-ปวิน" ทำเพจจาบจ้วงสถาบันฯ "ลั่น"ทุกอย่างทำตามกฎหมายไทย ไม่เคยก้าวล่วงกฎหมายของต่างประเทศ พร้อมให้ฝ่ายกฎหมาย ดำเนินการตามขั้นตอน หลังเฟซบุ๊กขู่ฟ้อง "พุทธิพงษ์" ย้ำเพื่อปกป้องอธิปไตยไซเบอร์ ไม่หวันเฟซบุ๊กฟ้องไทย ใครทำผิดพร้อมยึดหลักกฎหมายจัดการ ขณะที่ "ปวิน" ตั้งกลุ่มใหม่ “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง” สาวกเข้าร่วมแล้วกว่า 4 แสน
โฆษกเฟซบุ๊กได้ชี้แจงไปยังซีเอ็นเอ็น บิสิเนส ถึงกรณี ที่บริษัทได้บล็อกการเข้าถึงในประเทศไทยของกลุ่มรอยัลลิสต์ มาร์เกตเพลส ซึ่งมีสมาชิกกว่า 1 ล้านคนว่า “หลังจากที่ได้ทบทวนอย่างระมัดระวัง เฟซบุ๊กได้พิจารณาแล้วว่า เราถูกบังคับให้จำกัดการเข้าถึงเนื้อหา ซึ่งรัฐบาลไทยมองว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย”
เฟซบุ๊กระบุว่า ที่ผ่านมาบริษัทถูกรัฐบาลไทยกดดัน ให้ต้องจำกัดการแสดงความเห็นทางการเมืองในบางแง่มุม และทางการไทยยังขู่ดำเนินคดีกับผู้แทนเฟซบุ๊กในประเทศไทยด้วย
“ข้อเรียกร้องลักษณะนี้ ขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อความสามารถในการแสดงออกของผู้คน” โฆษกเฟซบุ๊กกล่าว “เรามุ่งมั่นที่จะปกป้องสิทธิของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคน และเตรียมดำเนินการทางกฎหมายเพื่อคัดค้านข้อเรียกร้องนี้”
โดยเฟซบุ๊กได้ออกแถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมว่า “หลังจากที่ Facebook ได้พิจารณาอย่างระมัดระวังและถี่ถ้วนแล้ว เราตัดสินใจที่จะจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่ทางรัฐบาลไทยระบุว่าเป็นเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องจากรัฐบาลเช่นครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่รุนแรง และขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล และยังส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออก การดำเนินงานของ Facebook มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งสิทธิต่างๆ ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกคน และขณะนี้เรากำลังเตรียมความพร้อมเพื่อโต้แย้งในข้อกฎหมายต่อข้อเรียกร้องครั้งนี้ การแทรกแซงที่เกินขอบเขตของรัฐบาล เช่นในกรณีนี้ ยังถือเป็นการบั่นทอนความสามารถของ Facebook ในการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดถึงการดำเนินงานของสำนักงานในประเทศไทย การคุ้มครองดูแลพนักงานของบริษัทฯ และการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนโดยตรงต่อธุรกิจต่างๆ ที่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์ม Facebook”
"บิ๊กตู่" สวนให้สิทธิแต่ต้องยึดกม.ไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีสำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่าเฟซบุ๊ก มีแผนที่จะดำเนินการฟ้องร้องรัฐบาลไทย จากกรณีที่ กระทรวงดิจิทัล ได้ขอให้เฟซบุ๊ก ดำเนินการบล็อกเพจ หรือบัญชีเฟซบุ๊กของผู้ที่โพสต์เนื้อหาหมิ่นเหม่ พาดพิงสถาบันฯ อาทิ กรณีของเพจกลุ่มที่ชื่อ รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส (royalist marketplace) ซึ่งเฟซบุ๊ก เห็นว่ารัฐบาลไทยจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตว่า เรื่องนี้ขอให้มอง 2 ด้าน ถ้ามีการขยายความกันไปอยู่แบบนี้ บางครั้งก็มีผลกระทบต่อประเทศ กฎหมายประเทศไทยว่าอย่างไร ทุกคนก็ต้องเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศเช่นกัน
"ผมเองไม่เคยไปก้าวล่วงต่างประเทศ เพราะเป็นกฎหมายของเขา กฎหมายของใครก็คือของใคร และผมอยากจะบอก และจำเป็นต้องเอ่ยชื่อ ไม่ว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ทั้งหมดก็มาจากเพจกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า royalist marketplace ซึ่งก็รู้ว่าใครเป็นผู้ขับเคลื่อนเพจดังกล่าว ก็คือนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ซึ่งคนเหล่านี้ทุกคนก็รู้อยู่ว่าเป็นอย่างไร แล้ววันนี้อยู่ที่ไหน แล้วเขารับผิดชอบความเสียหายกับประเทศชาติของเราหรือเปล่า นี่คือสิ่งสำคัญคนไทยที่เหลือต้องเข้าใจตรงนี้ คนที่เดือดร้อนที่สุดคือประเทศไทย และการที่เรามีการดำเนินการในเรื่องของเพจต่างๆ เหล่านี้ เป็นเรื่องการดำเนินการตามกฏหมายไทยทั้งสิ้น แล้วก็ไม่เคยไปใช้อำนาจที่เรียกว่าเผด็จการ ซึ่งผมไม่ได้มีแล้ว ไปปิดมันไม่ใช่ เป็นการขอคำสั่งศาลในทุกตัว เพราะฉะนั้นผมคิดว่าในทางกฎหมายเราสามารถที่จะยืนยันได้ตรงนี้ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายไทย หากมีการฟ้องร้องดังกล่าว เราก็ต้องใช้กฎหมายไทยไปสู้ในทางกฎหมายของเรา และถึงแม้ในทางกฎหมาย จะมีสิทธิเสรีภาพ แต่ก็ต้องเป็นไปตามกฏหมายของไทย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
"ดีอีเอส"ย้ำเพื่อปกป้องอธิปไตยไซเบอร์
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีเอีเอส) กล่าวถึงกรณีสั่งบล็อกเพจ"รอยัลสิสต์มาร์เก็ตเพลส"ว่า ตนทำตามกฎหมาย และนี่เป็นครั้งแรกที่เราดำเนินการไปถึงเจ้าของแพลตฟอร์ม ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลไทย เนื่องจากเราส่งคำสั่งศาลไปให้ลบเนื้อหาต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องภายใน 15 วัน หากเขาไม่ดำเนินการ เราก็ดำเนินการกับแพลตฟอร์ม ถือเป็นการกดดัน และทำตามกฎหมาย แต่หากเขาลบให้ เราก็ไม่ดำเนินคดี ส่วนที่เขาจะฟ้องกลับอย่างไร ตนก็ยังไม่ได้ดูรายละเอียดแต่ก็ต้องยืนยันว่า ประเทศไทยก็มีกฎหมาย
"ไม่ว่าเป็นคนไทย หรือคนต่างประเทศ เมื่อมาดำเนินธุรกิจต่างๆในประเทศไทย ก็ต้องเคารพในกฎหมายไทยด้วย และที่เราทำก็ทำภายใต้กฎหมาย ไม่ได้รังแกใครเลย เพราะเป็นคำสั่งศาลทั้งสิ้น หากต่อไปมีอะไร ผมก็จำเนินการตามคำสั่งศาลกับทุกแพลตฟอร์ม ไม่ใช่แต่เฉพาะเฟซบุ๊ก ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เขาก็ลบให้"
ส่วนข่าวที่ว่าเฟซบุ๊ก จะฟ้องตน ก็เพิ่งเห็นข่าวเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับทางเฟซบุ๊ก เพราะเรายึดตามกฎหมาย และเชื่อว่าคนไทยทุกคนเข้าใจ อย่างไรก็ตาม 10 วันที่ผ่านมา เฟซบุ๊กได้ลบข้อความที่เราแจ้งไปตามคำสั่งศาล ประมาณ 90% รวมแทนแพลตฟอร์ม ยูทูป และ ติ๊กต็อก ก็ลบให้หมดแล้ว โดยยึดหลักกฎหมาย และดำเนินการทั่งคนไทยและต่างประเทศ นี่ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เราเรียกว่า อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นมิติใหม่ในระบบไซเบอร์ ที่จะปกป้องคุมครองคนไทยภายใต้กฎหมายไทย อธิปไตยไทยที่เราจะต้องทำ และตนเชื่อว่าหากเราไม่ทำ ไม่บังคับใช้กฎหมายในอนาคตจะยิ่งหนักกว่านี้
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ถ้าผู้โพสต์ทำผิดกฏหมายของรัฐบาล ก็อยู่ในฐานะที่ใช้กฎหมายของไทยเข้ามาควบคุมให้เกิดความถูกต้อง เรื่องสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายระหว่างประเทศ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่จะมาใช้ในกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยได้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาดูว่าเว็บนั้นคุณสมบัติอย่างไร นำเสนอเรื่องที่ดีที่เกิดขึ้นกับประชาชน หรือสังคมไทยได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ทำอย่างนั้นก็จะนำไปสู่ปัญหา
กลุ่มใหม่แม่ปวิน!“รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง”
“ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์” นักวิชาการไทย ซึ่งลี้ภัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งกลุ่มใหม่ที่ใช้ชื่อว่า“รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง” หลังอ้างว่า กลุ่มเก่าถูกรัฐบาลไทยมีคำสั่งบังคับให้บล็อกการเข้าถึงกลุ่ม เนื่องจากมีการเผยแพร่เนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง พบกลุ่มใหม่มีสมาชิกเข้าร่วมแล้วกว่า 4 แสนราย
โฆษกเฟซบุ๊กได้ชี้แจงไปยังซีเอ็นเอ็น บิสิเนส ถึงกรณี ที่บริษัทได้บล็อกการเข้าถึงในประเทศไทยของกลุ่มรอยัลลิสต์ มาร์เกตเพลส ซึ่งมีสมาชิกกว่า 1 ล้านคนว่า “หลังจากที่ได้ทบทวนอย่างระมัดระวัง เฟซบุ๊กได้พิจารณาแล้วว่า เราถูกบังคับให้จำกัดการเข้าถึงเนื้อหา ซึ่งรัฐบาลไทยมองว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย”
เฟซบุ๊กระบุว่า ที่ผ่านมาบริษัทถูกรัฐบาลไทยกดดัน ให้ต้องจำกัดการแสดงความเห็นทางการเมืองในบางแง่มุม และทางการไทยยังขู่ดำเนินคดีกับผู้แทนเฟซบุ๊กในประเทศไทยด้วย
“ข้อเรียกร้องลักษณะนี้ ขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อความสามารถในการแสดงออกของผู้คน” โฆษกเฟซบุ๊กกล่าว “เรามุ่งมั่นที่จะปกป้องสิทธิของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคน และเตรียมดำเนินการทางกฎหมายเพื่อคัดค้านข้อเรียกร้องนี้”
โดยเฟซบุ๊กได้ออกแถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมว่า “หลังจากที่ Facebook ได้พิจารณาอย่างระมัดระวังและถี่ถ้วนแล้ว เราตัดสินใจที่จะจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่ทางรัฐบาลไทยระบุว่าเป็นเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องจากรัฐบาลเช่นครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่รุนแรง และขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล และยังส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออก การดำเนินงานของ Facebook มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งสิทธิต่างๆ ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกคน และขณะนี้เรากำลังเตรียมความพร้อมเพื่อโต้แย้งในข้อกฎหมายต่อข้อเรียกร้องครั้งนี้ การแทรกแซงที่เกินขอบเขตของรัฐบาล เช่นในกรณีนี้ ยังถือเป็นการบั่นทอนความสามารถของ Facebook ในการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดถึงการดำเนินงานของสำนักงานในประเทศไทย การคุ้มครองดูแลพนักงานของบริษัทฯ และการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนโดยตรงต่อธุรกิจต่างๆ ที่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์ม Facebook”
"บิ๊กตู่" สวนให้สิทธิแต่ต้องยึดกม.ไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีสำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่าเฟซบุ๊ก มีแผนที่จะดำเนินการฟ้องร้องรัฐบาลไทย จากกรณีที่ กระทรวงดิจิทัล ได้ขอให้เฟซบุ๊ก ดำเนินการบล็อกเพจ หรือบัญชีเฟซบุ๊กของผู้ที่โพสต์เนื้อหาหมิ่นเหม่ พาดพิงสถาบันฯ อาทิ กรณีของเพจกลุ่มที่ชื่อ รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส (royalist marketplace) ซึ่งเฟซบุ๊ก เห็นว่ารัฐบาลไทยจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตว่า เรื่องนี้ขอให้มอง 2 ด้าน ถ้ามีการขยายความกันไปอยู่แบบนี้ บางครั้งก็มีผลกระทบต่อประเทศ กฎหมายประเทศไทยว่าอย่างไร ทุกคนก็ต้องเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศเช่นกัน
"ผมเองไม่เคยไปก้าวล่วงต่างประเทศ เพราะเป็นกฎหมายของเขา กฎหมายของใครก็คือของใคร และผมอยากจะบอก และจำเป็นต้องเอ่ยชื่อ ไม่ว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ทั้งหมดก็มาจากเพจกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า royalist marketplace ซึ่งก็รู้ว่าใครเป็นผู้ขับเคลื่อนเพจดังกล่าว ก็คือนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ซึ่งคนเหล่านี้ทุกคนก็รู้อยู่ว่าเป็นอย่างไร แล้ววันนี้อยู่ที่ไหน แล้วเขารับผิดชอบความเสียหายกับประเทศชาติของเราหรือเปล่า นี่คือสิ่งสำคัญคนไทยที่เหลือต้องเข้าใจตรงนี้ คนที่เดือดร้อนที่สุดคือประเทศไทย และการที่เรามีการดำเนินการในเรื่องของเพจต่างๆ เหล่านี้ เป็นเรื่องการดำเนินการตามกฏหมายไทยทั้งสิ้น แล้วก็ไม่เคยไปใช้อำนาจที่เรียกว่าเผด็จการ ซึ่งผมไม่ได้มีแล้ว ไปปิดมันไม่ใช่ เป็นการขอคำสั่งศาลในทุกตัว เพราะฉะนั้นผมคิดว่าในทางกฎหมายเราสามารถที่จะยืนยันได้ตรงนี้ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายไทย หากมีการฟ้องร้องดังกล่าว เราก็ต้องใช้กฎหมายไทยไปสู้ในทางกฎหมายของเรา และถึงแม้ในทางกฎหมาย จะมีสิทธิเสรีภาพ แต่ก็ต้องเป็นไปตามกฏหมายของไทย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
"ดีอีเอส"ย้ำเพื่อปกป้องอธิปไตยไซเบอร์
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีเอีเอส) กล่าวถึงกรณีสั่งบล็อกเพจ"รอยัลสิสต์มาร์เก็ตเพลส"ว่า ตนทำตามกฎหมาย และนี่เป็นครั้งแรกที่เราดำเนินการไปถึงเจ้าของแพลตฟอร์ม ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลไทย เนื่องจากเราส่งคำสั่งศาลไปให้ลบเนื้อหาต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องภายใน 15 วัน หากเขาไม่ดำเนินการ เราก็ดำเนินการกับแพลตฟอร์ม ถือเป็นการกดดัน และทำตามกฎหมาย แต่หากเขาลบให้ เราก็ไม่ดำเนินคดี ส่วนที่เขาจะฟ้องกลับอย่างไร ตนก็ยังไม่ได้ดูรายละเอียดแต่ก็ต้องยืนยันว่า ประเทศไทยก็มีกฎหมาย
"ไม่ว่าเป็นคนไทย หรือคนต่างประเทศ เมื่อมาดำเนินธุรกิจต่างๆในประเทศไทย ก็ต้องเคารพในกฎหมายไทยด้วย และที่เราทำก็ทำภายใต้กฎหมาย ไม่ได้รังแกใครเลย เพราะเป็นคำสั่งศาลทั้งสิ้น หากต่อไปมีอะไร ผมก็จำเนินการตามคำสั่งศาลกับทุกแพลตฟอร์ม ไม่ใช่แต่เฉพาะเฟซบุ๊ก ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เขาก็ลบให้"
ส่วนข่าวที่ว่าเฟซบุ๊ก จะฟ้องตน ก็เพิ่งเห็นข่าวเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับทางเฟซบุ๊ก เพราะเรายึดตามกฎหมาย และเชื่อว่าคนไทยทุกคนเข้าใจ อย่างไรก็ตาม 10 วันที่ผ่านมา เฟซบุ๊กได้ลบข้อความที่เราแจ้งไปตามคำสั่งศาล ประมาณ 90% รวมแทนแพลตฟอร์ม ยูทูป และ ติ๊กต็อก ก็ลบให้หมดแล้ว โดยยึดหลักกฎหมาย และดำเนินการทั่งคนไทยและต่างประเทศ นี่ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เราเรียกว่า อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นมิติใหม่ในระบบไซเบอร์ ที่จะปกป้องคุมครองคนไทยภายใต้กฎหมายไทย อธิปไตยไทยที่เราจะต้องทำ และตนเชื่อว่าหากเราไม่ทำ ไม่บังคับใช้กฎหมายในอนาคตจะยิ่งหนักกว่านี้
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ถ้าผู้โพสต์ทำผิดกฏหมายของรัฐบาล ก็อยู่ในฐานะที่ใช้กฎหมายของไทยเข้ามาควบคุมให้เกิดความถูกต้อง เรื่องสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายระหว่างประเทศ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่จะมาใช้ในกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยได้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาดูว่าเว็บนั้นคุณสมบัติอย่างไร นำเสนอเรื่องที่ดีที่เกิดขึ้นกับประชาชน หรือสังคมไทยได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ทำอย่างนั้นก็จะนำไปสู่ปัญหา
กลุ่มใหม่แม่ปวิน!“รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง”
“ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์” นักวิชาการไทย ซึ่งลี้ภัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งกลุ่มใหม่ที่ใช้ชื่อว่า“รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง” หลังอ้างว่า กลุ่มเก่าถูกรัฐบาลไทยมีคำสั่งบังคับให้บล็อกการเข้าถึงกลุ่ม เนื่องจากมีการเผยแพร่เนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง พบกลุ่มใหม่มีสมาชิกเข้าร่วมแล้วกว่า 4 แสนราย