ข่าวปนคน คนปนข่าว
**รู้จัก “บิ๊กบู” พลเรือโท ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ หัวหมู่ทะลวงฟันแห่งกองทัพเรือ กับปมร้อนเรือดำน้ำ
“บิ๊กบู” หรือ พลเรือโท ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานกิจการพลเรือน และโฆษกกองทัพเรือ ผู้ที่ผ่าประเด็นร้อนรับหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจถึงความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่หากได้ฟังจากข้อเท็จจริงที่อธิบาย และ ลีลา-วาทะ ซึ่งตอบโต้นักการเมือง “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ส.ส.พรรคเพื่อไทย อย่างถึงพริกถึงขิง ก็ต้องบอกว่า “บิ๊กบู” ได้กลายเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงในสังคมโซเชียลฯ มากที่สุดโมงยามนี้ไปแล้ว
ก่อนจะไปรู้จักว่า “บิ๊กบู” เป็นใคร ? อย่างที่บอกไว้ว่า เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะคิดอย่างไร “ถูกใจ” หรือ “ไม่ถูกใจ” นานาจิตตัง แต่ในกรณีที่การจัดซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ ถูกตั้งเป็นประเด็นขึ้นมาโดยนักการเมือง โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้ข่าวที่ผิด ข่าวเท็จ ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า กองทัพเรือใช้เงินงบประมาณปี 64 มากถึง 22,500 ล้านบาท ซึ่งความจริงเป็นการจัดซื้อแบบผ่อนชำระ ด้วยงบประมาณผูกพัน ตามวงรอบปีในปีงบประมาณ ระยะเวลายาว 7 ปี เฉลี่ยปีละ 3 พันล้านเศษ
ส่วนที่ระบุว่า สัญญาเป็น “จีทูจีเก๊” ก็เป็นการให้ข่าวที่เห็นแก่ตัว เอาแต่เรื่องทางการเมืองเป็นหลัก เอาประโยชน์ทางการเมืองอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พร้อมกับยิงหมัดตรงสวนกลับว่า เรือดำน้ำ เป็นการเซ็นสัญญา G to G ของจริง ไม่ใช่แบบ “จำนำข้าว” แต่ถ้าเพื่อไทยทำ G to G ไม่เป็น ให้มาฟังกองทัพเรือ
“บิ๊กบู” ยังทิ้งหมัดด้วยวาทะเจ็บๆ ว่า ถ้านักการเมืองหมดมุกแล้ว ก็หามุกอื่นเถอะ อย่าสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กองทัพเรือเลย อย่าให้สังคมตกเป็นเครื่องมือการเมืองในวิถีเก่าๆ และสกปรกแบบนี้อีกเลย อย่าดึงประชาชนมาเกลียดชังกองทัพเรือ และกองทัพเรือไม่ใช่จำเลย จึงวิงวอนว่าให้ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เพื่อเห็นแก่ความสุขสงบประเทศเป็นหลักด้วย
นี่คือคำแถลง แต่ที่ “พีคในพีค” ก็คือ ช่วงหนึ่งของถ้อยแถลง “บิ๊กบู” หยิบเอาโพลของเนชั่น ที่เป็นสื่อกำลังมีประเด็นกับชาวโซเชียลฯ มาอ้างอิง ก็เลยกลายเป็นจุดที่มีการกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง
“บิ๊กบู” พลเรือโท ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ เป็นนายทหารจบ เตรียมทหารรุ่น 21 ที่มีอายุราชการ ถึงปี 2565 ว่ากันว่า เป็น น้องรัก ที่ “บิ๊กลือ” พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู็บัญชาการทหารเรือ ให้ความไว้วางใจมาก จึงให้เป็น “ผู้อำนวยการจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ” ซึ่งได้ทำผลงานการจัดหายุทโธปกรณ์หลักของกองทัพเรือทุกโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และราบรื่น ไม่มีปัญหาใดๆ เพราะความรอบรู้ทั้งด้านยุทธศาสตร์ ยุทธการ การส่งกำลังบำรุง ความรู้เท่าทันด้านกฎหมาย พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง อีกทั้งการเป็น อดีตผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส ซึ่งความรู้ความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ จัดได้ว่าไม่เป็นสองรองใครในกองทัพ
งานนี้ เมื่อการเมืองเปิดประเด็นมา ก็ย่อมเป็นธรรมที่กองทัพเรือจะมีโต้ตอบ
แต่ คำตอบสุดท้ายจะอยู่ที่ประชาชนแต่ละคนจะชั่งน้ำหนัก และคิดเห็นกันอย่างไร ตรงนี้กลับสำคัญกว่า .
** “สิระ” โดนอีกคดี “เต้” แจ้งความหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน พร้อมโชว์พระเอก ประกาศยกเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง 3 เดือน ช่วยผู้เดือดร้อนจากน้ำท่วม
ดรามากรณี “ส.ส.เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กับ “ส.ส.สิระ เจนจาคะ” ส.ส.พลังประชารัฐ ที่เริ่มมาจาก “เต้” เห็นว่า การชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา ทำท่าจะบานปลาย หากรัฐบาลใช้อำนาจเข้าปราบปราม ก็จะถึงกับเลือดตกยางออก จึงเสนอว่า... ถ้า “ลุงตู่” ไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้ภายใน 1 เดือน ก็ควรลาออก
“สิระ” ก็ออกมาสวนทันควันว่า มาขีดเส้นให้ “ลุงตู่” ลาออกอย่างนี้ ไม่รู้จักตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองซะบ้าง ...นี่สงสัยจะเงินหมด ถ้าเงินหมดก็บอกจะช่วยแก้ไขให้ ... ทำเอา “เต้” หัวร้อน โพสต์ผ่านโซเชียลฯ บอกเจอที่ไหนจะเอาให้ฟันร่วงหมดปาก...เพราะถือว่าคนอย่าง “เต้” ฆ่าได้ หยามไม่ได้ !!
รุ่งขึ้นอีกวัน “สิระ” ก็เข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ “เต้” ฐานข่มขู่ คุกคาม ทั้งยังเรียกร้องให้ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาฯ เอาผิดจริยธรรม เพราะเป็น ส.ส. แต่มีพฤติกรรมนักเลง...พร้อมชี้แจงเรื่องเงินหมด เพราะเห็นว่า “เต้” เอาเงินเดือนไปบริจาคช่วยผู้เดือดร้อนจากโควิด จนหมด เลยกลัวไม่มีเงินใช้ ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่น
จากนั้นทั้งคู่ก็มาปะหน้ากันที่สภาฯ ก็มีการต่อว่ากัน “สิระ” เดินวนเวียน เหมือนจะบอกว่าเอาสิ !! ไหนว่าจะเอาให้ฟันร่วงหมดปาก ...ขณะที่ “เต้” ก็ตามประกบนับหนึ่งถึงร้อย ...ถ้าย้ำๆ ว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน ใครเป็นคนเริ่มก่อน ...ทำเอาผู้เห็นเหตุการณ์ ตลอดจนนักข่าวตามเกาะติดด้วยความระทึก แต่ก็ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือกัน ...คลิปนี้มีการแชร์กันในโซเชียลฯ คนพูดถึงกันทั้งเมือง
ล่าสุด “เต้” ได้มอบหมายให้ทนายความ ไปดำเนินคดีอาญากับ “สิระ” ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก พร้อมเรียกค่าเสียหายต่อชื่อเสียง เป็นเงิน 100 ล้านบาท
จากเหตุการณ์ที่ทำท่าว่าจะมีการ “ใช้กำลัง” ตัดสิน ก็เปลี่ยนมาใช้ “กฎหมาย” ตัดสินแทน
พร้อมกันนี้ “เต้” ก็โชว์พระเอก ประกาศผ่านโซเชียลฯ มอบเงินเดือน ส.ส. และเงินประจำตำแหน่ง จากเดิมที่มอบช่วยเหลือสถานการณ์โควิด ซึ่งขณะนี้สถานการณ์โควิดได้คลี่คลายไปมากแล้ว แต่มีประชาชนจำนวนมากที่เดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม จึงขอโยกเงินโยกไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 3 เดือน คือ เงินเดือน ส.ส.และเงินประจำตำแหน่ง งวดวันที่ 31 ส.ค. 63 - 31 ต.ค. 63
เหมือนเป็นการบอกผ่านไปถึง “สิระ” ว่า มีเงิน หรือไม่มีเงิน ไม่สำคัญ แต่ถ้าประชาชนเดือดร้อน “ส.ส.เต้” ที่คนมองว่า ดิบๆ เถื่อนๆ ต้องยื่นมือเข้าไปช่วย !!
สังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปหลายแง่มุม ... และรอดูว่า “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา จะจัดการอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ “ชวน” ชี้แจงว่าได้มีการเรียกทั้งสองคน มาพูดคุยถึงปัญหาความขัดแย้ง เพื่อให้ทำความเข้าใจกัน เพราะยังต้องทำงานต่อในสภาฯ แต่ปรากฏว่า ทั้งคู่ยังปฏิเสธที่จะมาพบ มาปรับความเข้าใจกัน ซึ่ง “ประธานชวน” เห็นว่า ตอนนี้อารมณ์ของแต่ละคนยังคงคุกรุ่น ต้องปล่อยเวลาให้ทั้งคู่ได้ใจเย็นลงก่อน แล้วจะเชิญมาพูดคุยอีกครั้ง...ส่วนเรื่องที่ยังมีการโพสต์เฟซบุ๊ก โต้ตอบกันไปมานั้น ถือเป็นเรื่องนอกสภาฯ ไม่สามารถห้ามได้
ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ศึกศักดิ์ศรีระหว่าง 2 ส.ส.ผู้ทรงเกียรตินี้ จะลงเอยอย่างไร ...แต่ถ้าพูดถึงเรื่องคดี สำหรับ “สิระ” ถือว่าเป็นเรื่องสิวๆ มาก เพราะเจอมาเยอะ