เปิดเบื้องหลังดัน “ไพรินทร์” ขึ้นแท่นประธานบอร์ด แม้จะมีเวลานั่งในตำแหน่งแค่ 7 เดือน หวังคุมอำนาจในธุรกิจพลังงานแบบเบ็ดเสร็จ เผย ปตท.เป็นบริษัทใหญ่ที่มี์มูลค่าตลาดกว่า 1.3 ล้านล้าน กำไรปีละกว่าแสนล้าน แต่ละปีมีแผนการลงทุนปีละหลายหมื่นล้านบาท
วันนี้ (20 ส.ค.) แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. เปิดเผยว่า ตามกระแสข่าวว่า นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เตรียมผลักดัน นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม เข้ามานั่งเป็นประธานบอร์ด ปตท. แม้จะมีเวลานั่งในตำแหน่งแค่ 7 เดือน เพราะต้องการคุมอำนาจในธุรกิจพลังงานแบบเบ็ดเสร็จ เนื่องจาก ปตท.เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของประเทศ และเป็นผู้กำหนดทิศทางพลังงานของประเทศ มีบริษัทในเครือหลายแห่ง และมีผลประโยชน์หลายหมื่นล้าน
แหล่งข่าวเล่าว่า การผลักดัน นายไพรินทร์ เข้ามานั่งใน ปตท.นั้น มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน โดยคนใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และมีตำแหน่งกรรมการ ในเครือข่ายบริษัท ปตท. ร่วมมือกับที่ปรึกษาคนหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทพลังงานเอกชนรายใหญ่แห่งหนึ่ง อยู่เบื้องหลังในครั้งนี้
โดยล้มมติพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีมติส่ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จากกลุ่มสามมิตร มานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แทน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ริบเก้าอี้มาเป็นโควตานายกฯ ส่ง นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ มานั่งเก้ารองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.พลังงาน ก่อนจะให้ นายสุพัฒน์พงษ์ ผลักดัน นายไพรินทร์ มานั่งใน ปตท.
สำหรับใครที่อยู่ในแวดวงพลังงาน จะรู้ดีว่านายสุพัฒน์พงษ์นั้น มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับนายไพรินทร์ เคยทำงานในเครือปตท.หลายบริษัท และเคยเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สมัยที่ นายไพรินทร์ นั่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.
อย่างไรก็ตาม มีแรงต้านจากคนใน ปตท. เพราะนายไพรินทร์ นอกจากจะถูกถูกชมรมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบเอาผิดสมัยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท. และเป็นประธานบอร์ด บริษัท ไออาร์พีซี แล้ว ยังถูกฟ้องร้องในคดีปาล์มอินโดฯด้วย
โดยถูก นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.กรีน เอ็นเนอร์ยี จำกัด (PTTGE) ฟ้องกลับ 5 คดี หลังจากที่ นายนิพิฐ ถูกนายไพรินทร์ กล่าวหาต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีมีพฤติกรรมอันน่าเชื่อได้ว่ากระทำการโดยทุจริตต่อหน้าที่ หรือมีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันก่อให้เกิดความเสียหาย กรณีการซื้อขายที่ดินเพื่อปลูกปาล์มนํ้ามันที่อินโดนีเซีย ของบริษัท ปตท.กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE)
สำหรับคดีที่นายไพรินทร์ กับพวก ถูกกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. และถูกฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ประกอบด้วย
1. ถูกกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เลขรับที่ 9128 เรื่อง กล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นชอบให้รวมการพิจารณาคดีกับคดีที่นายนิพิฐ ถูกกล่าวหา เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560
2. คดีอาญา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีหมายเลขดำที่ อท.138/2560 ระหว่าง นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา โจทก์ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ที่ 1, กับพวก รวม 5 คน ในข้อหาหรือฐานความผิดร่วมกันทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ แจ้งความเท็จ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
3. คดีอาญา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีหมายเลขดำที่ อท.337/2560 ระหว่างนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา โจทก์ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ที่ 1, กับพวก รวม 7 คน ในข้อหาหรือฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
4. คดีอาญา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีหมายเลขดำที่ อท.405/2560 ระหว่างนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา โจทก์ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ที่ 1, กับพวก รวม 4 คน ในข้อหาหรือฐานความผิด ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
5. คดีอาญา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีหมายเลขดำที่ อท.410/2560 ระหว่างนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา โจทก์ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ที่ 1, กับพวก รวม 9 คน ในข้อหาหรือฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ถึงแม้ นายสุพัฒน์พงษ์ จะรู้ว่า มีแรงต้านจากเรื่องธรรมาภิบาลจากคนใน ปตท. และรู้ด้วยว่า นายไพรินทร์ มีวาระนั่งในตำแหน่งประธานบอร์ด ปตท. แค่ 7 เดือน แต่ก็พยายามจะผลักดันให้นั่งประธานบอร์ด ปตท.ให้ได้ คงไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาแน่ๆ