“ปิยบุตร” อีกแล้ว โพสต์สิ่งที่ “อดีตกษัตริย์สเปน” ต้องรับผิดชอบ เพื่อ... “หมอวรงค์” จับไต๋ หมกมุ่น “ยกเลิกสถาบัน” หวังเป็นใหญ่ใต้อิทธิพลต่างชาติ “ดร.นิว” ลากไส้ความ “อำมหิต” ใช้คนเป็นเครื่องมือ? ไม่เว้นแม้แต่ “ลูกศิษย์”
น่าสนใจเป็นอย่ายิ่ง วันนี้ (4 ส.ค. 63) เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul ของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความระบุว่า
“ปาโบล อิเกลเซียส รองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรค Podemos โพสต์ลงเพจ ตำหนิ ฆวน คาร์ลอส อดีตกษัตริย์สเปน ว่า การหนีคดีลี้ภัยไปต่างประเทศ เป็นทัศนคติที่แย่มาก ไม่เคารพต่อพลเมืองสเปนและประชาธิปไตยสเปน เขาต้องรับผิดชอบในการกระทำของเขาต่อประเทศและประชาชน
สเปนไม่อาจอดทนอดกลั้นได้ต่อการคอร์รัปชัน หรือ อภิสิทธิ์ชน ใครก็ตามที่กระทำความผิด ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การพ้นผิดลอยนวล คือ ความผิดร้ายแรง โดยเฉพาะถ้ากระทำโดยอดีตกษัตริย์ นั่นก็ยิ่งทำลายประชาธิปไตย
ต้องจับตาดูต่อไปว่า รัฐบาลจะติดตามตัว ฆวน คาร์ลอส กลับมาดำเนินคดีหรือไม่ อย่างไร
ว่ากันว่า การลี้ภัยของ ฆวน คาร์ลอส อาจจุดชนวนให้รัฐบาล สภา พรรคการเมือง และประชาชน หันมาเห็นพ้องต้องกันให้ทำประชามติเปลี่ยนสเปนให้เป็นสาธารณรัฐ
หากเป็นเช่นนั้น การหนีคดีลี้ภัยไปต่างประเทศของ ฆวน คาร์ลอส ก็เทียบเคียงได้กับการหลบหนีออกจากฝรั่งเศสของหลุยส์ 16 แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการยกเลิกสถาบันกษัตริย์ในเวลาต่อมาในปี 1792”
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก โพสต์หัวข้อ “หวังเป็นใหญ่ใต้เงาต่างชาติ”
โดยระบุว่า “เราจะเห็นว่า ช่วงนี้นายปิยบุตร วนเวียนแต่เรื่องการยกเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศส และล่าสุด ของสเปน พยายามขุดคุ้ยแต่เรื่องประวัติศาสตร์ ชาติตะวันตก เพื่อมาชี้นำสังคมไทย
ผมยังยืนยันถึงวิถีไทยและอัตลักษณ์ไทย จะเอาของฝรั่งมาชี้นำไม่ได้ นายปิยบุตร คงไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย คงไม่รู้จักพระมหากษัตริย์ที่สร้างแผ่นดินไทยในปีพ.ศ.1792 คือ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
พระมหากษัตริย์ที่ทรงประกาศเอกราช จากพม่าในปี พ.ศ. 2127 คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ที่ทรงรบเพื่อรวบรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นคือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในปี พ.ศ. 2310
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เสด็จยุโรปเพื่อดำเนินยุทธศาสตร์สร้างพันธมิตร เพื่อต่อรองกับเจ้าลัทธิล่าอาณานิคมอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส
รวมทั้งมีสายพระเนตร ที่มีการเลิกทาสอย่างค่อยเป็นค่อยไป และทรงประกาศเลิกทาสอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2448 โดยไม่เกิดสงครามกลางเมืองเหมือนบางประเทศ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ ทรงมีแผนการที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญ แต่คณะราษฎรได้ลงมือช่วงชิงเสียก่อน จึงนำไปสู่ การแย่งชิงอำนาจกันเองของคณะราษฎรในเวลาต่อมา
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ประชาธิปไตยของไทยน่าจะพัฒนาไปมากกว่านี้ ผลพวงของการชิงสุกก่อนห่ามของคณะราษฎรในปี พ.ศ. 2475 จึงถือเป็นการกลัดกระดุมเม็ดแรกของประชาธิปไตยที่ผิดพลาด และส่งผลมาถึงปัจจุบัน
ปัญหาปัจจุบันของประเทศ จึงเกิดจากนักการเมืองทั้งสิ้น (คงไม่ต้องบรรยาย) ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด
การที่มีความพยายามโจมตีสถาบันฯ โดยไม่สนใจที่จะเปลี่ยนแปลงนักการเมือง เป็นการเบี่ยงประเด็น ถือว่าตีโจทย์ประเทศผิดพลาด จะนำประเทศไปสู่กลียุคของสังคม และเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้าแทรกแซง
แนวคิดของคนกลุ่มนี้ จึงหวังเป็นใหญ่ภายใต้อิทธิพลต่างชาติ ตามวิถีตะวันตก... พวกเราจะยอมหรือ???”
ด้าน เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์หัวข้อ “#ความอำมหิตของปิยบุตร”
เนื้อหาระบุว่า “ผมรู้สึกสงสารโศกนาฏกรรมของคุณคณากรและไม่ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการตัดสินของศาลอุทธรณ์
- ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำคุก 35 ปี 4 เดือน-ตลอดชีวิต จำเลยทั้ง 5 ราย คดีก่อเหตุยิงชาวบ้าน 5 ศพ ในพื้นที่ จ.ยะลา ที่อดีตผู้พิพากษา “คณากร” ยกฟ้อง (https://mgronline.com/crime/detail/9630000078676)
แต่สิ่งที่สังคมไทยได้เห็นกันอย่างชัดเจน คือ ความอำมหิตของนายปิยบุตร เพราะนายปิยบุตรได้มีการติดต่อกับคุณคณากรมาก่อนที่คุณคณากรจะยิงตัวตายในครั้งแรก แถมนายปิยบุตรยังโพสต์ฟันธงเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างมั่นใจราวกับอยู่เบื้องหลังและมีการพูดคุยกับคุณคณากรมาแล้วเป็นอย่างดี ความว่า “ทั้งหมดยืนยันว่า การตัดสินใจของคุณคณากรไม่เกี่ยวกับเรื่องความเครียดส่วนตัวแน่นอน แต่เป็นเรื่องของการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม”
แต่แทนที่จะห้ามปรามและแนะนำให้คุณคณากรแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยสันติวิธี ผ่านทางช่องทางที่มีตั้งมากมายในการร้องเรียนขอความเป็นธรรม นายปิยบุตร กลับปล่อยให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น แล้วนำข่าวการยิงตัวตายของคุณคณากรมาประโคมเป็นเรื่องราวใหญ่โตหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นในแทบจะทันที
การที่นายปิยบุตรเพิกเฉยต่อชีวิตของคุณคณากร ทั้งๆ ที่เขาทั้งคู่เคยคุยกันมาก่อนเป็นอย่างดี จนนายปิยบุตรกล้าถึงขนาดที่ออกมายืนยันแทนกันได้ แต่กลับปล่อยให้คุณคณากรทำร้ายตัวเอง แล้วก็นำเรื่องการยิงตัวเองของคุณคณากรมาโหนเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อโจมตีกระบวนการยุติธรรมในลักษณะที่บ่อนทำลายอย่างโจ่งครึ่ม ประโคมจนเป็นข่าวใหญ่โตทั่วบ้านทั่วเมือง จนนำมาซึ่งการเสียชีวิตของคุณคณากรในที่สุด มันได้แสดงถึงความใจดำอำมหิตของนายปิยบุตรรึเปล่า?
พฤติกรรมในลักษณะนี้ของนายปิยบุตรที่เข้าไปเกี่ยวข้องจนเกิดเรื่องขึ้นกับผู้อื่นในขณะที่ตัวของนายปิยบุตรเองสบายดี ไม่ว่าจะโดยบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม แล้วนำมาโหนเป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือโพสต์ยุยงส่งเสริมยัดเยียดความรุนแรงให้กับสังคม ฯลฯ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น
แต่มีมาตั้งแต่สมัยที่นายปิยบุตร เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้ว ที่มีบรรดาลูกศิษย์ของเขาบางคนต้องมาติดคุก และรับโทษทางกฎหมาย เพราะการชี้นำทางความคิดที่นายปิยบุตรคอยยัดเยียดให้ แต่ตัวเขากลับไม่ยอมกระทำเอง หรือออกมานำนักศึกษาด้วยความรับผิดชอบในฐานะของครูบาอาจารย์ผู้ชี้นำทางความคิด
หรือแม้แต่กระทั่งการตักเตือนห้ามปรามไม่ให้ตัวของนักศึกษาเดือดร้อนก็ยังไม่มี มีแต่การยุยงส่งเสริมด้วยความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขา คอยยัดเยียดปัญหาของเขาให้กลายไปเป็นปัญหาและภาระความเดือดร้อนของนักศึกษาที่รับชุดความคิดไปจากเขา
นายปิยบุตรยังพอที่จะมีความละอายหลงเหลืออยู่บ้างรึเปล่า?
ที่เคยกล่าวว่า พฤติกรรมและความเดือดร้อนของนักศึกษาเป็น “การนำบทเรียนที่เขาเรียนกันอยู่มาใช้ในชีวิตจริง”
แต่ทำไมปิยบุตรไม่เคยทำเองบ้างละครับ?
ทำไมปิยบุตรไม่ลองสาธิตสิ่งที่ตัวเองสอนในชีวิตจริงบ้างละครับ?
(สามารถรับฟังความเห็นแก่ตัวที่ค่อนข้างอำมหิตของนายปิยบุตรผ่านวิดีโอประกอบโพสต์นี้) แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในขณะที่คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเสียหาย นายปิยบุตรกลับมีความชำนาญในการเอาตัวรอดเสมอ แล้วก็ยังอยู่อย่างสุขสบายมาจนถึงทุกวันนี้
คนคิดไม่ทำ คนทำไม่คิด
สู้เพื่อคนอื่น หรือหลอกคนอื่นมาสู้เพื่อตัวเองกันแน่?
#ปิยบุตรนักมุดกระโปรงและกางเกงของผู้อื่นในตำนาน”
แน่นอน, สำหรับนายปิยบุตร ดูเหมือนสังคมไทยจะจับทางได้แล้ว ว่า แนวคิดทางการเมืองของเขาคือ อะไร ต้องการนำพาประเทศไปทางไหน ถ้าเขาได้มีโอกาสเป็นผู้นำการต่อสู้อย่างแท้จริง แต่ตอนนี้เขายังทำตัวได้เพียงผู้นำทางความคิดสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง ภายใต้มวลชนอดีตพรรคอนาคตใหม่ และมวลชนบางส่วนที่ร่วมอยู่ในแฟลชม็อบของเยาวชนปลดแอก ที่วันนี้เปลี่ยนมาเป็น “ประชาชนปลดแอก” แล้ว
ที่สำคัญ ประเด็นที่กำลังเปิดหน้าแลกกันอยู่ ระหว่างการเคลื่อนไหวของนายปิยบุตร กับฝ่ายต่อต้านแนวคิดปิยบุตร ก็คือ การทำให้เห็นว่า “ปิยบุตร” ของจริง หรือ ของปลอม และบริสุทธิ์ใจที่จะนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น หรือ ตกอยู่ใต้อิทธิพลของต่างชาติ ที่หลายคนยังค้างคาใจ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้อเท็จจริง ที่ถูกนำมาวิเคราะห์วิจารณ์ และหาบทสรุปให้ได้ ถือเป็นเรื่องสำคัญ และเมื่อ นายปิยบุตร คิดการใหญ่ ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงประเทศ สิ่งที่ต้องเผชิญอย่างไม่มีทางหลีกพ้น ก็คือ การตรวจสอบครั้งยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกัน เพราะคนไทย คงไม่ปล่อยให้ใครก็ตาม ที่คิดจะจูงไปไหนก็ได้ ตามใจชอบ หรือไม่จริง!?