เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – อดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส แห่งสเปน เสด็จฯ ไปพำนักในต่างประเทศ หลังจากที่ทรงถูกสอบสวนในคดีทุจริตอื้อฉาวทางการเงิน โดยที่สื่อแดนกระทิงดุพากันรายงานในวันอังคาร (4 ส.ค.) ได้ทรงหลบลี้ไปที่สาธารณรัฐโดมินิกัน ประเทศในย่านทะเลแคริบเบียนแล้ว
สำนักพระราชวังสเปนแถลงเมื่อวันจันทร์ (3 ส.ค.) ว่า อดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส พระชนมายุ 82 พรรษา ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ซึ่งเป็นพระราชโอรส เพื่อแจ้งความประสงค์ที่จะเสด็จฯ ไปพำนักยังต่างแดน ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ปัจจุบันก็ทรงอนุญาต และตรัสขอบพระทัยพระราชบิดาด้วย
เนื้อหาส่วนหนึ่งของพระราชหัตถเลขามีใจความว่า “ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรับใช้ประชาชนชาวสเปน ตลอดจนสถาบันต่างๆ และพระองค์ผู้เป็นพระมหากษัตริย์อย่างดีที่สุด หม่อมฉันขอแจ้งความประสงค์ที่จะเดินทางไปพำนักอยู่ภายนอกสเปนในเวลานี้”
“นี่เป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง แต่ก็ช่วยให้หัวใจมีความสงบขึ้นมาก”
ทั้งนี้ อดีตกษัตริย์สเปนไม่ได้ทรงเปิดเผยว่าจะเสด็จฯ ไปที่ใด
อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร (4) หนังสือพิมพ์รายวัน เอบีซี ของสเปนรายงานว่า พระองค์ได้เสด็จออกจากสเปนตั้งแต่วันอาทิตย์ (2) และประทับเครื่องบินไปยังสาธารณรัฐโดมินิกัน โดยผ่านทางโปรตุเกส
ขณะที่หนังสือพิมพ์อีก 2 ฉบับ คือ ลา วันกัวร์เดีย และ เอล มุนโด ก็รายงานคล้ายๆ กันว่า พระองค์ทรงวางแผนจะประทับอยู่กับมิตรสหายในประเทศแถบแคริบเบียนแห่งนี้ ทว่าหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เอล คอนฟิเดนเซียล ฉีกแนวระบุว่าพระองค์อาจเสด็จไปโปรตุเกส ซึ่งเคยเป็นที่ประทับอยู่หลายปีเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ หรือไม่ก็อาจจะเป็นในฝรั่งเศส หรืออิตาลี
การสอบสวนที่เวลานี้กระทำกันทั้งในสเปนและสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งเป้าไปยังเงินจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งรัฐบาลซาอุดีอาระเบียจ่ายให้แก่อดีตกษัตริย์สเปนองค์นี้ ผ่านบัญชีธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี 2008 โดยเป็นที่สงสัยข้องใจกันนี้เงินก้อนนี้อาจมีส่วนเชื่อมโยงกับการที่บริษัทสเปนได้สัมปทานก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงในซาอุดีอาระเบีย
หลังจากที่สื่อมวลชนพากันประโคมข่าวไม่หยุดหย่อน นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ ก็ออกมายอมรับเมื่อเดือนที่แล้วว่า “ประชาชนชาวสเปนได้รับทราบข้อมูลที่สร้างความไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อทุกคน รวมถึงตัวผมเองด้วย”
ฮาวิเยร์ ซานเชซ-ฮุงโก ทนายความของอดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส ออกมาแถลงเมื่อวันจันทร์ (3) ว่าลูกความของเขาไม่ได้มีเจตนาหลบหนีความผิด และพร้อมที่จะให้ปากคำกับอัยการตลอดเวลา
อดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อปี 1975
ภายหลังการเสียชีวิตของผู้เผด็จการ จอมพลฟรานซิสโก ฟรังโก
และทรงดำรงตำแหน่งประมุขอยู่นานถึง 38 ปี
ก่อนจะตัดสินพระทัยสละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสในเดือน มิ.ย. ปี 2014
พระองค์เคยเป็นประมุขที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมานานหลายสิบปี
และทรงมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตย
ภายหลังสิ้นสุดระบอบเผด็จการของฟรังโกซึ่งปกครองสเปนระหว่างปี 1939-1975
เว็บไซต์สำนักพระราชวังสเปนระบุว่า
สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ทรงย้ำถึง “ความสำคัญทางประวัติศาสตร์”
ในรัชสมัยของพระราชบิดา ในฐานะที่ทรงเป็นอดีตกษัตริย์ที่
“อุทิศพระองค์เพื่อชาวสเปนและระบอบประชาธิปไตย”
การสอบสวนในสเปนเริ่มขึ้นเมื่อเดือน
ก.ย. ปี 2018
หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลที่เชื่อมโยงถึงนักธุรกิจหญิงชาวเยอรมัน'คอรินนา
ลาร์เซน'ซึ่งว่ากันว่าเป็นอดีตคู่รักของกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส
ลาร์เซน
อ้างว่า อดีตกษัตริย์สเปนทรงได้ ‘ค่าคอมมิชชั่น’
หลังจากที่กลุ่มบริษัทแดนกระทิงดุคว้าสัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมนครเมกกะกับนครมะดีนะห์ในซาอุดีอาระเบีย
เธอบอกกับอัยการสวิสว่า
อดีตกษัตริย์ได้โอนเงินเกือบ 65 ล้านยูโรให้เธอในบาฮามาส
“แต่ไม่ใช่เพื่อกำจัดเงินเหล่านั้น หากแต่เพื่อแสดงความขอบคุณและความรัก”
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เอสปาอิส ของสเปน
สื่อสวิตเซอร์แลนด์รายงานเมื่อเดือน
มี.ค. ปีที่แล้วว่า อดีตสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์แห่งซาอุฯ
ทรงโอนเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่อดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส
ผ่านทางบัญชีธนาคารสวิสของมูลนิธิแห่งหนึ่งในปานามา
และในเดือนเดียวกันนั้นหนังสือพิมพ์ เดลี เทเลกราฟ
ของอังกฤษก็อ้างว่าสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6
ทรงเป็นหนึ่งในผู้รับประโยชน์จากกองทุนดังกล่าวด้วย
อดีตกษัตริย์
ฮวน คาร์ลอส ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการที่เสด็จฯ
ไปทรงเที่ยวป่าล่าช้างที่บอตสวานาเมื่อปี 2012
ระหว่างที่สเปนกำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงและมีคนตกงานเป็นจำนวนมาก
จากกระแสข่าวอื้อฉาวที่ออกมาทำให้สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่
6 แห่งสเปนทรงประกาศสละสิทธิ์ในการรับพระราชมรดกจากอดีตกษัตริย์ ฮวน
คาร์ลอส ทั้งยังงดพระราชทานเงินปีมูลค่าเกือบ 200,000
ยูโรแก่พระราชบิดาด้วย