เอเอฟพี – อดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส แห่งสเปน เตรียมเสด็จฯ ไปพำนักในต่างประเทศ หลังจากที่ทรงถูกสอบสวนในคดีทุจริตอื้อฉาวทางการเงิน
สำนักพระราชวังสเปนแถลงเมื่อวันจันทร์ (3 ส.ค.) ว่า อดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส พระชนมายุ 82 พรรษา ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ซึ่งเป็นพระราชโอรส เพื่อแจ้งความประสงค์ที่จะเสด็จฯ ไปพำนักยังต่างแดน ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ปัจจุบันก็ทรงอนุญาต และตรัสขอบพระทัยพระราชบิดาด้วย
เนื้อหาส่วนหนึ่งของพระราชหัตถเลขามีใจความว่า “ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรับใช้ประชาชนชาวสเปน ตลอดจนสถาบันต่างๆ และพระองค์ผู้เป็นพระมหากษัตริย์อย่างดีที่สุด หม่อมฉันขอแจ้งความประสงค์ที่จะเดินทางไปพำนักอยู่ภายนอกสเปนในเวลานี้”
“นี่เป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง แต่ก็ช่วยให้หัวใจมีความสงบขึ้นมาก”
ทั้งนี้ อดีตกษัตริย์สเปนไม่ได้ทรงเปิดเผยว่าจะเสด็จฯ ไปที่ใด
การสอบสวนทั้งในสเปนและสวิตเซอร์แลนด์พุ่งเป้าไปยังเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งรัฐบาลซาอุฯ จ่ายให้แก่อดีตกษัตริย์สเปนผ่านบัญชีธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี 2008 ซึ่งอาจมีส่วนเชื่อมโยงกับการที่บริษัทสเปนได้สัมปทานก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงในซาอุดีอาระเบีย
หลังจากที่สื่อมวลชนพากันประโคมข่าวไม่หยุดหย่อน นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ ก็ออกมายอมรับเมื่อเดือนที่แล้วว่า “ประชาชนชาวสเปนได้รับทราบข้อมูลที่สร้างความไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อทุกคน รวมถึงตัวผมเองด้วย”
ฮาวิเยร์ ซานเชซ-ฮุงโก ทนายความของอดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส ออกมาแถลงเมื่อวันจันทร์ (3) ว่าลูกความของเขาไม่ได้มีเจตนาหลบหนีความผิด และพร้อมที่จะให้ปากคำกับอัยการตลอดเวลา
อดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อปี 1975 ภายหลังการเสียชีวิตของนายพลฟรานซิสโก ฟรังโก และทรงดำรงตำแหน่งประมุขอยู่นานถึง 38 ปี ก่อนจะตัดสินพระทัยสละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสในเดือน มิ.ย. ปี 2014
พระองค์เคยเป็นประมุขที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมานานหลายสิบปี และทรงมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตย ภายหลังสิ้นสุดระบอบเผด็จการของนายพลฟรังโกซึ่งปกครองสเปนระหว่างปี 1939-1975
เว็บไซต์สำนักพระราชวังสเปนระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ทรงย้ำถึง “ความสำคัญทางประวัติศาสตร์” ในรัชสมัยของพระราชบิดา ในฐานะที่ทรงเป็นอดีตกษัตริย์ที่ “อุทิศพระองค์เพื่อชาวสเปนและระบอบประชาธิปไตย”
การสอบสวนในสเปนเริ่มขึ้นเมื่อเดือน ก.ย. ปี 2018 หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลที่เชื่อมโยงถึงนักธุรกิจหญิงชาวเยอรมัน'คอรินนา ลาร์เซน'ซึ่งว่ากันว่าเป็นอดีตคู่รักของกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส
ลาร์เซน อ้างว่า อดีตกษัตริย์สเปนทรงได้ ‘ค่าคอมมิชชั่น’ หลังจากที่กลุ่มบริษัทแดนกระทิงดุคว้าสัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมนครเมกกะกับนครมะดีนะห์ในซาอุดีอาระเบีย
เธอบอกกับอัยการสวิสว่า อดีตกษัตริย์ได้โอนเงินเกือบ 65 ล้านยูโรให้เธอในบาฮามาส “แต่ไม่ใช่เพื่อกำจัดเงินเหล่านั้น หากแต่เพื่อแสดงความขอบคุณและความรัก” ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ El Pais
สื่อสวิตเซอร์แลนด์รายงานเมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้วว่า อดีตสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์แห่งซาอุฯ ทรงโอนเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่อดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส ผ่านทางบัญชีธนาคารสวิสของมูลนิธิแห่งหนึ่งในปานามา และในเดือนเดียวกันนั้นหนังสือพิมพ์ เดลี เทเลกราฟ ของอังกฤษก็อ้างว่าสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ทรงเป็นหนึ่งในผู้รับประโยชน์จากกองทุนดังกล่าวด้วย
อดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการที่เสด็จฯ ไปทรงเที่ยวป่าล่าช้างที่บอตสวานาเมื่อปี 2012 ระหว่างที่สเปนกำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงและมีคนตกงานเป็นจำนวนมาก
จากกระแสข่าวอื้อฉาวที่ออกมาทำให้สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปนทรงประกาศสละสิทธิ์ในการรับพระราชมรดกจากอดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส ทั้งยังงดพระราชทานเงินปีมูลค่าเกือบ 200,000 ยูโรแก่พระราชบิดาด้วย