“ทิพานัน” ปลื้มผลโพลชู “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” อันดับ 1 เชื่อรัฐบาลสานต่อนโยบายเพื่อประชาชน จี้พรรคการเมืองฟังเสียงทุกกลุ่ม ให้ความสำคัญปัญหาปากท้อง ไม่ใช่แก้ปัญหาการเมืองโดยอ้างประชาชน
วันนี้ (4 ส.ค.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีสวนดุสิตโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ กรณี “นโยบายพรรคการเมืองที่ประชาชนชื่นชอบ และสิ่งที่ต้องการให้พรรคการเมืองแก้ไขเร่งด่วน” พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชอบนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของพรรคพลังประชารัฐมากที่สุด ร้อยละ 59.46 มากกว่าโครงการระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า/สาธารณสุข ของพรรคเพื่อไทย ว่าขอขอบคุณประชาชนที่ชื่นชอบนโบายของพรรคพลังประรัฐ ผลโพลที่ออกมาพิสูจน์ให้เห็นว่านโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเป็นที่ยอมรับ จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม สิทธิประโยชน์ต่างๆจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งประชาชนสัมผัสได้โดยตรง เท่ากับพรรคพลังประชารัฐมีผลงานเป็นที่ประจักษ์
น.ส.ทิพานันกล่าวว่า เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ของประชาชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมทั้งปรับสิทธิประโยชน์ต่างๆให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน มุ่งมั่นให้ประชาชนทุกกลุ่มมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างโอกาสที่เท่าเทียม
น.ส.ทิพานันกล่าวอีกว่า ผลโพลยังระบุว่าประชาชนให้ความสำคัญเกี่ยวกับปากท้อง ความเป็นอยู่มากที่สุด ซึ่งพรรคการเมืองต้องรับฟังเสียงสะท้อนดังกล่าวว่าสิ่งใดที่ประชาชนต้องการให้แก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน ฉะนั้น จึงควรพิจารณาว่าที่ผ่านมาการขับเคลื่อนของพรรคการเมืองนั้นตอบโจทย์ของประชาชนหรือไม่ อย่างไร
“ที่ผ่านมาพรรคการเมือง และนักการเมืองได้ให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างไรบ้างที่เป็นชิ้นเป็นอัน ยิ่งในยามวิกฤตเช่นนี้ด้วยแล้วยิ่งต้องฟังว่าประชาชนต้องการอะไร ไม่ใช่เคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขปัญหาการเมืองของตนเองหวังเข้าสู่อำนาจโดยอ้างประชาชน” น.ส.ทิพานันกล่าว