ปิดรับสมัครเลขาผู้ตรวจฯ สรุปได้ 3 ผู้สมัคร คนในรองเลขาฯ และ 2 ผู้บริหาร กกต. หลังถูกวิจารณ์หนักตัดคุณสมบัติเอื้อบางคน ส่วน 2 บิ๊ก กกต. ก็โดนวิจารณ์ฐานะลูกหม้อ แต่ข้ามห้วยไปสมัคร
วันนี้ (15 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ประกาศเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ระหว่างวันที่ 15 มิ.ย.- 14 ก.ค. แทน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการ ที่จะหมดสัญญาจ้างในวันที่ 19 ก.ค.นั้น ปรากฏว่า หลังการปิดรับสมัครเมื่อวานที่ผ่านมา (14 ก.ค.) พบว่า มีผู้ยื่นใบสมัครรวม 3 คน ประกอบด้วย นายกีรป กฤตธีรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. และนายณัฐ เล่าสีห์สวกุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง สำนักงาน กกต. ซึ่งหลังจากนี้ คณะกรรมการสรรหาเลขาธิการ ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินตั้งขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย นายพิเชต สุนทรพิพิธ อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาฯ นายประวิช รัตนเพียร นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นกรรมการสรรหาฯ ก็จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ประวัติความประพฤติ รวมทั้งดำเนินการสรรหาโดยประเมินจากเอกสารประกอบการสมัคร การสัมภาษณ์ และอาจให้ผู้สมัครมีการแสดงวิสัยทัศน์ ก่อนจะเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็นเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินคนหนึ่งให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา ซึ่งหากผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นชอบก็จะมีการทำสัญญาจ้าง โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี แต่ถ้าผู้ตรวจการแผ่นดินไม่เห็นชอบรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาฯเสนอก็จะดำเนินการสรรหาใหม่ ทั้งนี้ ตามประกาศการเปิดรับสมัครไม่ได้มีการระบุระยะเวลาดำเนินการในแต่ละขั้นตอนนับจากนี้ว่าที่สุดแล้วจะได้เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินคนใหม่เมื่อใด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กรณีแก้ไขระเบียบผู้ตรวจการแผ่นดินว่าด้วยเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ที่มีการตัดคุณสมบัติเรื่องผู้ที่จะเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดินจะต้องดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้บริหารระดับสูง หรือเทียบเท่าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี ออกจากที่เดิมมีกำหนดอยู่ในระเบียบปี 2561 ว่า เพื่อเอื้อกับบุคคลหนึ่งที่ผู้ตรวจการแผ่นดินต้องการให้มาเป็นเลขาธิการสำนักงาน
ขณะเดียวกัน การที่ 2 ผู้บริหารของสำนักงาน กกต.ไปยื่นสมัครเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจฯ ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในองค์กร กกต.เช่นกันว่าเพราะเหตุใด เนื่องจากทั้ง นายกฤช และ นายณัฐ เป็นเจ้าหน้าที่ กกต.ตั้งแต่รุ่นก่อตั้งองค์กร และยังเหลืออายุราชการอีก 1 ปี