ทบ.เผยแพร่กำหนด ผบ.ทบ.สหรัฐฯ เยือนไทย ลงนามในแถลงการณ์ร่วม ครอบคลุมแผนงานการพัฒนากองทัพบกทุกด้าน พร้อมย้ำขั้นตอนตรวจโควิด-19
วันนี้ (9 ก.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ กองทัพบก ได้เผยแพร่กำหนดการเดินทางของ ผบ.ทบ.สหรัฐอเมริกา และคณะ ในฐานะแขกของ ทบ.ระหว่าง 9-10 ก.ค. 63 ว่าจะเข้าเยี่ยมคำนับนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ ผบ.ทบ.ในวันศุกร์ที่ 10 ก.ค. 63 สำหรับวัตถุประสงค์ของการเยือนเพื่อร่วมลงนามในเอกสารแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่าง ทบ.ไทยและสหรัฐฯ โดยเป็นการสานต่อความร่วมมือภายหลังการลงนามระหว่าง รมว.กลาโหมกับ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่างไทย-สหรัฐฯ ปี 2563 ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศ (Joint Vision Statement 2020 for the Thai - U.S. Defense Alliance) เมื่อ 17 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา
การลงนามในเอกสารแถลงการณ์ดังกล่าว เพื่อนำเรื่องที่กระทรวงกลาโหมทั้งสองประเทศได้แถลงไว้ในวิสัยทัศน์ร่วมไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือในการพัฒนากองทัพบกไทยให้มีศักยภาพ และความทันสมัย ด้วยการดำเนินการผ่านแผนงานความร่วมมือทางทหารในด้านต่างๆ เช่น การแลกเปลี่ยนด้านกำลังพล (การเยือน/ศึกษาดูงาน/ฝึกปฏิบัติงาน/แลกเปลี่ยนประสบการณ์), การแลกเปลี่ยนทางด้านการข่าว, การฝึกร่วม-ผสม ที่จะมีรูปแบบที่หลากหลายและพัฒนาปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละปี, การแลกเปลี่ยนหลักสูตรการฝึกศึกษา, การพัฒนาหลักนิยม และการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง
อนึ่ง กรณีการเดินทางเข้าประเทศไทยของ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะที่ไม่ต้องกักตัว 14 วันนั้น เป็นไปตามข้อกำหนด ฉบับที่ 12 ที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และตามคำสั่ง ศบค.ที่ 7/2563 ได้แก่ ผู้มีเหตุยกเว้นหรือเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน อนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามความจำเป็นโดยอาจกำหนดเงื่อนไข และเงื่อนเวลาก็ได้ ซึ่งคณะของ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ อยู่ภายใต้ข้อพิจารณาดังกล่าว โดยคณะฯ ของฝ่ายสหรัฐฯ ได้ยืนยันที่จะปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขของไทย และมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัดทุกประการ ดังนี้
1. คณะฯ ขนาดเล็กไม่เกิน 10 คน
2. ใช้เวลาอยู่ในไทยระยะสั้นเพียง 2 วัน
3. มีหนังสือที่รับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry - COE) มีใบรับรองแพทย์สำหรับการเดินทาง (Fit to Fly Health Certificate/Fit to Travel Health Certificate) และมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าไม่มีเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 โดยวิธีการตรวจ RT-PCR ระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง
4. จัดว่าที่ ผชท.ทบ.ไทย/วอชิงตัน เป็นนายทหารติดต่อ (Liaison Officer) และ เจ้าหน้าที่ รปภ. ติดตามคณะฯ ตลอดห้วงระยะเวลาที่อยู่ในไทย
5. มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จาก กระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ติดตามตลอดเวลา
6. มีกำหนดการเดินทางและสถานที่จะไปที่แน่นอนชัดเจน และเดินทางด้วยยานพาหนะที่ ทบ.จัดเตรียมไว้
สำหรับมาตรการสำคัญเมื่อคณะฯ เดินทางมาถึงและระหว่างอยู่ในประเทศไทยประกอบด้วย
1. มีการคัดกรองทางเดินหายใจและวัดไข้ที่ช่องทางเข้าออก ผ่านเครื่อง Thermoscan และมีการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ซี่งมีชุด Swab test ของ กระทรวงสาธารณสุข และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (AFRIMS) ร่วมกันตรวจ รวมทั้งมีการทำความสะอาดกระเป๋าสัมภาระของคณะฯ ด้วยการฉีดพ่นสารเคมี โดยเจ้าหน้าที่ วศ.ทบ.ซึ่งสวมชุดป้องกันการติดเชื้อ (PPE) และถุงมือยาง
2. มีการแยกยานพาหนะระหว่างคณะฯ ที่มาจากสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย โดยยานพาหนะของคณะสหรัฐฯ มีกระจกกั้นแยกระหว่างห้องพลขับและห้องผู้โดยสาร โดยสามารถติดต่อทางวิทยุสื่อสาร
3. คณะฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สวมหน้ากากอนามัยตลอดห้วงการเยือนทุกสถานที่
4. การเข้าร่วมพิธีต่างๆ ยังคงยึดถือมาตรการ Social distancing โดยมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 เมตร
5. งดการทักทายด้วยการสัมผัสมือ และสัมผัสสิ่งของร่วมกัน
6. ลดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธี หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในแต่ละสถานที่
7. สถานที่ที่อยู่ในกำหนดการเยือนทุกแห่งมีการทำความสะอาดพื้นที่ด้วยการฆ่าเชื้อตามขั้นตอนที่ทาง ศบค.กำหนด
8. การรับประทานอาหาร ลักษณะการจัดอาหารให้แบบเฉพาะบุคคล โดยผ่านการแนะนำและตรวจสอบจาก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของ ศบค.
9. จัดให้มีเจลล้างมือทำความสะอาด เตรียมพร้อมทุกสถานที่
โดยสรุป การเดินทางเยือนไทยของ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะในครั้งนี้ นอกจากเป็นไปตามแผนการปฏิบัติภายใต้กรอบความร่วมมือที่มีร่วมกัน ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกองทัพบกของทั้งสองประเทศแล้ว ในประเด็นการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ทบ.ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขของไทย และข้อกำหนดของ ศบค.อย่างเคร่งครัดทุกประการตั้งแต่ ก่อนที่คณะฯ เดินทางถึงไทยจนถึงคณะฯ ได้เดินทางออกจากประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย