“อภิรัชต์” เป็นประธานรับพระราชทานเครื่องบินเล็ก 3 เครื่อง ที่ในหลวงพระราชทานให้ ทบ.ใช้ภารกิจช่วยเหลือประชาชน เผยปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (8 ก.ค.) ที่หมวดบิน C หน่วยบินเดโชชัย กองบิน 6 (บน.6 ดอนเมือง) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานอากาศยาน Cessna 182T จำนวน 3 เครื่อง เข้าประจำการในกองทัพบก เพื่อปฏิบัติภารกิจด้านการป้องกันประเทศ และช่วยเหลือประชาชน โดยได้ทำพิธีต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้นิมนต์สมเด็จพระวันรัตมาทำพิธีสงฆ์ด้วย
พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ถือเป็นวันสิริมงคลของกองทัพบกที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเครื่องบินจำนวน 3 ลำให้แก่ ทบ. ด้วยพระปรีชาญาณและพระปรีชาสามารถในเรื่องของการบินในเครื่องทุกแบบ ทั้งเฮลิคอปเตอร์ปีกหมุน รวมไปถึงแบบ fixed wing ซึ่งทรงเล็งเห็นว่าอากาศยานที่ทรงพระราชทานให้กองทัพบกนั้นจะได้นำไปใช้ในภารกิจช่วยเหลือประชาชน ไม่ได้ใช้ในทางยุทธการ
ผบ.ทบ.กล่าวต่อว่า เครื่องบินแบบดังกล่าวเรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋ว เล็กแต่มีประสิทธิภาพสูง สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 4 คน มีความคล่องตัวสูง สามารถทำความเร็ว 150 นอต หรือ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในกรณีสโลว์ไลฟ์บินช้าๆ เพื่อใช้ในภารกิจการตรวจการณ์ค้นหาผู้ประสบภัยพิบัติทุกกรณี การค้นหาบุคคลสูญหาย ไฟป่า เรือล่ม ซึ่งกองทัพบกได้เข้าไปช่วยเหลืออยู่แล้ว สามารถบินในความเร็วช้าได้ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พล.อ.อภิรัชต์กล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญเครื่องบินชนิดนี้บินได้นานถึง 5 ชั่วโมงกว่า ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง เราได้เห็นตัวอย่างเช่นกรณีเกิดไฟป่าในบริเวณภาคเหนืออยู่บ่อยครั้ง เพื่อใช้ในการทิ้งน้ำดับไฟป่า แต่เครื่องบินชนิดนี้สามารถบินตรวจการณ์สามารถชี้เป้าหมายให้กับเฮลิคอปเตอร์ในการทำงานร่วมกันโดยไม่ต้องเสียเวลาว่าเป็นพิกัดใหม่ เช่นเดียวกันกับการค้นหาผู้สูญหายในป่าหรือในทะเล เครื่องบินชนิดนี้สามารถที่จะบินได้นานและรายงานแจ้งพิกัดมีผู้ประสบภัยหรือประชาชนได้รับความเดือดร้อน
ในกรณีน้ำท่วม เครื่องบินชนิดนี้สามารถติดอุปกรณ์เสริมได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกล้องตรวจการณ์ กล้องถ่ายภาพทางอากาศ และกล้องจับความร้อน ใช้ภารกิจได้หลากหลาย ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือใช้รันเวย์สั้นมากในการบินขึ้น-ลง จะลงเป็นสนามหญ้าหรือสนามฟุตบอลก็ได้ ถือเป็นเครื่องบินอเนกประสงค์กองทัพบกรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ที่พระราชทานให้ เครื่องนี้จะมอบให้แก่ศูนย์การบินทหารบกเป็นหน่วยรับผิดชอบในการนำอากาศยานทั้ง 3 ลำเป็นไปบรรจุในกองพันบินที่ 21 ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรงศูนย์การบินทหารบกอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระศรีนครินทร์ จังหวัดลพบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จพิธีและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแล้ว พล.อ.อภิรัชต์ได้ขึ้นทำการบินในที่นั่งนักบินที่ 2 โดยบินทดสอบเครื่องประมาณ 15 นาที โดยกล่าวว่า เป็นเครื่องที่ฟูลออปชัน ในอดีตตนเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ แต่เมื่อได้ขึ้นไปกับเครื่องนี้แล้วรู้เลยว่าพระองค์ท่านพระราชทานของดี มีระบบการเตือนเรื่องความสูง มีการแจ้งเตือนอากาศยานที่บินในระยะเข้าใกล้ มีระบบ Auto pilot
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ Cessna 182T ที่เข้าประจำการในกองทัพบก เป็นเครื่องบินแบบเครื่องยนต์ลูกสูบ จำนวน 1 เครื่องยนต์ 4 ที่นั่ง สมรรถนะสูง มีความทันสมัย ประหยัดเชื้อเพลิง ซ่อมบำรุงง่าย บินได้นาน มีความคล่องตัวสูง สามารถบินลาดตระเวนตรวจการณ์ทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถลงในพื้นที่เป็นลานที่ไม่ใช่สนามบินได้
โดยมีคุณลักษณะขีดความสามารถที่สำคัญ คือ พิสัยบิน หรือระยะปฏิบัติการบิน 1,695 กิโลเมตร, ความเร็วสูงสุด 280 กิโลเมตร/ชั่วโมง, ความเร็วบินเดินทาง 269 กิโลเมตร/ชั่วโมง, เพดานบิน (ความสูงขณะบินเดินทาง) 5,500 เมตร, น้ำหนักบรรทุก 503 กิโลกรัม (ประมาณครึ่งตัน)
เครื่องบินดังกล่าวกองทัพบกสามารถนำไปใช้ในภารกิจต่างๆ โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชน สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น กล้องถ่ายภาพ เครื่องขยายเสียง ทั้งนี้ ภารกิจที่สามารถนำอากาศยานไปใช้งาน ได้แก่ การบินลาดตระเวนและตรวจการณ์ทางอากาศ เพื่อตรวจสอบ/ยืนยัน/พิสูจน์ทราบ สนับสนุนกองกำลังป้องกันชายแดน ป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้, การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, การลักลอบขนยาเสพติด และการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ในพื้นที่ชายแดน ป่า/เขา ภูมิประเทศยากลำบาก การส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ (รับ-ส่ง ผู้บาดเจ็บ/เจ็บป่วยจากพื้นที่แนวหน้าไปยังโรงพยาบาลส่วนหลัง) การค้นหาช่วยเหลือชีวิตผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสาธารณภัย หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ การปฏิบัติการบินสนับสนุนให้กับส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่น
โดยกองทัพบกยืนยันว่าจะใช้อากาศยานที่ได้รับพระราชทานมานี้ให้ได้อย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด สมดังปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานให้กองทัพบกไว้ใช้ในราชการ