“ศรีสุวรรณ” นำชาวชุมชนริมคลองลาดพร้าว ฟ้องศาลปกครอง สั่งถอนใบอนุญาตและทุบสะพานในซอยพหลโยธิน 54/1 อ้างสร้างผิดระเบียบ ปิดกั้นเส้นทางเดินน้ำ เอื้อประโยชน์นายทุนหมู่บ้านจัดสรร
วันนี้ (26 มิ.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นำชาวบ้านริมคลองในพื้นที่เขตสายไหม เขตดอนเมือง เขตบางเขน และเขตหลักสี่ กทม. ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักการโยธา ผอ.สำการระบายน้ำ ผอ.เขตสายไหม และอธิบดีกรมธนารักษ์ ต่อศาลปกครอง ใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ละเลยการปฏิบัติหน้าที่และเลือกปฏิบัติ จากเหตุกรุงเทพมหานครอนุญาตให้ผู้ประกอบการหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังสร้างสะพานข้ามคลอง จาก ซ.พหลโยธิน 54/1 ข้ามไปยังแปลงที่ดินของเอกชน ซึ่งกำลังถมดินพัฒนาเป็นหมู่บ้านจัดสรรขาย ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวมีทางออกในซอยประชานุกูล และซอยดวงมณี ที่มีสะพานข้ามคลองอื่นอยู่ใกล้ๆ ที่กรุงเทพมหานครสร้างไว้นานแล้วเพียง 100 เมตร และสะพานที่สร้างใหม่ไม่ก่อประโยชน์แก่ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว เพราะปลายสะพานด้านหนึ่งจ่อเข้าไปในโครงการหมู่บ้านจัดสรร ผู้ที่จะใช้สะพานดังกล่าวได้ คือผู้ที่จะมาซื้อโครงการหมู่บ้านจัดสรรอยู่อาศัยเท่านั้น
“การที่ กทม.และกรมธนารักษ์ อนุญาตให้ผู้ประกอบการเอกชนก่อสร้างสะพานนี้ เป็นการเอื้อประโยชน์โดยตรงให้ผู้ประกอบการเอกชน และสร้างปัญหาเรื่องการระบายน้ำให้กับชาวบ้านที่ใช้สัญจรไปมา”
นายศรีสุวรรณยังเห็นว่า การสร้างสะพานดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการขออนุญาตก่อสร้างสะพานข้ามคลอง 2549 และไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 เนื่องจากความสูงของสะพานต่ำเกินไป ทำให้เป็นอุปสรรต่อการสัญจรทางน้ำของชาวบ้าน อีกทั้งระยะถอยร่นของหัวสะพานกับถนน ซ.พหลโยธิน 54/1 ไม่เป็นไปตามที่ระเบียบกำหนด และตอม่อของสะพานที่มีจำนวนมากเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการไหลหรือระบายน้ำเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ กทม. กรมธนารักษ์ และรัฐบาล พยายามที่จะใช้อำนาจฟ้องร้องไล่รื้อชาวบ้านที่ปลูกบ้านอาศัยอยู่ริมคลองลาดพร้าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่าบ้านเรือนประชาชนกีดขวางทางน้ำ เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการบริหารจัดการน้ำ แต่พอเอกชนมาขอสร้างสะพานเข้าโครงการหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งตอม่อสะพานจะเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการระบายน้ำและผิดกฎหมาย กทม. และกรมธนารักษ์กลับอนุญาต จึงเป็นการย้อนแย้งต่อบ้านเรือนของประชาชนกับสะพานของเอกชน
“สะพานที่สร้างไม่เป็นตามระเบียบที่กำหนด ที่จะต้องสูงจากผิวน้ำอย่างน้อย 6 เมตร แต่สะพานที่สร้าง สร้างต่ำกว่า 6 เมตร ซึ่งเป็นปัญหาต่อเรือที่สัญจร หากสูงมากอาจลอดไม่ได้ และในซอย 54/1 กับตัวสะพานอยู่ชิดติดกัน ไม่มีระยะถอยร่น ซึ่งขัดกฎกระทรวงฉบับที่ 55 ที่ออกจาก พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร มีระยะถอยร่นจากหัวสะพานถึงถนนเพียง 2-3 เมตร จึงเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายชัดเจน”
ดังนั้น ทางสมาคมฯ พร้อมชาวบ้านจึงต้องมาฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนใบอนุญาตและทุบสะพานนี้ออกไป เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านที่ใช้คลองลาดพร้าวนี้เลย