วันนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้นำชาวบ้านริมคลองในพื้นที่เขตสายไหม เขตดอนเมือง เขตบางเขน และเขตหลักสี่ กทม.กว่า 100 คน มาศาลปกครองกลาง เพื่อยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักการโยธา ผอ.สำการระบายน้ำ ผอ.เขตสายไหม และอธิบดีกรมธนารักษ์ ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายและละเลยการปฏิบัติหน้าที่และเลือกปฏิบัติ
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรุงเทพมหานครได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังสร้างสะพานข้ามคลองจาก ซ.พหลโยธิน 54/1 ข้ามไปยังแปลงที่ดินของเอกชนซึ่งกำลังถมดินพัฒนาเป็นหมู่บ้านจัดสรรขาย ทั้งๆที่พื้นที่ดังกล่าวมีทางออกในซอยประชานุกูลและซอยดวงมณี ซึ่งมีสะพานข้ามคลองอื่นอยู่ใกล้ๆที่กรุงเทพมหานครสร้างไว้นานแล้วเพียง 100 เมตรเท่านั้น และสะพานที่สร้างใหม่ไม่ก่อประโยชน์ใด ๆ กับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวเลย เพราะปลายสะพานด้านหนึ่งจ่อเข้าไปในโครงการหมู่บ้านจัดสรรเท่านั้น ผู้ที่จะใช้สะพานดังกล่าวได้ คือผู้ที่จะมาซื้อโครงการหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าวอยู่อาศัยเท่านั้น
นอกจากนั้น การสร้างสะพานดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการขออนุญาตก่อสร้างสะพานข้ามคลอง 2549 และไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ.2543) ออกตามความใน พรบ.ควบคุมอาคาร 2522 เนื่องจากความสูงของสะพานต่ำเกินไป ทำให้เป็นอุปสรรต่อการสัญจรทางน้ำของชาวบ้าน อีกทั้งระยะถอยร่นของหัวสะพานกับถนน ซ.พหลโยธิน 54/1 ไม่เป็นไปตามที่ระเบียบกำหนด และตอม่อของสะพานที่มีจำนวนมากเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการไหลหรือระบายน้ำเป็นอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ กทม. กรมธนารักษ์และรัฐบาล พยายามที่จะใช้อำนาจฟ้องร้องไล่รื้อชาวบ้านที่ปลูกบ้านอาศัยอยู่ริมคลองลาดพร้าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่าบ้านเรือนประชาชนกีดขวางทางน้ำ เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการบริหารจัดการน้ำ จนเป็นคดีความกันในศาลอาญากว่า 70 คดี และเป็นคดีความในศาลปกครองกล่า 200 คดีแล้ว แต่ในขณะเดียวกันเมื่อนายทุนเอกชนมาขอสร้างสะพานเข้าโครงการหมู่บ้านจัดสรรของตน ซึ่งตอม่อสะพานจะเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการระบายน้ำและผิดกฎหมาย กทม.และกรมธนารักษ์กลับอนุญาตให้อย่างไม่ละอายต่อใจที่เคยกดดันชาวบ้านให้รื้อบ้านออกจากริมคลอง
ด้วยเหตุดังกล่าวชาวชุมชนริมคลอง จึงทนเห็นการเลือกปฏิบัติของ กทม.และกรมธนารักษ์ไม่ได้ จึงมาร้องขอให้สมาคมฯช่วยเป็นธุระในการฟ้องคดีต่อศาลปกครองในวันนี้ เพื่อขอให้ศาลสังให้ กทม.ทุบสะพานดังกล่าวทิ้งเสียต่อไป