xs
xsm
sm
md
lg

หยามชัดๆ! “จอม” ให้คะแนน “care” แค่ “แป้งเด็ก” ย้อนรอย “ทักษิณ” ปล่อยสมุนลุย เพราะติดโจทย์ “รธน.60”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ จากเฟซบุ๊ก “care - คิด เคลื่อน ไทย
“จอม” เอาใหญ่ วิจารณ์ไม่ไว้หน้า “care” หากเชื่อมโยงแตะมือ “เผด็จการทหาร” สุดท้ายคงเป็นได้แค่ “แป้งเด็กแคร์” ถามว่า “ทักษิณ” อยู่ตรงไหน ไยปล่อยสมุนลุย? คำตอบคือ ติดอยู่ในวังวันคิดแก้โจทย์ “กับดัก รธน.60”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้เฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ของ นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ที่ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความระบุว่า

“care - คิด เคลื่อน ไทย - กลุ่มการเมืองใหม่ที่น่าจับตา
แต่ถ้าถามว่า ชวนตื่นเต้น เร้าใจต่อการสร้างพลังไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศมากน้อยแค่ไหน คำตอบคือ “เฉยๆ”

เพราะความตื่นเต้นที่จะได้เห็นนักการเมือง หรือกลุ่มการเมืองจุดชนวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญนั้น ได้ถูกพิสูจน์มาแล้วว่า การเมืองภายใต้บริบทนี้ ยิ่งมากกลุ่ม มากพรรค มากแนวคิด มากอุดมการณ์ ก็ไม่อาจสร้างมวลชนให้ก่อพลังไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้มากเหมือนเช่นที่ผ่านมาและเป็นอยู่

หากเป็นกลุ่มที่คอยตรวจสอบ ท้วงติง ตั้งคำถาม ต่อกระบวนการแก้ปัญหา หรือพัฒนาประเทศของภาครัฐ รวมทั้งเสนอแนะเชิงนโยบาย แนวทางแก้ปัญหาแต่ละด้าน อันนี้อาจจะส่งผลได้มากกว่า

หรือหากเป็นกลุ่มการเมืองใหม่ที่หวังจะสร้างชาติด้วยพลังประชาชนโดยเชื่อมโยงแตะมือเข้ากับยุทธศาสตร์ทางการเมืองใหม่ของเผด็จการทหารในขณะนี้ อันนี้ก็อาจจะหวังได้ว่า สุดท้ายก็กลายเป็นเพียง แป้งเด็กแคร์
แต่ก็ให้กำลังใจนะครับ
https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/2670450079872042

ภาพ นายจอม เพชรประดับ จากแฟ้ม
สำหรับ “จอม” เจ้าตัวเคยออกมายอมรับเองว่า เป็น “ติ่งส้ม” และก่อนหน้านั้น เคยเป็น “ติ่งเพื่อแม้ว” โดยสาเหตุที่หันมา “ซูฮก” อดีตพรรคอนาคตใหม่ เพราะเจตนารมณ์ทางการเมืองแน่วแน่ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ ด้วยอุดมการณ์อันชัดเจน ไม่กล้าๆ กลัวๆ เหมือนพรรคการเมืองบางพรรคของคนเสื้อแดง

อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงกลุ่ม “care” แม้ส่วนผสมจะมาจากหลากหลาย แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า “แกนหลัก” ก็คือ 4-5 คน เป็นอย่างน้อย ที่เป็นคนของ “ทักษิณ” โดยเปิดเผย คือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, ภูมิธรรม เวชยชัย และ พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง

อีกคน “แขก คำผกา” หรือ ลักขณา ปันวิชัย ก็คือ สาวกคนดังของพรรคเพื่อไทย โดยที่เจ้าตัวเคยประกาศว่า เป็น “ติ่งเพื่อไทย” อย่างเปิดเผยมาแล้ว

นี่สะท้อนให้เห็นไม่มากก็น้อยว่า นายทักษิณ ชินวัตร ก็แค่นิ่ง และ “ลอยตัว” เพื่อโอกาสที่จะเป็น “ผู้เล่น” ในวันข้างหน้าก็เป็นได้
จากรายงานข่าวของ บีบีซีไทย สื่อที่มีความใกล้ชิด ฝ่ายนี้มากที่สุด เผยว่า

“ทุกความชุลมุนที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ถูกรายงานตรงไปยัง “ผู้นำพเนจร” ที่ต้องลี้ภัยในต่างแดนมากว่า 10 ปี เนื่องจากคดีอาญาหลายเรื่องที่เจ้าตัวบอกว่า เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง

“มีคนโทร.มาหาผม มาแจ้งให้ทราบ เป็นอดีต ส.ส.เก่า เขาคิดอยู่ เขามาบอกเพราะไม่ต้องการให้รู้สึกว่า แยกไปทำ โดยไม่ได้มาบอกกล่าว” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้า ทรท. กล่าวกับบีบีซีไทยถึงกระแสข่าวการเตรียมการจัดตั้งพรรคใหม่ของบรรดาลูกน้องเก่า

เขาออกตัวว่า ไม่มีส่วนร่วมกับความเคลื่อนไหวที่ปรากฏนี้

“ไม่เกี่ยวกับผม... ผมมันลอยตัวจากการเมืองแล้ว... ผมมันคนตกงานแล้ว เป็นวัย Young Old เป็นคนแก่ที่ยังหนุ่ม.. ผมขอให้กำลังใจมากกว่า”

ภาพ นายทักษิณ ชินวัตร จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจ บีบีซีไทย เผยว่า “ข้อวิเคราะห์ของทักษิณ ยังเวียนวนอยู่ที่ความพยายามแก้โจทย์เก่า ออกจาก “กับดักรัฐธรรมนูญ 2560” ซึ่งทำให้พรรคที่มี ส.ส.ที่ชนะการเลือกตั้งแบบเขตมาก และตัวพรรคมีคะแนนนิยมมาก แต่ไม่สามารถมี ส.ส.บัญชีรายชื่อได้

เขามีฐานทางการเมืองอยู่ เคยอยู่ในสภา แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว เขารู้สึกว่า อยากกลับเข้าไปทำงานให้ประชาชน”

ส่วน การเกิดขึ้นของ กลุ่ม CARE ยังวิเคราะห์ได้ว่า คล้ายการก่อเกิดของ ไทยรักไทย (ทรท.) อนาคตใหม่ (อนค.) อยู่ไม่น้อย

ทั้งนี้ เล่ากันว่า บรรยากาศที่เกิดขึ้น ณ สำนักงานแห่งหนึ่งย่าน ถ.พระราม 9 คล้ายคลึงกับช่วงที่ “ทักษิณ” เตรียมการก่อตั้ง ทรท. ในปี 2541 ผสมผสานกับฉากแรกๆ ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในระหว่างระดมพรรคพวกมาพูดคุยเรื่องการก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ปลายปี 2560-2561

โดยเฉพาะโจทย์การเมืองยุคก่อตั้ง ทรท. อยู่ในกระแสปฏิรูปการเมือง และจังหวะก้าวของ อนค. ก็เนื่องมาจากผู้คนบ่นและเบื่อผู้นำทหารที่ครองอำนาจมายาวนาน 5 ปี

กลุ่ม CARE ก็ทำนองเดียวกัน ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 จึงเกิด “คณะผู้ห่วงใยประเทศ” ที่เรียกตัวเองว่า กลุ่ม CARE

โดย ตั้งเป้าหมายว่าจะกำหนด “ญัตติสาธารณะใหม่” หรืออาจไปถึงขั้นนำเสนอ “ผู้นำใหม่” ในอนาคต

“เรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง ยังไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด” ส่วนในอนาคตจะเป็นพรรคการเมืองหรือไม่ ยอมรับว่าพรรคการเมืองเป็นบทบาทหลักในการแก้ปัญหา และ “อะไรก็เกิดขึ้นได้ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองไร้ความหวัง” ภูมิธรรม เปิดเผยสาระสำคัญจากวงหารือเมื่อ 26 พ.ค. 63...(บีบีซีไทย /30 พ.ค.63)

แน่นอน, ประเด็นที่น่าวิเคราะห์ก็คือ กลุ่มการเมือง หรือพรรคการเมือง ไม่ว่ากลุ่มไหน พรรคไหน ล้วนฉกฉวยจาก “วิกฤต” เป็น “โอกาส” ทั้งสิ้น เพราะประชาชนกำลังสิ้นหวัง และกำลังมองหาทางเลือก ทางออกจากความสิ้นหวัง ดังนั้น กลุ่มการเมือง หรือพรรคการเมือง จึงเสนอขายความฝัน หรือความหวังใหม่ ให้เลือก กลุ่ม CARE ก็ไม่ต่าง

ส่วนจะเป็นได้แค่ “แป้งเด็กแคร์” อย่างที่ “จอม” ว่าหรือไม่ วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปเช่นนั้น เพราะถือว่า เพิ่งเริ่มทำงาน และคงต้องจับตามองในระยะยาว ว่า กลุ่มนี้จะมีอิสระทางความคิดอย่างแท้จริง หรือ ยังต้องรอสัญญาณจากคนแดนไกลอยู่เหมือนเดิม?

รวมทั้งข้อเสนอที่สร้างสรรค์ต่อการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศไทย เอามันในอุดมการณ์เหมือนพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ หรือ ประโยชน์สูงสุดอยู่ที่ “ประชาชน”

อีกไม่ช้าไม่นาน ก็คงจะได้รู้กันว่า “เป็นห่วงประเทศไทย” หรือ เป็น “แป้งเด็กแคร์”


กำลังโหลดความคิดเห็น