“ประยุทธ์” ลงนามคำสั่งตั้ง 2 ส.ส.เศรษฐกิจใหม่ เป็นวิปรัฐบาล หลังเพิ่งเปิดตัวร่วมประชุม และนำร่วม รบ. ยังไม่ชัดได้จัดสรรนั่ง ปธ.กมธ. หลังเสียงเปลี่ยนไปมาก หลัง อนค.แตก ภท.ได้ ส.ส.มาเพียบ สวนทางก้าวไกล
วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง นายสุภดิช อากาศฤกษ์ และ นายภาสกร เงินเจริญกุล 2 ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ เป็นวิปรัฐบาลแล้ว โดยในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 154/2553 เรื่อง ปรับปรุงองค์ประกอบในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร มีเนื้อหาระบุว่า ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 180/2562 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2562 แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) เพื่อดำเนินการในเรื่องทีเกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภาให้เป็นไปอย่างมีระเบียบแบบแผนตามระบบรัฐสภา ตลอดจนเพื่อให้การประสานงานกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกรัฐสภาและพรรคการเมือง ในปัญหาต่างๆ ด้านนิติบัญญัติดำเนินการไปอย่างราบรื่นนั้น เพื่อให้การปฏิบัติงานของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร มีประสิทธิภาพ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(6) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบกับมาตรา 184 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 จึงปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร โดยแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มเติม ดังนี้ 1. นายสุภดิช อากาศฤกษ์ 2. นายภาสกร เงินเจริญกุล ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2563
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา 2 วิปรัฐบาลจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้เปิดตัวร่วมประชุมวิปรัฐบาลไปก่อนที่จะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเมื่อเข้าร่วมรัฐบาลแล้วจะได้รับการจัดสรรตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการรอบใหม่อย่างไร เนื่องจากขณะนี้จำนวน ส.ส.แต่ละพรรคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก โดยปัจจุบันพรรคร่วมรัฐบาลมี 275 เสียง ประกอบด้วย พลังประชารัฐ 118 ภูมิใจไทย 61 ประชาธิปัตย์ 52 ชาติไทยพัฒนา 12 เศรษฐกิจใหม่ 5 รวมพลังประชาชาติไทย 5 พลังท้องถิ่นไท 5 ชาติพัฒนา 4 รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 พรรคเล็ก 11 เสียง ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านเหลือ ส.ส.ในมือ 212 คน ประกอบด้วย เพื่อไทย 134 ก้าวไกล 54 เสรีรวมไทย 10 ประชาชาติ 7 เพื่อชาติ 5 เศรษฐกิจใหม่ (มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) 1 และ พลังปวงชนไทย 1 โดยพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นจากอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ มากที่สุดคือ พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.เพิ่ม 9 คน พลังท้องถิ่นไทเพิ่ม 2 และชาติพัฒนาเพิ่ม 1 คน ขณะเดียวกัน มีตำแหน่งประธานกรรมาธิการว่างลงสองคณะ คือ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เนื่องจาก นายปิยบุตร แสงกนกกุลและ พล.ท.พงศกร รอดชมภู พ้นจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประกอบกับพรรคก้าวไกลที่มาจาก ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่มี ส.ส.ลดลงจากเดิมเหลือเพียง 54 คน ทำให้เหลือสัดส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการจำนวน 4 คณะ เท่ากับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญในสัดส่วนของพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน คือ 1. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน 3. นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ และ 4. นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน โดยมีรายงานว่าจะมีการหารือร่วมกันเพื่อกำหนดสัดส่วนประธานกรรมาธิการรอบใหม่เร็วๆ นี้