“วัชระ” นำชื่ออดีต สนช.- ส.ว. ยื่นหนังสือ ปธ.สภาฯ คัดค้านจ่ายค่าเร่งรัดสร้างรัฐสภาให้ ซิโน-ไทย 215 ล. เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือที่ลงนามโดย พลเรือเอก บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีต สนช. นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.และตนเองถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร คัดค้านการจ่ายค่าเร่งรัดงาน 215 ล้านบาท ให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมสำเนาหนังสือบริษัท เลขที่ SINO-THAI/J.2436/L-841/R1. ลงวันที่ 15 เมษายน 2563 และสำเนาหนังสือสัญญาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยระบุว่า ตามที่บริษัทผู้รับเหมาส่งหนังสือลงวันที่ 15 เมษายน 2563 ขอค่าเร่งรัดงานก่อสร้างห้องประชุมสุริยัน และห้องประชุมจันทรา จำนวน 215,041,233.48 บาท (สองร้อยสิบห้าล้านสี่หมื่นหนึ่งพันสองร้อยสามสิบสามบาทสี่สิบแปดสตางค์) เป็นเงินของแผ่นดินที่มาจากเงินภาษีอากรของประชาชนทั้งชาติ หาใช่เงินที่จะสั่งจ่ายตามอำเภอใจไม่ ดังนั้น ในฐานะที่ตนเองเป็นอดีตสมาชิกรัฐสภา เป็นผู้เสียภาษีอากรให้รัฐ ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ไม่เห็นชอบ และขอคัดค้านการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะจ่ายเงินให้กับบริษัทผู้รับเหมาตามสำเนาหนังสือที่อ้างถึงดังกล่าวอย่างเด็ดขาด
นายวัชระ ชี้ว่า การที่บริษัทผู้รับเหมาอ้างเหตุผลว่าต้องทำประกันเพิ่มและเตรียมพื้นที่นั้น ตามสัญญาการก่อสร้างข้อ 30 การทำประกันภัย เป็นการใช้พื้นที่ระหว่างก่อสร้างสภาฯสามารถเข้าใช้ได้ตามสัญญาข้อ 34 โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประโยชน์จากการที่ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ขยายเวลาการก่อสร้างให้กับบริษัทแล้ว ครั้งที่ 1 เป็นเวลา 387 วัน ซึ่งเดิมกรรมการชุดตรวจการจ้าง (ชุดนายวีระพันธ์ มุขสมบัติ เป็นประธาน) ชุดเก่าอนุมัติเพียง 287 วัน เมื่อยุบกรรมการชุดเก่าปรากฏว่า นายสรศักดิ์ มาเป็นประธานแทนกลับอนุมัติเสนอเห็นชอบทันทีเพิ่มเติมอีก 100 วัน เป็น 387 วัน ครั้งที่ 2 ในฐานะเลขาธิการสภาฯ 421 วัน ครั้งที่ 3 ในฐานะเลขาธิการสภาฯ 674 วัน และครั้งที่ 4 ในฐานะเลขาธิการสภาฯ 382 วัน รวม 1,864 วัน โดยไม่ฟังคำท้วงติงของกลุ่มงานพัสดุและไม่ขอความเห็นชอบจากสำนักกฎหมายสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแต่อย่างใด ซึ่งจะมีค่าปรับก่อสร้างล่าช้าวันละ 12 ล้านบาท ทำให้สภาฯได้รับความเสียหายต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ จึงขอให้ระงับการจ่ายเงิน 215 ล้านบาทเศษดังกล่าว นายวัชระ กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือคัดค้านเป็นหลักฐานต่อนายชวน และนายสรศักดิ์ นี้ เพราะในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายสุทธิพล พัชรนฤมล ตัวแทนบริษัท ซิโน-ไทย พูดในที่ประชุม ว่า บริษัทไม่ได้ขอเงินเพิ่มใดๆ จากการเร่งรัดการก่อสร้างห้องประชุมสุริยัน-จันทรา เมื่อนายสุทธิพลยืนยันในกรรมาธิการวิสามัญแบบนี้ แล้วเหตุใดนายสุทธิพลจึงลงชื่อในนามบริษัทฯขอเงินค่าเร่งรัดงานเพิ่มถึง 215 ล้านบาท ตามหลักฐานที่ส่งถึงนายชวนในวันนี้