“เศรษฐพงค์” ชูผลงาน รมต.ภูมิใจไทย ระบุไม่ได้ทำเฉพาะนโยบายพรรค แต่ประสานงานรัฐบาลเร่งช่วยเหลือ ปชช.-พัฒนาประเทศทุกด้าน ชี้ช่วงโควิด-19 กระทรวงหมอทำงานหนัก จากนี้ช่วงฟื้นฟู ก.คมนาคม-ท่องเที่ยว จะมีบทบาทสำคัญ
วันนี้ (15 มิ.ย.) พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงผลงานของรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยว่า รัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทยทำงานหนักมาตลอด แม้ว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาประเทศไทยจะพบกับภาวะวิกฤตจากไวรัสโควิด-19 งานส่วนใหญ่ของรัฐมนตรีและพรรคจึงเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องนี้เป็นหลัก โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ที่ถือเป็นกำลังหลักในการรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ ถือว่าทำได้อย่างดีจนวิกฤตคลี่คลาย โดยเฉพาะการออกมาตรการรับมือ การดูแลบุคลากรทางการแพทย์ ควบคู่ไปกับการดำเนินนโยบายด้านสาธารณสุขเพื่อดูแลสุขภาพประชาชนอย่างเต็มที่ ลงพื้นที่รับปัญหาและให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยตลอด
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวต่อว่า ในส่วนนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทยที่เน้นมาตั้งแต่การหาเสียง คือ การปลดล็อกกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ ที่ล่าสุดได้มีการร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรม และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ เพื่อจะทำให้พืช 2 ชนิด คือ กัญชา และกระท่อม พ้นจากการเป็นยาเสพติดให้เร็วที่สุด เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อย่างเต็มที่ โดยเป้าหมายคือปลูกและผลิตเพื่อการแพทย์เท่านั้น
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ยังเดินหน้าทำงานทั้งการผลักดัน แก้ไขและรณรงค์เพื่อขจัดปัญหาในด้านคมนาคมอย่างเป็นระบบเพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ล่าสุดได้มีการทำพิธีลงนามความร่วมมือการนำอุปกรณ์ทางด้านการจราจรและอำนวยความปลอดภัยทางถนนที่ผลิตจากยางพาราไปใช้ประโยชน์ในหน่วยงานภาครัฐ ระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อลดการบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนทางหลวง ขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำ จึงได้มุ่งเน้นให้ใช้น้ำยางพาราเป็นวัสดุในการปรับปรุงก่อสร้างทาง เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรโดยตรง จากผลการศึกษาและวิจัยและทดสอบพบว่าสามารถลดความรุนแรงของอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในส่วนของระบบคมนาคมภายในประเทศยังมีการพัฒนาและก่อสร้างอีกหลายโครงการซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โฆษกพรรคภูมิใจไทยยังกล่าวด้วยว่า ภายหลังจากวิกฤตโควิด-19 ประเทศไทยยังมีงานหนักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ถือเป็นรายได้หลักของประเทศ โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กำลังทำแผนงานเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว ที่ผ่านมานั้นได้มีการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติซึ่งจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่จะทำรายได้ให้แก่ประเทศจำนวนมหาศาลอีกด้วย
“จะเห็นได้ว่าการทำงานของพรรคภูมิใจไทยไม่ได้จำกัดการประสานงานเฉพาะกระทรวงที่มีรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แต่สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราจะทลายกำแพงอุปสรรคไม่ว่าจะอยู่พรรคเดียวกัน หรือต่างพรรค เมื่ออยู่ในรัฐบาลเดียวกันแล้วต้องสามารถทำงานสอดประสานกันได้โดยอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องเพื่อประโยชน์พี่น้องประชาชน หลังจากนี้ก็ต้องทำงานประสานกับรัฐมนตรี และ ส.ส.จากพรรคต่างๆ ในการช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูประเทศให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด” พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าว