xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวไกลรับข่าวแจกงบ ส.ส.80 ล้าน แค่ฟังเขามาไม่มีหลักฐาน หวังป้องกันทุจริต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอง หน.ก้าวไกล ยอมรับไม่มีหลักฐาน หลังเปิดประเด็นแจกงบ ส.ส.80 ล้าน อ้างแค่ฟังเขามาหวังป้องปรามให้ใช้งบสู้โควิด-19 อย่างโปร่งใส ชวน ปชช.ร่วมจับตาพร้อมส่งข้อมูลทุจริตให้พรรคตรวจสอบ

วันนี้ (1 มิ.ย.) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนาวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่าที่พรรคก้าวไกลออกมาแฉถึงการให้เงิน ส.ส.หัวละ 80 ล้านบาท จากงบประมาณฟื้นฟู 4 แสนล้านบาทโดยไม่มีหลักฐานว่า งบประมาณที่ตนได้ยินมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 พ.ค.เป็นการพูดคุยระหว่าง ส.ส.ด้วยกัน ทั้งในพรรค ฝ่ายค้านและรัฐบาลว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณให้ 80 ล้านบาทสำหรับ ส.ส.แต่ละคน ตรงนี้ไม่ใช่ไม่มี แต่มีมานานแล้วที่เรียกว่า “งบ ส.ส.” เมื่อครั้งที่ตนเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ประเด็นนี้ก็มีเรื่องมาเข้าหูเหมือนกัน ในครั้งนั้นมีการพูดคุยในลักษณะนี้ว่ามีการแบ่งปันงบ ส.ส.ตัวเลขอยู่ที่ 20-30 ล้านบาท แต่ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ได้ เพราะขณะนั้นพรรคอนาคตใหม่ไม่มีส่วนร่วมในการพูดคุยเกี่ยวกับงบ ส.ส.ดังกล่าว แต่ครั้งนี้เมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้วคิดว่าจำเป็นที่จะต้องลุกขึ้นพูดประเด็นนี้กลางสภา เพราะอย่างน้อยให้ประชาชนได้รับรู้ว่ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น

“จริงๆ แล้วงบลักษณะนี้เคยมีมาอยู่แล้วเพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดเอาไว้ แต่สำหรับรัฐธรรมนูญปี 60 มีการบัญญัติในมาตรา 144 ว่าการที่ ส.ส.จะผันงบลงพื้นที่ตนเองทำไม่ได้ ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญและผิดกฎหมาย และขณะนี้ประเทศเรากำลังอยู่ภายใต้วิกฤตโควิด จึงจำเป็นต้องกู้เงินภายใต้ พ.ร.ก.ที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้ 1 ล้านล้านบาท ถือว่าสูงที่สุดในประวัติการณ์ ดังนั้น งบที่ได้ควรจะจัดสรรและใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ ต่อให้ไม่มีงบ ส.ส. ไม่มีการคอร์รัปชัน การบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพก็แย่อยู่แล้ว แต่ถ้ายังมีการทุจริตแบ่งเค้กกัน ผมเห็นว่าความหวังที่ไทยจะฟื้นฟูผลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสก็ยากเหลือเกิน”

นายพิจารณ์กล่าวอีกว่า เมื่อมีงบลงไปแล้วทำให้ ส.ส.สามารถเลือกใช้ได้ว่าจะใช้อย่างไรกับโครงการไหน มีโอกาสสูงมากว่าโครงการที่ดีๆ มาจากหน่วยงานข้าราชการ และโครงการที่ตอบสนองท้องถิ่นจริงอาจจะไม่เกิดขึ้นเพราะไม่ตรงกับผลประโยชน์นักการเมืองบางคน บางกลุ่มในท้องถิ่น โดยงบเหล่านี้จะไปถึงตัว ส.ส.โดยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ดังนั้น เป็นสิ่งที่ตนจำเป็นต้องพูดและ ส.ส.พรรคอื่นหลายคนก็อยากพูดตีแผ่ในเรื่องนี้ แต่พูดไม่ได้เพราะเป็นการขัดผลประโยชน์กับเพื่อน ส.ส.ด้วยกัน

“แม้สิ่งที่ผมพูดไปจะไม่มีหลักฐาน แต่เชื่อว่าการที่ออกมาพูดลักษณะนี้อย่างน้อยจะเป็นการป้องปรามหยุดยั้งสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น สำคัญที่สุดคือเราต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบเงินกู้เหล่านี้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการทุจริตจริงตามที่พรรคกล่าวหา ควรจะมีการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร นายพิจารณ์กล่าวว่า เราคิดว่าเมื่อมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ทางพรรคก้าวไกลจะเสนอให้มีการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อที่จะจับทุกโครงการที่ใช้งบประมาณและมาตรการแก้ไขโควิด เพื่อจะให้หน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับงบประมาณมีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลเข้ามา ซึ่งจะรวดเร็วกว่าการให้ฝ่ายบริหารมารายงานต่อสภาทุก 3 เดือน หรือ 6 เดือน ซึ่งจะรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำมากกว่าด้วย ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนต้องอาศัยความร่วมมือจาก ส.ส.ทุกคน เชื่อว่ามี ส.ส.หลายคนที่เห็นประโยชน์ของประเทศชาติ

ต่อข้อถามว่า หากสามารถสาวไปถึงตัวบุคคลได้ พรรคจะดำเนินการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ถอดถอนหรือไม่ นายพิจารณ์กล่าวว่า เราจะดำเนินการให้ถึงที่สุด แต่ตอนนี้ขอใช้กลไกจากคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ก่อน จึงขอให้ประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมเหล่านี้ส่งข้อมูลมายังพรรค เรายินดีนำไปดำเนินการ



กำลังโหลดความคิดเห็น