“พิชชารัตน์” ส.ส.พปชร. เห็นด้วย พ.ร.ก.กู้เงิน ฟื้นฟูประเทศ เชื่อ รบ.กู้เท่าที่จำเป็น ไม่ต้องเต็มวงเงิน 1 ล้านล้าน ชี้โควิด-19 เป็นโอกาสดีไทยฟื้น ศก.-แข่งชาติอื่น ชมนายกฯสามารถนำพาประเทศพ้นวิกฤต
วันนี้ (31 พ.ค.) ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาพระราชกำหนดเกี่ยวกับการแก้ปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวม 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท วันที่ 5 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนการลงมติ นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่ประเทศได้รับ จากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจากตัวเลขของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่าจีดีพีของประเทศไทย จะมีการขยายตัวติดลบร้อยละ 5 - 6 ในปี 2563 ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ต่ำที่สุด ตั้งแต่เกิดวิกฤติปี 40 รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องหากู้เงินเพื่อหางบประมาณมาเยียวยา ช่วยเหลือ และพยุงเศรษฐกิจ ไม่ให้ล่มสลาย
“ความดีของโควิด-19 นั้นก็มีอยู่ วิกฤตโควิด-19 คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ทำให้เราได้เริ่มต้นนับหนึ่งพร้อมกับประเทศอื่นๆที่เคยได้เปรียบไทย แต่หลังโควิด-19 จะกลายเป็นไทยได้เปรียบแทน และเชื่อมั่นว่าการบริหารประเทศโดยท่านนายกรัฐมนตรี สามารถนำพาประเทศไปถึงจุดหมายได้อย่างแน่นอน” นางพิชชารัตน์ กล่าว
นางพิชชารัตน์ ยังได้อภิปรายชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาผู้ป่วยได้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศ ในการรักษาผู้ป่วยให้กลับบ้านได้เป็นจำนวนมาก. ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจ นอกจากนี้ความสำเร็จในการควบคุมสถานการณ์ยังเกิดจากการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการบริหารงานโดยนายกรัฐมนตรี ทำให้การบริหารงานแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างบูรณาการเป็นเอกภาพ คล่องตัวและเกิดผลโดยเร็ว ขณะที่การเยียวยาให้กับประชาชนทุกกลุ่ม นายกรัฐมนตรี ได้ทำงานไม่หยุดพัก มีการเดินสายพบกับประชาชนทุกกลุ่มเพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึนอย่างแท้จริง และสิ่งนี้คือตัวอย่างที่ดีของผู้นำประเทศ
“พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ได้มีการเขียนแผนชัดเจน กำหนดการดำเนินตามแผนงาน มีการประเมินผล และให้เป็นไปตามวินัยการเงินการคลังของประเทศ โดยกระทรวงการคลังได้ระบุชัดเจนด้วยว่า ไม่จำเป็นต้องกู้ทั้งหมด และหากคนไทยร่วมมือกันควบคุมโรคไม่ให้แพร่กระจาย มาตรต่างๆผ่อนคลาย เศรษฐกิจเริ่มหมุนเวียน และงบประมาณปี 64 เพียงพอก็ไม่จำเป็นต้องกู้ให้ครบทั้ง 1 ล้านล้านบาท”
นางพิชชารัตน์ ยังเห็นว่าแม้ความรุนแรงของเชื้อโควิด-19 จะทำให้เกิดผลกระทบ แต่ยังมีความดี ประชาชนมีการแบ่งปันกัน และการปิดประเทศทำให้เรารู้ว่าประเทศมีศักยภาพในการผลิตอาหารช่วยคนในประเทศ และเชื่อว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 เราจะได้เปรียบประเทศอื่น และมั่นใจว่าการบริหารประเทศภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะสามารถนำพาประเทศไปสู่จุดหมาย.