xs
xsm
sm
md
lg

“อัครเดช” เสนอเยียวยาธุรกิจกลางคืน ท่องเที่ยว คนชายขอบ พัฒนาแหล่งน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส.ส.ราชบุรี ปชป.อภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ เสนอเยียวยาธุรกิจกลางคืน ท่องเที่ยว คนชายขอบ ใช้ก้อน 4 แสนล้าน พัฒนาแหล่งน้ำ เพิ่มมูลค่าให้เกษตรกร

วันนี้ (29 พ.ค.) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.จังหวัดราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 1 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 เป็นพิเศษ วาระเรื่องด่วน เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ สำหรับผลกระทบอันเกิดจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ 3 เรื่อง โดยเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 เริ่มประกาศล็อคดาวน์ ปิดสถานประกอบการ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ขณะที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยา 5,000 บาทให้พี่น้องประชาชนภายใน 3 เดือน หรือ 90 วัน แต่นับจนถึงขณะนี้เหลือเวลาเพียง 18 วัน ก็จะครบกำหนดแล้ว แต่ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบแต่ยังไม่ได้รับการผ่อนปรนในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะยังมีกลุ่มธุรกิจจำนวนหนึ่งที่ยังไม่สามารถกลับมาประกอบการได้ตามปกติ เช่น ธุรกิจภาคกลางคืน ธุรกิจการท่องเที่ยว ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลได้เตรียมหามาตรการออกมารองรับด้วย

นายอัครเดชกล่าวต่อว่า รัฐบาลได้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาให้กับ 4 กลุ่มแรก ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกร กลุ่มอาชีพอิสระ ที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน กลุ่มผู้ใช้แรงงานในระบบ กลุ่มเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ ล่าสุดรัฐบาลได้ดำเนินการโอนเงินให้กลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มที่ 5 แล้ว ขณะนี้ยังมีอีก 3 กลุ่มที่ยังรอรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ก็คือ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางสังคมกรณีฉุกเฉิน

“จากการลงพื้นที่แล้วพบว่ายังมีกลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับการบริการ หรือคุ้มครองจากรัฐ หรือเรียกว่ากลุ่มคนชายขอบ ซึ่งไม่สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ได้ จึงอยากเสนอให้รัฐเข้าไปดูแลเยียวยาคนกลุ่มนี้ โดยอาศัยเครือข่าย อสม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแกนนำผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่สำรวจเพื่อให้เข้ามาสู่ระบบการเยียวยาด้วย” นายอัครเดชกล่าว

นายอัครเดชกล่าวต่อว่า จากแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 4 แสนล้านบาท ใน พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน อยากให้รัฐนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกษตรกร โดยเฉพาะเรื่องการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำ ซึ่งตนลงพื้นที่ยังพบว่ามีคลองชลประทาน แหล่งน้ำที่เสื่อมโทรมขาดการดูแลตลอดระยะเวลา 10-20 ปี ตั้งแต่มีการกระจายอำนาจถ่ายโอนภารกิจคลองเล็ก หรือคลองไส้ไก่ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าดูแล โดยโอนแต่ภารกิจไปให้ แต่ไม่ได้มีงบประมาณให้ท้องถิ่นเข้าไปดูแล จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญด้วยการจัดเงินงบประมาณ 4 แสนล้านบาท ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจตาม พ.ร.ก.นี้ เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำที่โอนถ่ายภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าดูแล เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้พี่น้องเกษตรกร พร้อมกันนี้นายอัครเดชยังได้เสนอให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อติดตาม ตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณตาม พ.ร.ก.นี้ทั้ง 3 ฉบับด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น