รองโฆษก ปชป.เผยเตรียมพร้อมพิจารณา พ.ร.ก.เพื่อประชาชน เน้นอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ เอาเนื้อหาสาระประโยชน์เป็นตัวตั้งมากกว่าเวลา
วันนี้ (24 พ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.เพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 และร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายในสัปดาห์หน้าว่า ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคฯ ได้เชิญ ส.ส.ของพรรคมาประชุมในวันอังคารที่ 26 พ.ค. 2563 เวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมในการพิจารณา พ.ร.ก.และ ร่าง พ.ร.บ.ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ประกอบด้วย พ.ร.ก.ที่สำคัญ คือ 1. พ.ร.ก.กู้เงินแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคม 1 ล้านล้านบาท 2. พ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผุ้ประกอบวิสาหกิจ 5 แสนล้านบาท 3. พ.ร.ก.รักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท
นอกจากนั้นก็มีร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายเข้าสู่การพิจารณาด้วย ซึ่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ สะท้อนถึงปัญหาของการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม เป็นวงกว้างทั่วประเทศ จนรัฐบาลต้องออก พ.ร.ก.เพื่อช่วยเหลือ ดูแล เยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจ รวมทั้งอภิปรายแสดงข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพื่อให้การดำเนินการตาม พ.ร.ก.ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มค่า โปร่งใส ไร้การทุจริต
ขณะนี้มี ส.ส.ของพรรคฯ ได้ทำการบ้านติดตามการออก พ.ร.ก.มาอย่างต่อเนื่อง สนใจที่จะอภิปรายเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็คงมาดูตามความเหมาะสมว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้เวลาอภิปรายมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างวิปฝ่ายค้านกับวิปฝ่ายรัฐบาลว่าจะจัดสรรเวลากันอย่างไร เพราะการอภิปราย พ.ร.ก.และร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณ ส.ส.ทุกคนในสภาสามารถอภิปรายได้ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ไม่เหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เป็นหน้าที่ของ ส.ส.ฝ่ายค้านเป็นผู้อภิปรายแต่เพียงฝ่ายเดียว
ส่วนจะใช้เวลาอภิปรายกันกี่วันถึงจะเหมาะสมนั้น ไม่อยากให้เอาเวลามาเป็นตัวตั้ง แต่อยากให้เอาเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์มาเป็นตัวตั้งมากกว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่า ส.ส.ในสภาทุกท่านจะอภิปรายเนื้อหาที่มีประโยชน์ เพราะมีความปรารถนาดีที่อยากเห็น พ.ร.ก.กู้เงินก็ดี พ.ร.ก.ที่ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยก็ดี เป็น พ.ร.ก.ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหา เยียวยาประชาชนและดูแลเศรษฐกิจสังคมให้เดินหน้าต่อไปได้ โดย ส.ส.ของพรรคฯ จะทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนประชาชนทั่วประเทศอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อเป็นปากเสียงแทนประชาชนในสภาให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ และร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการช่วยกันฟันฝ่าวิกฤตโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจ สังคม ประเทศชาติกลับคืนสู่สภาวะปกติและเดินหน้าต่อไปได้ในที่สุด