บ้าไปแล้ว! “นายพลส้มเน่า” แนะ “รักเสรีภาพยิ่งกว่าความตาย” โบว์ ค่ะ..ก็มา “ดร.นิว” ชี้ เหตุที่ทำให้ “ปิยบุตร” เงิบ

บ้าคลั่งกันไปใหญ่ ท้าทาย “โควิด-19” แบบหน้าด้านๆ นายพลส้มเน่า แนะฝึกคิดแบบฝรั่ง “รักเสรีภาพยิ่งกว่าความตาย” โบว์ ค่ะ! ขู่ให้นับคนผูกคอตายควบคู่ “14 วัน” จากนี้ “ดร.นิว” ยกผลโพล ที่ทำให้ “ปิยบุตร” เงิบ

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (21 เม.ย. 63) เฟซบุ๊ก พงศกร รอดชมพู ของ พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความระบุว่า

“สำนักข่าวเยอรมันประโคมข่าวว่า “บ้าละ ที่คนออกมาเที่ยวในสวนแบบไม่สนใจกฎหมายเรื่องโควิดของเยอรมนี”

บางท่านอาจว่า เขามาตากแดด ตามคำแนะนำของผู้นำบางประเทศ

แต่ผมเห็นว่า นี่ล่ะ ความรักในสิทธิและเสรีภาพของฝรั่งยิ่งกว่ากลัวความตาย

คนไทยเราอาจจะรู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคย ผมเลยเอามาแสดงให้ดูบ่อยๆ หวังว่าจะไม่ว่ากัน

ข่าวในสหรัฐฯ ที่หลายรัฐ อย่างเช่น ในเทกซัสก็ประท้วงไม่ใส่หน้ากาก รัฐอื่นๆ อย่างฟลอริดา ก็ให้หยุดการกักตัว ซึ่งคนไทยส่วนมากยังไม่เข้าใจอารมณ์ของฝรั่ง

ในเยอรมนี ผมเดาเอานะ เขารู้ว่ารัฐบาลเขามีระบบสาธารณสุขที่ดี เขากักตัวเองจนพ้น 14 วัน มาสองรอบแล้ว รู้สึกว่าถ้าเว้นระยะห่างได้พอ ใส่หน้ากากเวลาจำเป็น ไม่ต้องตลอดเวลา ก็มีความปลอดภัย

คนเยอรมันมีวินัยสูง คงไปหาว่า เขาไร้วินัยยากมาก

ลองฝึกคิดแบบฝรั่งบ้างก็ดีนะครับ ใช้เหตุผลและวิทยาศาสตร์เยอะๆ เพื่อลองดูสังคมในมุมอื่นๆ บ้าง วิกฤตแบบนี้มีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นให้วิเคราะห์ได้ดีทีเดียวน่าสนุกมาก”

ขณะที่วันเดียวกัน “โบว์” ณัฏฐา มหัทธนา ที่แนะนำตัวเองว่า เป็นนักกิจกรรมอิสระ ทำประโยชน์ผ่านการสื่อสาร งานครู อาจารย์ วิทยากรเพื่อพัฒนาบุคลากร พิธีกร และเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ก็โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ Bow Nuttaa Mahattana @NuttaaBow ว่า

“วันนี้ผู้ติดเชื้อใหม่ 19 ราย เหลือผู้ป่วยโควิด 655 คน ในประเทศที่มีประชากร 70 ล้านคน และอุณหภูมิเกือบ 40 องศา โฆษกกล่อมประสาทคน บอกให้ตัวเลขเหลือต่ำสิบต่อเนื่อง 14 วัน (จึงจะหยุดล็อกดาวน์?) ขอเรียกร้อง ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ นับตัวเลขคนผูกคอตายสะสมเอามาแถลงด้วยค่ะ #รัฐบาลประสาท”


ตรงข้ามกับ เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่โพสต์หัวข้อ “#ปิยบุตรซ้ายก้าวหน้าตกขอบเงิบ เหตุซ้ายก้าวหน้าแท้หนุนล็อกดาวน์”

เนื้อหาระบุว่า “เราคงได้เห็นกันแล้วว่า มีทั้งองค์กรและบุคคลสำคัญระดับโลกมากมายที่ได้ออกมาชื่นชมมาตรการล็อกดาวน์การควบคุมการแพร่ระบาดโควิดของไทยไปในทิศทางเดียวกัน

ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่สหรัฐอเมริกาที่ผมรู้จัก ก็ยังพูดเป็นเสียงเดียวกัน แม้แต่ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย MAST Center ที่ผมทำงานอยู่ ก็เพิ่งทักที่ออฟฟิศเมื่อเช้านี้ ว่า เขาตกใจมากที่เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สิงคโปร์ วันที่ 20/4/63 เพิ่มสูงขึ้นถึง 1,426 คน ภายในวันเดียว ในขณะที่ประเทศไทยมีเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 27 คนเท่านั้นเอง ส่วนอเมริกายิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะสถานการณ์ย่ำแย่ที่สุดในโลกแล้ว เพราะเพิ่มขึ้นวันละ 2-3 หมื่นคนทุกวัน

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการยังบ่นด้วยความหัวเสียอีกว่า เขาไม่พอใจกับการคลายล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นแล้วในบางรัฐ อีกทั้งการออกมาประท้วงให้ปลดล็อกดาวน์ แล้วก็มีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพกันอย่างหน้ามืดในสถานการณ์ที่กำลังวิกฤตแบบนี้ เขาบอกว่า คนพวกนี้มันบ้า และเสียสติกันไปใหญ่แล้ว เพราะในความเป็นจริงแล้ว คนอเมริกันส่วนใหญ่ยังสนับสนุนการล็อกดาวน์เพื่อความปลอดภัยกันทั้งนั้นแหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต ที่นับได้ว่าเป็นฝ่ายซ้ายเสรีนิยมประชาธิปไตยของประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่งสอดคล้องกับโพล โดย https://morningconsult.com ที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประชาชนชาวอเมริกันจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งสูงถึง 74% สนับสนุนมาตรการกักกันการแพร่ระบาดของโควิด หรือ การล็อกดาวน์ และเมื่อสำรวจจากขั้วทางการเมืองพบว่า...

- ฝ่ายนิยมพรรคโดเมแครต (ซ้าย) สนับสนุนการล็อกดาวน์ 81%
- ฝ่ายผู้ออกเสียงอิสระ (กลาง) สนับสนุนการล็อกดาวน์ 69%
- ฝ่ายนิยมพรรครีพับลิกัน (ขวา) สนับสนุนการล็อกดาวน์ 72%

ขนาดประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้ชื่อว่า เป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายซ้ายที่ส่วนมากเป็นซ้ายก้าวหน้าของแท้ ยังสนับสนุนมาตรการล็อกดาวน์สูงถึง 81% เลยทีเดียว

และโพลจาก https://navigatorresearch.org/ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ก็ยังแสดงว่า ชาวอเมริกันกว่า 86% ยังคงสนับสนุนการล็อกดาวน์หรือยังคงอยากให้มี Social Distancing อยู่นั่นเอง

แบบนี้ จึงไม่ทราบว่า ฝ่ายซ้ายตกขอบอย่างซ้ายก้าวหน้าและซ้ายใกล้ก้าว นำโดย นายปิยบุตร แสงกนกกุล มีความคิดว่าวาทกรรมล้างสมองป่วนเมืองของตนเองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “รัฐประหารโควิด” ดูโง่เง่ามากน้อยเพียงใด?

เพราะถ้ารัฐประหารโควิดไม่ได้เกิดขึ้นจริง ในที่สุด นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็คงจะดูไม่ต่างอะไรจากศาสดาคนโง่ที่วันๆ เอาแต่หมกมุ่นกับลัทธิซ้ายตกขอบที่ไร้สติ เพ้อเจ้อ และฝักใฝ่ความรุนแรง ปั่นวาทกรรมเบาสมองหวังหลอกใช้คนโง่ลงถนนเลียนแบบการปฏิวัติฝรั่งเศส หรือไม่ก็ปฏิวัติรัสเซีย ที่มีคนบริสุทธิ์ตายไปนับแสนนับล้านคน

ขนาดฝ่ายซ้ายก้าวหน้าของสหรัฐอเมริกา ยังสนับสนุนการล็อกดาวน์ 81% จึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าซ้ายก้าวหน้ากับซ้ายใกล้ก้าวไม่ใช่กลุ่มซ้ายก้าวหน้าเลย

หากแต่เป็นพวกซ้ายตกขอบหัวรุนแรงที่ลูบหน้าปะจมูกด้วยคำพูดที่ฟังดูสวยหรูสไตล์ประชาธิปไตยจอมปลอมก็เท่านั้นเอง

#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ

อ้างอิง...
https://morningconsult.com/…/coronavirus-national-quaranti…/
https://bluevirginia.us/…/polling-numbers-as-well-as-scienc…
https://www.thansettakij.com/content/world/430742
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2149693

จากหลายโพสต์ดังกล่าว สิ่งที่ต้องพูดถึงให้ชัดเจน ก็คือ แม้ตัวเลขการแพร่ระบาดในไทย ดูเหมือนลดลงก็ตาม แต่หลายฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายสาธารณสุข แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ต่างก็ยังไม่ไว้วางใจ ว่าจะกลับมามีจำนวนเพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้ามีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

เหนืออื่นใด ใครจะกล้าการันตีได้ว่า การรักษาระยะห่าง 2 เมตรในไทย จะมีระเบียบวินัยและรับผิดชอบต่อสังคมมาเป็นอันดับหนึ่ง เหนือสิทธิเสรีในการใช้ชีวิตตามปกติ

เพราะฉะนั้น การพิจารณาอย่างรอบด้าน และผ่อนคลายมาตรการแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างที่รัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญวางแผน ก็ถือว่าถูกต้องแล้ว

อีกประการ สหรัฐฯ หรือประเทศฝรั่ง ที่ “นายพลส้มเน่า” เอามาอ้าง ว่า เขารักสิทธิเสรีภาพยิ่งกว่าความตายนั้น ฟังจาก “ดร.นิว” ก็ชัดเจนว่า เป็นเพียงส่วนน้อยมากๆ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง ที่ต้องการสิทธิเสรีภาพยิ่งกว่าความตาย แต่ส่วนใหญ่ถึง 81% ยังคงต้องการให้ล็อกดาวน์

แสดงว่า ที่ประเทศไทยยังคงระมัดระวังเรื่องผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ก็ไม่ต่างจากทั่วโลกเขาทำกัน ส่วนพวกที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ก็ไม่ต่างกัน และเหมือนกันก็คือ คนส่วนน้อยอย่างมากเท่านั้น

อย่างประเทศไทย ที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก โซเชียล พร้อมสาวกเข้าไปถูกใจ ก็แทบจะนับคนได้ รวมทั้งชัดเจนว่าเป็นฝ่ายไหนด้วย หรือไม่จริง