xs
xsm
sm
md
lg

แดงเดือด! “จอม” จวก “อั้ม-ปวิน” เหตุรุมยำ “แม่ทอน” ซื้อเสียง “ปวิน” เอาคืนเจ็บ “จอมเป็นแค่ bitchy old queen”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จากแฟ้ม
“ปวิน-จอม” เปิดศึกร้อนโซเชียล เหตุ “อั้ม-ปวิน” วิจารณ์ “แม่ทอน” ซื้อเสียง? ด่า “ผู้ลี้ภัยคดีล้มเจ้า” ใช้ชีวิตเหมือนสามล้อถูกหวย “นักเลงคีย์บอร์ด” “ปวิน” โต้ทันควัน พร้อมเหน็บเจ็บแสบ “จอมเป็นได้แค่ bitchy old queen”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (19 เม.ย. 63) เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และผู้ลี้ภัยการเมือง โพสต์ข้อความระบุว่า

“ตลกมาก ผู้ลี้ภัยอย่าง จอม เพชรประดับ มาชี้หน้าด่าผู้ลี้ภัยคนอื่น ว่า เป็นนักเลงคีย์บอร์ด ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ลี้ภัยแต่แรกด้วยซ้ำ แต่หนีไปแอลเอ ทั้งๆ ที่ไม่มีหมายจับ ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ทางการเมือง เพราะคิดว่าจะมีโอกาสทางอาชีพที่ดีกว่าที่อเมริกา อันนี้เราไม่ว่ากัน แต่จะมาบอกว่า ผู้ลี้ภัยอย่างดิชั้นเก่งแค่หน้าคีย์บอร์ด เพียงเพราะดิชั้นไม่สนับสนุนพรรคส้มของเค้า ขอด่าคำเดียว ส้นตีนค่ะ

....เล็คเชอร์เรื่องเจ้าเท่าไหร่ ถูกสถานทูตตามกี่ครั้ง ทหารมาราวีที่บ้านกี่ที ถูกโจมตีถึงในบ้านตัวเอง เขียนบทความไปกี่ร้อยชิ้น เขียนหนังสือไปกี่เล่ม ให้สัมภาษณ์สื่อไทยและฝรั่งไม่หยุด แม้แต่สื่อที่มึงเคยทำมาก่อน แต่แน่นอน สำหรับผู้ลี้ภัยกระจอกอย่างอีจอม เท่าไหร่ก็ไม่พอ เป็นแก้วน้ำที่เติมไม่เต็ม ต้องทำให้มาก ต้องด่าให้มาก แล้วต้องด่าให้ถูกใจ ถ้าไม่ถูกใจคือเลวหรือยังทำไม่พอ

...แถมยังด่าอีกว่า ดิชั้นใช้ชีวิตเหมือนสามล้อถูกหวย อิ่มหมีพลีมัน ต้องอวดอาหารการกิน โทษนะคะ อันนี้เคยพูดแล้ว เป็นผู้ลี้ภัยต้องร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนขอความเห็นใจหรอคะ ดิชั้นมีงานประจำ มีเงินเดือนกิน มันเป็นไลฟ์สไตล์ปกติของดิชั้น ทำไมดิชั้นต้องแสร้งว่า ไม่มีอันจะกิน คือตรรกะประสาทแดก แต่เอาเถอะค่ะ สติปัญญาของอีจอมก็ได้แค่นี้ ไม่ไปไหน เป็นแค่ bitchy old queen แค่นั้นค่ะ

ก่อนหน้านี้ไม่นาน เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun
โพสต์ อธิบายความคิดของตัวเอง ที่วิจารณ์ “แม่ธนาธร” ซื้อเสียงว่า

“ทุกคนมีสิทธิสนับสนุนพรรคการเมืองที่รัก แต่การสนับสนุนต้องทำด้วยสติ แต่ก็ยอมรับว่า มันยากสำหรับบางคน โดยเฉพาะถ้าพรรคที่เรารัก มันมี cult of personality หมายความว่า คุณไม่ได้รักแค่พรรค แค่อุดมการณ์พรรค (ถ้ามี) แต่คุณรักตัวบุคคลด้วย คุณรักทักษิณ คุณรักยิ่งลักษณ์ คุณรักธนาธร หรือแม้แต่สลิ่มที่รักอภิสิทธิ์ อะไรก็ตาม พอมันเป็น cult of personality แล้ว ความเป็นจริงกับเหตุผลมันสวนทางกันได้บ่อยๆ

....ในฐานะนักวิชาการ สอนการเมือง ต้องย้ำอีกที การที่มีแม่นักการเมืองออกมาแจกเงิน ลูกชายเพิ่งถูกลงโทษทางการเมือง และยังประกาศจะต่อสู้ในสนามนอกสภา ควบคู่ไปกับการต่อสู้ในสภาที่อาศัยเรี่ยวแรงจากสมาชิกพรรคเก่า ในการต่อสู้ผ่านพรรคใหม่ นี่ไม่ต้องอธิบายอีกแล้วว่าลูกชายคนนี้ยังเป็น “นักการเมือง” เพียงแต่ทำงานนอกสภา

แม่เค้าเอาเงินไปแจกชาวบ้าน มันคือการซื้อเสียงรูปแบบหนึ่ง ใช่คำนี้มันแรง แต่มันคือคำนี้ คำนี้ลูกพรรคฟังแล้วปวดใจ แต่มันต้องฟัง เพราะนี่มันคือข้อเท็จจริงอย่างน้อยก็ในกรอบวิชาการ

...คนฟังไม่รู้เรื่อง ก็จับประเด็นผิดไปเถียง อาทิ ในสถานการณ์อย่างนี้ การแจกเงินคือสิ่งที่ประชาชนต้องการ ต่อให้เป็นการซื้อเสียงหรือไม่อะไรก็ตาม มันเป็นความจำเป็นที่คนอยู่ในสถานะช่วยคนอื่นได้ จะต้องออกมาช่วย เราต้องอย่าทำให้เป็นการเมือง บลา บลา บลา ดิชั้นไม่เถียงเรื่องการช่วยสังคม

แต่มันไม่ใช่ประเด็นที่ดิชั้นตั้งไว้แต่แรก นั่นคือการซื้อเสียง ดิชั้นเห็นใจคนจน แต่เราหลุดจากประเด็นซื้อเสียงไม่ได้ ความพยายามของคนที่เถียง คือ การเอาสองอย่างมารวมกัน คือ การซื้อเสียงกับความจำเป็นของชาวบ้าน เลยกลายเป็นว่า ดิชั้นไม่เห็นด้วยกับการขอความช่วยเหลือของชาวบ้าน กลายเป็นมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ มันคนละประเด็น ถ้าคุณอ้างว่าเป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์ แล้วคุณปฏิเสธโดยบอกว่า การกระทำของแม่นักการเมืองเป็นแค่การกุศล นั่นคือ คุณกำลังหลอกตัวเองและตอแหลต่อสาธารณชน
....ดิชั้นไม่มีปัญหาเลย ใครที่ชอบพรรคไหน ดิชั้นยังมีเพื่อนที่ชอบพรรคอนาคตใหม่ในเฟซบุ๊ก นั่นเป็นสิทธิของคุณและดิชั้นไม่เคยไปราวี ขอเพียงแต่อย่ามาสร้างความรำคาญในหน้าฟีดก็พอ สำหรับดิชั้น ขอลอยตัวกับการขึ้นสังกัด แม้ดิชั้นจะได้มีโอกาสพบคุณทักษิณหลายครั้ง แต่ก็ยังวิจารณ์พรรคเพื่อไทยเนืองๆ ล่าสุด ก็ยังวิจารณ์สุดารัตน์ เรื่องไม่ทำตาม social distancing ซึ่งก็ทำให้สมาชิกพรรคเค้าเคือง

ดิชั้นเคยชอบพรรคอนาคตใหม่ แต่เมื่อพรรคนี้ let me down ทางด้านอุดมการณ์ ดิชั้นก็ต้องวิจารณ์ในสิ่งที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง แน่นอน สมาชิกพรรคเค้าก็ไม่ชอบเช่นกัน แต่ถ้าดิชั้นต้องการให้เค้าชอบ โดยการมองข้ามการแจกเงิน อันนี้ดิชั้นอาย และถือว่าทรยศต่ออาชีพของตัวเองค่ะ”

รวมทั้ง “ปวิน” เคยเข้าไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์ของ ศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ อั้ม เนโกะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งปัจจุบันลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Aum Neko ถึงกรณี นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท มารดา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยซัมมิท ออโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด ซึ่งเป็นพี่สาวนายธนาธร ลงพื้นที่ชุมชนหลังวัดหนามแดง อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ มอบเงินช่วยเหลือ 500 ครัวเรือนๆ ละ 2,000 บาท พร้อมถุงยังชีพ ส่อว่ามีผลประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่

พร้อมตั้งคำถามว่า ถ้าพ่อเอ๋ “ปารีณา” ที่ตอนนี้ไม่ได้เป็น ส.ส. แล้ว ไปเดินแจกเงินสด 2,000 บาท ให้ชาวบ้านในพื้นที่เลือกตั้งที่ลูกสาวตนเองเป็น ส.ส. ดูสิคะ คุณคิดอย่างไร ?

หรือ ถ้าเป็น “พจมาน” เมีย “ทักษิณ” ทำจะเป็นอย่างไร

โดย นายปวิน โพสต์สั้นๆ ว่า “แม่อดีตนักการเมืองเดินแจกเงินชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ลูกชายนักการเมืองคนนั้นยังข้องเกี่ยวกับพรรคใหม่ นี่คือการซื้อเสียง!”

ภาพนายจอม เพชรประดับ จากแฟ้ม
อาจด้วยเหตุนี้ ทำให้วันนี้เฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ของ นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ซึ่งลี้ภัยหนีคดีความมั่นคงในประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์หัวข้อ “กูไม่อยากเป็นเหมือน “สามล้อถูกหวย””

เนื้อหาระบุว่า “เบื่อ รำคาญผู้ลี้ภัยการเมืองในต่างประเทศหลายคน ที่มีตรรกะวิธีคิดแบบหลุดโลก หลุดจากความเป็นจริง..

สรุปแล้ว ..การต่อสู้กับเผด็จการ...นิยม เพื่อให้ได้มาซึ่่งประชาธิปไตยในสังคมไทย จะสู้กันแบบไหน สู้แบบพวกมึงหรือ..? ที่วันๆ อยู่แต่หน้าคอมฯ ใช้คีย์บอร์ดเป็นอาวุธ อวดคุณภาพชีวิตที่อิ่มหมีพีมันอยู่ในต่างประเทศ สำเริงสำราญอยู่กับความศิวิไลซ์ที่เหมือนสามล้อถูกหวย ดื่มด่ำอยู่กับเสรีภาพ ความเป็นประชาธิปไตย เหมือนจะบอกว่า สมปรารถนาแล้วที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายลี้ภัยการเมืองไปอยู่ต่างประเทศได้ หากเพียงเพื่อบรรลุความปรารถนาเฉพาะตัวก็ไม่ว่ากัน

แต่หากยังออกมาพรั่งพรูวิธีการต่อสู้ด้วยหลักการสวยๆ ที่ย้อนแย้ง ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและบริบททางการเมืองไทยแล้ว อันนี้แหละคือความน่ารำคาญ น่าเบื่อหน่าย และน่าชิงชัง .... ซึ่งบางครั้งยอมรับว่ากูก็เป็น

แต่กูสำเหนียกอยู่เสมอว่า ลำพังวิถีชีวิตใหม่ที่ได้รับ วิธีคิด หรือวิธีการต่อสู้ผ่านโลกโซเชียล ไม่มีทางที่จะได้เห็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นจริงได้ในประเทศไทย เพราะปัจจัยหลักทั้งหมดอยู่ที่คนไทยในประเทศไทย

ใครจะหาว่า เป็นติ่งส้ม ก็ไม่ปฏิเสธ และจะแอ่นอกรับด้วย เพราะทั้งมึงและกูที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในต่างประเทศ รวมทั้งคนเสื้อแดง ประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย รวมพรรคเพื่อไทยเข้าไปด้วยก็ได้..อ้าว สู้กันมาเป็นสิบปีแล้ว แต่ก็ยังปลุกคนทั้งประเทศให้ “ตาสว่าง” ได้ไม่เท่ากับที่่ “ธนาธร-ปิยะบุตร” และนักการเมืองอีกหลายคนในพรรคอนาคตใหม่ทำ ทั้งๆ ที่ใช้เวลาแค่ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ

แม้จะมีข้อเคลือบแคลงสงสัยในยุทธศาสตร์ทางการเมืองของ “อนาคตใหม่-ธนาธร ปิยะบุตร” อยู่บ้าง แต่ก็ยังน้อยกว่า “เพื่อไทย-ทักษิณ-สุดารัตน์” แต่ก็ยังเต็มใจสนับสนุนสองกลุ่มการเมืองนี้ เพราะกูรู้อยู่เต็มอกว่า บริบททางการเมืองในสังคมไทยมันยากเหลือเกินที่จะให้เป็นไปเหมือนที่ใจกูอยากให้เป็น

ใช่กลางคืน กูฝัน แต่ในตอนกลางวัน กูจำเป็นต้องอยู่กับความเป็นจริง”

พร้อมกันนี้ “จอม” ยังนำเอาข่าวที่ลงใน YOUTUBE.COM
หัวเรื่อง “ปวิน-อั้ม” จวก เห็นแม่ธนาธรแจกเงิน ถาม “ติ่งส้ม” พ่อปารีณา-พจมาน แจกบ้างจะว่ายังไง... มาประกอบท้ายโพสต์นี้ด้วย

เรื่องนี้สรุปได้ไม่ยาก สาเหตุของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก็คือ “จอม” เป็น “ติ่งส้ม” ซึ่งเป็นที่รับรู้กันดีว่า มีอุดมการณ์แบบไหน ไม่เพียงเท่านั้น ยังคาดหวังสูงกับอดีตพรรคการเมืองสีส้มด้วย

และแน่นอน, ย่อมทนไม่ได้ ที่เห็นกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ในลักษณะเดียวกัน ออกมาวิจารณ์แกนนำพรรคในฝันของตัวเอง จนถูกโต้กลับอย่างเจ็บแสบจาก “ปวิน” ซึ่ง ไม่ได้ผูกติดพรรคการเมืองเหมือนอย่าง “จอม” นั่นเอง

ถือว่า เป็นศึก “แดงเดือด” อีกครั้งของ “แดงล้มเจ้า” ก็ว่าได้ ส่วนสะท้อนอะไรให้เห็นได้หรือไม่ ก็ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณเอาเองก็แล้วกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น