“อั้ม เนโกะ” จวกยับ “แม่ทอน” แจกเงินส่อมีผลประโยชน์การเมือง ระบุแม้ “ทอน” ไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ก็ยากปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับพรรคใหม่ เหมือน “ทักษิณ” กับ เพื่อไทย “ปวิน” เน้นๆ นี่คือ การซื้อเสียง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (17 เม.ย. 63) เฟซบุ๊ก Aum Neko ของ นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ อั้ม เนโกะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งปัจจุบันลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความระบุว่า
“การใช้เงินสดตัวเองแจกให้แก่ผู้ยากไร้ เป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่เวลาที่คนที่แจกเนี่ยดันมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองนี้สิ ที่มันน่าเคลือบแคลงใจ ลองจินตนาการดูว่า ถ้าพ่อเอ๋ ปารีณา (ไกรคุปต์) ที่ตอนนี้ไม่ได้เป็น ส.ส. แล้ว ไปเดินแจกเงินสด 2,000 บาท ให้ชาวบ้านในพื้นที่เลือกตั้งที่ลูกสาวตนเองเป็น ส.ส. ดูสิคะ คุณคิดอย่างไร?
หลายๆ พรรคการเมืองกลัวกันมากเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง พรรคการเมืองอย่างมาก ก็คือ แจกข้าวปลาอาหาร ช่วยงานชุมชน แต่แจกเงินสดๆ เลยนี้นานๆ จะเห็นสักทีค่ะ
วันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เห็นสดๆ ในข่าวว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใช้ได้เลยของ “ธนาคารทหารไทย” นางถือหุ้นมากกว่ากองทัพบกอีกคิดดู นางไปเดินแจกเงินสดให้ประชาชนแบบตรงๆ ลองคิดดูละกันว่า ถ้าเป็นพจมาน เมียทักษิณทำจะเป็นอย่างไร”
อย่างไรก็ตาม มีผู้เข้าไปแสดงความเห็น ที่น่าสนใจ อย่าง ชัย ทรงชัย กล่าวว่า ธนาธรถูกตัดสิทธิ์และไม่ได้เป็นส.ส.แล้ว ก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง จะมีผลประโยชน์ทางการเมืองอะไรอีกหรา
Aum Neko ตอบ ชัย ทรงชัย ทักษิณเองก็ไม่ได้เป็น ส.ส.หรือมีตำแหน่งอะไรทางการเมือง แต่ปฏิเสธได้มั้ยคะว่าทักษิณไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ธนาธรก็เช่นเดียวกันค่ะ
ชัย ทรงชัย ถาม Aum Neko ทักษิณบริจาคไม่เห็นมีใครด่า ยิ่งลักษณ์บริจาคก็ไม่เห็นมีการต่อว่า แม่ธนาธรบริจาคต้องมีผลประโยชน์ทางการเมือง มันใช่หรา?
Aum Neko ตอบ ชัย ทรงชัย บริจาคเงินให้องค์กร กับเอาเงินไปเดินแจกต่างกันนะคะ เวลาบริจาคเงินให้องค์กรมันคือเพื่อให้องค์กรสามารถนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ ทำงานอะไรเพื่อสังคมต่อได้ แต่นี้เงินใส่ซองเต็มกระเป๋าเดินถนนอ่ะคนละซองนะ
ชัย ทรงชัย ออกความเห็น คนละซองแล้วไง ดีซะอีกตรงกลุ่มเป้าหมายคนกำลังอดอยากท้องหิวหน้ามืดรับซองไปเข้าตลาดซื้อของกินกันตายได้ทันที ผมไม่เห็นจะต้องมากเรื่องในภาวะวิกฤตอย่างนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นไก่ในเข่งที่จิกตีกันขณะเข้าสู่โรงเชือด
Aum Neko ในเตตัสก็เขียนไงว่าดีกับประชาชน แต่แน่นอนไอ้พวกหน้ามืดแดกส้ม ถ้ามันเห็นฝั่งญาติประยุทธ์ทำบ้างรับรองมันต้องจั่วหัวว่า เตรียมตัวซื้อเสียงล่วงหน้าแน่ๆ แต่พอครอบครัวนายทุนธนาธรทำ โอ้ยดีอย่างนู้นอย่างนี้ วางถุงกาวลงบ้างนะ 😂😂😂😂...
ขณะที่ เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ก็โพสต์ถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า
“แม่อดีตนักการเมืองเดินแจกเงินชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ลูกชายนักการเมืองคนนั้นยังข้องเกี่ยวกับพรรคใหม่ นี่คือการซื้อเสียง!”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 63 นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานมูลนิธิไทยซัมมิทพัฒนา มารดาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แกนนำคณะก้าวไกล พร้อมคณะ ลงพื้นที่หมู่ 3 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อนำหน้ากากอนามัย พร้อมข้าวสาร และเงินช่วยเหลือชาวบ้านครอบครัวละ 2,000 บาท เข้าแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนพัฒนาหลังวัดหนามแดง ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 โดยมีชาวบ้านในชุมชนดังกล่าวกว่า 500 ครอบครัว มารอรับอย่างเป็นระเบียบ...
อะไรไม่สำคัญเท่ากับการถูกนำมาเชื่อมโยงกับประเด็นหาเสียงทางการเมือง เนื่องจากพื้นที่ที่ นางสมพร แม่ธนาธร เลือกลงไปแจกเงิน คือ พื้นที่ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่มี นายวุฒินันท์ บุญชู จากอดีตพรรคอนาคตใหม่ เป็น ส.ส. และสังกัดพรรคก้าวไกล ที่มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ พื้นที่ติดกันกับ ต.บางแก้ว ที่นางสมพร ลงไปแจกเงิน คือ ต.ราชาเทวะ ซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 5 นั้น นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ โดนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจกใบเหลือง และ กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อให้ศาลฯมีคำวินิจฉัยสั่งให้เลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 5 กันใหม่ และปัจจุบันคดีของนายกรุงศรีวิไล อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง...
ดังนั้น การที่ แม่ธนาธร ลงไปแจกเงินใกล้พื้นที่ที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ในอีกไม่นาน เป็นเรื่องที่ห้ามคิดว่า ไม่เกี่ยวข้องทางการเมือง ไม่ได้เช่นกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ประเด็นของ “อั้ม เนโกะ” และ “ปวิน” ก็นับว่าน่าคิด เพราะการแจกเงิน นอกจากรัฐบาลแล้ว คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง โดยเฉพาะถือว่ามีอิทธิพลต่อพรรคการเมืองนั้นด้วย ย่อมส่อให้เห็นไปในทางที่มีผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างหลีกไม่พ้น ต่อให้อยู่นอกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งก็ตาม
อย่าลืม แม้แต่รัฐบาลมีนโยบายประชานิยม ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าเลย นี่ไปแจกซะใกล้พื้นที่ที่จะมีการเลือกตั้งซ่อม ใครก็อดคิดไม่ได้ ว่า หวังผลการเมืองหรือไม่ ไม่ว่าหวังดีกับผู้เดือดร้อนจริงหรือไม่ก็ตาม