“สนธิ”ชี้อเมริกาหมดความน่าเชื่อถือหลัง “ทรัมป์”เห็นเงินสำคัญกว่าชีวิตคน เตรียมยกเลิกล็อกดาวน์เปิดกิจกรรมทางธุรกิจ แถมตัดเงิน WHO ส่วนจีนกำลังช่วยประเทศต่างๆ และไอเอ็มเอฟรับเงินหยวนเข้าตะกร้าเงิน ส่งผลเงินดอลลาร์ด้อยค่าลง ขณะเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำอย่างหนัก รวมทั้งไทย จีดีพีจะติดลบกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ เป็นวิกฤติอย่างหนัก รัฐบาลต้องช่วยประชาชนให้ทั่วถึง มาตรการเยียวขณะนี้ยังไม่เพียงพอ แนะจ่าย 5 พันบาททั้ง 23 ล้านครัวเรือน ให้ผู้ประกันตนเอาเงินประกันสังคมค้ำเงินกู้ได้ คนผ่อนรถผ่อนบ้านงดจ่ายค่างวด 6 เดือน ให้ใช้ไฟฟ้าฟรีไม่ใช่แค่บ้าน 5 แอมป์ กฟผ. กฟน. กฟภ.ต้องยอมเสียสละ อย่าเห็นแก่ได้ ชี้เงินฟื้นฟูเยียวยา 1.9 ล้านล้านยังน้อยไป ควรใช้ 3 ล้านล้าน รัฐบาลกู้ได้อยู่แล้ว เพราะนี่เป็นวิกฤคิครั้งประวัติศาสตร์ เลิกคิดเรื่องกำไรขาดทุน และหลังจากนี้ต้องใช้ชีวิตแบบพอเพียงอย่างจริงจัง
วันที่ 17 เม.ย. เวลา 09.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” และช่องยูทูป Sondhitalk ที่จะเล่าถึงแนวทางสำหรับมาตราการเยียวยาช่วงโควิด-19 ว่าจะทำอย่างไรให้ถึงมือทุกๆ คน รัฐบาลควรทำอะไรให้ประชาชนได้บรรเทาความลำบากกับภัยพิบัติครั้งนี้ หน่วยงานต่างๆ ของรัฐจะช่วยประชาชนได้อย่างไร รวมถึงสถานการณ์ในต่างประเทศ ตลาดทองคำจะไปทิศทางไหน ดอลลาร์จะเป็นเเบงก์กงเต็กอย่างที่เคยพูดหรือไม่ อีกทั้งจะถอดหน้ากากหน่วยงานที่หากินบนความเดือดร้อนของประชาชน
คำต่อคำ SONDHI TALK [17 เม.ย.63] : เยียวยาอย่างไร? ให้ถึงมือทุกคน
สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 17 เม.ย. พ.ศ. 2563 ก็เหมือนเช่นเคยทุกๆ วันศุกร์ ในช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้า หรือ 9 โมงกว่าๆ เรามาพบกันอาทิตย์ละครั้ง ศุกร์นี้ก็มีเรื่องราวที่หนีไม่พ้นเรื่องโควิด-19 แต่ว่าศุกร์นี้โควิด-19 จะมีอยู่หลายมิติ บางมิติท่านผู้ชมอาจจะไม่ทราบมาก่อน ตลอดจนที่สุดแล้ว โควิด-19 นั้นจะมีผู้เล่นในโลกใหญ่ๆ อยู่เพียงแค่ 2-3 คนเอง เดี๋ยวผมจะเล่าเบื้องหน้า เบื้องหลัง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง
แต่ก่อนที่เราจะเข้าสู่รายการนั้น ก็มีเรื่องราวต่างๆ ช่องทางในการรับชมที่ผมเคยพูดมาตลอดเวลาว่าช่องทางการรับชมนั้นเราสามารถรับชมได้ในกี่ช่องทาง ขอให้ท่านผู้ชมติดตามช่องทางในการรับชมก่อนนะครับ
วันนี้ผมจะมาบอกให้ฟังว่าช่องทางการติดต่อของ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK ได้ทางไหนบ้าง ทางแรกคือทางเฟซบุ๊ก ให้กด Like หรือกด Follow แล้วกดติดตาม แล้วเลือก See First ไปเลยในเพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เมื่อชมแล้วก็ช่วยกันแชร์ออกไปมากๆ เพื่อให้บางคนที่ยังไม่ได้อยู่ดูได้ความรู้กับสิ่งที่ผมพูด แล้วเดี๋ยวนี้เราก็ไลฟ์สดผ่านยูทูปเช่นกัน ให้เข้าไปใน YouTube ค้นหาคำว่า SONDHI TALK กด Subscribe เอาไว้ เปรียบเสมือนห้องสมุดเคลื่อนที่ รวบรวมทุกอย่างตั้งแต่รายการในอดีต "มองโลก มองเรา กับสนธิ" "บันทึกลับบ้านพระอาทิตย์" จนมาถึงรายการ "SONDHI TALK"
สำหรับแฟนรายการคนไหนอยากดูเนื้อหา ตลอดจนการถอดคำพูดเป็น text ก็ให้เข้าไปที่ www.sondhitalk.com เพราะจะรวมไว้ในเว็บไซต์โดยแยกเป็นแต่ละหมวดหมู่ครบทุกเรื่องทีเดียวครับ
สุดท้าย สำหรับท่านผู้ชมที่ไม่อยากเห็นหน้าผม แต่อยากฟังเสียงผม อยากฟังเรื่องราวที่ผมพูด ก็เข้ามาฟังที่ podcast ถ้าท่านที่ใช้ iPhone - iOS ก็เข้าไปที่แอปฯ podcast เมื่อกดเข้าไปแล้วก็ search คำว่า SONDHI TALK ก็จะมีให้ทุกรายการ ส่วนท่านผู้ชมที่ใช้โทรศัพท์ระบบ android ก็กดเข้าไปเหมือนกัน แต่จะมีคำว่า Podbean แล้วก็กดเข้าไป
ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่เราจะเข้าสู่รายการที่เราจะคุยกันในวันนี้ เผอิญผมเกิดมีความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่ง ท่านผู้ชม ผมอยากเปิดร้านขายของในโพสต์ SONDHI TALK เหตุผลก็คือว่า ตอนนี้ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เราต้องช่วยกันเพื่อให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ เพจ SONDHI TALK คุยทุกเรื่องกับสนธิ จะเป็นตัวกลางเปิดให้แฟนๆ ฝากร้านในเพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของใช้ เสื้อผ้าที่คุณผู้ชมไม่ได้ใช้แล้ว ไปค้นตู้เสื้อผ้ามา ไม่ได้ใส่แน่นอน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ได้ใช้ ให้มาลงในโพสต์ แล้วก็มีรูป แล้วก็เขียนว่าฝากร้านได้
ท่านผู้ชมที่เป็นแฟนๆ สามารถลงแล้วซื้อขายกันเองได้เลย เราจะเปิดเป็นตลาดกลางให้ มีพื้นที่ได้ขายของกันในช่วงที่หลายๆ คนอยู่บ้าน ส่วนของผมนั้น ผมจะไปค้นข้าวของเก่าๆ ของผม ตู้เสื้อผ้า ของใช้อะไรที่มีอยู่แล้วไม่ได้ใช้ ก็จะมาลงขายในโพสต์ มีทั้งเสื้อนอกเป็นสิบๆ ชุด ท่านผู้ชมก็อาจจะซื้อไปถ้าไม่รังเกียจ ก็เอาไปแก้ ปรับทรง เสื้อนอกแต่ละชุดนั้นก็ตัดมาเกินหมื่นทั้งสิ้น แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใส่แล้ว อายุมากแล้ว ไม่มีความจำเป็น แม้กระทั่งรองเท้าที่สมัยก่อนนั้นก็ต้องไปซื้อที่ต่างประเทศ หรือไปสั่งตัดที่ต่างประเทศ บางคู่ก็เป็นหมื่น วันนี้ก็จะเอามาขายกันในราคาที่ถูกมากๆ
กางเกง แม้กระทั่งนาฬิกาที่มีคนเอามาให้ผม ยังไม่เคยใส่ ก็ไม่ต้องห่วงสำหรับสินค้าของผม อาจจะรวมไปถึงพระบางชุดที่ผมมีอยู่ อย่างเช่น หลวงปู่ทวด ซึ่งเป็นหลวงปู่ทวดรุ่นแรก รุ่นพระอาจารย์ทิม ท่านเป็นคนปลุกเสก ผมมีอยู่เยอะ ที่มาที่ไปของพระนั้นวันหลังผมจะเล่าให้ฟัง แต่ว่าเป็นหลวงปู่ทวดที่แท้แน่นอน ซึ่งทั้งหมดนี้สำหรับในส่วนของผมแล้ว รายได้ที่ผมได้มา ผมจะเอาไปทำบุญให้หมด ผมเคยแจ้งกับท่านผู้ชมไว้แล้ว เท่ากับท่านผู้ชมได้เอาของไปใช้และยังได้ใส่ไปทำบุญด้วย
ในการลงรูปนั้น ท่านผู้ชมต้องเอาแผ่นกระดาษเขียนที่ป้ายชื่อ FB ของตัวเอง แล้วถ่ายรูปคู่กับของเท่านั้น ต้องถ่ายรูปคู่กับของนะครับ จึงจะมั่นใจได้ว่ามีของจริงๆ ในการขาย และในการทำแต่ละอย่าง ก็จะมีมิจฉาชีพ หรือผู้ไม่หวังดี เมื่อแฟนๆ คุยกันแล้ว ก่อนจะโอนเงินหรือสั่งของไป ให้คุยกันใน inbox ส่วนตัวกันเอง ผมไม่เกี่ยวแล้วนะครับ ให้ถ่ายรูปของว่าตรงตามที่ลงขายหรือไม่ เพื่อป้องกันพวกมิจฉาชีพมาหลอกให้โอนเงินแล้วไม่ส่ง ลักษณะนั้น เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบ เดี๋ยวจะให้ดูรูปนิดหนึ่ง นี่คือฝากร้าน ขอให้เพจนี้เป็นสื่อกลางในการฝากร้าน หรือแม้กระทั่งท่านผู้ชมที่บ้านทำขนมอะไร ทำอาหารอะไร อยากให้ใครซื้ออะไร ก็ส่งเข้ามาได้
รายการนี้ผมคิดว่าถ้าท่านผู้ชมเข้ามาเปิดตลาดฝากร้านซื้อขายกันเอง มันจะเป็นทางหนึ่ง เพราะว่ายอดฟอลโลว์ของเพจนี้ก็ตกประมาณ 1.1 ล้านกว่าคนแล้ว ก็คงต้องมีคนสนใจมาก อย่าลืมนะท่านผู้ชม มีของอะไรที่เหลือใช้ หรือที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ เก็บเอาไว้เกะกะสายตา เก็บเอาไว้ก็คงไม่ได้ใช้ ก็เอามาขายเถอะ บางทีการขายของก็อย่าไปคิดอะไรแพง อย่าไปคิดว่าเราซื้อของมาเท่านี้นะ ผมคิดว่าเป็นการโละสตอกไปก็แล้วกัน เสื้อตัวหนึ่งท่านอาจจะซื้อมา 2,000 บาท อาจจะขายแค่ 200 บาท ปล่อยไปเลย อย่าไปคิดอะไรมากมายนัก แล้วก็มาเริ่มชีวิตใหม่ด้วยการพอเพียง มีอะไรก็ใช้แค่นั้น ถ้าไม่มีความจำเป็นก็อย่าไปซื้อมัน ของแบบนี้อย่าไปเก็บไว้ในตัว
ส่วนของผิดกฎหมายนั้นห้ามเอามาลงนะครับ ผมต้องเตือนสักนิดหนึ่ง ของผิดกฎหมายถ้าท่านเอามาลงฝากขายนั้น ฝากร้าน ผมจะมีหน้าที่แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าท่านเอาของผิดกฎหมายมาฝากขาย เพราะฉะนั้นอย่าเอาของผิดกฎหมายมาฝากขายเป็นอันขาด
ท่านผู้ชมครับ ติดต่อกันเองนะครับ พูดคุยกันเอง ตรวจสอบให้แน่นอน ตกลงกันเองว่าจะโอนเงินกันอย่างไร จะส่งของกันอย่างไร ค่าส่งใครเป็นคนออก เจรจากันเอง ผมทำหน้าที่เป็นตลาดกลางให้ ไม่คิดค่าเช่า ไม่คิดอะไรทั้งสิ้น อะไรก็ไม่เอาทั้งสิ้น แต่ขอให้ท่านผู้ชมมีช่องทางที่จะออกไป
ท่านผู้ชมครับ ตอนนี้โลกเราก็ยังอยู่ในภาวะวิกฤตของโควิด-19 อยู่ ณ วันนี้ ที่ผมพูด ยอดผู้ติดเชื้อทะลุกว่า 2 ล้านคนแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตมีประมาณ 128,000 คน หรือใกล้ๆ จะ 150,000 คนแล้ว อย่างที่ทราบว่า America first ก็มา first จริงๆ ทั้งยอดผู้ติดเชื้อ ก็คือประมาณ 600,000 กว่าคน แล้วก็แนวโน้ม first ก็คือคนที่ตายในสหรัฐอเมริกานั้น เป็นอันดับ 1 ของโลกเช่นกัน ที่น่าเป็นห่วงก็คือ อันดับ 2-5 ก็ยังคงเป็นสเปน อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี ส่วนอันดับ 6 นั้นกลายเป็นอังกฤษ ซึ่งแซงจีนขึ้นมา วันนี้เขาถึงคาดคะเนว่าอังกฤษกำลังจะเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 แล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว ตรงนี้กำลังเป็นเรื่องที่ยังอยู่ในช่วงวิกฤต
ท่านผู้ชมครับ ในขณะนี้หลายๆ ประเทศกำลังพิจารณาที่จะเปิดบ้าน หรือเปิดการค้าขาย เยอรมนีเพิ่งจะประชุมกันเสร็จเรียบร้อย หาช่องทางที่จะให้คนเข้าไปทำธุรกรรม เดินหาซื้อของ หรือขายข้าวขายของ แต่ก็จะมีเงื่อนไขอีกเยอะแยะไปหมด ว่าจะต้องดูแลตัวเอง ต้องรักษาระยะห่าง อย่าว่าแต่เยอรมนีเลย ประเทศไทยก็เริ่มมีแล้ว จ.ชลบุรี ก็มีคนเริ่มเรียกร้องให้เปิดเมืองได้แล้ว ให้มีการใช้ชีวิตอย่างปกติ แต่ผมจะเล่าเรื่องๆ หนึ่งให้ฟัง สิงคโปร์
ท่านผู้ชม สิงคโปร์นั้นเคยได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าดูแลและรักษาเรื่องเชื้อหวัดโควิด-19 ได้ดีมาก จนกระทั่งผู้ที่ติดเชื้อแทบจะเป็น 0 และไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่จู่ๆ เกิดกระโดดขึ้นมาทันทีเลยโดยไม่มีเหตุไม่มีผลอะไรทั้งสิ้น เพิ่มมาอีก 300 กว่าคน นี่แปลว่าอะไร แปลว่าเรื่องของโควิด-19 มันไม่จบง่ายๆ ท่านผู้ชมอาจจะฟังคนโน้นพูด คนนี้พูด ว่าตอนนี้เริ่มดีแล้ว ตัวเลขของประเทศไทยดี ซึ่งก็ดีมาก เพราะว่าจากยอดติดเชื้อรายวันเป็นหลักร้อย ตอนนี้ติดเชื้อรายวันเป็นหลักสิบ ตัวเลขสองตัว 30 กว่า จำนวนคนตายก็น้อยลง ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก ของเราน่าจะอยู่อันดับ 30 กว่าๆ
แต่ผมจะเรียนให้ทราบนิดหนึ่ง ลักษณะของโรคระบาดเท่าที่ผมสัมผัสมา หรือไปพูดคุยกับผู้ที่เชี่ยวชาญมา โดยที่ท่านศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ นายแพทย์หลายท่านซึ่งชำนาญเรื่องโรคระบาด ท่านบอกกับผมว่า โรคระบาดมันเป็นคลื่น คลื่นแรกไปหมดแล้ว ยังจะต้องตามด้วยคลื่นที่สอง และตามด้วยคลื่นที่สาม
ดูอย่างประเทศจีนท่านผู้ชม ประเทศจีน คนที่ติดเชื้อในประเทศจีนไม่มีรายใหม่เกิดขึ้น หรือถ้ามีรายใหม่ก็น้อยมาก จำนวนคน 1,400 ล้านคน ถ้ามีรายใหม่เกิดขึ้นไม่ถึง 10 คน ไม่สำคัญ แต่ว่าในขณะนี้ประเทศจีนเริ่มมีคนติดเชื้อมากขึ้นบนพรมแดนระหว่างประเทศรัสเซียกับจีน คือใครล่ะ ก็คือคนจีนที่อยู่ในรัสเซียและกำลังเดินทางกลับมาที่ประเทศจีน และติดเชื้อเยอะมาก ประเทศจีนเลยต้องสร้างโรงพยาบาลฉุกเฉินกักกันที่พรมแดนที่เมืองๆ หนึ่งในจังหวัดเฮยหลงเจียง อยู่ที่มณฑลจี้หลิน ปรากฏว่าคนที่มานั้นเป็นคนจีนที่มาจากรัสเซีย ติดเชื้อมา ฉันใดฉันนั้น ตอนที่เรามีพวกคนที่ไปแสวงบุญ ไปประกอบกิจกรรมทางศาสนาอิสลามที่อินโดนีเซีย กลับมา 100 คน ติดเชื้อเกือบ 50-60 คน เช่นเดียวกัน เรากำลังจะรับคนที่กลับมาจากต่างประเทศ
ท่านผู้ชมครับ เราจะห้ามไม่ให้คนไทยกลับบ้านไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันนั้น เราต้องมีกำหนดเวลาในการห้าม อย่างเช่น ถ้าเราจะปิดประเทศ ไม่ให้เครื่องบินมาลงเลยเป็นเวลาถึง 30 เมษายน เราอาจจะต้องมีข้อยกเว้นในกรณีที่คนไทยอยู่ประเทศใดประเทศหนึ่ง แล้วเขาต้องการกลับบ้าน เราก็จะส่งเครื่องบินไป เจรจาเรียบร้อย ให้เขาไปลงทะเบียนกับสถานทูตไทยในที่นั้น หรือสถานกงสุลไทย เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ขอทราบจำนวนคน เมื่อขอทราบจำนวนคนแล้ว ซื้อตั๋ว หรือรัฐบาลจะส่งเครื่องบินไปรับก็แล้วแต่ ผมไม่สนใจ แต่ที่สำคัญก็คือว่า เป็นข้อยกเว้น เราจะเปิดน่านฟ้าของเราเฉพาะเครื่องบินลำที่เรารับคนเข้ามา เราจะไม่เปิดน่านฟ้าให้ต่างชาติบินเข้ามา เพราะในขณะนี้เริ่มมีแล้วนะครับท่านผู้ชม เริ่มมีกระบวนการที่คนต่างชาติที่ติดเชื้อแล้วอยากจะบินมารักษาตัวที่ประเทศไทย เพราะว่ารักษาฟรี ไม่เหมือนที่อื่นนะ
อย่างที่เกาหลี ถ้าท่านเป็นต่างชาติ ไม่ใช่คนเกาหลี ถ้าติดเชื้อ เข้าไปรักษาต้องเสีย ต้องมีเงินอยู่ประมาณ 50,000-60,000 บาท ถ้าเข้าห้องไอซียูต้องเสียประมาณ 2 ล้านบาท ผมเข้าใจว่าที่ประเทศไทยก็เริ่มมีกติกาแบบนี้เช่นกัน ว่า ถ้าสมมุติคนฝรั่งต่างชาติ หรือคนต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย ถ้าจะเดินทางมาทำงานในประเทศไทย หรือจะเดินทางกลับมาประจำการที่ประเทศไทยเหมือนเดิม หนึ่ง จะต้องมีประกันสุขภาพ สอง จะต้องมีวงเงินประมาณ 2 ล้านบาท ครอบคลุม เพื่อที่รัฐจะไม่ต้องสูญเสียเงินไป สำหรับคนไทยรักษาฟรี เพราะฉะนั้นแล้วให้ระวังเรื่องนี้ ยังไม่จบนะท่านผู้ชม แล้วเดี๋ยวผมจะเล่าต่อว่าทำไมมันถึงยังไม่จบ
ในขณะนี้ประเทศที่น่าเป็นห่วงที่สุดในขณะนี้คือประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ผมจำเป็นต้องพูดถึงประธานาธิบดีของเขา หรือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งผู้ชมหลายๆ ท่านก็เป็นสาวกประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ชอบต่อว่าผมว่าผมอวยจีน ต่อว่าอเมริกา แต่ว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นเป็นความจริง ไม่ใช่ความเท็จ เดี๋ยวผมจะเอาโพสต์อันหนึ่งขึ้นให้ดู
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์ชัดเจน บอกว่า I'm fine, everything's fine ทุกอย่างปกติดีหมด คนติดเชื้อของเราเท่ากับศูนย์ 29 มีนาคม ห่าง 1 เดือนไปสัก 2-3 วัน ก็ปรากฏว่านายทรัมป์ออกมาให้สัมภาษณ์ใหม่ นายทรัมป์บอกว่า เราอาจจะต้องยอมให้คนอเมริกันตาย 1-2 แสนคน อ้าว แล้ว 1 เดือนที่แล้วที่คุณบอกว่าไม่มีอะไรมันคืออะไร แสดงว่านายทรัมป์โกหก นายทรัมป์ไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อไม่ได้ทำอะไรแล้ว ก็มีผู้สื่อข่าว CBS คนหนึ่ง ผู้หญิง ในวันแถลงข่าวประจำของนายทรัมป์ เขาก็ลุกถามนายทรัมป์ว่า เดือนกุมภาพันธ์ ท่านไม่ได้ทำอะไรเลยเหรอ ท่านไม่ได้ทำอะไรเลย ก็คือรู้แล้วว่าปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แต่ทำไมไม่ทำอะไรเลย นายทรัมป์ก็ทะเลาะกับผู้สื่อข่าวคนนั้น ถึงกับตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์ ถึงขั้นชี้หน้าด่าเลย ว่าเธอเหลวไหล สำนักข่าวของเธอ CBS : Columbia Broadcasting System เป็นสำนักข่าวเฟกนิวส์ ก็คือว่า ผู้นำ ในการนำประเทศ ถ้ามีวิกฤต มีปัญหาแล้ว ถ้าผู้นำไม่ยอมรับ หมายความว่าวันนั้นคือการล่มสลายของประเทศ
ท่านผู้ชมครับ จากการที่ไม่ยอมรับ ก็เลยเกิดวิกฤตขึ้นมา เมื่อเกิดวิกฤตขึ้นมาแล้ว นายทรัมป์ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น สนใจอยู่อย่างเดียวว่า เมื่อไรจะเปิดประเทศได้ เมื่อไรจะให้คนเข้ามาทำงานได้ ถึงกับเคยพูดว่าวันอีสเตอร์ เมื่อประมาณวันสงกรานต์ที่ผ่านมานี้ อเมริกาจะเปิดประเทศ จะกลับมาค้าขายเหมือนเดิม แต่ว่าโดนแอนโธนี ฟอซี ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการควบคุมโรคระบาดในอเมริกา คัดค้าน แล้วก็ปรากฏว่านายแอนโธนี ฟอซี ก็ไม่ได้ปรากฏอยู่ในทีมงานของนายทรัมป์อีกต่อไป คือนายทรัมป์เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เห็นแก่ประโยชน์ในการค้า ชีวิตนายทรัมป์ไม่ได้คิดอะไร คิดแต่ขอให้หุ้นขึ้น วันนี้หุ้นตกลงมาจนกระทั่งดิ่งเหว นายทรัมป์กำลังกลุ้มใจ และยิ่งใกล้วันเวลาที่จะเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นนายทรัมป์ต้องหาแพะรับบาป นั่นคือที่มาว่าทำไมนายทรัมป์ไปฟาดงวงฟาดงากับองค์การอนามัยโลก (WHO) แล้วก็ไม่ได้ฟาดงวงฟาดงาแบบตรงไปตรงมา อ้อม ไปเตะจีน หาว่า WHO ไปร่วมมือ ไปสมรู้ร่วมคิดกับจีนในการที่จะไม่รายงานข้อเท็จจริงออกมา ก็คือนายทรัมป์พาล ตอนนี้กำลังเริ่มเป็นอันธพาลอย่างเต็มตัวแล้ว ทั้งๆ ที่ข้อผิดพลาดอยู่ที่นายทรัมป์คนเดียวในขณะนี้ เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่าในขณะนี้การเมืองของโควิด-19 ระหว่างอเมริกากับจีนยังคงอยู่เหมือนเดิม นายทรัมป์ถึงกับบอกว่าจะตัดเงินอุดหนุนสนับสนุน WHO ซึ่งตกประมาณปีละ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งผู้รู้บางคนเขาก็ส่งข่าวออกมา แจ้งว่า คุณพูดอะไร ปีที่แล้ว 400 ล้านเหรียญ คุณก็ยังไม่ได้จ่ายนะ ก็คือว่า ปีที่แล้วคุณยังชักดาบอยู่ ยังไม่ได้จ่ายอะไรทั้งสิ้น
ผมคิดว่า 400 ล้านเหรียญ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะผมเชื่อว่าถ้านายทรัมป์ไม่ให้จริงๆ แล้ว WHO เดือดร้อน ผมคิดว่าหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป หรือเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน พร้อมจะลงขันแล้วช่วย WHO แทนนายทรัมป์ เพราะฉะนั้นท่านผู้ชมจะเห็นว่า ด้วยลักษณะแบบนี้ ท่านผู้ชมจะเห็นบทบาทการนำของโลกของประเทศสหรัฐอเมริกาภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์นั้น ยิ่งวันยิ่งตกต่ำไปเรื่อยๆ ยิ่งวันยิ่งตกต่ำไปเรื่อยๆ
ท่านผู้ชมครับ ผมจะเอาอะไรให้ดูสักอย่างหนึ่ง IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP โลก กลายเป็น -3.0 จากเดิมคาดการณ์ไว้ว่า 3.3 เพียงไม่กี่เดือนเอง เดือนกว่าๆ เองมั้ง กลายเป็น -3 จาก 3.3 กลายเป็น -3 แล้วบอกว่าครั้งนี้รุนแรงกว่าวิกฤตซับไพรม์ปี 2551-2552 จำได้ไหมครับ ซับไพรม์ที่ผมอธิบายให้ฟังคราวที่แล้ว ว่าคือการเอาอสังหาริมทรัพย์ไปกู้ธนาคาร แล้วธนาคารก็เอาอสังหาริมทรัพย์ก้อนนี้ไปขายต่อ เอาไปขายต่อเพราะว่าราคาบ้านมันขึ้น ก็จะมีคนที่โง่เข้ามารับซื้อต่อไป คนขายมือแรกก็กำไรต่อไป ขายต่อ 3 ทอด 4 ทอด จนกระทั่งสถาบันการเงินเจ๊ง
เขาคาดอย่างนี้ กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว GDP อเมริกา เศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลกนะ จะ -5.9 ท่านผู้ชม -5.9 จะขนาดไหน ยูโรโซน -7.5 เยอรมนี -7 ฝรั่งเศส -7.2 อิตาลี -9.1 ญี่ปุ่น -5.2 อังกฤษ -6.5 เท่ากับว่าประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ในยุโรปและอเมริกานั้น ติดลบหมดเลย กลุ่มประเทศเอเชีย และอาเซียน ไทยนั้น -6.7 GDP -6.7 ก็หมายความว่าไม่มีกิจกรรมอะไรเลยในการค้าขาย ส่วนจีน +1.2 ทำไมจีนถึง +1.2 จีนปีนี้คาดการณ์ว่าจะโต 6.7 เมื่อ +1.2 เท่ากับว่าจีนลบไปแล้ว 5.5 เศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกลดไปถึง 5.5 ต้องถือว่าใหญ่สาหัสสากรรจ์ ฮ่องกง -4.8 ไต้หวัน -4 สิงคโปร์ -3.5 เกาหลีใต้ -1.2 กัมพูชา -1.6 ไปเรื่อยๆ สรุปแล้ว 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ติดลบหมด เมื่อติดลบหมดแล้ว ท่านผู้ชมรู้ไหมว่านัยมันแปลว่าอะไรบ้าง
ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่เราจะไปพูดถึงนัยของโลก เรามาพูดถึงนัยของจีนกับอเมริกาก่อน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าอเมริกากับจีนทะเลาะกันทุกเม็ด อเมริกาต้องการป้ายสีจีนอย่างหนัก ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติที่มีสมาชิกอยู่ 15 คน ตัวแทนอเมริกา ทูตอเมริกาประจำสหประชาชาติ ยื่นข้อเสนอในวาระการประชุม บอกว่าให้ระบุไปด้วยว่า ไวรัสโควิด-19 นั้นมาจากประเทศจีน ปรากฏว่า ท่านผู้ชมรู้ไหม จาก 15 ประเทศ 14 ประเทศไม่เห็นด้วยกับวาระนี้ เท่ากับว่ามีอเมริกาโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวที่ต้องการทำเช่นนี้ อีก 14 ประเทศเขาไม่เล่นด้วยเลย นี่คือการตบหน้าอเมริกาอย่างใหญ่
อันที่สอง จำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ ท่านผู้ชมจะได้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ IMF คือสถาบันการเงินที่ดูแลกิจการการเงินของทั่วโลก 185 ประเทศ IMF จะมีข้อมูลหมด IMF จะมีตะกร้าเงิน ในตะกร้าเงินของ IMF มีเงินอะไรบ้างที่ใช้กัน มีดอลลาร์ มีปอนด์ มีเยน มียูโร ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าตอนนี้เงินหยวนของจีนตอนนี้ IMF ตัดสินใจเอามาใส่ในตะกร้าเงินแล้ว
เมื่อเขาตัดสินใจเอาเงินหยวนมาใส่ในตะกร้าเงิน แสดงว่าคนที่ใช้ตะกร้าเงินในโลกนี้มีทางเลือกมากขึ้นแล้ว ไม่ใช่แค่ยูโร ไม่ใช่แค่เงินเยน หรือไม่ใช่แค่เงินปอนด์ หรือไม่ใช่แค่เงินของยูเอสดอลลาร์ กลับกลายเป็นเงินหยวน แปลว่าอะไร แปลว่าอนาคตเงินดอลลาร์กำลังจะกลายเป็นแบงก์กงเต็กจริงๆ แสดงว่าค่าเงินดอลลาร์จะเริ่มอ่อนแล้ว มันจะเริ่มอ่อนไปเรื่อยๆ
ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมเอาความจริงมาพูด แต่ท่านผู้ชมต้องรับรู้เรื่องนี้เอาไว้ประดับตัว แล้วจะได้รู้ว่าประเทศไทยจะไปอย่างไร ท่านผู้ชมจะได้เตรียมตัวได้ถูก ซึ่งประเดี๋ยวผมจะพูดเรื่องประเทศไทยให้ฟังตอนท้าย รวมถึงระบบการเยียวยาที่ผมขอเสนอกับรัฐบาลอีกชุดหนึ่งว่าน่าจะเยียวยาแบบนี้ดีไหม ส่วนดินน้ำลมไฟจะเชื่อหรือไม่เชื่อผม ผมก็ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น
ท่านผู้ชมสังเกตไหมว่าราคาทองขึ้นตอนนี้ ทองขึ้นเพราะว่ามูลค่าดอลลาร์มันตก เงินก็ขึ้น ทองก็ขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วทองจะขึ้นตลอด ไม่หยุด ท่านผู้ชมก็ว่าดีๆ ไปไล่ซื้อทองกัน อย่าเพิ่งซื้อ ท่านซื้อแล้วจะขายไม่ได้ เพราะร้านทองไม่มีเงินซื้อ เหตุผลเพราะอะไร เพราะไม่มีการติดต่อระหว่างประเทศ เครื่องบินก็ไม่มีเข้ามา จะขนทองออกก็ขนไม่ได้ เมื่อเราส่งทอง พ่อค้าทองเอาทองออกไป ทางต่างประเทศเขารับทองแล้วเขาก็จ่ายเงินเช็คเข้ามาให้พ่อค้าทองในประเทศไทย พ่อค้าทองในประเทศไทยก็เอาเงินก้อนนี้มาซื้อทองต่อ แต่ตอนนี้ช่องทางการรับซื้อจากท่าน แล้วจะขายออกไป มันไม่มี ถูกปิดหมด เพราะฉะนั้นท่านผู้ชมอย่าไปประหลาดใจว่าตอนนี้ทำไมร้านทองส่วนใหญ่จะปิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านตามต่างจังหวัด ปิดกันเป็นแถวเลย เพราะว่าไม่มีเงินซื้อทอง เพราะซื้อแล้วไม่รู้จะขายใครต่อ ก็จะมีบางเจ้าเท่านั้นเองในกรุงเทพมหานคร แต่ก็จะอยู่อย่างนี้ได้อีกไม่นาน
ท่านผู้ชมจำไว้นะครับ เมื่อไรดอลลาร์อ่อนและดอลลาร์มูลค่าของเงินมันจะตกไปเรื่อยๆ มันก็จะเป็นเหตุที่ทำให้ทองต้องขึ้น และแนวโน้มดอลลาร์จะตกไปเรื่อยๆ ท่านผู้ชมครับ มีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเงินตราต่างประเทศเขาพูดชัดเจน ทั้งต่างประเทศ และทั้งคนไทย ทั้งนักวิเคราะห์ นักวิจัยที่เชี่ยวชาญในเรื่องต่างประเทศ เขาบอกว่าการที่เอาเงินสกุลหยวนเข้าไปใส่ตะกร้าเงินของ IMF นั่นคือจุดเริ่มต้นของจุดจบของเงินดอลลาร์ เพราะฉะนั้นแล้วตอนนี้สถานภาพของอเมริกากำลังอยู่ในลักษณะที่เลือดเข้าตา เหงื่อท่วมกาย ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าวันนี้อเมริกา อาทิตย์ที่แล้วผมบอกว่ามีคนตกงาน 10 กว่าล้านคน วันนี้รวมไปแล้ว 22 ล้านคน 22 ล้านคนแปลว่าอะไร ก็แปลว่าคนที่มีบ้านอยู่ 22 ล้านครัวเรือน ไม่มีเงินผ่อนบ้านแล้ว เมื่อไม่มีเงินผ่อนบ้าน ก็ต้องถูกยึดบ้านไป เพราะฉะนั้นแล้วปัญหาใหญ่ของอเมริกาตอนนี้มันร้ายแรงกว่าที่นายทรัมป์คิดมาก และมันก็จะเป็นตัวที่ฉุดเศรษฐกิจโลกทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉุดจีน ฉุดยุโรป ให้โซซัดโซเซตามอเมริกาไปด้วย รวมทั้งฉุดญี่ปุ่น
โควิด-19 ในญี่ปุ่นขณะนี้กำลังเข้าขั้นค่อนข้างวิกฤต ชินโซ อาเบะ ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ ประชาชนออกมารุมด่าชินโซ อาเบะ แล้วต้องการไล่ชินโซ อาเบะ ออกจากนายกรัฐมนตรี ญี่ปุ่นซึ่งเคยเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนในเอเชีย รองมาจากประเทศจีน วันนี้เดี้ยงไปหมดแล้วท่านผู้ชม เกาหลีใต้ก็เริ่มจะดีขึ้นหน่อย แต่ก็ยังไม่สามารถกลับไปสู่ระดับปกติ ไต้หวันก็เช่นกัน ฮ่องกงก็เหมือนกัน
ที่ผมพูดนี้ ผมพูดถึงประเทศที่เป็นเครื่องจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และท่านผู้ชมครับ ประเทศไทยจะเหลือเหรอ นี่ผมพูดกันตรงไปตรงมา ผมไม่ต้องปิดอะไรทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่ผมจะพูดวันนี้ จะอธิบายบทบาทของประเทศไทยต่อไป และบทบาทของประเทศไทยต่อไปก็คือการทำตัวของพวกเราซึ่งอยู่ในประเทศไทย เราควรจะทำตัวอย่างไรเพื่อรองรับสิ่งต่างๆ เหล่านี้
เอาล่ะ เราพูดถึงอเมริกาแล้ว เรามาพูดถึงจีนบ้าง จีนวันนี้ ขณะนี้ ผมอยากจะอ้างอิงคำพูดของท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นิดหนึ่ง ไม่ได้เป็นการอวยจีนหรอก แต่ว่ามันเป็นสัจธรรมที่เขาพูดมา และผมก็อยากให้คำพูดนี้ สัจธรรมนี้ ให้ท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้จำสัจธรรมนี้เอาไว้ สี จิ้นผิง พูดว่า ชีวิตของคนจีนสำคัญมาก เศรษฐกิจไม่สำคัญ เศรษฐกิจพังล่มสลายอย่างไร ช่างมัน แต่ขอให้รักษาชีวิตคนได้ ฉันใดฉันนั้น ถ้าเรายึดมั่นว่าชีวิตคนไทยจะยากดีมีจน จะเป็นกรรมกรอยู่ข้างถนน หรือจะเป็นเจ้าสัวหมื่นล้าน แสนล้าน ล้านล้าน เท่ากันหมด ก็คือพอตายแล้วก็ทำอะไรไมได้แล้ว คนที่ใกล้ตาย คนที่ติดเชื้อพวกนี้ วันนั้นคุณกำลังพะงาบๆ คุณจะตาย คุณมีปัญญาที่จะเอา statement แบงก์ ว่าคุณมีเงินอยู่ 2,000-3,000 ล้าน แล้วคุณภูมิใจกับมันหรือเปล่า คุณจะเอาปริญญาบัตรมากอด แล้วมีความรู้สึกว่า เออ คุณมีปริญญาบัตรนะ เพราะว่าเมื่อคุณตายไปแล้ว มันมีแต่ความว่างเปล่า นี่คือกระบวนการช่วยชีวิตคน
ท่านผู้ชมครับ ผมจะเล่าตัวอย่างๆ หนึ่งให้ฟัง แล้วผมจะชี้ให้ดูว่าความคิดของคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อเมริกา อเมริกากำลังมีข้อถกเถียงกัน รัฐเทกซัส รองผู้ว่าการรัฐเทกซัสให้สัมภาษณ์ชัดเจน บอกว่าเราต้องเปิดธุรกิจ เราไม่เปิดไม่ได้ เพราะว่าธุรกิจสำคัญมาก คนเครียด คนฆ่าตัวตาย คนลำบากมากเพราะธุรกิจไม่เปิด ไม่มีเงินทองใช้ ถ้าคนแก่ในรัฐเทกซัสจำเป็นต้องตายเพราะไม่ได้รับการรักษา ก็ไหนๆ ก็แก่แล้วก็ตายไปดีกว่า เพื่อเสียสละให้ชาติ
ท่านผู้ชม มันเป็นไปได้อย่างไร รองผู้ว่าการมลรัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เชิดชูในเรื่องระบอบประชาธิปไตย ที่ไม่ว่าจะเป็นโจชัว หว่อง หรือธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือหลายๆ คนที่อยู่ในประเทศไทย ตอนนี้เชิดชูเหลือเกินว่าต้องประชาธิปไตยๆ มันพูดออกมาอย่างนี้ว่า คนแก่ในรัฐเทกซัสต้องเสียสละชีวิต ยอมตายไปเลยเพื่อให้ธุรกิจเปิดได้ แสดงว่าประเทศอย่างประเทศอเมริกา เป็นประเทศที่บูชาเงินเป็นพระเจ้า ชีวิตคนไม่มีความหมาย ขอให้กูมีกำไร ขอให้กูค้าขายได้ กูพอใจแล้ว
ท่านผู้ชมครับ ท่านสาวกประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหลาย ประเทศอย่างนี้ ท่านยังเป็นสาวกเขาอยู่อีกหรือ
ส่วนจีนล่ะ ทำอย่างไร จีนวันนี้ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เร่งระดมช่วยเหลือประเทศทั่วโลกที่อยู่ในวิกฤตไวรัสโคโรนา (โควิด-19) จีนช่วยประเทศในโลกนี้ไปแล้ว 82 ประเทศ ช่วยหมด ยุโรปตะวันออก เซอร์เบีย ฮังการี เชก สโลวาเกีย จีนช่วยหมด รัสเซียก็ช่วย อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส อังกฤษ จีนช่วยหมด มาทางเอเชีย ช่วยหมด แอฟริกา เอธิโอเปีย เคนยา ยูกันดา จีนช่วยหมด แม้กระทั่งอเมริกา ท่านผู้ชมรู้ใช่ไหม อเมริกา คือผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก คูโอโม เขาขอความช่วยเหลือไปจากนายทรัมป์ ซึ่งเป็นประธานาธิบดี ว่า เขาขอเครื่องช่วยหายใจ นายทรัมป์ไม่ให้ บอกว่าไม่มี ในที่สุดนายคูโอโมต้องติดต่อกับจีนโดยตรง ขนเงินไปซื้อจากจีน จีนต้องส่งมาให้ 1,000 เครื่อง นายทรัมป์โกรธมาก คุณทำอย่างนี้ได้อย่างไร โน่นนี่นั่น
หลังจากนั้นแล้ว ผู้ว่าการมลรัฐทางตะวันตก อย่างเช่น แคลิฟอร์เนีย วอชิงตัน ออริกอน เขานั่งคุยกัน เพราะว่าในอเมริกา กฎหมายรัฐธรรมนูญเขาให้อำนาจผู้ว่าการของท้องถิ่นมีอำนาจที่ประธานาธิบดีเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ในการปกครองท้องถิ่น เขาคุยกันเลยว่าเขาจะมาจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องวิกฤตนี้ และเขาจะตกลงกันเอง ว่า 3 รัฐนี้จะเริ่มเปิดการค้าขายกันอย่างไร จะเริ่มให้คนผ่อนคลายกันอย่างไรบ้าง ทางตะวันออกก็มี มีนิวยอร์ก มีนิวเจอร์ซีย์ มีเดลาแวร์ มีคอนเนตทิคัต และอีกรัฐหนึ่งผมจำชื่อไม่ได้ 5 รัฐก็กำลังรวมตัวกัน นายทรัมป์นี่กระโดดเหมือนแมวถูกน้ำร้อนเลย เหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวก คุณทำอย่างนี้ได้อย่างไร คุณไม่มีอำนาจ โน่นนี่ สรุแล้วประเทศอเมริกาตอนนี้ ความวินาศฉิบหายของประเทศอเมริกา วินาศฉิบหายเพราะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วันนี้นายทรัมป์กลายเป็นตัวตลก ตัวตลกที่สุดในโลกนี้ ที่ไม่มีใครเคารพนับถือเลยแม้แต่นิดเดียว
เอาล่ะ จีนเองมีปัญหาไหม จีนก็มีปัญหา ในขณะนี้ เพราะว่าจู่ๆ ยอด GDP ตั้งไว้ 6.7 แล้วตกลงมาเหลือ 1.2 หายไป 5 จุดกว่าๆ เป็นเรื่องใหญ่แล้ว ที่สำคัญที่สุด ตอนนี้คนว่างงานจีนมีมาก แล้วคนว่างงานจีนอีกประเภทหนึ่งที่มีปัญหามาก และรัฐบาลจีนกำลังปวดหัวมาก ก็คือพวกที่อยู่ต่างรัฐ ต่างมณฑล แล้วเข้ามาในเมืองใหญ่ๆ เพื่อมาทำงานกัน ลูกจ้างพวกนี้ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า ไม่มี safety net ไม่มีเครือข่ายจะป้องกันทางสังคม อย่างเช่น ไม่มีประกันสังคม ไม่มีโน่นไม่มีนี่ เพราะฉะนั้นพวกนี้จู่ๆ พอตกงานแล้ว ข้าวก็ไม่มีกิน เงินก็ไม่มี ไม่สบายก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน คนพวกนี้มีเกือบ 100 ล้านคน ท่านผู้ชมครับ จีนไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหา จีนก็มีปัญหา
นอกจากมีปัญหาในเรื่องโควิด-19 จีนก็ไปปะทะกับเวียดนาม ในเรื่องของหมู่เกาะในทะเลจีนใต้อีก ไปจมเรือประมงเวียดนาม ฟิลิปปินส์ซึ่งเคยเชียร์จีน ก็กระโดดเข้ามาจับมือกับเวียดนามอีก ก็ต่อต้านจีน เพราะฉะนั้นไม่มีใครมีความสุข จีนกักน้ำอยู่ที่้ต้นน้ำ ในการสร้างเขื่อน แล้วไม่ให้น้ำไหลลงมาสู่แม่น้ำโขง ก็เลยทำให้ประเทศไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศลาว ประเทศพม่า ตลอดจนประเทศเวียดนาม และเขมร ต้องแห้งแล้ง ซ้ำเติมภัยแล้งเข้าไป ทุกคนก็ก่นด่าจีนเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วไม่ใช่ผมมาอวยจีน จีนมีปัญหาอย่างนี้จริงๆ หลายอย่างในขณะนี้ เพราะฉะนั้นท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่า ในขณะนี้ ในโลกนี้ ถ้าพูดถึงตัวละครที่สำคัญในเรื่องวิกฤตโควิด-19 ก็หนีไม่พ้นจีนและอเมริกา อเมริกาตอนนี้อย่างไรก็ต้องฟาดจีน แล้วผมจะอธิบายอีกสักศุกร์หนึ่ง ผมจะพูดว่าทำไมอเมริกาถึงกลัวจีนมาก ผมมีคำตอบให้หมดแล้ว แต่ไม่ใช่วันนี้ วันนี้เราเอาเฉพาะในเรื่องพวกนี้ไปก่อน
ท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดเรื่องราวต่างๆ ของโลกมันเป็นอย่างนี้ อิตาลี การตายลดน้อยลง แต่คนติดเชื้อก็ยังเพิ่มขึ้น สเปน คนตายกลับเพิ่มมากขึ้น สิงคโปร์ จากทำมาได้เกือบ 0 กลับกลายเป็นจู่ๆ กระโดดขึ้นมาเป็น 300 กว่าราย ทุกประเทศจะปล่อยการ์ดที่ตั้งไว้ให้มันตกไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้วท่านผู้ชมต้องรู้ว่าโควิด-19 เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก และก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาบอกว่า แล้วมันจะหายไป
ท่านผู้ชมครับ จำคำพูดผมเอาไว้ดีๆ ชีวิตพวกเรา ไม่ว่าจะเปิดทำการ ต่อไปจะมีโน่นมีนี่ จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ท่านผู้ชมตามผมมา ถ้าท่านผู้ชมมีร้านอาหารร้านหนึ่ง ท่านผู้ชมมีโต๊ะอยู่ 30 โต๊ะ พรุ่งนี้เปิดที่เซ็นทรัลเวิลด์ คนเดินเข้าไปกิน ท่านก็ต้องกลัวว่าคนจะติดเชื้อ ท่านก็ต้องแบ่งโต๊ะหนึ่ง แล้วก็ห่างอีกโต๊ะหนึ่งไป 2 เมตร จาก 30 โต๊ะที่ท่านตั้ง ท่านจะตั้งได้ไม่เกิน 10 โต๊ะ แปลว่าอะไร แปลว่าจาก 100 เปอร์เซ็นต์ จาก 100 คนที่เคยมากินร้านท่าน มีคนเข้ามากินแค่ 10 คน หรือสูงสุดไม่เกิน 20 คน หายไป 80 คน แล้วผมถามว่าเงินที่ท่านเคยได้ 100 บาท ท่านได้แค่ 20 บาท และนี่คือผลของโควิด-19 และยังไม่นับว่าเชื้อมันจะปะทุอีกเมื่อไร เพราะว่าตราบใดถ้าเรายังไม่มีวัคซีนเข้ามาเพื่อรักษา ป้องกันการติดเชื้อ ชีวิตเราจะต้องเป็นอย่างนี้ตลอดไป เพราะฉะนั้นแล้ว เราค่อยมาดูกันว่าแล้วเราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไร
ประเทศไทยของเราในขณะนี้ นี่ผมมาถึงประเทศไทยแล้วนะ ประเทศไทยในขณะนี้ ตัวเลขดูเหมือนจะดี ท่านผู้ชมไปดูภูเก็ตสิ ภูเก็ตทั้งจังหวัดเลยนะ ต้องปิดจังหวัด เผลอๆ ภูเก็ตจะต้องทุ่มเทถึงขนาดที่เรียกว่าล็อกดาวน์ เคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ไม่ให้ใครออกนอกบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าภูเก็ต เชื้อนั้นมาจากชาวต่างชาติที่อยู่ในภูเก็ต ที่เดินทางมาตอนนั้น ตั้งแต่ก่อนมีเรื่องมีราว แล้วชาวต่างชาติพวกนี้ไปไหนไม่ได้เลยตอนนี้ เพราะออกนอกบ้านกลับประเทศตัวเองก็ไม่ได้ ไม่มีไฟลต์ไป บางคนถึงขนาดที่เรียกว่าไม่มีข้าวกิน พาลูก พาเมีย มานั่งที่หน้าร้านอาหาร แล้วบอกว่า I'm hungry, I don't have money แม่ค้าตามนิสัยคนไทย เอื้ออาทร ก็เอาก๋วยเตี๋ยวให้กิน เอาข้าวให้กิน ก็เลยยังชีพอยู่ไปได้ หรือถ้าจะต้องอยู่ในโรงแรมหรือในที่พัก สถานทูตเขาก็ต้องช่วยจ่ายค่าที่พักให้ แต่คนพวกนี้หลายคนเป็นคนที่นำเชื้อต่างๆ พวกนี้มา
ท่านผู้ชมครับ เชื่อผมสิครับ ภาพดูดี แต่ว่าภายใต้ภาพและข้างล่างนั้นมันมีคลื่นใต้น้ำที่แรงมาก ที่พร้อมจะปะทุกันขึ้นมาทันที แต่อย่างน้อยที่สุด อย่างที่ผมเคยเรียนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า คนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนต่างจังหวัด คนหมู่บ้าน คนตำบล เขาจริงจังมากกับการป้องกันการแพร่เชื้อ เพราะฉะนั้นแล้วตรงนี้ต่างหากที่ผมคิดว่าเรายังข้อดีอยู่ ผมก็อยากจะพูดอีกนิดหนึ่ง
ท่านผู้ชมครับ มีกระทรวงๆ หนึ่งที่ผมคิดว่าท่านผู้ชมหลายๆ ท่านไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วไม่รู้จักกระทรวงงนี้ ผมจะแนะนำให้แล้วกัน กระทรวงนี้ผมพูดย่อๆ ว่า กระทรวง อว. คืออะไร กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไม่เคยมีใครได้ยินชื่อใช่ไหม เดิมทีคนไปเข้าใจว่ากระทรวงนี้คือทบวงมหาวิทยาลัย ไม่ใช่แล้ว เขาดูแลเรื่องอุดมศึกษาหมด คณะแพทยศาสตร์ทุกคณะขึ้นอยู่กับเขา ราชมงคลทุกแห่งขึ้นอยู่กับเขา ราชภัฏทุกแห่งขึ้นอยู่กับเขา มหาวิทยาลัยรัฐขึ้นอยู่กับเขา ผู้ที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้คือ รัฐมนตรีฯ สุวิทย์ เมษินทรีย์ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์
ท่านเป็นคนเก่งมาก ท่านเก่งจริงๆ แต่ท่านมีข้อเสียข้อหนึ่ง คือท่านพูดไทยแล้วคนไม่เข้าใจ คือท่านฉลาด ลึกซึ้ง ท่านเก่ง แต่ท่านไม่สามารถอธิบายความเก่งและการทำงานของท่านให้ประชาชนทั่วๆ ไปได้เข้าใจ เพราะว่าท่านพูดไม่เป็น ผมสงสารท่าน และผมเห็นว่าท่านทำงานอะไรๆ หลายอย่าง ปิดทองหลังพระมาตลอด แต่ไม่เคยมีชื่อไม่เคยมีเสียง ผมก็เลยต้องมาเล่าให้ท่านผู้ชมฟังในวันนี้
สิ่งที่ผมจะเล่าให้ฟังก็คือว่า ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ากระทรวงนี้ ภายใต้รัฐมนตรีฯ สุวิทย์ เมษินทรีย์ เขาได้ระดมมันสมองของคณะแพทยศาสตร์ คณะวิศวฯ คณะแพทยศาสตร์เป็นผู้ใช้อุปกรณ์ คณะวิศวฯ เป็นผู้สร้างอุปกรณ์ เขาเอาสองฝ่ายมาชนกัน แล้วเขาสร้างชุดตรวจโควิด-19 ระดับมาตรฐาน Gold ก็คือทองคำ ก็คือระดับสูงสุดของโลก และเขาผลิตออกมาสำเร็จแล้วเขาแจกไปทุกโรงพยาบาลเป็นหมื่นชุดแล้วท่านผู้ชม นี่เงียบหมด ทุกคนไม่รู้ เป็นหมื่นชุด แล้วเขากำลังจะทำอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่อไป เพื่อที่จะพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้นให้มันทันสมัย ให้มันดี แล้วก็ผลิตออกไป แล้วก็บริการในประเทศไทยให้เพียงพอ แล้วก็ส่งออก
นี่ผมยกตัวอย่าง เล่าให้ฟังนะครับ ผมอยากให้พวกเรารู้เสียหน่อยว่า ในขณะซึ่งทุกคนกำลังด่ารัฐบาล ทุกคนกำลังจะด่าคุณอุตตม ทุกคนกำลังจะด่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือคุณวัฒนา เมืองสุข หรือคุณโน่นคุณนี่ ตำหนิรัฐบาลเละเทะหมด แต่ว่ากระทรวงนี้กำลังทำงานปิดทองหลังพระอยู่หลายๆ อย่าง
เรื่องของโควิด-19 ในประเทศไทยในขณะนี้ ผมพูดได้คำเดียวว่าอย่าประมาท อย่าประมาทเป็นอันขาด ท่านผู้ชมก็ถามผมว่า เอ๊ะ แล้วจะทำอย่างไรล่ะ ถ้าสมมุติเขาเปิดเมือง ถ้ามีการค้าขายต่อไป ถ้าโน่นถ้านี่ ท่านผู้ชมครับ จำปรัชญาตัวนี้ให้แม่น ยุคโควิด-19 คือยุคตัวใครตัวมัน แปลว่าอะไร ไม่ได้แปลว่าเราไม่สนใจเพื่อนบ้าน เราไม่มีความเอื้ออาทร หมายความว่าเขาจะเปิดธุรกิจอย่างไร รัฐบาลจะอย่างไร พวกเรา ครอบครัวเรา ดูแลตัวเอง ครอบครัวเรา ให้ดีๆ อย่าไปสังสรรค์กับใคร ถึงแม้เขาจะเปิดให้สังสรรค์แล้วก็ตาม อย่าไปยุ่ง เขาจะเปิดห้างสรรพสินค้าก็ตาม อย่าไปเดิน เขาจะเปิดสนามเด็กเล่นแล้ว ก็อย่าไป ให้ลูกอยู่กับบ้าน ลูกจะไปเยี่ยมเพื่อนที่คอนโดฯ ที่เรียนมหาวิทยาลัย ก็บอก อย่าไปลูก ให้อยู่บ้าน ทำความสะอาด ออกไปข้างนอกใส่หน้ากาก เอาแอลกอฮอล์ไปเตรียมฉีด อย่าไปสัมผัสอะไรทั้งสิ้น ไม่มีความจำเป็นจริงๆ อย่าออกไปจากบ้าน นี่คือการดูแลตัวเองแบบลักษณะตัวใครตัวมัน ท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ ปรัชญานี้ ในยุคโควิด-19 ต้องดูแลตัวเองแบบตัวใครตัวมัน ครอบครัวใครครอบครัวมัน อย่าไปใส่ใจ อย่าไปสนใจ แม่ๆ ตอนนี้ห้างสรรพสินค้าเปิดแล้ว เราไปเดินเล่น ไม่ต้องไป ลูก อยู่บ้าน เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่ยังไม่มีวัคซีนออกมา โควิด-19 ปะทุได้ตลอดเวลา
ท่านผู้ชมครับ วันนี้การเยียวยาของพี่น้องประชาชนชาวไทยกำลังเป็นปัญหาที่ปวดหัวของรัฐบาลชุดนี้ และผมเชื่อว่ารัฐบาลทุกๆ ชุด ใครก็ตามเข้ามาบริหารประเทศในช่วงนี้จะปวดหัวหมด ผมไม่อยากพูดว่าปัญหาโควิด-19 นั้นเป็นเผือกร้อนที่โยนใส่รัฐบาลชุดนี้ และเผือกร้อนนี้โยนใส่มือของท่านรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อุตตม ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อจะอวยสมคิด หรืออุตตม แต่กำลังพูดถึงความลำบากยากเย็น เพราะว่าทั้งสองคนนั้น ในด้านหนึ่งก็ต้องทำงานเพื่อจะหาวิธีทางเพื่อจะเยียวยา แต่ในด้านหนึ่ง คนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจคนสุดท้ายที่จะต้องเคาะ ก็คือนายกรัฐมนตรี
หลายๆ อย่างทำอยู่ นายกรัฐมนตรีก็ต้องฟังคนโน้นฟังคนนี้ ชักเข้าชักออกบ้าง เต้นช่าช่าช่าเดินหน้าสามก้าว ถอยหลังสามก้าว มันก็เลยไม่มีอะไรเด็ดขาดสักที เพิ่งจะมีเด็ดขาดเมื่อสักเมื่อวานนี้มั้ง ที่ท่านให้สัมภาษณ์ว่า ประชาชนทุกภาคส่วนจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ความจริงแล้วคำพูดนี้น่าจะออกมาตั้งแต่เมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว เมื่อออกมาอย่างนี้แล้ว การที่จะออกแบบแผนที่จะช่วยเหลือประชาชนกันจริงๆ มันก็จะเป็นรูปร่างที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบ แต่วันนี้มันอีหลักอีเหลื่อไปหมด ต้องยอมรับว่าการแจกเงินคนละ 5,000 บาทนั้น เท่าที่ทำมา มีช่องโหว่มากมาย คุณป้าขี่มอเตอร์ไซค์ส่งเอกสาร เป็นเหมือนเมสเซนเจอร์ อายุ 60 แล้ว แต่คุณป้าไม่มีการศึกษา ดันไปเรียน กศน. คุณป้าก็เลยถูกตัดสิทธิ์ เหตุผลเพราะว่าคุณป้าเป็นนักศึกษา นี่ผมยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ
และอีกประการหนึ่ง หลายๆ กระทรวง อย่างกระทรวงแรงงาน เพิ่งจะประกาศปลดล็อก ซึ่งผมขอบคุณมากที่ท่าน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ท่านตัดสินใจที่จะปลดล็อกที่จะแจกเงินให้คนที่ประกันสังคมได้คนละ 8,000 บาท ถูกต้องครับ แต่ท่านทำช้าไปนิดหนึ่ง
เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่ผมพยายามจะชี้ให้ท่านผู้ชมเห็นว่าเมื่อใดก็ตาม มีวิกฤตอะไรก็ตาม ถ้าเราให้ข้าราชการประจำเป็นคนตัดสินใจ ท่านนายกฯ เองท่านก็เป็นอดีตข้าราชการประจำ ท่านไม่ได้อยู่ภาคเอกชน และท่านก็ไม่ได้มีประสบการณ์เหมือนกับท่านรองฯ สมคิด หรือท่านรัฐมนตรีฯ คลัง อุตตม ท่านก็หวั่นเกรงว่านี่มากไปหรือเปล่า นี่น้อยไปหรือเปล่า จนกระทั่งมาตรการแรกออกไปแล้ว พอมีช่องโหว่ขึ้นมา พอมีคนโวยวายขึ้นมา แล้วมีคนตำหนิติเตียนขึ้นมา คนประท้วงขึ้นมา ท่านก็เลยเพิ่งถึงบางอ้อ ท่านก็เลยตัดสินใจ ทั้งๆ ที่การตัดสินใจของท่านเมื่อวานนี้ ท่านน่าจะตัดสินใจมาตั้งแต่ต้นแล้ว
ท่านผู้ชมครับ ผมเสนออย่างนี้ และผมไม่ได้คิดว่าเขาจะทำตามผม แต่ท่านผู้ชมเอาความคิดของผมออกไป หรือคนที่มีอำนาจอยู่ ฟังความคิดของผม ข้อแรก ทุกท่านที่มีอำนาจอยู่ ณ วันนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านต้องยอมรับ ตลอดจนคณะรัฐบาล ท่านต้องยอมรับว่านี่คือวิกฤตภัยพิบัติของชาติที่หนักหนาสาหัสมาก ต้องยอมรับข้อนี้ก่อน เมื่อท่านยอมรับข้อนี้ ท่านต้องยอมรับข้อที่สอง ว่า จะทำอย่างไรก็ตาม ต้องให้ประชาชนมีกิน และไม่เดือดร้อนจนแสนสาหัส เดือดร้อนนี่ เดือดร้อนแน่นอนแล้ว คนตกงานไม่เดือดร้อนได้อย่างไร แต่อย่าให้แสนสาหัสนัก สาม จะต้องทำอย่างไรก็ตาม ให้เขามีชีวิตอยู่รอดได้ภายใน 6 เดือนข้างหน้านี้ โดยที่เขาไม่ต้องมานั่งผูกคอตายว่าพรุ่งนี้จะตายดีหรือไม่ดี เพราะว่าภาระมันเยอะเหลือเกิน
ท่านผู้ชมครับ สิ่งแรกที่ผมเสนอ ประเทศไทยมีครัวเรือนอยู่ทั้งหมด ตามสำมะโนครัวนะ 23 ครัวเรือน ผมเสนอว่า แต่ละครัวเรือนได้ไปคนละ 5,000 บาท ก็เท่ากับเดือนหนึ่งใช้เงินประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท 3 เดือน 3 แสนกว่าล้านบาท ใครที่อยู่ในครัวเรือนนั้นได้ 5,000 อยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นโบนัสไป ให้เขาอยู่ นั่นข้อแรก นั่นก็คือเงินที่เขาจะใช้ประทังชีพ เงินที่เขาสามารถจะเอาไปซื้อกับข้าว ซื้อข้าวสารมาหุง ซื้อเนื้อ ซื้อหมู ซื้อผัก ซื้อบะหมี่มาม่า เขาไม่ได้เอาเงินก้อนนี้ไปเล่นเกม หรือเขาไม่ได้เอาเงินก้อนนี้ไปซื้อกระเป๋าโน่นกระเป๋านี่ หรือไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ เงินก้อนนี้เป็นเงินที่ประทังชีพ เมื่อเป็นเงินประทังชีพแล้ว ผมคิดว่าใช้ 23 ครัวเรือน ถึงหมดทุกคน จะไม่มีใครมาปฏิเสธอีกต่อไปแล้ว
เรื่องที่สอง ภารกิจของคนมีไม่เหมือนกัน อันแรกที่มีเหมือนกันหมด คือค่าน้ำและค่าไฟ ผมผิดหวังมาก และเดี๋ยวผมจะพูดต่อ ผมผิดหวังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง ทั้ง 3 การไฟฟ้านี้ วันนี้ถ้าประชาชนเป็นอะไรไป ถ้ามีคนไม่ใช้ไฟ คุณก็ไม่มีเงินเข้ามา สิ่งแรกที่ทำ อย่างที่ผมเคยเรียนให้ทราบว่าการลด 3 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นความคิดของคนที่ซื่อบื้อ ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นว่า คนที่ใช้ไฟ 5 แอมป์ ให้ใช้ 90 หน่วยแรก ผมจะกราบเรียนให้ท่านทราบว่า 5 แอมป์ นั่นคือไฟศาลพระภูมิ เดี๋ยวนี้เขาใช้กัน 15 แอมป์ และอีกประการหนึ่ง ทำไมท่านไม่ประกาศไปเลยว่า ไฟฟ้าจะกี่แอมป์ก็ตาม 120 หน่วยแรก ฟรี เมื่อ 120 หน่วยแรกฟรี อะไรที่ต่อไปเกิน 120 หน่วยแรก ลดให้ครึ่งหนึ่ง หมายความว่าเกินจาก 120 หน่วยแรกต้องเสียเงินอีก 1,000 บาท ก็ลดให้ 500 บาท ท่านไม่ต้องตกใจว่าท่านมีเงินหรือไม่มีเงิน คำถามก็คือว่าเห็นด้วยไหม นี่คือการลดภาระของประชาชนที่เขาไม่มีทาง ยิ่งเขาอยู่บ้าน ค่าไฟเพิ่ม 30 เปอร์เซ็นต์ เพราะเขาไม่รู้จะไปไหน เขาไม่สามารถจะทำมาค้าขายได้ เขาไม่สามารถออกไปขายข้าวแกง เขาไม่สามารถจะออกไปวางของที่ตลาด เขาไม่สามารถจะออกไปขาย เปิดตลาดนัด ขายที่ตลาดนัด นี่คือรากหญ้าประชาชนที่เดือดร้อน ตลอดจนคนที่ตกงาน หรือคนที่ทำงานบริษัทแล้วถูกลดเงินเดือน หรือถูกให้ออก คนพวกนี้ ค่าใช้จ่ายของเขาติดอยู่ตรงนี้ ลดค่าใช้จ่ายของเขาตรงนี้ไปเสีย นั่นข้อที่สอง
ถ้าเงินไม่พอ จากการไฟฟ้าฯ การไฟฟ้าไม่มีปัญญาที่จะจ่าย การไฟฟ้าฯ หรือนายกรัฐมนตรี ต้องจัดเงินก้อนนี้ให้เขา แล้วประเดี๋ยวผมจะกลับมาพูดเรื่องการไฟฟ้าอีกทีหนึ่ง เตือนสติผมนิดนะครับ เรื่องการไฟฟ้าฯ
ข้อที่สาม ชนชั้นกลาง เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่ชนชั้นกลางที่มีบ้าน คนที่ทำงานโรงงานก็มีบ้าน ซื้อทาวน์เฮาส์เล็กๆ มูลค่าล้านกว่าบาท 1.5 ล้านบาท แล้วค่อยๆ ผ่อนส่งไป มีพ่อ มีแม่ พ่อทำงานโรงงาน เงินเดือน 18,000 แม่ทำงานโรงงาน เงินเดือน 15,000 ก็ 33,000 มีลูก 1 คน ส่งเรียนหนังสือ มีรถเล็กๆ คันหนึ่ง ต้องผ่อนรถ ปัญหาใหญ่ที่สุดของคนพวกนี้ก็คือว่า เขาจะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนบ้าน ผ่อนรถ นี่คือภาระที่เป็นเชือกผูกคอเขาไว้ เขากินไม่ได้ นอนไม่หลับ สิ้นเดือนแบงก์ก็ไม่ฟังเสียง แบงก์ส่งจดหมายไปทวง คนที่โดนแบงก์ทวงแล้วเขาจะฟ้องศาลนี่ ประสาทรับประทานทุกคนนะ ถ้าพูดภาษาชาวบ้าน ภาษาท้องถิ่น หรือภาษานักเลง เขาเรียกว่าประสาทแดก เพราะฉะนั้นรัฐบาลควรจะออกมาตรการคลุมไว้สักนิดหนึ่ง วันนี้รัฐบาลอาจจะยังไม่ต้องชดเชยเงินเดือนให้เขา เหมือนอย่างที่มาเลเซียให้ มาเลเซียเขาแบ่งเป็นขั้นเลย ใครมีเงินเดือนระหว่างเท่านี้ ถึงเท่านี้ เขาจะให้เท่านี้ ถ้าสูงกว่าเท่านี้ เขาจะให้เท่านี้ ถ้าสูงกว่าเท่านี้ เขาไม่ให้แล้ว
เพราะฉะนั้น รถยนต์มูลค่าไม่เกิน 2 ล้านบาท ทำไม 2 ล้านบาท ผมว่าชนชั้นกลางหลายคนก็ใช้รถระดับ 1 ล้านกว่าบาท ไม่ใช่รถวิเศษวิโส ก็แคมรีธรรมดา รถเฮงซวยๆ ก็ต้องมี 9 แสนบาท ไม่เกิน 2 ล้านบาท หยุดการผ่อนให้เขา 6 เดือน 6 เดือนยังไม่ต้องผ่อน มาเริ่มใหม่เดือนที่ 7 หลังจากทุกคนชัดเจนแล้ว บ้าน ถ้าไม่เกิน 3-4 ล้านบาท หยุดดอกและหยุดต้น และไม่มีการเอาดอกไปแอบทบไว้ข้างหลังนะ ไปตีกบาลเขาทีหลัง ตรงนี้ต่างหาก ตรงนี้จะทำให้เขานอนหลับ ตอนกลางคืนนอนหลับได้ และเขาวางแผนชีวิตของเขาได้ และอย่างน้อยที่สุดเขายังมีอนาคตอยู่บ้าง คนที่ทำงานบริษัทแล้วต้องทำงานที่บ้าน หรือคนที่ตกงานจากบริษัท บริษัทให้ออก แล้วจ่ายเงินชดเชย อย่างน้อยเขายังมีโอกาสที่จะฟื้นคืน โดยที่ภาวนาว่าวัคซีนมาเร็วๆ เถอะ จะได้เปิดธุรกิจได้ จะได้ไปสมัครงานใหม่ได้ ตรงนี้ ท่านนายกฯ ตรงนี้ท่านต้องทำ
วันนี้ไม่มีคำว่ารัฐบาลขาดทุนหรือกำไร ไม่มี ท่านต้องขาดทุน เพราะว่าประชาชนทุกคนคือคนของท่าน อย่างนี้แล้วมันจะคลุมได้หมดทุกจุด ทำไมจะต้องทำอย่างนี้ รัฐบาลไม่ใช่ว่าไม่มีเงิน รัฐบาลกู้ได้ รัฐบาลกู้เท่าไรก็ได้ และผมไม่เห็นด้วยเลยการกู้แค่ 1.9 ล้านล้านบาท ท่านมีเงินก้อนหนึ่งประมาณ 4 แสนล้าน ที่จะไปช่วยธุรกิจให้มันเกิดขึ้น แบงก์ชาติเตรียมเงิน 5 แสนล้าน สำหรับมาอุ้มธุรกิจเอสเอ็มอี เตรียมอีก 4 แสนล้าน สำหรับมาซื้อตราสารหนี้ ตราสารหนี้ก็คือเงินกู้ที่บริษัทต่างๆ ที่มีเงินมีทอง และออกตราสารหนี้ แล้วไปกู้ เพื่อจะเอาเงินดอกเบี้ยถูกมาใช้ ถ้าท่านสามารถจะ support คนรวยพวกนั้น คือใครออกตราสารหนี้ได้ มันต้องรวย ไม่รวยไม่ได้ จะออกตราสารหนี้ได้อย่างไร แต่คนทำงาน Work force พวก blue collar, white collar พวกทำงานโรงงาน พวกทำงานบริษัทพวกนี้ ต้องดูแลเขา ไม่ดูแลเขาไม่ได้ ผมเสนอว่า จะทำเงินกู้ทั้งที กู้ไปเลย 3 ล้านล้านบาท 3 ล้านล้านบาทนี้ก็คือ 20 เปอร์เซ็นต์ ของ GDP คลุมประชาชนทั่วประเทศเลย คลุมให้ประชาชนปรบมือว่ารัฐบาลชุดนี้ หรือรัฐบาลชุดไหนก็ตาม ถ้าทำแบบนี้ ดูแลประชาชนจริง
ผมรู้ เรื่องนี้เป็นเรื่องเผือกร้อน วันนี้คนที่ทำงานทางด้านนี้ ไม่ว่จะเป็นรัฐมนตรีฯ คลัง หรือรองฯ สมคิด อุ้มเผือกร้อนอยู่ แล้วพอเรื่องนี้จบแล้ว ก้าวไปสู่ความปกติสุขแล้ว ท่านผู้ชมเชื่อผม อาจจะมีก้อนอิฐ จะมีส้นเท้า จะมีไม้หน้าสามมารุมตีคน 2 คนนี้ แต่ในระหว่างนี้ไม่มีกล้าทะลึ่งเข้ามาทำเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันง่ายๆ ต้องกัดฟัน พอถึงวันนั้นแล้วก็จะบอกว่ากู้มาทำไม 3 ล้านล้านบาท กู้มาทำไมแบบนี้ เงินไม่ถึงคนโน้น เงินไม่ถึงคนนี้ เงินหายไปไหนหมด มันจะมีของมันอย่างนี้ตลอดเวลา
เพราะฉะนั้นแล้ว นี่คือข้อเสนอของผม ที่สำคัญที่ผมเสนอแบบนี้เพราะว่าผมไม่อยากให้ประชาชนคนไทยออกไปกู้นอกระบบ และวิธีการวิธีหนึ่งสำหรับคนที่ยังทำงานอยู่ตามโรงงานต่างๆ ผมเชื่อว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ของคนทำงานโรงงาน เงินเดือน 10,000-20,000 บาท กู้นอกระบบหมด 70 เปอร์เซ็นต์ ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน ไม่ว่าจะเป็นออมสิน ไม่ว่าจะเป็นกรุงไทย จะตั้งกองทุนกู้นอกระบบ กองทุนหนึ่ง แล้วเข้าไปเจรจากับโรงงาน ผ่องหนี้นอกระบบทั้งหมดที่เขาจ่ายเดือนละ 10 เปอร์เซ็นต์ เข้ามาในกองทุนนี้ ให้กองทุนนี้เป็นคนชดเชยไปให้ แล้วก็จ่ายดอกเบี้ยกองทุนแค่เดือนละ 1 เปอร์เซ็นต์ หรือ 0.5 เปอร์เซ็นต์ จากเดือนละ 10 เปอร์เซ็นต์ เขาจ่ายแค่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ปีละ 6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็สูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงก์ธรรมดาแล้ว เขาประหยัดไป 9.5 เปอร์เซ็นต์ ต่อเดือน ถ้าเขาต้องผ่อนส่งเงินกู้เดือนละ 10,000 บาท เขากู้มา 100,000 บาท เขาเอาไปทำอะไร เขาจ่ายค่าเทอมให้ลูกของเขา เขาเอามาผ่อนบ้าน โน่นนี่ อย่างน้อยที่สุด 100,000 ที่เขาต้องเคยส่งดอกเดือนละ 10,000 บาท 10 เปอร์เซ็นต์ ต่อเดือน เขาก็ส่งเพียงแค่ 500 บาท เขาเซฟเงินไป 9,500 บาท แล้วเงิน 9,5000 บาท ไม่ได้ไปไหน เขาก็เก็บเอาไว้ หรือเขาก็เอาไปจับจ่ายใช้สอยทางด้านอื่นที่มันมีความจำเป็นในชีวิตของเขา
ท่านผู้ชมครับ ถ้าเราไม่ยอมรับข้อ 1 ก็คือเป็นวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย และยอมรับข้อที่ 2 ว่า ชีวิตคน ความเป็นอยู่ของคน สำคัญกว่าเศรษฐกิจ เรากำลังซื้อเวลา และเราต้องซื้อเวลาให้ถูก ให้ไปได้
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมจะต้องฝากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หลายคนที่ส่งเบี้ยประกันมาทั้งชีวิตจนกระทั่งอายุ 50 วันนี้เขาไม่ต้องการอะไรแล้ว เขาบอกว่าที่เขาส่งมาตลอดเวลา สมมุติเขาส่งมา 30 ปี แล้วเขามีเบี้ยประกันอยู่ประมาณ 200,000 กว่าบาท ถ้าเขาขอเงินก้อนนี้ไปแล้วเขาไม่ขอรับหลังจากที่เขาเกษียณอายุแล้ว ให้เขาไปเถอะครับ ท่านมีเงินอยู่ 2 ล้านล้านบาท จริงอยู่ ท่านอาจจะบอกว่าท่านมี 2 ล้านล้านบาท เงินก้อนนี้ท่านเอาไปลงทุนหลักทรัพย์โน่นนี่ ไม่มีใครเขาสนใจหรอก เขาสนใจแต่ว่าทุกเดือนถึงเดือนแล้วเขาจ่ายให้ท่าน ถึงเวลาเขาจะเอาคืน คืนเขาไปเถอะครับ ยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ต้องคืนให้เขาไป
ส่วนท่านผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ท่านผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ท่านผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ผมขอกราบเรียนอย่างนี้ ผมทราบดีว่าทุกท่าน พนักงานของท่านทุกคน เงินเดือนก็เกือบๆ เท่ากับเอกชน เผลอๆ มากกว่าภาคเอกชนเสียด้วยซ้ำ ท่านยังมีโบนัสการันตีให้ 2 เดือนบ้าง 3 เดือนบ้าง ท่านครับ ประชาชนจะอดตายห่ากันแล้ว ท่านก็ยังเป็นห่วงว่ารายได้การไฟฟ้านครหลวง รายได้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รายได้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จะตก เงินไม่มี ท่านน่ะมีเงิน ถ้าอย่างนั้นท่านประกาศให้ประชาชนเขาทราบหน่อยได้ไหมว่าเงินโบนัสที่ท่านจะต้องรับประกันให้กับพนักงาน ท่านยกเลิกโบนัสก้อนนี้ ประชาชนจะไม่มีกินแล้ว ท่านยังจ่ายโบนัสกันชิลๆ
ท่านผู้ชมครับ ผมจะยกตัวอย่างเรื่องการไฟฟ้าฯ การไฟฟ้าฯ มันเป็นอาณาจักรไปแล้ว ผมขอกราบเรียนท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านอนุพงษ์ เผ่าจินดา นครหลวง กับภูมิภาค คือตัวการทำมาหากินของคนบางคน คนกลุ่มบางกลุ่ม ทำไมไม่เอาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ภูมิภาค นครหลวง รวมตูม ผมรู้ว่ามีการขัดขวาง ไม่ยอมให้รวม แล้วแยกสายส่งออกมา ทั้งภูมิภาค ทั้งนครหลวง และสายส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ออกมาตั้งบริษัทกลางบริษัทหนึ่ง เป็นเจ้าของสายส่ง แล้วเปิดเสรีให้กับผู้ต้องการผลิตไฟและขายให้กับประชาชน โดยเช่าสายส่งเหมือนกัน การไฟฟ้านครหลวงอยากเช่าสายส่ง ก็เช่า ตอนนี้การไฟฟ้านครหลวงผูกขาดสายส่งของตัวเอง ภูมิภาคผูกขาดสายส่งของตัวเอง ฝ่ายผลิตผูกขาดสายส่งของตัวเอง แล้วตัวเองก็มา enjoy มีสนามกอล์ฟบ้าง มีโบนัสให้ ปีละ 2 เดือนบ้าง 3 เดือนบ้าง แล้วพอต้องลดราคาไฟให้กับประชาชน บอกว่าไม่มีเงิน รัฐบาลจ่ายมาสิ คุณไม่เห็นแก่ตัวมากเกินไปหน่อยหรือครับ ถ้าไม่มีประชาชนพวกนี้ คุณจะมีเงินมีทองมาจ่ายโบนัสกันได้อย่างไร แสดงว่าคุณมีกำไร คุณถึงจ่ายโบนัส ถ้าคุณไม่มีกำไร คุณจะจ่ายโบนัสได้อย่างไร ถึงเวลาที่คุณต้องเอากำไรพวกนี้คืนให้กับประชาชนเขาบ้าง และถึงเวลาแล้วที่คุณจะยกเลิกการผูกขาด เพราะคุณผูกขาดอย่างนี้ ประชาชนถึงไม่มีทางเลือกไง เข้าใจไหมครับ ท่านผู้ชมเข้าใจที่ผมพูดไหม
โครงสร้างแบบนี้ โครงสร้างเน่าๆ แบบนี้ มันเลิกได้แล้ว แล้วทำไมกระทรวงมหาดไทยจะต้องคุมการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ผลประโยชน์มันมีนี่ครับในนั้น การจัดซื้อจัดจ้างของการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มันเยอะเหลือเกิน เพราะฉะนั้นแล้วทำไมไม่เปิดโอกาสให้มีการขายไฟเสรี โดยแยกสายส่งออกมา ทุกภูมิภาค ทุกนครหลวง และทุกฝ่ายผลิต เอามารวมเป็นบริษัทเดียวเลย แล้วใครก็ตามที่ต้องการจะขายไฟ เข้าหมู่บ้านไหน เข้าชุมชนไหน เข้าตำบลไหน ก็เช่าสายส่งนั้นไป ภูมิภาคกับนครหลวงก็ทำการตลาดแข่งกับเอกชนสิ ที่เขาต้องการที่จะขายไฟ ถ้าเขาขายไฟหน่วยละเท่านี้ๆ ได้ คุณมีความรู้สึกว่าคุณจะสูญเสียตลาด คุณก็ต้องลดค่าหน่วยไฟลงไป ใครได้ประโยชน์ ประชาชนได้ประโยชน์ ในอดีตมีแต่พวกคุณเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์เพราะคุณกระทืบประชาชนมาตลอด แล้วโฆษณาที่คุณบอก เพราะนครหลวง เพราะฝ่ายผลิต มันทำให้ประเทศชาติสว่าง เท่ ท่านผู้ชมครับ เท่กินไม่ได้ วันนี้เอาความจริงมาพูดกัน แล้วทุกคนต้องช่วยกัน เราไม่ช่วยเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว ท่านผู้ชมเข้าใจไหมครับ ฉะนั้น ไฟฟ้า น้ำประปา
ท่านผู้ชมครับ ในข้อเท็จจริงแล้ว สาธารณูปโภค อย่างเช่น ไฟฟ้า ประปา รถเมล์ การขนส่งของรัฐ รัฐจะต้องสนับสนุน ต้องให้ประชาชนใช้จ่ายในเรื่องสาธารณูปโภคนี้ในราคาที่ถูกที่สุดเท่าที่จะถูกได้ ถ้าต้นทุนสูงกว่าราคานี้ รัฐต้องอุดหนุนเงินก้อนนี้เข้าไป เพื่อให้ต้นทุนการใช้ชีวิตของประชาชนต่ำลง เมื่อต้นทุนการใช้ชีวิตของประชาชนต่ำลง ประชาชนจะได้มีเงินส่วนเหลือที่เก็บ และถ้าเขาใช้เงินเป็น รู้จักเอาส่วนเหลือที่เก็บนั้นใช้เฉพาะที่จำเป็น แล้วก็เอาไปสะสมเอาไว้ เขาก็สามารถจะสร้างเนื้อสร้างตัวได้
เห็นด้วยกับผมไหม เรื่องนี้ เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อวิกฤตเกิดขึ้นแล้ว ทำทั้งที ทำให้มันครบทั้งวงจร แล้ววันนี้วิกฤตแบบนี้ทำให้เราเห็นตัวตนที่แท้จริงของคนเยอะแยะไปหมด ตัวตนที่แท้จริงของการไฟฟ้านครหลวง ตัวตนที่แท้จริงของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตัวตนที่แท้จริงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ว่าจริงๆ แล้วพวกคุณมาสูบเลือดสูบเนื้อกับประชาชน และพวกคุณทำกำไรกัน แล้วก็ไปลันล้ากันในองค์กรของคุณ จ่ายโบนัสกัน สวัสดิการที่เลอเลิศประเสริฐศรี ประชาชนวันนี้จะตายกันแล้วทุกคน คุณมีความสุขกันบนความทุกข์ของประชาชนที่ใกล้จะตายกันแล้วหรืออย่างไร นี่ผมแค่ยกตัวอย่างการไฟฟ้าฯ นะ แต่ผมเชื่อว่ากระทรวงมหาดไทยก็ยังไม่ยอมปล่อยตรงนี้ เพราะอะไร เพราะเห็นแก่ตัว เพราะมันมีผลประโยชน์ นี่คือโครงสร้างไง ไหนๆ โควิด-19 เกิดแล้ว ก็ปรับโครงสร้างนี้เสียใหม่ ทำอะไรทุกอย่างให้มันดีกับพี่น้องประชาชน ทำอะไรทุกอย่างให้ดีกับประเทศชาติ
ท่านพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อาจจะก่นด่าโคตรพ่อโคตรแม่ผม ไม่เป็นไร ท่านด่าผมมาเลย แต่ที่ผมพูดนี้เป็นความจริง แล้วท่านยอมรับไหมว่าวันนี้ อุปสงค์ (demand) ไม่มีแล้ว ไม่ใช่ไม่มีเฉพาะในเมืองไทย ทั่วโลกก็ไม่มี ผมถามท่านว่าเมื่ออุปสงค์ไม่มีแล้ว คุณจะรีบลงทุนไปเพื่อสร้างเขื่อน ไปสร้างโรงงานไฟฟ้าเพิ่มเติมเพื่ออะไร เพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋าคนบางคนหรืออย่างไร ไฟฟ้าที่คุณมีอยู่มันล้นเหลือ มันเกิน จริงๆ แล้วเงินลงทุนของคุณทั้งหมดที่คุณจะเตรียมลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม เพื่อผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติม ตีสักอีก 3 ปีข้างหน้า คุณยุติได้เลย เงินที่คุณจะลงทุนตรงนี้ คืนมาให้ประชาชนเขา ถูกไหมครับ เมื่อคุณไม่มี demand ไม่มีอุปสงค์แล้ว คนใช้ไฟลดน้อยลง โลกนี้ใช้น้ำมันลดน้อยลง วันนี้น้ำมันลดลงมาตามราคาน้ำมันโลก น้ำมันโลกลดลง แก๊สก็ลดลง การผลิตไฟของคุณก็ต้องใช้ไฟฟ้าและใช้แก๊ส หรือถ่านหินบางแห่ง ต้นทุนคุณลดลงแล้ว แต่ค่าไฟคุณไม่เคยลดเลยแม้แต่นิดเดียว ค่า ft ของคุณนี่ฆ่าคนตาย ผมไม่เคยคิดว่าประเทศไทยจะมีเรื่องระยำตำบอนแบบนี้เกิดขึ้น ผมจำเป็นต้องพูด ผมไม่พูดไม่ได้ ผมทนไม่ไหวจริงๆ
รัฐบาลต้องเข้ามาจัดการในเรื่องนี้ ท่านรัฐมนตรีฯ อนุพงษ์ เผ่าจินดา ท่านก็ต้องดูปัญหานี้เหมือนกัน ท่านคิดได้อย่างไร 5 แอมป์ 90 หน่วย 5 แอมป์นี่อย่างที่ผมเรียนให้ทราบ มันไฟศาลพระภูมิ 90 หน่วยนี่คุณแค่เปิดพัดลม เปิดอะไรโน่นนี่นั่น หุงข้าว เปิดหม้อหุงข้าวไฟฟ้า 90 หน่วย คุณก็หมดแล้ว คุณต้องตั้งไว้ 120 หน่วยฟรี แล้วอะไรที่เกิน 120 หน่วยไป คุณลดให้ครึ่งหนึ่ง ให้เวลา 6 เดือน ถ้าเงินคุณไม่พอจริงๆ ซึ่งคุณต้องไม่พอจริงๆ นะ คุณก็สามารถจะคุยกับรัฐบาลได้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ คุยกับรัฐมนตรีฯ สนธิรัตน์ได้ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คุณก็คุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ แต่สิ่งแรกก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณอนุพงษ์ เผ่าจินดา คุณต้องเห็นใจประชาชน คุณเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมากี่ปีแล้ว อะไรบ้างที่คุณทำให้ประชาชน ครั้งนี้คุณทำให้ประชาชนให้เห็นเป็นรูปธรรมเสียทีได้ไหม
ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมมีเรื่องที่จะพูดเพิ่มเติมบางเรื่อง คือเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แต่ก่อนจะคุยเรื่องนี้ ผมขอเคลียร์เรื่องบริษัทโทรศัพท์มือถือนิดหนึ่ง หลายๆ ท่านเข้าใจผิดว่าในยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ วิกฤตแบบนี้ โทรศัพท์มือถือรวย นี่ผมไม่พูดเข้าข้างใครนะ ไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรจากเขาเลยสักนิด และจริงๆ แล้วผมก็เป็นคนที่ต่อต้านบริษัทมือถือมานานแล้ว แต่วิกฤตครั้งนี้คนที่รวย ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ เครือข่ายโทรศัพท์มือถือกำลังลำบาก เพราะว่ารายได้เคยได้เท่าไร ไม่ได้เพิ่มเติมเลยแม้แต่นิดเดียว คนที่รวยคือใครรู้ไหม พวกชอปปิงออนไลน์ shopee, lazada, youtube, line, facebook ท่านผู้ชมรู้ไหมพวกนี้ไม่ได้เสียภาษีให้ประเทศไทยเลยแม้แต่บาทเดียว ท่านซื้อของ เงินมันส่งไปที่เมืองนอก อเมริกา (อีกแล้ว) มันมาปกป้องพวกนี้ โดยบอกว่านี่คือ digital tax ไม่ให้เราคิดภาษีพวกมัน และมันก็ใช้แพลตฟอร์มของโทรศัพท์มือถือเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้ท่านมาซื้อขายไป โทรศัพท์มือถือมันก็ได้แค่ค่าไว-ไฟเท่านั้นเอง ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมไปมากกว่านั้นเลย แต่พวกที่ได้เอาๆ คือพวก shopee, lazada พวกนี้ เงินทองมันกำไรกันเละเทะ ยอดเงินขาย amazon ทั้งหมด แต่ไม่เสียภาษีเลยแม้แต่บาทเดียว
วันนี้เรากำลังเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับประเทศไทย แล้วความเกเรของอเมริกา ฝรั่งเศสกำลังจะคิดค่าโทรศัพท์ ภาษีค่าโทรศัพท์ digital เขาเรียก digital tax ภาษีระบบดิจิทัล ปรากฏว่านายทรัมป์บอกว่า ลองคิดสิ กูจะเพิ่มภาษีของไวน์ เหล้าองุ่นฝรั่งเศสขึ้นมาอีกเท่าตัว ท่านผู้ชมครับ นี่เกเรหรือเปล่า ก็ในเมื่อทั้ง facebook ทั้ง line ทั้ง shopee ทั้ง lazada พวกนี้มาทำมาหากินในแผ่นดินไทย เอาเงินคนไทย รวมทั้ง Grab พวกนี้เอาเงินในแผ่นดินไทย เอาเงินประชาชนคนไทยไปสร้างฐานของตัวเองขึ้นมา ในขณะซึ่งท่านผู้ชมทุกคนที่ค้าขายต้องเสียภาษี แล้วทำไมพวกนี้ไม่เสียภาษี ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง ตอนนี้ จะเห็นได้ชัด โควิด-19 มันเปิดหน้ากากคนออกหมดเลย มันทำให้เราเริ่มเข้ามาตั้งคำถามว่ามันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร
เหมือนอย่างที่ผมบอกเรื่องการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ คุณมีแผนการลงทุนไว้เรียบร้อยแล้ว 3 ปีข้างหน้าจะต้องเป็นอย่างไร แต่แผนการลงทุนนี้ คุณเขียนได้ คุณก็ลบได้ เพราะคุณก็รู้ว่า 3 ปีข้างหน้ามันไม่มี demand แล้วเงินที่คุณเตรียมไว้ลงทุน เอาไปไหนล่ะ หรือพวกคุณเป็นเจ้าของเงิน ไม่ใช่ประเทศชาติเป็นเจ้าของเงินหรือ เงินก้อนนั้นพวกเราทุกคน ท่านผู้ชม ผม เป็นเจ้าของเงินทั้งนั้น ถึงเวลาหรือยังที่คุณจะเอาเงินที่จะไปลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าอีก 4-5 โรง ในอนาคต 3 ปีข้างหน้า ซึ่งอุปสงค์ไม่มี คือความต้องการไฟฟ้าไม่มีแล้ว เอาเงินก้อนนั้นคืนสู่สังคมได้ไหม อย่างน้อยที่สุด คุณก็ลดการขายค่าไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง นครหลวงก็จะได้มีข้ออ้างในการลดลงไปอีกทีหนึ่ง แล้วใครได้ประโยชน์ ก็คือประชาชนได้ประโยชน์ พวกคุณเข้าใจคำว่าประชาชนไหม คุณทำโฆษณาเท่ เท่กินได้ไหม ผมเคยดูโฆษณาของคุณ ไฟปิด พอเปิดออกมา พรึ่บ เราการไฟฟ้าฝ่ายผลิต เราการไฟฟ้านครหลวง ทำทุกอย่างเพื่อมวลชน มวลชนบ้าอะไรคุณคิดค่าไฟแบบนี้ นี่คุณไม่ได้ตบหัวแล้วลูบหลังนะ นี่คุณหลอกพวกผมนะ พอหลอกสักพัก คุณอัปเปอร์คัตใส่หน้าท้อง แล้วคุณตามด้วยไม้หน้าสามเลยนะ แหม หลงชมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีคุณูปการมาก คุณผูกขาดมานานกี่ปีแล้ว ที่รัก คุณผูกขาดมาตั้งแต่ต้น จนวันนี้คุณก็ยังจะผูกขาดต่อไป เพราะฉะนั้นพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มันถึงลันล้ากันทุกคนไง ไม่ต้องมาชอบผม เกลียดผมได้ ไม่ต้องมาดูรายการนี้ เพราะว่าสิ่งที่ผมพูดมันกระเทือนใจคุณใช่ไหม มันเป็นความจริง
ท่านผู้ชมครับ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเรื่องที่ผมจะต้องพูดสักครั้งหนึ่ง โควิด-19 เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทย เราจะทำให้จุดเปลี่ยนของประเทศไทยไปในทิศทางที่ถูกต้องได้อย่างไร โควิด-19 ทำให้เราหันมาสำรวจตัวเราเอง ว่าชีวิตตัวเรา พวกเรา ที่อยู่ทุกวันนี้ เมื่อเราเทียบกับชีวิตที่เราเคยใช้มาก่อนเกิดโควิด-19 แล้วพอเกิดโควิด-19 เราทบทวนได้ไหม ว่าชีวิตเก่าๆ ของเรามันเละเทะขนาดไหน มันฟุ่มเฟือยขนาดไหน มันไร้ทิศทางขนาดไหน ทำได้ไหม ถ้าทำได้เราอาจจะมีสติเกิดขึ้นแล้ว พอเรามีสติแล้วเราย่อมเกิดปัญญา แล้วปัญญาต่างๆ เหล่านี้ก็ย่อมทำให้เราเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
สรุปง่ายๆ ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัส ชัดเจนมาก รู้จักพอ พอเพียง คนไทยวันนี้ โควิด-19 ต้องสั่งสอนให้พวกเรารู้จักพอ รู้จักพอในทุกเรื่อง ท่านผู้ชมอยากจะเห็นความเละเทะของผม เดี๋ยวคอยดูตอนที่ผมเอาเสื้อนอกต่างๆ มาขาย ท่านผู้ชมจะบอกว่าคุณสนธิมีตั้ง 20-30 ชุดเลยหรือ นั่นน่ะสิ ผมนึกแล้วผมยังอายตัวเองเลย รองเท้ามีตั้งไม่รู้กี่คู่ ของเมืองนอกทั้งนั้น ยี่ห้อแพงๆ ทั้งนั้น แต่วันนี้ผมใส่รองเท้าราคาถูกๆ นุ่มเท้า บางวันก็ใส่รองเท้าแตะ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่มีอะไรต้องอาย ผมแต่งตัวตามสบาย เสื้อผมปล่อยลอยชาย แต่งตัวตามสบาย ให้มันดูดี ให้มันดูสุภาพ ใช้ชีวิตแบบธรรมดา อยู่บ้านมากขึ้น ทำกับข้าวกินกันในครอบครัวมากขึ้น คุยกันมากขึ้น เราห่างเหินกันมานานแล้ว ใช้โควิด-19 ครั้งนี้เป็นบทเรียน ทบทวนชีวิตในอดีตของเรา แล้วเราตอบตัวเราเองว่า หลังโควิด-19 หรือจากนี้ไปเราจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเราอย่างไร ให้มันรู้จักพอเพียง ให้มันสมดุลกับธรรมชาติ แล้วให้มันเอื้ออาทรกับทุกๆ คน
ท่านผผู้ชมครับ อาทิตย์หน้าสนุกสนานแน่ ผมมีเรื่องราวที่ท่านผู้ชมนึกไม่ถึง แล้วจะเป็นเรื่ององค์ความรู้จริงๆ รับประกันได้ว่าเรื่องที่ยากๆ เดี๋ยวผมจะเอามาพูดให้ท่านผู้ชมฟังได้ง่ายๆ วันนี้ขอหยุดเพียงแค่นี้ สวัสดีครับ