“สนธิ”สวน กฟผ. พร้อมชำแหละกลับ ต้นเหตุค่าไฟแพง เพราะกินผลประโยชน์ทุกเม็ด ให้ผู้ผลิตเอกชนจ่ายค่าพร้อมจ่าย ทั้งที่ไม่ได้ใช้ไฟ ก่อนเอาไปบวกราคาขายต่อให้ กฟน. กฟภ. ขณะที่ตัวเองก็มีหุ้นใน บ.ผลิตไฟฟ้า กิน 2 ต่อ สุดอนาถมีสนามกอล์ฟถึง 11 แห่ง เอาทุกอย่างไปบวกเป็นต้นทุน ซ้ำทำแผน PDP คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงเกินจริง เพื่อลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม หาช่องกินผลประโยชน์ จับโป๊ะ อ้างรายได้ส่งคลังหมด ที่แท้มีกำไรสะสมอยู่ถึง 3 แสนล้านบาท จี้หากต้องการช่วยประชาชนยามวิกฤติ ต้องลดค่าไฟให้ชัดเจน หยุดรับโบนัส อย่าทำแค่ CSR ให้ตัวเองดูดี แนะมองอนาคต ภูมิศาสตร์การใช้ไฟฟ้าจะไม่เหมือนเดิม ควรส่งเสริมให้ชาวบ้านใช้โซลาร์เซลล์ ลดภาระงบประมาณสร้างโรงไฟฟ้า แต่จะเป็นการสร้างงานในท้องถิ่น สนับสนุนให้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ทั้งยังลดปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อมยกตัวอย่าง ปตท.ที่หันไปลงทุนในบริษัทผลิตแบตเตอรี่เก็บกระแสไฟฟ้า เตือน กฟผ. กฟน. กฟภ. อีกไม่นานจะหมดยุคผูกขาด เพราะประชาชนจะหันไปใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แทน
วันที่ 24 เม.ย. เวลา 09.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” และช่องยูทูป Sondhitalk ที่อธิบายถึงสถานการณ์ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น โดยในวันนี้นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะมาฉีกออกเป็นข้อๆ ให้ได้รู้กัน แล้วอนาคตของการไฟฟ้า ทั้ง กฟผ. กฟน. และ กฟภ.จะเป็นอย่างไร มีคำตอบให้ในรายการ “SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง”
คำต่อคำ SONDHI TALK [24 เม.ย. 63] : สนธิ ชูธง โต้กระแสไฟฟ้า (แพง)
สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2563 ก็เป็นศุกร์ทุกศุกร์ที่เรามาพบกันในช่วงเวลาประมาณ 9 โมง หรือ 9 โมงกว่านิดๆ วันนี้มีเรื่องราวที่ตกค้างมาจากอาทิตย์ที่แล้ว วันศุกร์ที่แล้ว เรื่องเกี่ยวกับค่าไฟที่แพง เดิมทีผมก็คิดว่าผมพูดไปอาทิตย์ที่แล้วมันน่าจะจบ แต่ผมเห็นว่ามันไม่จบ เพราะว่าทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ นครหลวง และภูมิภาค ไม่ยอมจบ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเราค่อยว่ากันอีกที มิหนำซ้ำ นอกจากนั้นแล้วยังมีฝ่ายประชาสัมพันธ์ทำเอกสารร่อนไปทั่วเครือข่ายของเขา รวมไปจนถึงสื่อมวลชนบางฉบับ มีคำถาม มีคำสอนผม 5 ข้อ ผมต้องเน้นคำสอน เพราะว่าเขาขึ้นต้นว่าอยากให้ผมเรียน เรียนรู้จากข้อความที่เขาสอนให้ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเราค่อยว่ากันตอนท้าย
แต่วันนี้เราจะข้ามช่วงของช่องทางการรับชมรายการนี้ ตัดทิ้งไปเสียก่อนนะครับ เพราะว่าเราอยากจะเข้าถึงเรื่องที่มันเผ็ดร้อน เด็ด และมันเร็วขึ้น แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นเรามาดูเรื่องราวต่างๆ ท่านผู้ชมจำได้ใช่ไหมครับว่าผม เราเปิดร้านค้าของเราให้กับประชาชนทั้งหลายฝากร้านมา ปรากฏว่ามีร้านทั้งหมดฝากร้านมาประมาณเกือบๆ 6 พันร้านแล้ว เกือบๆ 6 พันร้าน แล้วมีพ่อแม่พี่น้องและท่านผู้ชมทั้งหลาย และประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมเยียนร้านนั้น ตกประมาณ 6 แสนกว่าคนแล้ว ผมเองก็นั่งดูด้วยตัวผมเอง แล้วผมก็เห็นอะไรหลายอย่างที่ผมอยากได้ ผมก็สั่งซื้อมา ท่านผู้ชม ของต่างๆ ที่วางบนโต๊ะนี้เป็นของที่ผมสั่งจากการฝากร้านในเพจนี้ ในเพจนี้ผมสั่งมันปูจากปากพนัง ขวดละ 150 บาท มันปูนะครับ มันปูนี่หายากมาก ถ้าซื้อ 5 ขวด ลดเหลือ 120 ผมสั่งไป ปรากฏว่าขึ้นเพจเรายังไม่ทันไรเลย มีคนโทรศัพท์ไปสั่งเขาเยอะ เขาเหลือแค่ 2 ขวดเท่านั้นเอง แต่เขาก็บอกว่าเดี๋ยวเขาจะรีบหามาใหม่ ผมก็สั่งเพิ่มไปอีก 10 ขวด เพราะว่าอร่อยมาก ผมยืนยัน และผมมีสูตรข้าวผัดมันปูและมันกุ้ง เอาไว้วันหลังผมจะเล่าให้ฟังว่าสูตรเป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าเมื่อเช้านี้ได้ทำข้าวผัดมันปูมันกุ้งให้กับพรรคพวกซึ่งเป็นทีมงานของผมทาน ทุกคนบอกว่าอร่อยมาก นี่คือมันปูปากพนังครับ
นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมี ผมเป็นคนชอบทานน้ำปลาหวาน ก็มีเจ้าน้ำปลาหวานให้ อันนี้ก็รสเข้มข้นมาก เครื่องเยอะมาก 150 บาท แล้วก็มีมังคุด มาจากสวนที่นครปฐม ฟังดูอาจจะแพงไปนิด ก็คือ 5 กิโลกรัม ประมาณ 600 บาทมั้ง ก็เท่ากับว่ากิโลกรัมละ 120 แต่ว่าเป็นมังคุดที่เขาแกะออกจากต้นเลยแล้วส่งมาให้ รสชาติดีมาก ลูกสวย อร่อยมาก นี่ก็ซื้อโดยตรงจากสวนที่นครปฐม
อันสุดท้ายที่ผมเห็นก็คือ ท่านเจ้าของร้านที่ขายไม้หอม ชุดหนึ่ง 250 บาท ผมก็เลยสั่งซื้อมา ใช้เองแล้วก็แจกพรรคพวกบางคน ปรากฏว่าหอมมาก ดีมาก ชุดหนึ่งทั้งไม้หอมและขวด 250 บาท มีหลายกลิ่น
ก็อยากให้รับรู้ว่ายังมีสินค้าอีกเยอะ แล้วตอนนี้เราแบ่งเป็นหมวดหมู่แล้ว ก็คือ อาหารการกินหมวดหมู่หนึ่ง สินค้าเกษตรหมวดหมู่หนึ่ง เบ็ดเตล็ด ของใช้ในบ้านหมวดหมู่หนึ่ง หลายอย่าง มีหลายหมวดหมู่ เพราะฉะนั้นแล้วแทนที่ท่านผู้ชมจะไล่ไปทีละอันๆ ยาว แต่หลายท่านก็ชอบที่จะไล่ดู เพราะว่ามันเพลิน สนุกสนาน มีแม้กระทั่งหมวดหมู่อสังหาริมทรัพย์ มีที่ดิน ถ้าจำไม่ผิด ที่เชียงใหม่ ติดถนนใหญ่ 3 งาน 300 ตารางวา ขายประมาณ 750,000 ก็ปรากฏว่า เท่าที่ทราบมา ขายได้เรียบร้อยแล้ว ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เราไม่เกี่ยว เราเป็นผู้ที่ให้ฝากร้าน ก็อยากจะพูดด้วยความภูมิใจว่าร้านของเรานั้นคนเข้ามาเยอะมาก แล้วร้านของเรานั้น เอาเป็นว่าไม่มีอะไรที่อยู่เบื้องหลังเลยแม้แต่นิดเดียว เจรจากันเอง คุยกันเอง นี่คือรายการไทยช่วยไทย หลายๆ เว็บไซต์ หลายๆ แห่งก็ทำการฝากร้านเหมือนกัน ก็ขอชมเชยด้วย แล้วก็ขอให้ทราบว่ามีใครที่จะเปิดที่ฝากร้าน ก็เปิดไปเถอะ เพราะ ณ เวลานี้มีผู้คนมากมายที่อยากจะขายของและฝากของขาย แล้วก็อยากทำมาหากินโดยซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีอะไรน่าอาย ใครจะไปรู้ว่าผมไม่ค่อยได้ทานมันปู หายากมาก พอเจอมันปูปากพนัง ชอบมากๆ เลย แล้วก็ทำอาหารอร่อยด้วย วันหลังผมจะสอนวิธีทำข้าวต้มมันปู
ท่านผู้ชมครับ ของพวกนี้ท่านจะหาได้จากเพจ โพสต์ที่เราโพสต์ไว้ว่าฝากร้าน และจะเริ่มแบ่งเป็นหมวดหมู่แล้ว
ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่จะเข้าเรื่อง วันนี้อยากจะให้แชร์กันมากๆ แชร์กันให้เต็มที่เลย เพราะวันนี้เป็นเรื่องที่เราจะต้องมาวิวาทะกับคนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทั้งหมดคนที่อยู่ใน 3 องค์นี้ประมาณ 50,000 คน รวมตัวกันที่จะปะทะกับผมคนเดียว แต่ว่าเขาลืมไป ผมมีท่านผู้ชม 63 ล้านคน มีประชาชน 63-67 ล้านคน ที่อยู่ข้างหลังผม ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมพูดถึงเรื่องค่าไฟแพง แล้วมันก็แพงจริง แล้วทำไมมันถึงแพงเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง และเบื้องหน้าเบื้องหลังค่าไฟแพงมีอย่างไรบ้าง วันนี้จะเล่าให้ท่านผู้ชมฟัง เพื่อให้ท่านผู้ชมได้เข้าใจ ทีเดียว ม้วนเดียวจบ แล้วเราค่อยมาตบท้ายตอนจบ ตอนใกล้จบ ตอนจบจะมีอยู่ 2 ตอน ตอนแรกคือการตอบคำถาม 5 ข้อ ที่เขาเขียนมาสอนผม ให้ผมเรียน ผมจะตอบเป็นข้อๆ ไป อันสุดท้ายคือ ผมกำลังจะชี้ให้เห็นว่าอนาคตของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าภูมิภาคนั้นมืดมน เพราะคนพวกนี้ดูถูกประชาชน นอกจากดูถูกประชาชนแล้ว ยังไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก แล้วผมจะเล่าให้ฟังตอนหลัง
ท่านผู้ชมครับ ถ้าจะเข้าใจเรื่องไฟฟ้า ผมไม่อยากจะพูดในลักษณะเป็นเมกะวัตต์ หรือเป็นกิโลวัตต์ เดี๋ยวท่านผู้ชมหลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร เอาเป็นว่าผมใช้เป็น 100 ส่วน 50 ส่วน 40 ส่วนดีกว่า ประเทศไทยนั้นในช่วงที่ไฟฟ้าขาด แล้วรัฐบาลก็มีนโยบายที่จะให้เอกชนเข้ามาทำโรงไฟฟ้า ที่เขาเรียกว่า IPP (Independent Power Producer) แล้วก็ให้เอกชนขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ส่วนการคืนและมีข้อตกลงว่าราคาต้องคืนอย่างไร ข้อตกลงเงื่อนไขอย่างไร เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง เพราะมันมีเงื่อนงำ เพราะเงื่อนงำตรงนี้ที่ทำให้ไฟฟ้ามันแพง แล้วก็ข้อกล่าวอ้างของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ บอกว่าเราไม่เกี่ยว ไฟฟ้าจะขึ้นหรือลงอยู่ที่นโยบาย กกพ. คือคณะกรรมการกำกับพลังงาน ซึ่งตรงนี้เป็นตัวร้ายที่จะทำให้ราคาค่าไฟแพงหรือสูง แต่ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของคณะกรรมการชุดนี้มันก็เกี่ยวข้องกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ หรืออีกนัยหนึ่ง ผมจะพูดว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ นั้นก็มีอิทธิพลพอสมควรในคณะกรรมการพลังงานได้เช่นกัน
ท่านผู้ชมครับ ตามผมมา ง่ายๆ ก็แล้วกัน เมื่อเกิด IPP ขึ้นมา ก็มีคนหลายคน นักธุรกิจการลงทุน ก็ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ก่อนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าได้ ต้องได้รับสัมปทานจากกระทรวงพลังงานก่อน ส่วนใครจะได้สัมปทานมากหรือน้อยอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับเส้นสายทางการเมือง ในยุค คสช.มีอำนาจนั้น มีโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งได้สัมปทานเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งผมไม่เอ่ยชื่อก็แล้วกัน เอาเป็นว่า ก็เพราะเส้นสายทางการเมืองรู้จักกัน ก็เลยสามารถที่จะดึงสัมปทานมา เขาเรียกว่าเป็นเมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าโรงหนึ่งอาจจะมี 300 เมกะวัตต์ อีกโรงหนึ่งอาจจะ 400 เมกะวัตต์ คำว่าเมกะวัตต์ ประเทศไทยผลิตไฟฟ้า ทั้่งผลิตและทั้งซื้อมาตอนนี้ 45,500 เมกะวัตต์ ส่วนเขาจะต้องไปจ่ายเงินนักการเมืองเมกะวัตต์ละเท่าไร ก็เป็นเรื่องซึ่งทำกันอยู่แล้ว นี่เป็นเรื่องราวที่เข้าใจกัน เพราะว่าทุกจุดในประเทศไทยมันต้องเสียเงินเสียทองกันทั้งสิ้น
ทีนี้ เกิดอะไรขึ้น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ตอนนั้นก็เลยจะรับซื้อไฟฟ้าจากภาคเอกชนที่ผลิตขึ้นมา ซื้อในประเทศ แล้วก็ซื้อนอกประเทศ นอกประเทศซื้อจากอะไร ซื้อจากผู้ที่ไปรับสัมปทานในการสร้างเขื่อน เช่น ช.การช่าง ช.การช่าง ไปสร้างเขื่อนให้กับประเทศลาว เมื่อเสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เอาน้ำจากเขื่อนนั้นมาผลิตไฟฟ้า แล้วส่งเข้ามาขาย แต่ราคาที่ ช.การช่าง ซื้อนั้นค่อนข้างจะถูก เหตุผลเพราะว่ามันเป็นพลังงานที่เกิดจากน้ำ ต้นทุนมันถูก ไม่ใช่พลังงานที่เกิดจากการตั้งโรงงานไฟฟ้าแล้วเอาน้ำมัน และเอาแก๊สเข้ามาเพื่อผลิตไฟฟ้า เพราะฉะนั้นแล้ว ราคาที่ ช.การช่าง ขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ก็อยู่ในลักษณะหน่วยละ 1.99 บาท ส่วนราคาของโรงไฟฟ้าที่ทำอยู่ในประเทศไทยนั้นก็จะเกิน 2 บาท ไปถึง 3 บาท แต่จะราคาเท่าไรก็ตาม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ก็จะบวกเข้าไป 1 บาทต่อ 1 หน่วย ถือว่าเป็นกำไร ก็คือว่าตัวเองไม่ต้องลงทุน แต่ตัวเองบวกเข้ามาได้
ท่านผู้ชมครับ ประเด็นมันอยู่ตรงไหน ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า เวลาสร้างโรงไฟฟ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอกชนสร้างเสร็จ ได้สัมปทานจากกระทรวงพลังงาน สมมุติว่า 400 เมกะวัตต์ สร้างเสร็จแล้วมีไฟฟ้าเท่านี้ ที่จะขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เป็นหน้าที่ของเอกชนกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ต้องเจรจากันแล้ว เจรจากันว่าคุณจะซื้อผมเท่าไร คุณจะขายผมเท่าไร เท่าที่ทราบมา กระทรวงพลังงานไปรับประกันความเสี่ยงให้กับคนที่ผลิตไฟฟ้า นั่นก็คือว่า จะรับประกันว่าราคาที่ซื้อขายนั้นจะทำให้โรงไฟฟ้านั้นมีกำไรปีละ 12 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อเอา 12 เปอร์เซ็นต์ เป็นตัวตั้ง บวกกำลังเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นราคาพื้นฐานที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จะต้องเจรจากันกับผู้ประกอบการเอกชน
ทีนี้ ปัญหามีอยู่ว่า เวลาเจรจากันไปเจรจากันมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ถ้าต้องการที่จะเอาไฟฟ้าราคาถูกเพื่อขายให้ประชาชนในราคาที่ถูกลง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ต้องเคี่ยว คือต้องกดราคาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่ที่เป็นไปในอดีตนั้น มีการเจรจากันใต้โต๊ะ เจรจากันลับส่วนตัว จนกระทั่งในที่สุดราคาที่ออกมาก็เป็นราคาที่ฝ่ายผลิตของภาคเอกชนพอใจที่การไฟฟ้าให้ราคานี้ น่าสนใจมาก
นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีอีกข้อหนึ่ง คือค่าพร้อมจ่าย ค่าพร้อมจ่ายคืออะไร สมมุติว่าผมขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จำนวน 100 หน่วย แล้วปรากฏว่าการไฟฟ้ารับซื้อไปแล้วแต่ใช้แค่ 20 หน่วย ผมไม่มีสิทธิจ่ายแค่ 20 นะ ผมต้องจ่ายเต็ม 100 หน่วย จะใช้หรือไม่ใช้ก็ต้องจ่าย 100 หน่วย ตรงนี้ต่างหากที่ผมกำลังจะตั้งคำถามถามการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ว่าคุณปล่อยให้ผู้บริหารของคุณไปเจรจาแบบนี้ได้อย่างไร เพราะว่าคุณเป็นคนซื้อไฟฟ้า เมื่อคุณซื้อไฟฟ้าแล้ว ในราคาที่เมื่อคุณซื้อแล้ว เขาจะกำไร 12 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเขากำไร 12 เปอร์เซ็นต์แล้ว คุณอย่าไปยอมเขาสิ ถ้าสมมุติคุณซื้อเขาแค่ 20 หน่วย อีก 80 หน่วยคุณไม่ซื้อ คุณก็จ่ายแค่ 20 คือใช้เท่าไรจ่ายเท่านั้น แต่ไม่ เนื่องจากมีเงื่อนไขตัวนี้ว่าเป็นค่าพร้อมจ่าย ซึ่งผมคิดว่าน่าเกลียดมาก แต่ตรงนี้เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ไม่เห็นโวยวายเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้บริหารก็ไม่โวยวาย ผู้บริหารจะโวยวายได้อย่างไรล่ะท่านผู้ชม ท่านผู้ชมไปเช็กดูได้เลย โรงไฟฟ้าเอกชนมีอยู่หลายโรงที่รับอดีตผู้บริหารของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เข้าไปทำงานเป็นผู้บริหารระดับสูง แล้วนี่ถ้าไม่เรียกว่าฮั้วกัน จะเรียกว่าอะไรล่ะครับ ผมก็เลยอยากจะเรียนให้กับบรรดาเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ให้รู้ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังมันมีอย่างนี้
นอกจากนั้นแล้ว การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เนื่องจากไม่มีใครเข้าไปเช็ก ไปตรวจสอบ รายงานให้เฉพาะกระทรวงพลังงานอย่างเดียว มันก็เลยเป็นเรื่องราวที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จะทำอะไรก็ทำได้หมด จะขยายงานก็ขยายได้ จะสั่งซื้ออุปกรณ์ต่างๆ อะไหล่มาสต๊อกกัน เรียกว่าสิบปีข้างหน้ายังใช้อะไหล่ที่ซื้อเข้ามาไม่หมด ตรงนี้ไม่มีใครรายงาน ตรงนี้คนที่ทำจดหมายถึงผม 5 ข้อ ก็ไม่กล้าพูดเรื่องนี้ นี่คือต้นทุนไง แล้วก็เอาทั้งหมด การสต๊อกของ สต๊อกของเยอะๆ สมมุติว่าคุณจะซื้อเก้าอี้สักตัวมาใช้ในสำนักงาน คุณจำเป็นต้องใช้แค่ 10 ตัว คุณดันทะลึ่งซื้อมา 100 ตัว แล้วคุณไม่คิดหรือว่าคนที่สั่งซื้อ 100 ตัว จะไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีคอร์รัปชัน หรือไม่มีเงินใต้โต๊ะ มันมีอยู่แน่นอนท่านผู้ชม มีตั้งแต่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นี่คือข้อเท็จจริงในรัฐวิสาหกิจ คุณอย่ามาเถียงผมเรื่องนี้ ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่า นี่คือส่วนหนึ่งของต้นทุน
อันที่สอง ส่วนหนึ่งของต้นทุนก็คือว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีพนักงานมากเกินไปหรือเปล่า ตอนนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีพนักงาน 20,000 กว่าคน 24,000-25,000 คน เมื่อเร็วๆ นี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ อุตส่าห์ว่าจ้างบริษัท PwC (PricewaterhouseCoopers) บริษัทที่ปรึกษาของฝรั่ง มาสำรวจว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีคนมากไปหรือเปล่า เขาลงมติฟันธงมาว่า สามารถจะปลดคนออกมาได้ 7,000 คน จาก 20,000 กว่า ให้เหลือแค่ 10,000 กว่าคน ก็คือการที่คนจู่ๆ ลดไป 7,000 คน แล้วงานการไฟฟ้ายังเดินหน้าต่อไปได้ แสดงว่าอะไร แสดงว่าธรรมาภิบาล หรือการบริหารงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ไม่ได้โปร่งใส ใช้พวกพ้องญาติพี่น้อง และไม่ใช่เฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวงก็เช่นกัน การไฟฟ้านครหลวงถึงกับมีกติกาครั้งหนึ่้ง ผมไม่รู้ว่าเลกไปหรือยัง ว่า พ่อ ถ้าทำงานอยู่การไฟฟ้านครหลวง สามารถเอาลูกเข้ามาทำงานด้วยได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมไปเช็กดูได้ ในการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะมีญาติพี่น้องตระกูลนี้เอย ญาติพี่น้องคนนี้เอย คนนี้เข้ามาทำงานอยู่ 20-30 ปี ลูกโตแล้ว เอาลูกเข้ามาทำ พอลูกโตขึ้นมา เอาเมียเข้ามาทำ เอาลูกเข้ามาทำ เอาหลานเข้ามาทำ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะสวัสดิการมันดีมากๆ
ท่านผู้ชมเชื่อไหม ท่านผู้ชมลองไปถามคนทำงานการไฟฟ้าฯ ว่า สวัสดิการคุณมีอะไรบ้าง ไม่มีใครตอบสักคน ปิดปากหมด เพราะว่ามันดีเหลือเกิน ไม่อยากให้คนรู้ว่ามันดีอย่างไร รักษาพยาบาลไม่ใช่แค่ตัวคุณ พ่อ แม่ ลูก เมีย รักษาพยาบาล เบิกค่าเทอมให้ได้ มีค่าโน่นค่านี่ รวมไปจนถึงค่าใช้ไฟฟ้าฟรี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ บางท่านบอกว่าไม่มี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ไม่ได้มีการใช้ไฟฟ้าฟรี ไม่จริง เขาบอกค่าไฟฟ้าฟรีของคุณเข้าไปในเงินเดือนของคุณด้วย ส่วนการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก็จะเป็นอีกลักษณะหนึ่ง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็ต้องให้เครดิตเขานิดหนึ่ง เงินเดือนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจ้างเด็กปริญญาตรีเข้าไปค่อนข้างต่ำ เริ่มที่ 10,8000 บาท แต่ว่าเมื่อโตขึ้นไปเรื่อยๆ ระดับของคุณเมื่อเริ่มสูงขึ้นแล้ว สวัสดิการของคุณก็เริ่มมากขึ้น อย่างเช่น คุณอยู่ระดับหนึ่ง ค่าไฟฟ้าเขาให้คุณเดือนละ 10,000 บาท แปลว่าอะไร แปลว่าถ้าคุณใช้แค่ 3,000 อีก 7,000 ก็เข้ากระเป๋าคุณ ทั้งหมดนี้ บวกเข้าไปในค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายพวกนี้บวกเข้าไปในบิลที่เวลาเขาส่งไปให้คุณ เขาบวกสวัสดิการ เขาบวกความสุข เขาบวกความชิลๆ เขาบวกความลันล้าของพนักงานการไฟฟ้าทุกคน
เอาล่ะ ผมไม่อิจฉาริษยา เพราะผมไม่เคยคิดที่จะไปทำงานรัฐวิสาหกิจ หรือทำงานรัฐบาล แต่ผมกำลังจะพูดว่า บางอย่างถ้าคุณโปร่งใส คุณต้องกล้ายอมรับ และก็ไม่ใช่เรื่องอะไร ทุกคนวันนี้เดือดร้อน มาเล่นงานผมเพราะกลัว เพราะผมกำลังจะเสนอว่า คุณจะทำได้ไหมที่คุณจะยกโบนัสของคุณ 2-3 เดือน คืนให้คลัง แล้วให้รัฐบาลเอาเงินนี้มาช่วยประชาชน โกรธตรงนี้ ผลประโยชน์ตรงนี้อย่ามาแตะต้องของฉัน
ท่านผู้ชมครับ ต่อไปอีก ท่านผู้ชมรู้ไหม รู้หรือเปล่าว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีสนามกอล์ฟอยู่ 11 สนาม ท่านผู้ชม ผมพูดไม่ผิดนะ ตั้งใจฟังดีๆ เขามีสนามกอล์ฟอยู่ 11 สนาม ผมไม่รู้ว่าเหตุผลในการสร้างสนามกอล์ฟของเขาใช้ตรรกะอะไร แต่ว่าตรรกะที่เขาให้มาตลอดเวลาก็คือว่า ในเมื่อมันสร้างแล้ว มันมีที่เหลืออยู่ เมื่อที่เหลืออยู่ก็เลยถือโอกาสสร้างเป็นที่สันทนาการ คำถามคือ เวลาคุณสร้างสนามกอล์ฟ พระผู้เป็นเจ้าส่งเงินมาให้คุณใช้หรืออย่างไร ลงทุนหรืออย่างไร ไม่ใช่ คุณก็เอางบประมาณนั่นล่ะ ที่คุณสร้างเขื่อนมา แบ่งสรรปันส่วนมาอันหนึ่งเพื่อจะมาสร้างสนามกอล์ฟ มันเป็นไปได้อย่างไรท่านผู้ชม องค์กรๆ หนึ่งมีสนามกอล์ฟ 11 แห่ง เดี๋ยวผมจะเอารูปให้ดู 11 แห่ง
แล้วลำพังแค่น้ำที่ต้องใช้เพื่อเลี้ยงดูสนามกอล์ฟ ค่าใช้จ่ายในการรักษาสนามกอล์ฟ ผมว่าปีหนึ่งต้องมี 100 ล้าน อ๋อ แน่นอน ผลเป็นอย่างไร ผลก็คือบวกเข้าไปกับต้นทุนไง ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง ผมไม่ได้อิจฉาพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ หรือการไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ผมรู้จักคนที่นั่นดีหลายคน คุณศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพฯ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ หรือว่าจ๊อด คนที่ร่วมต่อสู้กับผมมา ก็อยู่การไฟฟ้านครหลวง คนพวกนี้เป็นคนที่รักชาติ รักบ้านรักเมือง รักประชาชน แต่ยังมีคนอีกประเภทหนึ่ง เยอะเลย ที่ไปเชื่อผู้บริหาร ผู้บริหารพูดอะไรก็เห็นด้วยหมดทุกอย่าง คุณยังไม่รู้อะไรอีกเยอะ ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง
วันที่พวกคุณต่อสู้เพื่อที่จะให้โรงไฟฟ้ากระบี่ใช้ถ่านหินได้ คุณอ้างอยู่อย่างเดียว ถ้าโรงไฟฟ้ากระบี่ไม่มีถ่านหิน ไม่เปิดขึ้นมา ทางใต้จะไม่มีไฟใช้ นั่นคือสิ่งที่คุณอ้าง คุณกลับไปดูได้เลยว่าที่ผมพูดนี้จริงหรือไม่จริง ดูข่าวตามสื่อมวลชน ชัดเจน แต่คุณก็ไม่รู้ใช่ไหมว่า จริงๆ แล้วหมูจะหามดันทะลึ่งเอาคานเข้ามาสอด คุณคงนึกไม่ถึงว่าพลังของประชาชน พลังมวลชน พลังประชาชนชาวกระบี่ที่ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน มันรุนแรงขนาดไหน เพราะเขาเห็นว่าถ่านหินที่คุณเอามาใช้ เพียงเพราะว่าผู้ใหญ่ในการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ บางคนมันแอบไปติดต่อกับเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย มันคุยกันล่วงหน้าแล้วว่าจะซื้อถ่านหินเท่านี้นะ ต่อปีเท่านี้นะ ต่อตันฉันได้เท่าไร และเผอิญช่วงนั้นเป็นช่วง คสช. ผู้บริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ก็บอกว่า โอย หวานหมูแล้ว ไม่มีใครกล้าประท้วง เพราะถ้าจับกลุ่มชุมนุมกันเกินกี่คนๆ ผิดกฎหมายหมด ก็เลยผลักดันเรื่องนี้ หารู้ไม่ว่าคนที่กระบี่ และคนที่เขาไม่เห็นด้วยกับการใช้ถ่านหินตอนนั้นมันเยอะมาก ถึงขนาดที่เรียกว่า รุนแรงถึงขนาดที่เรียกว่า ติดคุกเป็นติดคุก เขาไม่กลัว เขามาชุมนุมกันตลอดเวลา
จนกระทั่งรัฐบาลชุด คสช. ยุคนั้น ไม่กล้าที่จะใช้ความรุนแรงในเรื่องนี้ เพราะว่าสิ่งที่ประชาชนเขาประท้วงในเรื่องโรงไฟฟ้ากระบี่นั้น มันเป็นจริง และเขาเอาจริง เขาไม่กลัว เมื่อเขาไม่กลัวแล้ว คสช.ต้องการความสงบเรียบร้อย ก็เลยเป็นที่มาที่ท่านนายกฯ บอก โยนกลับไป ให้ไปทบทวนกันใหม่ ก็คือพูดง่ายๆ ว่าปัดสวะให้พ้นตัวก่อน คุณอย่าเพิ่งสร้างโรงไฟฟ้านะ คุณอย่าเพิ่งเอาถ่านหินมานะ ในขณะเดียวกันก็บอกอีกฝั่งหนึ่งว่า คุณหยุดประท้วงได้แล้ว เขาไปเริ่มพิจารณาใหม่แล้ว
ท่านผู้ชมครับ เรามาจับโกหกการไฟฟ้าอีกครั้งหนึ่ง อีกหลายๆ ครั้งต่อไป การไฟฟ้าฯ พูดบอกว่า ถ้าไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กระบี่ ไฟฟ้าทางใต้จะไม่พอใช้ ท่านผู้ชม วันนี้ถ้าเรามีกำลังไฟฟ้าอยู่ 100 ส่วน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่า เดือนเมษายน ปริมาณใช้ไฟของเราเดือนนี้ ยังน้อยกว่าปริมาณการใช้ไฟของเดือนเมษายน เมื่อปีที่แล้ว ปี 62 ทั้งๆ ที่มันร้อนเหมือนกัน ทำไมกำลังการใช้ไฟปีนี้น้อย อาจจะเป็นเพราะว่ารถราไม่มีวิ่ง มีไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ก็เลยทำให้ธุรกิจหยุดใช้ไฟ แต่เมื่อคำนวณจากการใช้ไฟ ปริมาณใช้ไฟ 100 ส่วน ก็ปรากฏว่ายังมีไฟสำรองเหลืออยู่ 86 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าคุณมีไฟฟ้าล้นเหลือ แต่คุณกระสันที่จะสร้างโรงไฟฟ้าที่โน้น สร้างโรงไฟฟ้าที่นี่ สร้างโรงไฟฟ้าที่นั่น ทำไมถึงกระสันจะสร้างกัน ท่านผู้ชมรู้ไหม ผลประโยชน์ไง ท่านผู้ชม โรงไฟฟ้าโรงหนึ่งมูลค่าเป็นพันๆ ล้าน ซื้อข้าวซื้อของ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ทั้งอิฐทั้งปูน ทั้งนู่นทั้งนี่ ทั้งเครื่องจักรโน่นนี่นั่น เต็มไปหมด แล้วผมก็มีตัวอย่างๆ หนึ่ง
ป.ป.ช.กำลังชี้มูลความผิด คอร์รัปชันอุปกรณ์เครื่องจักรที่บริษัท มิตซูบิชิ ที่ส่งมาขายกับการไฟฟ้า บริษัทเอกชน EGCO ทำไม EGCO ไปเกี่ยวอะไร เกี่ยวสิ เพราะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ถือหุ้นอยู่ เอาล่ะ มาถึงตรงนี้แล้ว ท่านผู้ชมพักก่อน
ผมจะเล่าให้ฟังว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ นี้ กิน 2-3 เด้ง เด้งแรกก็คือว่า ประการแรก ซื้อไฟจากเอกชนมา แล้วก็บวกอีก 1 บาท เด้งที่สองก็คือว่า ตัวเองก็ไปตั้งโรงไฟฟ้าเอกชนขึ้นมาแห่งหนึ่ง ชื่อ EGCO อีกอันชื่อ ราช แต่ก่อนเขาเรียกว่าราชบุรี โฮลดิ้ง ราชบุรี โฮลดิ้ง ถือหุ้นอยู่ 45 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าอะไรท่านผู้ชม แปลว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ก็ได้กำไรจากการถือหุ้นอยู่ใน EGCO ที่ถือว่าเป็นโรงไฟฟ้าเอกชน และเอามาขายการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ อีกทีหนึ่ง ในราคาที่ทำให้ EGCO มีกำไร และเจรจาในราคาซื้อไฟที่ทำให้ EGCO มีกำไร ราชบุรี โฮลดิ้ง ซึ่งแปลงชื่อเป็น ราช กรุ๊ป (RATCH) ก็อยู่อย่างนั้นเช่นกัน ทั้งสองบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ระดับอาวุโส หรือผู้บริหาร ออกไปแล้วก็ทำงานอยู่สองบริษัทนี้ ได้อันหนึ่งจากการที่ตัวเองถือหุ้นอยู่ในบริษัทโรงไฟฟ้าเอกชนสองแห่ง เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด กับอีกบริษัท ราช ถือหุ้นอยู่ 45 เปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าใหญ่ที่สุดแล้ว จะพูดอีกนัยหนึ่งก็ได้ว่า นี่คือโรงไฟฟ้าเอกชนที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เป็นเจ้าของ แล้วส่งมาขาย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ก็ได้ 1 เด้งแล้ว แล้วคนที่มาถือหุ้นอยู่ในบริษัท EGCO หรือราช ก็คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เช่นกัน นี่มันกินหัว กินหาง กินกลางตลอดตัว ผมไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ตอนนี้ เพราะผมจะเอาเรื่องนี้เข้าไปตอบคำถามคุณ แต่ไม่เป็นไร ผมอธิบายว่าทำไมไฟฟ้ามันถึงแพง เห็นไหมครับ ต้นทุนที่มีอยู่
ท่านผู้ชมทราบไหมว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีรองผู้ว่าฯ การไฟฟ้า 12 คน โอ้โห องค์กรคุณใหญ่มหึมาขนาดไหน มีรองผู้ว่าฯ การไฟฟ้าตั้ง 12 คน PricewaterhouseCoopers (PwC) ให้คำปรึกษาแล้ว ระบุมาชัดเจนว่า รองผู้ว่าฯ มีแค่ 7 ก็พอ หายไป 5 คน พนักงาน 25,000 คน ลบไป 7,000 คน ก็ยังเหลือ ก็แสดงว่าอะไร แสดงว่าต้นทุนที่คุณมาเสพสุขกัน เอาญาติพี่น้องเข้ามาทำงาน รับคนโน้นคนนี้ รับเมียน้อยของนายเข้ามา รับลูกหลานเข้ามา รับโน่นรับนี่เข้ามา บางคนหลายคนพ่อเป็นรองผู้ว่าฯ การไฟฟ้า ลูกก็มาทำงานต่อ สืบทอดกันไปเลย เป็นสายไปเลย
อีกประการหนึ่ง คณะกรรมการ กกพ. คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มันก็มีประธานคนหนึ่ง ซึ่งประธานนั้นก็เป็นเด็กของโรงไฟฟ้าเอกชนที่ใหญ่โรงหนึ่้ง แต่กรรมการที่เหลือก็เป็นนอมินี นอมินีของ EGCO ก็มี นอมินีของราชบุรี โฮลดิ้ง ก็มี เมื่อคุณมีนอมินีของสองตัวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ แล้วพอประชุมกันทีบอกให้ลดค่าไฟฟ้า ท่านผู้ชมแล้วมันจะลดเหรอ ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง มันถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องปรับคณะกรรมการ กกพ.ทิ้งเสีย ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยังว่าทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพง เมื่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ บวกโน่นบวกนี่้เสร็จ ส่งต่อไปที่การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สนุกล่ะสิคราวนี้ การไฟฟ้านครหลวงก็สนุก เอ็นจอยตัวเองล่ะคราวนี้ ได้ไฟฟ้ามา ทำไมเขาถึงเอ็นจอยนักท่านผู้ชม เพราะมันเป็นกิจการผูกขาดท่านผู้ชม ผูกขาดขนาดไหน ผูกขาดขนาดที่เรียกว่าท่านผู้ชมไม่มีทางเลือกเลย
ยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง ท่านผู้ชมรู้ไหม สมัยที่โซลาร์เซลล์ แผงโซลาร์เซลล์ไฟฟ้าที่รับแสงอาทิตย์ กำลังเกิดขึ้นมา และประชาชนก็เริ่มใช้โซลาร์เซลล์ บ้านผมยังใช้โซลาร์เซลล์เลย ใช้ทำไมรู้ไหม ใช้เพื่อที่จะใช้น้ำเย็นให้เป็นน้ำร้อน ยุคนั้นสมัยนั้นยังไม่ทันสมัยเท่าสมัยนี้ โซลาร์เซลล์สมัยก่อนแพง แต่โซลาร์เซลล์สมัยนี้ถูกมาก แล้วอายุการใช้งานมีถึง 25 ปี ท่านผู้ชมครับ ปรากฏว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ กลัวว่าตัวเองจะสูญเสียรายได้ ถึงกับทำเรื่องทำราวเสนอ กกพ. เสนออะไรรู้ไหมท่านผู้ชม ให้เก็บภาษีแสงแดด สรุปแล้วคุณเป็นเจ้าของดวงอาทิตย์ใช่ไหม ก็คือพูดง่ายๆ ว่าใครใช้โซลาร์เซลล์ต้องเสียภาษีเดือนละ 100-200 บาท โดยข้ออ้างที่ว่า เนื่องจากว่าตอนกลางวันคนใช้โซลาร์เซลล์ ก็เลยไม่ใช้ไฟฟ้า พอตกกลางคืนไม่มีแดด ก็กลับมาใช้ไฟฟ้า ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ต้องลงทุนเพิ่มเติมในการที่จะเตรียมแจกไฟฟ้าให้ประชาชน
คุณจะไปแจกไฟฟ้าได้อย่างไร คุณจะไปลงทุนเพิ่มเติมได้อย่างไร ก็ในเมื่อมันอยู่ในสายส่งอยู่แล้ว ถ้าประชาชนเขาไม่ใช้ตอนกลางวัน เขาใช้ตอนกลางคืน เขาเปิดสวิตช์ มันก็ต้องเข้ามาอยู่แล้วสิ เพราะไฟฟ้ามันต้องมีอยู่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 24/7 24 ชั่วโมง 7 วัน ใช้สมองอะไรและปัญญาอะไรมาคิด ใช้ส่วนไหนของร่างกายมาคิดว่าต้องเก็บภาษีแสงแดด สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่ภาษีโซลาร์เซลล์ คือภาษีแสงแดด เป็นไปได้อย่างไร ท่านผู้ชม แล้วก็อ้างว่าอเมริกาเขามีการเก็บภาษีอย่างนั้น แล้วทำไมคุณไม่เอาประเทศที่เขาไม่เก็บภาษีมาพูดบ้างล่ะ คุณก็ไปเลือกเฟ้นเฉพาะข้อมูลที่มันเก็บ ปรากฏว่าเรื่องมันแตกออกมา พอเรื่องมันแตกออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรรู้ไหม ตกใจ โดนเขาด่ากันทั่วเมือง เหมือนอย่างวันนี้ ท่านผู้ชม ประชาชนคนไทยก่นด่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คุณมีคนอยู่ 5 หมื่นกว่าคน แต่ผมมีประชาชนอยู่ 60 กว่าล้านคน อยู่ข้างหลังผม คุณจะสู้ผมอย่างไร
คุณอย่าดูถูก คุณอ้างว่าคุณมีคุณูปการกับประชาชน แต่คุณเสวยสุขบนหน้ากากที่คุณบอกว่าคุณมีคุณูปการอยู่ คุณชอบพูดตลอดเวลาเลยว่าพวกเราแดดออก ฝนตก ต้องปีนเสาไปติดโน่นติดนี่ พวกนั้นเป็นพวกแนวหน้า แต่ผมถามกลับว่ามันเป็นหน้าที่ของคุณใช่หรือเปล่า เมื่อเป็นหน้าที่ของพวกคุณ แล้วทำไมคุณต้องอวดอ้างว่าคุณทำงานแล้วน่าเห็นใจ อ้าว คุณต้องทำงานสิ เขาจ้างคุณมาทำงานนี่ คุณอยู่องค์กรซึ่งเงินเดือนใช้ได้ดี แล้วคุณมีสวัสดิการที่เลอเลิศประเสริฐศรี แล้วคุณยังได้ประกันโบนัสอีกทุกปี ปีละ 2-3 เดือน นี่ผมไม่ได้พูดเฉพาะคุณนะ ผมกำลังพูดถึงหลายองค์กร อย่างเช่น การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จ่ายโบนัส 6 เดือน 7 เดือน ผมไม่รู้ว่าปีนี้เจอโควิด-19 งานไม่มี สนามบินไม่มีคนมา ยังจ่ายโบนัสต่อหรือเปล่า ซึ่งก็ไม่ควรจะจ่าย มันเป็นเรื่องน้ำใจ คุณเข้าใจคำว่าน้ำใจไหม ผมเห็นใจคุณ ผมเข้าใจคุณ หลายๆ คน
ธนาคารออมสิน ออมสินนี่เขามีโบนัส ออมสินเขาต้องพึ่งพาโบนัส เพราะว่าเงินเดือนของเขาเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นแล้ว เงินเดือนต่ำกว่ามาก เขาก็พึ่งเฉพาะโบนัสตรงนี้ แต่ออมสินถ้าเขามีกำไรเขาก็จ่าย แต่เขาไม่มีกำไร เขาไม่รู้จะจ่ายอย่างไร เขาก็เลยเจรจากับรัฐบาลเพื่อขอจ่ายโบนัสเป็นกรณีพิเศษ ของคุณก็บอกว่ามันมีกฎ มันมีกติกาเรียบร้อยแล้ว เป็นรัฐวิสาหกิจระดับนี้แล้ว เราต้องจ่ายโบนัสได้ เพราะว่าเราส่งเงินเข้าคลัง
ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมจะเห็นได้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ นั้นไม่ได้ใสสะอาด ไม่ได้โปร่งใส เหมือนอย่างที่ผมพูด หลายๆ อย่าง ผู้หลักผู้ใหญ่ทำมาหากินกัน หลายอย่างๆ ผู้หลักผู้ใหญ่เจรจากันตกลงกับเจ้าของโรงไฟฟ้าเอกชน หลายๆ กรณีผู้บริหารของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ออกไปแล้วก็ไปทำงานกับโรงไฟฟ้าเอกชน ผมถามว่า ระหว่างคนๆ หนึ่งที่เคยเป็นผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ หรือผู้ว่าฯ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ พอไปทำงานโรงไฟฟ้าเอกชน จะไปทำงานกับ EGCO หรือว่าจะไปทำงานกับราช กรุ๊ป ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ถือหุ้นอยู่ ถึงเขาจะเกษียณแล้ว เขาแค่โทรศัพท์กลับไปหาลูกน้องของเขา สมมุติว่าชื่อกานต์ เฮ้ย กานต์ เอกสารที่ทางราชฯ หรือทาง EGCO ส่งไปให้ เรื่องขอลดหย่อนโน่นนี่นั่น เรื่องขอเพิ่มรายได้โน่นนี่นั่น กานต์ช่วยดูให้พี่หน่อยนะ ยังไงช่วยๆ กันหน่อยนะ แล้ววันหลังว่างๆ ไปตีกอล์ฟกันนะ ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง นี่คือสังคมไทย สังคมไทย คุณอย่าโลกสวยสิ คุณอย่าพูดให้ผมฟังสิว่าผมไม่รู้อะไร ผมรู้ ผมรู้มากกว่าคุณเยอะ ผมไม่อยากจะพูด แต่เพราะว่าคุณมาท้าทายผม หลังจากผมพูดอาทิตย์ที่แล้ว คุณเห็นว่าผมโง่ คุณเลยสอนผม เดี๋ยวผมจะคุยเรื่องที่คุณสอนผมว่าคุณสอนผมเรื่องอะไร และผมเรียนรู้อะไรบ้างที่คุณสอนผม และผมไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม และผมจะกลับมาสอนคุณเช่นกัน
เพราะฉะนั้นท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่าไฟฟ้าที่แพง ที่แพงก็เพราะว่า กกพ.มันไม่ได้ยืนข้างประชาชน เพราะ กกพ. คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มันเป็นนอมินี เป็นตัวแทนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และเป็นตัวแทนของโรงไฟฟ้าเอกชน ในขณะเดียวกัน ต้นทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ นครหลวง และภูมิภาค มันมีทุกอย่าง สูงหมดเลย เต็มที่ไปหมดเลย ท่านผู้ชม ผมเกิดมาผมไม่เคยเจอ เวลาท่านผู้ชมได้รับบิล บิลของเอไอเอส บิลของดีแทค บิลของทรู ที่ส่งมาให้เรา ว่าสิ้นเดือนนี้เราเป็นหนี้ค้างเขาอยู่เท่าไร หรือว่าบิลค่าบัตรเครดิต พอส่งมา พอเราได้รับแล้วเราก็จ่ายเงินไปตามช่องทางที่เราไปจ่าย ท่านผู้ชมรู้ไหมการไฟฟ้านครหลวงมันเป็นองค์กรเดียวที่คิดเงินเราในการส่งบิล นี่มันจะเก็บเงินเรายังคิดเงินค่าบิลเลย มีค่าใช้จ่ายในการจัดทำบิล ค่าใช้จ่ายในการดูบัญชี ค่าใช้จ่ายโน่นนี่นั่น แล้วบวกรวมกัน แล้วก็ปรากฏในตัวบิลว่ามีค่าบริการ 38 บาทต่อบ้าน มีที่ไหน คุณทำธุรกิจ คุณจะวางบิลประชาชน คุณยังคิดค่าวางบิลเลย คุณบ้าไปหรือเปล่า ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง นี่มันกำไรทุกเม็ดเลย มันไม่ยอมขาดทุนเลยแม้แต่เรื่องเดียว ไม่ยอมแบ่งเบาภาระของประชาชนเลยแม้แต่นิดเดียว แม้กระทั่งท่านสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก็ได้ทำคุณูปการขึ้นมา ตัดสินใจเลย เรียกประชุมเลย ทุบโต๊ะเลย ไม่ได้ คุณต้องลดค่าไฟให้ประชาชนอย่างนี้ๆ นะ มันก็เลยเป็นที่มาของที่ว่าใช้เท่านี้ ลดเท่านี้ มันก็มาจากใครล่ะ มันก็มาจากพวกคุณเสนอ แทนที่คุณจะเสนอง่ายๆ ว่าลด 50% รวดเลยให้ทุกคน แบบโน้นแบบนี้ เดี๋ยวผมจะเอาอะไรให้ดูอย่างหนึ่ง แล้วท่านผู้ชมจะเห็นด้วยกับผม
คุณเรื่องมาก แล้วคนก็ถามผมอีก ท่านผู้ชม เงินค่าประกันมิเตอร์ เบ็ดเสร็จรวมแล้ว 33,000 ล้าน ท่านผู้ชมมีอยู่เยอะเลย แล้วเชื่อว่าท่านผู้ชมก็คิดแบบผม มันเป็นไปได้หรือเปล่าผมไม่แน่ใจ ผมถาม คนที่ซี้ซั้วไปบวกค่าไฟแพงเพิ่มขึ้นมา เหตุผลก็เพราะว่าคุณต้องการเอาคืนจากค่ามิเตอร์ที่คุณต้องจ่ายคืนประชาชน ท่านผู้ชมครับ ผมได้ปรินต์ความเห็นของประชาชนที่เดือดร้อนจากค่าไฟแพง ปรากฏว่าทุกคนเหมือนกันหมดเลย มาเหมือนกันหมดเลย ไม่เข้าใจ ว่าไฟไม่ได้ใช้อะไรเพิ่ม ทำไมแพงขึ้นไปอีก 1,000 บาท เพราะฉะนั้นแล้ว ผมอดคิดไม่ได้ว่าเป็นไปได้ไหม คุณกำลังจะเรียกเงินโดยวิธีตีหัวประชาชนเพื่อเอาเงินคืน 33,000 ล้านบาท ที่คุณจะต้องจ่ายคืนประชาชนเขาไป หลายคนบอกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ น่าจะเป็นการจดผิด จดผิด? ทำไมต้องจดผิด บริษัทโทรศัพท์มือถือ เอไอเอส ทรู เขามีคนใช้โทรศัพท์ของเขาประมาณ 10 ล้าน 20 ล้าน 30 ล้านเครื่อง ทำไมเขาไม่เห็นจะต้องโทรศัพท์มาถามว่าเดือนนี้คุณใช้ไปเท่าไร เพราะเขามีระบบตรวจสอบของเขาอยู่แล้ว ทำไมมิเตอร์ที่ติดตั้งขึ้นถึงไม่มีระบบตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่ของการไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ว่าบ้านหลังนี้มิเตอร์ขึ้นเท่านี้ คุณก็ลงไปสิ แล้วคุณก็ออกบิลไปเลย ทำไมคุณต้องจ้างคนไปจดๆๆ คุณจ้างคนไปจดเพราะว่ามันต้อง outsource แล้วท่านผู้ชมเชื่อไหม พนันกับผมไหม บริษัท out source นี่ต้องมีผู้หลักผู้ใหญ่ในการไฟฟ้าฯ บางคนมีผลประโยชน์ถือหุ้นอยู่ หรืออยู่เบื้องหลังในการให้บริษัท out source นี้ทำ เพราะมันไม่มีเหตุผล มันไม่มีเหตุผลที่ทำไมมันไม่สามารถจะหาระบบที่สามารถจะเชื่อมโยงกับมิเตอร์ได้ทุกอัน เข้าไปสู่ศูนย์กลาง แล้วพอสิ้นรอบบิลเมื่อไรปั๊บ มันก็จะรายงานเลย บ้านหลังนี้ บ้านพระอาทิตย์ บ้านเลขที่ 102/1-3 ได้ใช้ไฟไปทั้งหมดกี่หน่วย ก็ปรินต์ตรงนั้นออกมา ปรินต์มาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ใส่ซองส่งไปรษณีย์ไปให้เขา ทำไมจะต้องเอาคนมานั่งจด แล้วก็อ้างว่าแดดมันแรง ไฟมันแยงตา ก็เลยทำให้มองผิด ปรากฏว่ามองผิดกันเยอะมาก ถ้าไม่กี่รายไม่เป็นไร แต่นี่ทุกรายเลยโวยวายมา ทำไมของผมแพง
มีดาราคนหนึ่ง สามีคุณเบนซ์ พรชิตา โวยวายมาเลย ทำไมของผมจู่ๆ ไฟขึ้นมา 16,000 บาท การไฟฟ้านครหลวงวิ่งตีนขวิดเลย ไปแก้ไขให้ แล้วมีกี่คนที่คุณไม่ได้แก้ไข อีกกี่คนที่คุณไม่ได้แก้ไข นี่ผมมีคำร้องมาเยอะแยะไปหมด ผมขี้เกียจจะมาดู เดี๋ยวจะหาว่าผมรังแกกัน คุณตุ๊กตา กันตนา งงหนัก ปิดบ้าน ไม่ได้อยู่ร่วมเดือน แต่ค่าไฟ 5,000 ปิดบ้าน ไม่ได้อยู่ แต่ค่าไฟ 5,000 บาท มันเกิดอะไรขึ้นท่านผู้ว่าฯ การไฟฟ้านครหลวง มันเกิดอะไรขึ้นท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณอนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลการไฟฟ้านครหลวง นี่คุณทำร้ายประชาชน นี่คุณเห็นว่าประชาชนไม่มีทางเลือกใช่ไหม คุณถึงกลั่นแกล้งเขา ผมไม่อยากใช้คำว่ากลั่นแกล้ง คุณเห็นว่ามันไม่มีปากไม่มีเสียง กูบอกมึงหน่วยละเท่าไร มึงก็ต้องจ่ายกูหน่วยละเท่านั้น ไม่อย่างนั้นกูจะตัดไฟ ใช้หลักนี้อย่างเดียว ไม่อย่างนั้นกูจะตัดไฟ
อีกประการหนึ่ง ท่านผู้ชมครับ 33,000 ล้าน คือยอดที่จะต้องมาคืนประชาชน ถามว่า 33,000 ล้านนี้ อยู่ในบัญชีของคุณ อยู่ใน saving อยู่ในธนาคารของคุณ กี่ปีมาแล้ว สิบปีได้ไหม ยี่สิบปีได้ไหม แล้วคุณเอาเงินก้อนนั้นไปหมุนทำอะไรบ้าง ถ้าคิดดอกเบี้ยแค่ร้อยละ 3 ร้อยละ 2 ร้อยละ 1 ก็ได้ 10-20 ปีที่ผ่านมา คุณทำเงินกำไรเท่าไร คุณควรหรือไม่ควรที่จะคืน เพราะเงิน 2,000 บาท เงินประกัน เป็นเงินของประชาชน คุณไม่ อ๋อ คุณเคยจ่าย 2,000 บาท เมื่อ 20 ปีที่แล้ว คุณเอาคืนไป 2,000 บาท 2,000 บาท 20 ปีที่แล้ว กับ 2,000 บาท วันนี้ มันมีความหมายที่ไหน มูลค่าเงินมันยังไม่ถึง 1,000 บาทเสียด้วยซ้ำ เห็นไหม นี่เรียกว่าคุณเอาทุกเม็ดเลยนะงานนี้ เอาทุกเม็ด แล้วยังจ่ายเขาช้าอีกด้วย แล้วก็เป็นหนี้บุญคุณกันอีก ผมก็เลยคิดว่าเป็นไปได้ไหม ค่าไฟที่ตีกบาลประชาชนงวดนี้ เดือนเมษายนนี้ ตีจนหนักหนาสาหัสเลย มันมาเพราะว่าคุณอยากจะเอาเงินค่าประกันมิเตอร์คืน ที่สำคัญคือ คุณเอาเงินเขาไปอมไว้ 30 ปี 20 ปี 10 ปี คุณเอาไปอมไว้ คุณเอาไปทำอะไร คุณเอาไปทำอะไร แล้วคุณก็คืนเขาทุกเม็ดเหมือนเดิม ถ้าแน่จริงคุณต้องคืนเขาพร้อมดอกเบี้ยสิ คุณต้องคืนเขาพร้อมดอกเบี้ย เพราะคุณเก็บเงินเขาไป
ท่านผู้ชม ท่านรัฐมนตรีฯ สนธิรัตน์ ก็โดนพวกนี้หลอกอีก หลอกอย่างไร บอกว่าขอเงินรัฐบาล ท่านรัฐมนตรีฯ สนธิรัตน์ก็บอกว่าใช้เงินไป 28,000 ล้าน ท่านรัฐมนตรีไปใช้ทำไม ให้มันทำไม กำไรสะสมที่มันมีอยู่ ท่านผู้ชมรู้ไหม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง สองตัวนี้มีกำไรสะสมที่ซ่อนอยู่ 3 แสนกว่าล้านบาท แล้วที่มีพวกการไฟฟ้าฯ มาบอกผมว่าเขาส่งเงินเข้าคลังหมด ส่งบ้าอะไรเข้าคลัง คุณกำไรปีที่แล้วประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท แต่คุณเอาเข้าคลังแค่ 35,000 ล้านบาทเอง ที่เหลืออยู่ที่ไหนล่ะ ทำไมคุณไม่พูดให้จบ เพราะฉะนั้นท่านรัฐมนตรีฯ สนธิรัตน์ก็เลยโดนหลอกอีกครั้งหนึ่ง ถ้าผมเป็นท่านรัฐมนตรีฯ สนธิรัตน์ ผมจะต้องบอกท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เจ้าของการไฟฟ้านครหลวง และภูมิภาค คุณอนุพงษ์ครับ ท่านรัฐมนตรีครับ เขามีเงินสะสมของเขาอยู่ กำไรของเขา ให้เขาควักตรงนี้เพื่อชดเชยให้ประชาชน ทำไมคุณเอาเงินคืนประชาชน ทำไมคุณลดราคาให้ประชาชนเขากินดีอยู่ดีหน่อย ให้เขามีเงินเหลือสักเดือนละ 500-1,000 บาท เพื่อให้เขาไปจับจ่ายใช้สอย ให้เขารอดตาย มันเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้เชียวหรือ มันผิดหลักการอะไรของคุณ ผมไม่เข้าใจ
ท่านผู้ชม ผมมีการ์ตูนอันหนึ่งซึ่งผมเห็นแล้วผมฮามาก แต่ผมฮาแบบฮาแล้วน้ำตาไหล ท่านผู้ชมครับ รูปนี้ 2 เจ้า การไฟฟ้า และแมคโดนัลด์ เขาลดราคากัน แมคโดนัลด์ประกาศง่ายๆ ว่า ลดราคาทุกเมนู 50 บาท แต่ของการไฟฟ้า ลดราคาแบบนี้ ประชาชนต้องเอาแว่นขยายมาส่องดูว่าลดแบบไหน ลดอย่างไร แมคโดนัลด์บอกลด 50 เปอร์เซ็นต์ ทุกเมนู แต่ของการไฟฟ้าฯ มีว่าต้องใช้เงินเท่านี้ ต้องคิดบิลย้อนกลับไปที่เดือนโน้นเดือนนี้ ถ้าเกินเท่านี้ลดให้ 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกินเท่านี้ลดให้ 30 เปอร์เซ็นต์ ท่านผู้ชมครับ ถ้ามันจะทำง่ายๆ เอ้า ทุกบ้านที่ใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง ผมให้คนละ 1,000 บาทไปเลย จบ ไม่ แล้วคำพูดของการ์ตูนนี้บอกว่า ลดให้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่กูสิวะ ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง ลดให้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่กูสิวะ เพราะฉะนั้นแล้วท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัด
แล้วการไฟฟ้านครหลวง กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องเข้าใจอย่างหนึ่ง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ต้องเข้าใจอย่างหนึ่ง คุณและตระกูลของคุณที่ทำงานอยู่ในการไฟฟ้าทั้งหลาย และคุณเอาลูกของคุณมาทำงาน เอาญาติของคุณมาทำงาน รองผู้ว่าฯ ก็เอาหลานชายมาทำงาน ผู้ว่าฯ ก็ฝากงานครอบครัวตัวเองมาทำงาน คุณไม่ใช่เจ้าของการไฟฟ้านครหลวง ไม่ใช่เจ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และไม่ใช่เจ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ คุณไม่ใช่หรอก พวกผมนี่ใช่ ประชาชนนี่ใช่ แล้วคุณกระทืบผมเอาๆ แล้วคุณก็ผูกขาด ไม่มีทางที่จะทำให้ผมต้องดิ้นรนอะไรต่อไป ประชาชนใช้โซลาร์เซลล์ รองผู้ว่าฯ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ก็เสนอไอเดียเพื่อจะเก็บภาษีแสงแดด เรื่องของเรื่องไม่ใช่อะไรหรอก คุณกลัวว่าพอประชาชนเขาพึ่งตัวเองได้แล้ว คุณจะลำบาก คุณก็เลยต้องบล็อกเอาไว้หมดทุกอย่าง ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยังที่ผมพูด
เพราะฉะนั้นแล้วท่านผู้ชมต้องรู้นะว่าไฟฟ้าแพงมันมาจากหลายสาเหตุ สาเหตุหนึ่งคือ กกพ. คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ซึ่งคณะกรรมการที่นั่งอยู่นั้นมีสิทธิ์ขาดในการที่จะชี้เป็นชี้ตายว่าค่าไฟจะต้องขึ้นอีกกี่หน่วย หน่วยละเท่าไร พวกนี้เป็นนอมินีของโรงไฟฟ้าเอกชน และบางคนก็เป็นนอมินีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ฉะนั้นเราจะไปพึ่งอะไรได้ ผมเสนอให้ท่านรัฐมนตรีฯ สนธิรัตน์ ปรับคณะกรรมการ กกพ. ก่อน อยากจะฝากไปถึงท่านนายกรัฐมนตรีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เรื่องนี้กระทบประชาชน 60 กว่าล้านคน นักการเมืองทั้งหลาย พ่อแม่พี่น้องและประชาชน ท่านผู้ชมทั้่งหลาย ท่านผู้ชมจำใส่ใจไว้นะครับ จำใส่ใจไว้ ถ้าจะต้องมีเลือกตั้ง รัฐบาลชุดไหน ถ้ายืนยันมีหลักการในการปฏิรูปเรื่องพลังงาน เรื่องไฟฟ้า คืนผลกำไรให้ประชาชน ให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าถูก ให้เลือกพรรคนั้นไป ไม่จำเป็นจะต้องเป็นพลังประชารัฐ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเพื่อไทย ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นประชาธิปัตย์ เป็นใครก็ได้ถ้าเขายืนยันตรงนี้ และเขาสามารถจะทำได้ เลือกพวกเขาไปเถอะ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดท่านผู้ชม
อาทิตย์ที่แล้วผมพูดเรื่องการไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการไลฟ์สดในหลายๆ เรื่องที่ผมพูด ก็ปรากฏว่าเกิดปฏิกิริยาตอบโต้ผมมาอย่างหนัก ถึงขนาดที่เรียกว่าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ แอบทำคำแถลง 5 ข้อ แล้วส่งไปให้เครือข่ายของเขา ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง เพื่อมาตอบโต้ผม นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังไปติดต่อกับสื่อมวลชนบางเจ้า หนังสือพิมพ์บางคน ที่สนิทสนมกัน ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อช่วยเขียนสนับสนุนหรือเชียร์สนับสนุน 5 ข้อที่ตอบโต้ผม ท่านผู้ชม วันนี้ผมจะตอบคำถาม 5 ข้อที่เขาถามมา แต่ก่อนอื่นนะท่านผู้ชม เขาเริ่มว่า ... ท่านผู้ชมฟังให้ดีๆ ว่า
"ก่อนอื่นต้องให้ความรู้คุณสนธิก่อน" จะให้ความรู้ผม ทำตัวเป็นครู ผมยินดีเป็นลูกศิษย์ ผมจะเรียนหนังสือกับคุณ และผมจะไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วเอาข้อมูลความรู้นี้กลับคืนมาให้คุณครู สมัยผมเด็กๆ เรียนหนังสืออยู่ อยู่โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา เนื่องจากว่าผมขึ้น ม.7 ม.8 ตอนนั้น ม.7 ม.8 ก็คือ มศ.5 มศ.6 ปัจจุบันนี้ เนื่องจากเป็นโรงเรียนฝรั่ง สอนเป็นภาษาอังกฤษหมด ไม่มีภาคภาษาไทย เขาก็เลยเอาครูสอนภาษาไทยมาสอนวรรณคดีไทย คุณครูคนนี้ผมรักมาก แล้วก็ยังจำได้ ผมก็ขออนุญาตเรียกคนที่เขียนจดหมายฉบับนี้ว่า คุณครูสำรวย
คุณครูสำรวยเขียนมาว่า "ที่คุณสนธิกล่าวว่า หน่วยงานการไฟฟ้าทั้งสามควรจะคืนกำไรให้ประชาชน ขอให้ความรู้คุณสนธิว่า กำไรทั้งหมดได้คืนสู่ประชาชนทุกปี ทั้งนี้ 3 หน่วยงานเป็นรัฐวิสาหกิจ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นธุรกิจของรัฐ มีหน้าที่หาเงินให้รัฐ ให้ประชาชนใช้ และกำไรที่ได้มา ไม่ได้มาจากการขายไฟอย่างเดียว แต่เป็นการบริหารจัดการอื่นๆ ขององค์กร และที่สำคัญกำไรทุกบาททุกสตางค์ก็ส่งคืนกระทรวงการคลังทุกปี โดยเฉพาะ กฟผ. หาเงินมาเข้าคลังได้เป็นอันดับต้นๆ และกำไรที่ได้มาไม่ได้เอากำไรเข้ากระเป๋าใครคนใดคนหนึ่ง เหมือนอย่างที่คุณสนธิต้องการจะให้เอกชนมันมีสัดส่วนได้กำไรนั้นไป ซึ่งเรื่องนี้หากคุณสนธิรู้ความจริงว่าขณะนี้การผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศตกอยู่ในมือของเอกชนถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผลกำไรเหล่านั้นได้เข้าไปอยู่ในกระเป๋าของเอกชนตามที่คุณสนธิปรารถนาอยู่แล้ว หวังว่าคุณสนธิคงจะพอใจ"
ท่านผู้ชมครับ ผมจะขอตอบคุณครูสำรวยของผมอย่างนี้นะครับ คุณแน่ใจหรือว่าที่คุณเขียนมาว่ากำไรทั้งหมดได้คืนสู่ประชาชนทุกปี และที่สำคัญ กำไรทุกบาททุกสตางค์ ส่งคืนกระทรวงการคลังทุกปี ผมจะเปิดอะไรให้คุณครูสำรวยดู เมื่อวันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563 สำนักข่าวอิศราเผยแพร่ข่าวเรื่องงบการเงินของ 3 รัฐวิสาหกิจการไฟฟ้า รวมรายได้กว่า 680,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56,000 ล้านบาท ส่งรายได้ให้รัฐ 35,000 ล้านบาท ไหนคุณครูบอกว่ากำไรทั้งหมดส่งคืนสู่ประชาชนทุกบาททุกสตางค์ ส่งคืนกระทรวงการคลังไง
ปี 2562 กำไร 56,000 ล้านบาท ส่งรายได้เข้ารัฐ 35,000 ล้านบาท แล้วอีก 21,000 ล้านบาท หายไปไหนล่ะคุณครู กฟน. นครหลวง รายได้รวม 9 เดือน 157,000 ล้านบาท กำไร 8,400 ล้านบาท กฟภ. ภูมิภาค รายได้รวม 6 เดือน 263,000 ล้านบาท กำไร 12,740 ล้านบาท กฟผ. รายได้รวมงวด 9 เดือน 426,000 ล้านบาท กำไร 35,500 ล้านบาท รวมกำไรแล้ว 56,640 ล้านบาท นี่ผมไม่ได้มโนนะครับคุณครู
ยิ่งไปกว่านั้น วันอังคารที่ 21 เมษายน เฟซบุ๊กคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า จากข้อมูลงบปี 2561 กฟผ. กำไรเบ็ดเสร็จ 48,776 ล้านบาท ท่านผู้ชมพร้อมหรือยัง แต่มีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรอีก 284,223 ล้านบาท กฟน. นครหลวง กำไรเบ็ดเสร็จ 9,025 ล้านบาท ท่านผู้ชมพร้อมหรือยัง กำไรสะสมของ กฟน. ที่ยังไม่ได้จัดสรร มีอยู่ 95,742 ล้านบาท รวมกำไรปี 61 กฟผ. และ กฟน. คือกำไร 57,801 ล้านบาท และรวมกำไรสะสมของ 2 แห่ง คือ 379,965 ล้านบาท
คุณครูครับ เงินก้อนนี้คุณครูเอาไว้ทำอะไร คุณครูจะนั่งแล้วให้เงินมันหล่นมาทับตายหรืออย่างไร หรือหายใจไม่ออกเพราะเงิน แต่ที่สำคัญที่สุด คุณพูดความจริงไม่หมด แล้วคุณยังทะลึ่งมาสอนผม ให้ผมเรียนรู้ ผมเรียนรู้แล้ว ผมก็เลยไปเป็นนักศึกษาที่ดี นักเรียนที่ดี ผมก็เลยไปค้นข้อมูลเพิ่มเติม แล้วคุณกล้าเขียนข้อความโกหกคำโตอย่างนี้มาสั่งสอนผมได้อย่างไร ว่า กำไรทั้งหมดคืนสู่ประชาชนทุกปี และที่สำคัญกำไรทุกบาททุกสตางค์ส่งคืนกระทรวงการคลังทุกปี
ข้อความอีกข้อความหนึ่งที่คุณเขียน "อย่างที่คุณสนธิต้องการจะให้เอกชนมันมีสัดส่วนได้กำไรนั้นไป ซึ่งเรื่องนี้หากคุณสนธิรู้ความจริงว่าขณะนี้การผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศตกอยู่ในมือของเอกชนถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผลกำไรเหล่านั้นได้เข้าไปอยู่ในกระเป๋าของเอกชนตามที่คุณสนธิปรารถนาอยู่แล้ว" ท่านผู้ชมครับ คุณครูครับ 70 เปอร์เซ็นต์ ที่เอกชนผลิตนั้น มันไม่ได้ขายเองนะ มันขายต่อให้ กฟผ. แล้ว กฟผ. บวก 1 หน่วยอีก 1 บาท ถามว่ากำไรเข้ากระเป๋าใคร เข้ากระเป๋าเอกชนจริง แล้วก็เข้ากระเป๋า กฟผ. ด้วย ทำไมคุณ ... อย่างที่ผมเรียนให้ทราบตอนต้น เวลาคุณเจรจากับเอกชน ทำไมคุณไม่เจรจาให้เขาได้กำไรน้อยลง แล้วคุณเอากำไรที่เขาได้น้อยลงไปนั้น เอามาคืนกำไรให้ประชาชนด้วยการลดค่าไฟ คุณก็ไม่ทำ
แล้วที่สำคัญ คุณส่งภาพกราฟฟิกมาบอกว่า เดี๋ยวนี้ กฟผ. ผลิตไฟแค่ 45 เปอร์เซ็นต์ เอกชน 55 เปอร์เซ็นต์ แบ่งเป็น IPP ผู้ผลิตไฟรายใหญ่ SPP และ VSPP ผู้ผลิตไฟรายเล็ก และการนำเข้าอีก 7 เปอร์เซ็นต์ สัดส่วนที่คุณเสนอมานี้ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง
คุณครูครับ ผมจะบอกว่าตัวเลขกับกราฟฟิกที่คุณสั่งให้พนักงานทุกคนเอามาโพสต์ถล่มผมนั้น มันมีเงื่อนงำ มันมีความลับและมีความตลกขบขันอยู่มากมาย ประการแรก ที่คุณบอกว่าการผลิตไฟทั้งประเทศอยู่ในมือเอกชน เอกชนขายไฟให้คุณ แล้วทำไมคุณต้องซื้อไฟมาในราคาแพง คุณเจรจาต่อรองได้นี่ ไม่จำเป็นต้องซื้อในราคาที่เขาเสนอมา แต่คุณสมรู้ร่วมคิดกัน มิหนำซ้ำยังบวกเงื่อนไขพร้อมจ่าย ก็คือว่า ซื้อมา ถึงไม่ได้ใช้ก็ต้องจ่ายเต็มจำนวน แล้วใครเป็นคนเจรจาถ้าไม่ใช่พวกคุณ คุณครูสำรวย ถ้าไม่ใช่พวก กฟผ. เจรจา คุณทั้งนั้น ไม่ใช่ผม เพราะฉะนั้นประการแรกที่คุณบอกว่าการผลิตไฟทั้งประเทศอยู่ในมือเอกชน ส่วนใหญ่จะเป็น 55 เปอร์เซ็นต์ 7 เปอร์เซ็นต์ ก็แล้วแต่ แต่ที่ต้องชี้ให้เห็นคือ กฟผ.ดันไปจำแลง คุณทะลึ่งไปแอบถือหุ้นอยู่ในบริษัทเอกชนที่คุณตั้งกันขึ้นมาเอง ชื่อ EGCO และราชฯ EGCO ถืออยู่ 24 เปอร์เซ็นต์ ราชฯ ถืออยู่ 45 เปอร์เซ็นต์ คุณก็เข้าไปร่วมกันถล่มประชาชน เอากำไรเข้าพวกคุณเอง ทำไมคุณไม่ตอบอย่างนี้ล่ะ แล้วบริษัทราชฯ ของคุณ ผมเช็กไปเช็กมา เคยมีสัมปทานไฟฟ้าอยู่ 1,400 เมกะวัตต์ ปรากฏว่าสัมปทาน 1,400 เมกะวัตต์ หายไปแล้ว ไม่รู้ตกอยู่ในมือใคร ไม่มีที่มาที่ไป เรื่องนี้ถ้าไปถึง ป.ป.ช.แล้ว ติดตะรางกันเป็นแถว ผมอยากจะค้นคว้าเรื่องนี้จังเลย ท่านผู้ชมอยากให้ผมค้นคว้าไหม ว่า 1,400 เมกะวัตต์ ที่ราชฯ ได้สัมปทานมา มันหายไปไหน มันตกอยู่ในมือเอกชนรายใดหรือเปล่า
เพราะฉะนั้นแล้ว การที่ กฟผ.ไปถือหุ้นบริษัทเอกชนผลิตไฟฟ้า ประโยชน์ทางหนึ่งก็คือกินสองต่อ ผลิตเองได้กำไรไปต่อหนึ่งแล้ว ซื้อเองไปขายต่อให้ประชาชน ได้กำไรไปอีกต่อ ได้ผ่องถ่ายผลประโยชน์ เอาต่างชาติ เอาเอกชนเข้ามาถือหุ้น เอาผู้บริหาร กฟผ.ไปนั่งบอร์ด กินเงินเดือน เบี้ยประชุมเดือนหนึ่งหลายแสน โบนัสออกอีกไม่รู้กี่เดือน ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่า คุณครูสำรวยรู้หรือเปล่า คุณอาจจะรู้แต่คุณไม่อยากพูด กรรมการบอร์ด กฟผ. ได้โบนัสกันคนละ 1 ล้านบาทต่อปี คนละ 1 ล้านบาทต่อปี ทำไมท่านไม่พูดบ้างล่ะครับ คุณครูสำรวยทำไมไม่พูดบ้าง
ผมจะโยงไปเรื่องนี้นะครับ คุณครูสำรวย คือเรื่องการผ่องถ่ายผลกำไร ผลตอบแทน ผลประโยชน์ของคนการไฟฟ้า โดยสุมหัวกับบริษัทเอกชนทั้งหมด ที่กีดกันรายย่อย ทำให้โควตารับซื้อตั้งราคารับซื้อไฟราคาแพง เพื่อที่ประชาชนจะได้จ่ายค่าไฟแพง ตัวเองจะได้กำไรเยอะๆ ทั้งที่จริงๆ แล้วประชาชนคนไทยจะสามารถลดค่าครองชีพได้ แต่คุณไม่ทำ แล้วคุณก็ทะลึ่งไปคาดการณ์อุปสงค์ (demand) ไว้เกินจริง แต่ความต้องการของคุณไม่เคยถึง เหลือไฟสำรองตั้ง 35-50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ตั้งเผื่อค่าความพร้อมจ่าย ก็เอาไปโปะไว้กับค่าไฟ คือค่าพร้อมจ่ายเกิดจากการเจรจาที่เฮงซวยของคุณ แต่คุณต้องจ่ายเขา เพราะว่าพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แล้วเอาค่าพร้อมจ่ายที่คุณไม่ได้ใช้ไฟ เอามาโปะเป็นค่าไฟให้ประชาชน
ข้อที่สอง คุณครูสำรวยเขียนว่า "เรื่องโบนัส ในฐานะที่คุณสนธิเคยเป็นเจ้าของกิจการ แล้วลูกน้องมุ่งมั่นทำงานอย่างทุ่มเท เพื่อให้องค์กรมีรายได้มีกำไร คุณสนธิ ไม่คิดจะแบ่งปันผลกำไรเล็กน้อยเพื่อขวัญและกำลังใจคนทำงานบ้างเลยหรือ เท่าที่ทราบคุณสนธิมีน้ำใจให้ลูกน้องมากกว่านี้หลายเท่านัก อีกเรื่องที่คุณสนธิควรทราบ คือ กว่าจะได้โบนัส ทางกระทรวงการคลังมีข้อกำหนดหลายอย่างที่จะต้องบริหารจัดการองค์กรให้ได้คะแนนถึงเกณฑ์ จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณา"
คำตอบของผมนะครับคุณครู เกณฑ์โบนัสเป็นปกติที่ถูกกำหนดทราบอยู่แล้ว แต่ผมกำลังจะถามเรื่องสถานการณ์ ณ วันนี้ เป็นสถานการณ์วิกฤต เป็นสถานการณ์ที่ทุกคนประสบกับความยากลำบากทั้งประเทศ ทั้งประเทศ คุณครูครับ ทั้งประเทศ ประชาชนตกงานเป็นสิบๆ ล้านคน ไม่มีใครเขาได้มีบุญไปทำงาน กฟผ. กฟน. หรือ กฟภ. ของพวกคุณหรอก ที่จะได้รับเงินเดือนที่ดี สวัสดิการที่ดี ไม่ได้ถูกลดเงินเดือน พ่อแม่ไม่สบาย เข้าโรงพยาบาล ลูกเมียไม่สบาย เข้าโรงพยาบาล รักษาให้ฟรี ลูกเรียนหนังสือก็เบิกค่าเทอมได้ โน่นนี่นั่น ประชาชนตกงาน อยู่ที่บ้าน ทั้งๆ ที่เขาถูกรัฐสั่ง รัฐขอร้องให้อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่การที่คนไฟฟ้าบอกว่าฉันไม่สน ฉันจะคิดค่าไฟแพง อยู่บ้านก็ยิ่งใช้ไฟ ฉันลดค่าไฟให้ก็เป็นบุญแล้วนะ 3 เปอร์เซ็นต์ เธอยังไม่ซาบซึ้งถึงบุญคุณของฉันอีกหรือ ตั้ง 3 เปอร์เซ็นต์ แต่ฉันจะทำกำไรเหมือนเดิม คิดค่าไฟอัตราก้าวหน้าแพงเหมือนเดิม จนกระทั่งคนออกมาเตือนว่าจะตายกันอยู่แล้ว แต่คุณก็มาอ้างเรื่องโบนัสว่า หน้าร้อน คนใช้ไฟเยอะ ช่วยไม่ได้ คนเปิดแอร์ เปิดตู้เย็น ก็เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ที่ชาวบ้านเขาโวยวายมาว่าค่าไฟแพง หลายคนเขาใช้ไฟเหมือนเดิม เขาไม่ได้ใช้อะไรพิเศษเลย เขายืนยัน หลายคนเขาไม่ได้อยู่บ้านเสียด้วยซ้ำ ปิดบ้านเอาไว้ ก็ยังโดนเก็บค่าไฟ
เพราะฉะนั้นแล้ว คุณต้องเข้าใจอย่างหนึ่งนะว่า สิ่งที่คุณทำมา หรือคุณอ้างมานั้น มันไม่จริง และผมกำลังจะพูดว่า โอเค คุณมีสิทธิ์ที่จะได้รับโบนัส แต่คุณมีน้ำจิตน้ำใจไหม คุณไม่ให้ก็ไม่เป็นไร ไม่มีใครเขาว่าอะไร ก็พิสูจน์กันได้ วิกฤตครั้งนี้มีการลดภาระผู้ใช้ไฟหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการลดราคา การกำหนดให้ผู้มีรายได้น้อยใช้ไฟฟรี การคืนค่าประกันไฟฟ้า ซึ่งได้ทำไปแล้ว และอยู่ในระหว่างการพิจารณาด้านอื่นๆ อันนี้ก็ขอบคุณท่านรัฐมนตรีฯ สนธิรัตน์ แต่ผมอยากจะถามนิดหนึ่งว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน คือ กกพ. คือใคร กกพ.มาจากการสรรหา ส่วนใหญ่คือตัวแทน นอมินีของบริษัทเอกชนไฟฟ้า ส่งเข้าประกวด รวมทั้ง EGCO และ ราชฯ ที่ กฟผ.ถือหุ้นอยู่ด้วย อย่างที่ผมเรียนให้ท่านผู้ชมฟังตอนต้นว่าคณะกรรมการบ้า ที่กำหนดว่าราคาค่าพลังงานต้องเท่าไร ประชาชนต้องเสียค่าไฟเท่าไร มีตัวแทนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ทางอ้อม ก็คือบริษัท EGCO และบริษัท ราชฯ อยู่ด้วย เมื่อระบบอย่างนี้ เมื่อสรรหาเสร็จ จะได้ใคร คำตอบก็คือได้คนกันเองสั่งซ้ายหันขวาหัน คุณจะกำหนดอะไรล่ะ กำหนดสูตรเอฟทีเป็นอย่างไร สูตรมีความซับซ้อนมากจนคนทั่วไปดูไม่รู้เรื่อง ดูจากการบริหารเชื้อเพลิง ต้นทุนพลังงาน คิดค่าไฟ โบนัส และค่าตอบแทน คุณครูครับ
ข้อที่สี่ คุณครูถามผมว่า "ที่คุณสนธิแนะนำว่า ขณะนี้อุปสงค์ในการใช้ไฟไม่มี ควรหยุดลงทุน เรื่องนี้คุณสนธิสบายใจได้เลยว่า เรื่องการปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าในสถานการณ์โควิดจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของการเตรียมความพร้อมที่จะต้องฟื้นฟูประเทศ คุณสนธิอาจไม่ทราบว่าเรื่องของการผลิตไฟฟ้ามันไม่ง่ายเหมือนกับที่คุณสนธิกดสวิตช์ไฟ ไฟก็มา มันมีกระบวนการเป็นแรมปี คุณก็รู้ดี" ผมไม่รู้ดีหรอกครับคุณครู เพราะผมไม่คิดว่ามันยากเย็นอะไร ที่มันยากเย็นเพราะคุณไม่เคยพูดความจริง คุณครู คุณไม่เคยโปร่งใส คุณไม่เคยเอาไพ่ทุกใบที่คุณซ่อนเอาไว้ หงายให้ประชาชนดู เพราะคุณกลัวว่าเมื่อประชาชนเห็นไพ่ทุกใบ ไม่ว่าจะเป็นสนามกอล์ฟ 11 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นสต๊อกข้าวของที่ใช้ไปอีกสิบปีก็ไม่หมด ไม่ว่าจะเป็นการที่ไม่จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้า คุณก็ทะลึ่งไปสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ แล้วใช้ถ่านหิน ไม่จำเป็นต้องใช้ถ่านหิน คุณก็ออกแบบที่จะใช้ถ่านหิน เพราะว่าผู้บริหารระดับสูงของคุณไปแอบตกลงกับเจ้าของเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย เพื่อซื้อถ่านหินในราคาถูก แล้วได้ค่าคอมมิชชันต่อตัน คุณไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง หรือคุณอาจจะไม่รู้ หรือคุณครูเป็นแค่มดปลวดตัวหนึ่งที่ทำตามคำสั่งของผู้บริหาร กฟผ. ให้พูดอย่างนี้ๆๆ นะ
เพราะฉะนั้นแล้ว ผมเปิดแผน PDP หรือที่เขาเรียกว่า Power Development Plan ผมก็พออ่านภาษาอังกฤษออกบ้าง ถึงจะไม่เก่งเท่าคุณครูสำรวย แต่ผมก็เข้าใจว่าแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ เป็นแผนแม่บท ล่าสุดพวกคุณก็ยังใช้นิสัยเดิม PDP 2018 Rev.1 คือ Revision 1 คือการปรับปรุงภาคที่ 1 คุณยังใช้นิสัยเดิม คือตั้งแผนคาดการณ์ความต้องการไฟสูงไว้ก่อน แล้วหาเรื่องสร้างโรงไฟฟ้า 10-20 ปี ก่อนจะมีการตั้งไว้ด้วยว่า ภายในปีนี้ ปีนั้น ประเทศไทยต้องมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 โรง เพราะความต้องการไฟฟ้าไม่พอใช้ แต่คุณโยนหินถามทางว่าควรมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือไม่ เอาหยอดใส่ไว้ในแผน PDP แต่พอคุณถูกจับได้ คุณครู มีประชาชนค้าน และตัวเลขความต้องการใช้ไฟจริงๆ ไม่ถึง คุณค่อยถอยแผนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ออกจากแผน PDP คุณครูครับ พวกคุณไม่มีวาระซ่อนเร้นเหรอ พวกคุณโคตรจะมีวาระซ่อนเร้นเลย แล้วใช้คำพูดที่เรียกว่า สลับซับซ้อน การทำโรงไฟฟ้า คุณสนธิไม่เข้าใจหรอก ที่ผมไม่เข้าใจก็คือว่า คุณกำลังเล่นอะไรกันอยู่มากกว่า ถ้าคุณเปิดเผยตรงไปตรงมา ผมคิดว่าผมเข้าใจ และประชาชนเข้าใจ
เดี๋ยวผมจะให้ทางทีมงานเขาส่งเส้นกราฟอุปสงค์ ความต้องการการใช้ไฟฟ้าที่เขาลากเผื่อไว้ถึงปี 2580 คืออีก 17 ปีข้างหน้า เป็นเส้นตรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ของจริงเป็นอย่างไร นี่คือเส้นตรงขึ้นไปเรื่อยๆ ขึ้นไปอย่างนี้เลยนะแต่ของจริงเป็นตรงนี้ ความต้องการสูงสุดในปีก่อน 2 พฤษภาคม 2562 อยู่ที่ 30,852 เมกะวัตต์ ความต้องการใช้ไฟฟ้าในปีนี้ยังต่ำกว่าปีที่ผ่านมามาก น่าจะเป็นเพราะการลดการบริโภคไฟฟ้า คุณครูครับ กำลังการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าที่ไทยมีอยู่ตอนนี้ มีอยู่ 45,575 เมกะวัตต์ เมื่อเปรียบเทียบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในปีนี้ ที่ 28,636 เมกะวัตต์ แสดงว่าเรามีไฟที่ไม่ได้ใช้เหลือสำรองอยู่ 37 เปอร์เซ็นต์ ยังเหลืออีกตั้ง 37 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในสถานการณ์ปัจจุบันที่เราใช้แค่ 24,481 เมกะวัตต์ แสดงว่ากำลังผลิตสำรองในระบบอยู่ที่ 47 เปอร์เซ็นต์ จาก 37 เปอร์เซ็นต์ กลายเป็น 47 เปอร์เซ็นต์ ก็คือไฟฟ้าเหลือตั้ง 47 เปอร์เซ็นต์ ของกำลังไฟฟ้าทั้งหมด
คำถามคือว่า คุณครู ทำไมพวกคุณคาดการณ์ไว้สูง ก็คุณจะเอางบไปลงทุนตลอดเวลา ทั้งๆ ที่มีการสำรอง สำรองไฟฟ้าตามหลักการเขาสำรองแค่ 15 เปอร์เซ็นต์ นะคุณครู วันนี้พิสูจน์ชัด คุณมีไฟฟ้าสำรองตั้ง 47 เปอร์เซ็นต์ แล้วคุณยังคาดการณ์ที่จะสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก มีใครติดใจในเรื่องค่าก่อสร้างหรือเปล่า หรือมีใครติดใจในเรื่องของผลประโยชน์ในการซื้อข้าวซื้อของหรือเปล่า คุณครูลองไปเช็กผู้บริหารของคุณครูเองดีกว่า
ข้อสุดท้าย ข้อห้า "การที่คุณสนธิมีมุมมองว่าหน่วยงานการไฟฟ้ากำลังมีความสุขในวิกฤตเช่นนี้ ขอให้คุณสนธิได้กรุณาติดตามข่าวสาร หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมสักนิดว่า ขณะนี้ กฟผ. กำลังทำอะไรบ้าง ในภาวะวิกฤต นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ผู้บริหารได้สั่งให้มีการตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกทุกเรื่องเพื่อเปลี่ยนเป็นงบประมาณในการบริจาค ซึ่งในเบื้องต้นได้จัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท (งบอื่นๆ และงบ CSR) สำหรับการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์และป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ
ที่สำคัญกว่านั้นพนักงานของเราทั่วประเทศต่างก็มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ประเทศพ้นวิกฤตเท่าที่จะทำได้ ตลอดเดือนที่ผ่านมา แม้จะต้อง WFH แต่เราก็มีจิตอาสา ผัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน โดยไม่มีวันหยุด มาทำโรงงานผลิตเจล จัดหาหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันทางการแพทย์ต่างๆ ไม่น้อยกว่า 10 ประเภท แจกจ่ายให้กับโรงพยาบาล และประชาชน รวมทั้งได้ช่วยเหลือเยียวยาชุมชนที่ได้รับผลกระทบซึ่งอยู่รอบหน่วยงานและที่ห่างไกลเท่าที่จะสามารถทำได้
ขณะเดียวกัน ก็ได้เตรียมความพร้อมในการผลิตและจ่ายไฟ โดยพนักงานจำนวนมากต้องถูกกักบริเวณ ไม่ได้พบหน้าครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการผลิตและการจ่ายไฟ หากเกิดกรณีที่เกี่ยวพันกับการติดเชื้อ หากทั้งหมดนี้ที่เราทำอยู่ คุณสนธิเห็นว่าเป็นเรื่องระยำตำบอนตามที่ได้กล่าวในรายการ จิตอาสาผู้เสียสละเหล่านั้นก็คงได้แต่งุนงง สงสัยว่าในช่วงวิกฤตเช่นนี้คุณสนธิควรจะทำอะไรมากกว่านำหน่วยงานต่างๆ มาวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ศึกษาข้อมูลอย่างถ่องแท้
สำหรับข้อมูลต่างๆ ที่ได้กล่าวไปในข้างต้นนั้น หากยังมีส่วนใดที่คุณสนธิต้องการรายละเอียด ขอความกรุณาติดต่อกลับมาได้ที่ฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์องค์การ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือหากต้องการให้เจ้าหน้าที่ไปพบเพื่อชี้แจงก็ยินดี
สุดท้าย ขอขอบคุณคุณสนธิ ที่ช่วยเสนอแนะ และถ้าพอมีเวลาก็มาช่วยเราติดสติกเกอร์เจลอนามัยไว้แจกชาวบ้าน จะได้ประโยชน์กว่ามั้ยคะ คริคริ"
ท่านผู้ชมครับ หัวเราะเยาะเย้ย คริคริ คุณครูสำรวยครับ คุณเอาเวลามาตอบโต้ผม สุมหัวกันรุมถล่มสนธิ ที่สนธิไปช่วยชาวบ้าน 60 กว่าล้านคน ให้ใช้ไฟในราคาถูกลง ระหว่างที่คุณติดสติกเกอร์ ติดเจล กับผมมาช่วยให้ประชาชนเขาได้ใช้ไฟถูกลง อันไหนมันได้อานิสงส์มากกว่าครับ คุณครูสำรวย
จริงๆ แทนที่จะแจกเจลแอลกอฮอล์ พวกคุณควรจะเปลี่ยนไปเป็นการลดต้นทุนการบริหาร ผลตอบแทนที่ตัวเองผู้บริหาร ตัดโบนัส ตัดสวัสดิการที่ฟุ่มเฟือย เช่น ค่าดูแลสนามกอล์ฟ 11 สนาม ลดกำไรลง เพื่อที่ว่าประชาชนจะได้ใช้ไฟในราคาที่ถูกลงในช่วงวิกฤต
อย่าลืมนะ คุณมีกำไรสะสมตั้งหลายแสนล้านอยู่ ทำไมคุณไม่เอากำไรสะสมของคุณออกมา ลดหน่วยไฟ 6 เดือนข้างหน้า ที่คุณจะขายให้การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ขายในราคาที่ต่ำสุดๆ เพื่อให้ทางโน้นจะได้ไปขายต่อในราคาที่ต่ำลง เท่านี้ก็เป็นอานิสงส์มากกว่าการที่คุณจะพยายามทำ CSR ข้อมูลที่คุณให้มานี่คือข้อมูลประชาสัมพันธ์เพื่อให้คุณดูดี แต่ข้อเท็จจริงที่ผมพูดไปนั้น คุณไม่กล้าพูดหรอก คุณเองก็ไม่รู้ เพราะผู้บริหารของคุณเขาไม่กล้าบอกคุณ ผมอยากให้พนักงานการไฟฟ้า 50,000 กว่าคน ออกมาฟังด้วยจิตใจที่เปิดกว้าง และที่สำคัญ ขอให้คุณฟังด้วยจิตใจที่เข้าใจว่าคุณไม่ใช่เจ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และคุณก็ไม่ใช่เจ้าของการไฟฟ้านครหลวง และคุณก็ไม่ใช่เจ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประชาชนกว่า 60 กว่าล้านคน เป็นเจ้าของ คุณลืมตัวไปแล้วหรือ คุณผูกขาดกิจการอย่างแน่นหนา ประชาชนไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่นิดเดียว คุณจะเตะซ้ายเตะขวา ตามด้วยอัปเปอร์คัต แล้วสรุปลงด้วยไม้หน้าสามตีกบาลเขาด้วยค่าไฟ แล้วคุณก็อ้าง ปัดสวะว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ซึ่งพวกคุณนั่งอยู่ในนั้น เป็นคนตัดสิน เรื่องตอแหลแบบนี้อย่ามาใช้กับผม เพราะผมเรียนรู้มาแล้ว คุณครูสอนผม เอาความรู้ให้ผม และผมก็ไปหาความรู้เพิ่มเติม เอาความรู้กลับมาตอบผม หวังว่าคำตอบของผมจะทำให้คุณครูสำรวยนอนหลับสบายดีนะครับ คริคริ
ท่านผู้ชมครับ ผมกำลังจะพูดถึงเรื่องอนาคตของไฟฟ้าในประเทศไทย ผมอยากจะให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตลอดจนบรรดาผู้ที่ดูแลในเรื่องพลังงานไฟฟ้า ให้ตั้งใจฟังให้ดีๆ ผมฟันธงว่าอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า ผมเชื่อว่าผมยังอายุยืนอยู่ ผม 73 ปีนี้ ผมยังไม่ตายง่ายๆ ผมจะเห็นการเปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์ของการใช้ไฟฟ้าในบ้านเรา และผมยังไม่รู้ว่าวันนั้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะอยู่ตรงไหน แห่งใด ความจริงแล้วการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีโอกาสสูงมากในการที่จะพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเองมาเมื่อสัก 10-15 ปีที่แล้ว เพียงแต่ว่าจิตใจของคุณมุ่งมั่นในการผูกขาดเท่านั้นเอง คุณไม่ยอมเปิดโอกาสให้ประชาชนเขาเจริญเติบโตได้ ยืนบนลำแข้งของตัวเองได้ เพราะถ้าคุณร่วมพัฒนากับประชาชนในวันนั้น วันนี้องค์กรของคุณอาจจะไม่ใหญ่เท่าองค์กรของคุณในปัจจุบัน แต่ว่าคุณจะกลายเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนให้คำแนะนำ ในการสร้าง grid หรือเครือข่ายสายส่งให้กับชุมชนได้เยอะแยะไปหมด
ทำไมผมต้องพูดเช่นนั้น ถ้าคุณทุ่มเทและช่วยเหลือประชาชนในยุคที่เขาเริ่มมีโซลาร์เซลล์ขึ้นมา คุณร่วมพัฒนากับเขา คุณซื้อเทคโนโลยีมาจากต่างประเทศ แล้วคุณมาผลิต แล้วคุณก็ขายให้ประชาชน คุณสอนให้เขาใช้ รับพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นของฟรี แล้วคุณก็ตั้งงานวิจัย หน่วยงานวิจัย ที่จะสร้างแบตเตอรี่ขึ้นมาที่จะสะสมพลังงานพวกนี้ ที่ประชาชนเขาติดอยู่ตามบ้าน ตามหมู่บ้าน ตามชุมชน หมู่บ้านจัดสรร องค์กรเอกชนทั้งหลาย มีทั้งบริษัท ห้างร้านใหญ่ๆ แล้วรัฐบาลก็ลดภาษีให้ สำหรับคนที่ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะถ้าไม่ใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ใช้น้อยลง ประเทศชาติ save ทั้งประเทศ save ค่าน้ำมัน save ค่าแก๊ส และที่สำคัญที่สุด ในที่สุดแล้วเราก็จะกลายเป็นประเทศหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกนี้ที่จะพัฒนาตัวเองเข้าไปสู่พลังงานที่สะอาด แต่คุณไม่ทำ นครหลวงก็ไม่ทำ เพราะถ้านครหลวงยังมีจิตใจที่คับแคบ ที่แม้กระทั่งการวางบิล การออกบิล ยังต้องคิดเงินค่าวางบิล ค่าออกบิล ฉะนั้นคุณไม่มีวิสัยทัศน์อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว คุณหากินกับของเก่ากันไปตลอดเวลา
ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมตามผมมา แล้วคิดตามผม วันนี้แผงโซลาร์เซลล์ถูกกว่าสมัยก่อนเป็นสิบเท่า และอายุของโซลาร์เซลล์ 1 แผง มีอยู่ 25 ปี ท่านผู้ชมหลับตาวาดภาพ ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ หรือว่าทุกคนในประเทศไทย หรือ 50 เปอร์เซ็นต์ก็ได้ ใช้แผงโซลาร์เซลล์ แล้วมีแบตเตอรี่ที่อยู่ที่บ้าน แบตเตอรี่นี้คือแบตเตอรี่ซึ่งเก็บพลังงานไฟฟ้า ที่บ้านเรารับจากแสงอาทิตย์เข้ามาสู่โซลาร์เซลล์ และเก็บเข้ามาสู่แบตเตอรี่นี้ แล้วระหว่างกลางวันก็ใช้งานไป แล้วกลางคืนไม่มีแสงแดด ก็ใช้ไฟที่สะสมในแบตเตอรี่ตัวนี้ เอามาใช้ในบ้าน เท่ากับว่าท่านผู้ชมเคยจ่ายค่าไฟเดือนละประมาณ 3,000 บาท ปีละ 36,000 บาท ไม่ต้องเสียเลยแม้แต่บาทเดียว นอกจากการลงทุนครั้งแรกของการซื้อแบตเตอรี่และการซื้อแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งผมคิดว่าถ้ารัฐบาลฉลาด รัฐบาลก็คงต้องพร้อมที่จะให้ธนาคาร หรือธนาคารทั้งหมดน่าจะให้เงินกู้ท่านได้หมดในการซื้อแผงโซลาร์เซลล์มาติด และในขณะเดียวกัน ซื้อแบตเตอรี่มาติด เพราะว่าธนาคารรู้ว่าเงินที่ท่านประหยัดจากการจ่ายค่าไฟ ก็สามารถไปผ่อนธนาคารได้ แล้วถ้า 50 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรในบ้านเราใช้แบบนี้ ท่านผู้ชมครับ รัฐบาลครับ จะเกิดงานขึ้นอีกมากมายมหาศาล มากกว่าพวกพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ทำการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เผลอๆ พวกนี้จะลาออกแล้วมาทำงานที่นี่ ในการดูแลโซลาร์เซลล์ ในการดูแลรักษา grid เครือข่าย และในการดูแลซ่อมแซมทุกอย่าง มหาศาล การสร้างงานขึ้นมาทั่วประเทศไทย ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ มีหมด
ท่านผู้ชมครับ เห็นด้วยกับผมไหม แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ รถไฟฟ้าเกิดได้ทันที รถไฟฟ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็เพราะว่าตามหมู่บ้าน ตามตำบล เมื่อเขามีไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ และเขามีแบตเตอรี่เก็บแล้ว เขาตั้งปั๊มไฟฟ้าได้ เท่ากับว่าใครซื้อรถไฟฟ้าคันหนึ่ง สามารถจะขับไปทุกที่แล้วไฟหมดก็สามารถจะเสียบที่หมู่บ้าน แล้วหมู่บ้านก็ได้รายได้จากค่าไฟ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือการนำเข้าน้ำมัน มันจะน้อยลงๆๆ มลภาวะก็น้อยลง ฝุ่น PM 2.5 ก็หมดไป ท่านผู้ชม นึกถึงผลประโยชน์ที่ได้ต่อเนื่องกัน
ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่าว่า ปตท. เป็นบริษัทที่ฉลาดมาก ปตท.รู้อยู่แล้วว่าในอนาคตข้างหน้า การใช้น้ำมันจะต้องลดลงไปเรื่อยๆ วันนี้ราคาน้ำมันที่ซื้อขายล่วงหน้ามันติดลบ 37 ดอลลาร์ เพราะไม่มีถังน้ำมันให้เก็บ คนก็เลยขาย นอกจากซื้อไป 1 ถังแล้ว ยังจะแถมเงินอีก 37 เหรียญ นะ เพื่อไปหาที่เก็บเอาเอง แล้วแนวโน้มภาวะการณ์ตกต่ำของเศรษฐกิจจะมีอยู่ 2-3 ปีข้างหน้า แล้วถ้าจะขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งมันก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ปตท.ตอนนี้ก็เลยมาเน้นในด้านกิจการที่เขาเรียกว่า non-oil ก็คืออย่างเช่น อเมซอน ปตท. โออาร์ แล้วที่สำคัญที่สุด ปตท.ไปตั้งบริษัทๆ หนึ่งชื่อ GPSC เป็นบริษัททำแบตเตอรี่
ท่านผู้ชม ในขณะนี้สิ่งที่โลกขาด ก็คือแบตเตอรี่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ แล้วเอามาเก็บในแบตเตอรี่ตัวนี้ แต่ได้พัฒนาไปมากแล้ว แล้วคนที่พัฒนาไปไกลที่สุด คือ อีลอน มัสก์ รถเทสล่า เดี๋ยวนี้รถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า ถ้าท่านผู้ชมสังเกตให้ดีๆ ว่า ระยะทางที่วิ่ง ยิ่งวันยิ่งไกลขึ้นๆ แสดงว่าแบตเตอรี่ที่ใช้กับรถไฟฟ้าถูกพัฒนามาระดับที่ดีขึ้นๆ และจะต้องมีวันหนึ่ง ไม่นานนี้ ผมให้ไม่เกิน 5 ปีนี้ ที่แบตเตอรี่ที่เก็บไว้ในบ้าน แล้วก็ดูดพลังไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์มา วันนั้นประเทศไทยจะไม่ต้องเสียเงินค่าไฟ ไม่ต้องเสียเงินค่าน้ำมันมากเหมือนวันนี้ รถไฟฟ้าก็จะเกิดขึ้น ฝุ่น PM 2.5 ก็จะหายไป รอแต่แบตเตอรี่นี้
ท่านผู้ชมครับ ท่านที่อยู่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ผมไม่อยากจะพูดอะไร ท่านคงก่นด่าผม สนธิ ลิ้มทองกุล คือคนที่มาทำให้ท่านป่วน แต่ผมอยากจะขอแนะนำให้ท่านรู้จักหลานสาวของผมคนหนึ่ง ชื่อ ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล จบปริญญาตรี ปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยคอร์แนล ที่สหรัฐอเมริกา และจบปริญญาเอก สาขาวัสดุศาสตร์ Material Science จาก MIT สถาบันเทคโนโลยีอันดับ 1 ของโลก คุณพ่อของ ดร.พิมพา เป็นพี่ชายของผม
ดร.พิมพา กำลังร่วมกับ ปตท. ดร.พิมพา เป็นเสาหลักในการคิดค้นแบตเตอรี่ที่จะมาใช้ในเรื่องพวกนี้ เพราะ ดร.พิมพา ถือหุ้นอยู่ในบริษัท 24M ซึ่งโปรเฟสเซอร์ของเขา ซึ่งเป็นคนสอนเขา ถือหุ้นอยู่ และ ดร.พิมพา ถือหุ้นนี้อยู่ และ ปตท. เข้าไปถือหุ้นบริษัท 24M แล้ว ที่สหรัฐอเมริกา อีกไม่นานถ้าแบตเตอรี่นี้มา ปตท. ก็จะผันตัวเองจากบริษัทที่ทำน้ำมัน ขายน้ำมัน ซึ่งมันตกไปเรื่อยๆ มาทำเรื่องพลังงานไฟฟ้า กฟผ. กฟน. และ กฟภ. คุณห้ามอนาคตนี้ไม่ได้หรอก คุณห้ามไม่ได้ เพราะนักการเมืองเขาจะเห็นว่าถ้าประชาชนได้ประโยชน์ เขาไม่ยุ่งกับพวกคุณแล้ว คุณไปเล่นกอล์ฟในสนามกอล์ฟ 11 สนามของคุณดีกว่า เพราะฉะนั้นแล้ว ผมพูดอย่างนี้แล้ว ถ้าโรงงานทุกโรงงาน บ้านทุกบ้านในกรุงเทพมหานคร ตลอดจนพวกแฟลต อพาร์ตเมนต์ หมู่บ้านทั้งหลาย เริ่มใช้แผงโซลาร์เซลล์ และมีแบตเตอรี่ที่จะเก็บไฟฟ้าพวกนี้เอาไว้ใช้ สำรองเอาไว้
ผมถามคุณคำหนึ่งว่าคุณจะไปวางบิลและจดบิล จดมิเตอร์กับใคร จดผิดจดถูกกับใคร แล้วสวัสดิการที่คุณมีอยู่ จะอยู่ที่ไหน ผมจะบอกให้คุณรู้ สนธิ ลิ้มทองกุล เปิดเรื่องนี้ ส่วนคนผลิตแบตเตอรี่คือหลานของสนธิ ชื่อ ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล มันช่วยไม่ได้ คุณจะไปฝืนอนาคตได้อย่างไร คุณฝืนเทคโนโลยีได้อย่างไร คุณทำผิดกับตัวคุณเอง คุณไม่เคยเห็นประชาชนคนไทยอยู่ในสายตา ถ้าคุณเห็น คุณจะต้องส่งเสริมให้เขาใช้พลังงานที่ประหยัด ไม่ใช่แค่บอกให้เขาประหยัดไฟอย่างเดียว คุณจะต้องส่งเสริมเขา คุณต้องเข้าไปร่วม ถ้าคุณเข้ามาพัฒนาแผงโซลาร์เซลล์ แล้วเข้ามาร่วมพัฒนาแบตเตอรี่ วันนี้คุณก็ยังมีที่ยืนในสังคมอยู่ คุณไม่มีที่ยืนตอนนี้ สำหรับผมคุณไม่มีราคาเลยนะ แม้แต่นิดเดียว ผมผ่านโลกมามากแล้ว และผมเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ท่านผู้ชมที่เคยติดตามผมมาตลอดเป็นระยะเวลาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนผมทำเฟซบุ๊ก รู้อยู่แล้วใช่ไหมท่านผู้ชม ว่าผมเคยทำนายอะไรผิดบ้าง ผมไม่เคยทำนายอะไรผิด แล้ววันนั้นก็จะมาถึง ดร.พิมพา วันนี้ทำงานอยู่ที่กระทรวง อว. ได้ทุน ก.พ.ไปเรียน ฝรั่งเอาเงินเป็นก้อนเลยมาซื้อตัวหลายสิบล้าน ให้ไปอยู่อเมริกาตายตัว คุณพ่อของ ดร.พิมพา ซึ่งเคยเป็นอดีตรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ นายแพทย์ศักดิ์ชัย ลิ้มทองกุล บอกว่าไม่ให้ไป เราต้องทำงานให้ประเทศชาติ ดร.พิมพา ก็เลยทำงานอยู่ให้ประเทศชาติ แล้วเป็นหัวหน้าแล็บ เชี่ยวชาญในเรื่อง Material Science วัสดุศาสตร์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญ 1 คนในจำนวนไม่เกิน 10 คนในโลกนี้ในเรื่องของการทำแบตเตอรี่ และผมเชื่อว่าด้วยฝีมือของหลานอ้อยของผมคนนี้ อีกไม่นานเกินรอ ปตท. กับ ดร.พิมพา ก็สามารถจะผลิตแบตเตอรี่ตัวนี้ออกมาได้
อีลอน มัสก์ อาจจะผลิตออกมาได้ใกล้ๆ กัน หรืออาจจะผลิตออกมาได้ก่อน หรือเราอาจจะผลิตออกมาได้ก่อน และในขณะเดียวกัน บริษัทพลังงานแห่งหนึ่ง ชื่อบริษัท อีเอ กำลังลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อสร้างโรงงานทำแบตเตอรี่ กฟผ. กฟภ. และ กฟน. โปรดทราบ ผมพูดนี่ไม่ได้ขู่คุณ แต่เป็นทิศทางที่ไป มันหมดยุคของการผูกขาดของคุณต่อไปแล้ว ถ้าคุณประพฤติตัวดีๆ ประชาชนอาจจะเห็นใจ แต่คุณประพฤติตัวว่าคุณเป็นเจ้าของและคุณไม่ให้ทางเลือกประชาชนแม้แต่นิดเดียว คุณนึกจะเตะซ้ายคุณก็เตะ คุณนึกจะเตะขวาคุณก็เตะ คุณนึกจะอัปเปอร์คัตคุณก็อัปเปอร์คัต แล้วคุณจบเขาด้วยการเอาไม้หน้าสามตีหัวเขา
ท่านผู้ชมครับ วันนี้ดุเดือดเลือดพล่านนิดหนึ่ง แต่ที่ผมพูด เป็นความจริงหมด ท่านผู้ชมหลับตา ตามผมมา ในอนาคตข้างหน้าคนไทยส่วนใหญ่จะใช้แผงโซลาร์เซลล์รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ แปลงเป็นไฟฟ้าลงไปสู่หม้อแบตเตอรี่ซึ่งถูกพัฒนาให้เก็บไฟฟ้าได้ และเอาไปใช้ได้ วันนั้น ท่านผู้ชมครับ ใครยังใช้ไฟฟ้าจาก กฟน. กฟภ. กฟผ. อยู่ ก็โง่แสนโง่ โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องจ่ายค่าไฟเดือนละเป็นล้าน สองล้าน ลงทุนทางด้านแบตเตอรี่นี้ แค่ลงทุนครั้งเดียว โซลาร์เซลล์ใช้ได้ 25 ปี แบตเตอรี่ใช้ได้ 10 ปี ไม่ต้องเอามาก เอาแค่ 5 ปี คืนทุนหมดแล้ว อีก 5 ปีเท่ากับใช้ฟรี
ท่านผู้ชมเห็นหรือยังครับ ก็ขอโทษทีนะครับวันนี้ ผมจริงๆ ไม่อยากพูดเรื่องนี้เลย คุณครูสำรวยครับ ผมนี่รู้เรื่องอะไรเยอะมากในทางด้านพลังงาน แต่ผมขี้เกียจพูด พูดไปทำไมมี เดี๋ยวคุณช้ำใจมากกว่านี้ ผมแค่แง้มๆ ให้คุณดูก็แล้วกัน แต่ขอบคุณนะครับที่เอาบทเรียนมาสอนผม หวังว่าลูกศิษย์คนนี้คงได้เรียนรู้เยอะ แล้วเอาความรู้กลับไปสอนคุณครูสำรวยคนนี้นะครับ
ก่อนจบเรื่องนี้ ขออนุญาตครับท่านผู้ชม เรื่องคนที่พูดคำหยาบ แล้วก็ท่านผู้ชมทั้งหลายแคปคำหยาบส่งมาให้ผม ปรากฏว่าทนายความแจ้งมาแล้วครับว่าหมายศาลส่งถึงคนพวกนี้แล้ว และคนพวกนี้หลายคนก็ตื่นเต้น ตัวสั่นงันงก รีบติดต่อมาทันทีเลยว่าเข็ดแล้ว ไม่กล้าอีกแล้ว เพราะฉะนั้นใครที่ขยันพูดคำหยาบ หมายศาลต้องไปถึงแน่ ผมให้คำมั่นสัญญาว่า พวกคุณโดนดำเนินคดีทุกเม็ดแน่นอน ขอบพระคุณมากครับ สวัสดีครับ