xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : ถึงเวลา “ปลดแอกพลังงาน” ให้คนไทยก้าวไปข้างหน้า ความจริงเรื่อง CPTPP กับ ปชป.จอมโหน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"สนธิ"ชี้หมดยุคการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งผูกขาดพลังงานเอาเปรียบคนไทย เมื่อเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ได้รับการพัฒนาจนมีราคาถูกลงและแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพกักเก็บกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น ถึงเวลาที่ประชาชนต้องมีประชาธิปไตยด้านพลังงาน หันมาใช้ไฟจากโซลาร์เซลล์ปลดแอกจากการไฟฟ้า ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม สร้างงานในท้องถิ่น พร้อมระบุ CPTPP เนื้อหาเปลี่ยนไปจากเดิมเมื่อ 13 ปีก่อน หลังจากสหรัฐฯ ถอนตัว ปัญหาเมล็ดพันธุ์พืชและสิทธิบัตรยาที่หลายฝ่ายเป็นห่วง สามารถเคลียร์ได้แล้ว ไทยควรเข้าเจรจาเพื่อโอกาสดึงการลงทุนจากญี่ปุ่นเข้าประเทศ แต่มีการเมืองเข้าแทรก "จุรินทร์"ฉวยโอกาสโหนกระแส NGO ถอนจากวาระประชุม ครม.เพื่อให้ตัวเองเป็นฮีโร่

วันที่ 1 พ.ค. เมื่อเวลา 09.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” และช่องยูทูป Sondhitalk ที่จะเล่าถึงบทสรุปของการไฟฟ้า ถึงเวลาหรือยังในการปลดแอกพลังงานให้คนไทยมีทางเลือกหรือยัง จุดยืนของการไฟฟ้าควรเป็นอย่างไร

สำหรับ CPTPP เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดเยอะมาก คุณสนธิจะอธิบายให้เห็นป่าทั้งป่าว่ามันคืออะไร แล้วประเทศไทยควรทำอย่างไรดี จริงๆ แล้วมีเรื่องการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเปล่า


คำต่อคำ SONDHI TALK [1 พ.ค. 2563] : ถึงเวลาปลดแอกพลังงานให้คนไทยก้าวไปข้างหน้าหรือยัง?


สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เผลอประเดี๋ยวเดียวก็ขึ้นเดือนพฤษภาคมแล้ว หวังว่าการปลดล็อกที่ค่อยๆ จะปลดไปทีละนิดๆ น่าจะเริ่มพิจารณาแล้วก็มีความเห็นออกมา แล้วก็น่าจะมีคำสั่งออกมาในเร็วๆ นี้ ผมรู้ดีว่าหลายๆ คน ท่านผู้ชมหลายๆ คนก็ลำบาก อยากจะกลับไปทำมาหากิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่หาเช้ากินค่ำ คนที่ไม่มีเงินเดือนประจำ คนที่จำเป็นต้องพึ่งพาแรงงานตัวเอง คนพวกนี้จะเป็นคนที่ลำบากมาก ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ แต่ขณะเดียวกัน ผมก็เห็นใจแพทย์ต่างๆ และคนที่กังวลในเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ เรื่องแบบนี้มันมองข้ามความสำคัญของคนแต่ละฝ่ายไม่ได้ ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือเราจะผ่านมันไปได้อย่างไร ด้วยการร่วมมือและทำงานกัน แม้กระทั่งการเดินทาง


ผมเห็นชัดเจนเลยว่า ถึงแม้กรมการบินพาณิชย์จะมีคำสั่งให้เครื่องบินสามารถจะบินไปตามสถานที่ต่างๆ ได้ในประเทศ อาจจะไม่มากเหมือนแต่ก่อน แต่ว่าเงื่อนไขและกติกาในการที่จะต้องใช้เครื่องบินนั้น ก็ได้เปลี่ยนไปหลายๆ ทาง เช่น นั่ง แล้วก็จะต้องมีที่นั่งตรงกลางว่างเว้นเอาไว้ ก็หมายความว่าสายการบินนั้นที่เคยบรรจุคนได้ 100 คน ก็จะบรรจุได้แค่ 70 คนเท่านั้นเอง ก็เป็นปกติธรรมดาที่ค่าโดยสารต้องแพงขึ้น ผมได้ข่าวมาว่า สายการบินโลว์คอสต์ก็อาจจะต้องบวกค่าโดยสารเพิ่มอีก 25 เปอรเซ็นต์ สมมุติว่าท่านเคยซื้อตั๋ว 100 บาท ก็ต้องจ่าย 125 บาท ก็เป็นเรื่องของกลไกทางการตลาดนะครับ


ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่จะเข้ารายการ ผมจะเปิดให้ฝากร้าน สัปดาห์นี้ก็จะเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็จะพูดกันตอนท้ายรายการว่าเราจะฝากร้านกันได้อย่างไร ก็เอาเป็นว่า วันนี้มีเรื่องอยู่หลายๆ เรื่อง พูดง่ายๆ ว่า ถ้าเป็นเพลงเขาก็เรียกว่าเมดเลย์ แต่ว่าเพลงหลักๆ ก็จะอยู่ที่ 2 เรื่อง เรื่องแรกก็คือเรื่องของบทจบ บทอวสาน ของเรื่องการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย คำว่าการไฟฟ้าแห่งประเทศไทยนั้น ผมหมายถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งถ้าจะใช้ตัวย่อ จะได้พูดสั้นๆ ก็คือ ผ น และ ภ ผ.คือผลิต น.คือนครหลวง ภ.คือภูมิภาค



อาทิตย์ที่แล้วผมได้พูดเรื่องการไฟฟ้าไปเป็นการเปิดประเด็นที่มีปฏิกิริยาเข้ามาอย่างมากมายมหาศาล เฉพาะความเห็นอย่างเดียวหมื่นกว่าความเห็น และที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นความเห็นที่เห็นด้วย แล้วก็ปัญหาหลักๆ ผมคิดว่าแทบจะทุกคนเลย อาจจะถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ของความเห็น พูดชัดเจนเลยว่าค่าไฟฟ้าแพง และแพงมากจนผิดปกติ ผมจำได้ว่าตอนท้ายๆ รายการของวันศุกร์ที่แล้ว ผมกำลังพูดถึงอนาคตเรื่องพลังงานไฟฟ้า อนาคตของ ผ. ของ น. หรือของ ภ. ก็คือว่าฝ่ายผลิต นครหลวง และภูมิภาคนั้น อนาคตจะเป็นอย่างไร


ผมเสียดายอาทิตย์ที่แล้วไม่มีเวลามากพอที่จะขยายความ วันนี้ถือว่าเป็นฉากสุดท้ายของเรื่องพลังงานไฟฟ้า ที่ภาษาละครเขาเรียกว่าฟินาเล่ ก็คือบทจบ ฉะนั้นผมจะเอาบทจบนี้มาให้ฟัง แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นก็ต้องพูดถึงเรื่องความในใจของผมสักนิดในเรื่องนี้


ความในใจในเรื่องนี้ของผม ผมมีความรู้สึกคับข้องใจมาก และผมอึดอัดใจ ที่ผมคับข้องใจและอึดอัดใจนั้น ผมคับข้องใจ อึดอัดใจกับคนในประเทศไทย คนสาขาอาชีพบางอาชีพที่มีอิทธิพล ที่สามารถจะทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงได้ แต่คนพวกนี้ไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วก็ไม่ได้แสดงอาการเดือดเนื้อร้อนใจ และก็ไม่ได้แสดงอาการเห็นความสำคัญของเรื่องพวกนี้ ทั้งๆ ที่เรื่องไฟฟ้าแพง และเรื่องพลังงานไฟฟ้าที่ประชาชนกำลังเจออยู่อย่างไม่เป็นธรรมนั้น เป็นเรื่องของคน 67 ล้านคน ทุกๆ คนกระทบกันหมด เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มสวนปาล์ม ราคาปาล์มตกต่ำ หรือเป็นเรื่องของกลุ่มยางพารา หรือเรื่องข้าวราคาตกต่ำ หรือมังคุดราคาตกต่ำ มันสำปะหลังราคาตกต่ำ ไม่ใช่ เป็นเรื่องของคนไทยทั้ง 67 ล้านคน ว่าทำไมถึงใช้ไฟแพงกันมากจนเกินไป แต่กลับไม่มีคนสนใจ ที่น่าเสียดายและน่าทุเรศ แล้วก็น่าที่จะเข้าใจว่า อ๋อ มันเป็นเช่นนี้เอง ประเทศชาติถึงไปไหนไม่รอด


ท่านผู้ชมครับ เรามี ส.ส. ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนของประชาชนอยู่ รวมทั้งที่เป็น ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเราก็มี ส.ว.อีกเหมือนกัน ที่ถูกแต่งตั้งมา จะด้วยอำนาจ อิทธิพล หรือว่าจะใช้อภิสิทธิ์ต่างๆ เข้ามานั่งเชิดหน้าชูตา รับเงินเดือนเป็นแสน อยู่ในสภาฯ เรามีนักการเมืองพวกนี้ ซึ่งชอบใช้คำว่า ผมมาจากการเลือกตั้ง และชอบใช้คำว่า ผมภูมิใจที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็น ส.ว. เพื่อจะมาช่วยเหลือประชาชน คนพวกนี้ไม่ได้ช่วยเหลือพวกเราเลยแม้แต่นิดเดียว ท่านผู้ชม เป็นไปได้อย่างไร ปัญหาที่ 67 ล้านคนเจอในเรื่องค่าไฟแพง คนพวกนี้เงียบสนิท ไม่พูดเลยแม้แต่นิดเดียว



ท่านผู้ชมที่มีอายุใกล้เคียงกับผม คงจะจำได้ว่าสมัยก่อน นานมาแล้ว เราชอบมีคำขวัญว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แล้วก็น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี นั่นคือคำพังเพยในอดีตที่ทุกคนชมว่าเมืองไทยนี่ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ไม่มีอาหารกินก็ไปตกปลาในคลอง ในแม่น้ำ ก็จะได้ปลามา ในนาก็มีข้าวปลูก เอาข้าวมาหุงกิน กินกับปลา น้ำก็ไหลดี ไฟก็สว่าง ทางก็ดี แต่พอมาวันนี้มันกลายเป็นว่า น้ำไหล ไฟสว่าง เสียเงินแพง ทางอาจจะดี แต่งานไม่มีทำ เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกข์มันก็เลยเกิดขึ้น ผมอยากจะพูดเรื่องนี้กับท่านนายกรัฐมนตรีและพูดกับนักการเมืองโดยตรง



ก็อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า ผมอยากตั้งคำถามถามพวกบรรดาท่านทั้งหลาย รวมทั้งข้าราชการกระทรวงพลังงาน อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของกลุ่ม กลุ่มน้ำมันปาล์ม กลุ่มโน่นกลุ่มนี่ แต่เป็นเรื่องของประชาชนทั้่งประเทศ แต่น่าแปลกใจ ไม่มีใครออกมาต่อสู้เรื่องนี้เลย ไม่จำเป็นต้องต่อสู้ แต่ออกมาดำเนินการหาความจริงให้ปรากฏ เมื่อความจริงปรากฏแล้ว เราก็สามารถนำความถูกต้องมา เอาความยุติธรรมมาให้ ผมไม่เคยเห็นพรรคการเมืองพรรคไหนมาชูประเด็นในเรื่องนี้ นโยบายการพัฒนาประเทศ เปลี่ยนแปลงประเทศ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เมื่อแก้ไขปัญหาแล้ว ซึ่งผมจะพูดในตอนหลัง ว่าประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้า รุดหน้าต่อไป ด้วยความยุติธรรม และประชาชนทุกคนจะมีความสุข และประเทศไทยจะถูกพัฒนาไปอีกระดับหนึ่งอย่างที่ประชาชนคิดไม่ถึง


เพราะผมเห็นนักการเมืองแต่ละคนแล้ว แต่ละคนปากกล้าทั้งสิ้น ถ้าพูดถึงเรื่องการกระแนะกระแหนกัน แดกดันกัน ระหว่างพรรคกับพรรค เดี๋ยวฝ่ายค้าน อย่างเช่นคุณจาตุรนต์ ฉายแสง คุณวัฒนา เมืองสุข คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ออกมาฟาดฟันรัฐบาลในเรื่องของการแก้ไขปัญหาโควิด-19 เรื่องการใช้งบประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท หรือเรื่องที่คุณพิชัย นริพทะพันธุ์ ซึ่งก็เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หรือมาถึงขั้นของฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นคุณสิระ เจนจาคะ ส.ส.ปากกล้า ที่ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น คุณปารีณา ไกรคุปต์ หรือแม้กระทั่ง ส.ส.พรรคก้าวไกล หรืออดีตอนาคตใหม่ อย่างเช่นคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พวกนี้เป็นพวกเก่งทั้งนั้น พวกนี้เป็นพวกที่พร้อมที่จะพูดจาเรื่องราวต่างๆ แล้วออกมาฟาดฟันกัน เอากันให้ตายคาสภาฯ จำเป็นจะต้องเปิดสภาฯ สมัยวิสามัญ เพื่อตรวจสอบการใช้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท คุณสุดารัตน์พูดยังไม่ทันขาดคำ คุณธนกร รองโฆษก หรือโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ก็บอกว่าคุณสุดารัตน์เข้าใจผิด ไม่ใช่ 1.9 ล้านล้านบาท แค่ 1 ล้านล้านบาท เท่านั้น ก็ว่ากันไป แต่คนพวกนี้ไม่รู้เชียวหรือว่า ประชาชนนอกจากไม่มีงานทำและเดือดร้อนแล้ว ค่าไฟฟ้าก็เป็นเรื่องราวที่กระทบกระทั่งทุกๆ คนไปหมด ไม่มีใครสักคนเลยมาพูด แม้กระทั่งการเยียวยาที่ผ่านไปคราวที่แล้ว ครั้งที่แล้ว ซึ่งคุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก็ออกมากะทันหันว่าจะเยียวยาอย่างนี้นะ อย่างนี้ๆๆ ซึ่งเจตนาท่านดี แต่ท่านก็โดนพวกการไฟฟ้าหลอกอีก หลอกอย่างไรหรือครับท่านผู้ชม เอ้า ยกตัวอย่างให้ฟัง ท่านผู้ชมคงเข้าใจคำพูดที่ผมพูดดี ก็คือ ตั้งเงื่อนไขว่า 5 แอมป์ ใช้เท่านี้ ใช้ได้ฟรี ถ้าเกิน 5 แอมป์ไป ต้องเอาบิลของเดือนกุมภาพันธ์ มาเป็นตัวตั้ง แล้วหักกลบลบหนี้กัน เสร็จเรียบร้อยแล้วเหลือเท่าไรก็ตั้งเป็นเครดิตเอาไว้ต่อเดือนต่อไป


ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่า ทำไมรัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่รัฐ หรือรัฐมนตรีที่ถูกข้าราชการประจำ หรือคนที่ทำงาน จะเป็นรัฐวิสาหกิจอย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ปั่นหัวเอาได้ง่ายๆ ท่านผู้ชมคิดตามผมนะ ทำไมการที่จะเยียวยาประชาชนในยุคโควิด-19 มันจะยากเย็นอะไรนักหราหรือ ถ้ามีไฟฟ้า 5 แอมป์ คุณสามารถใช้ได้ฟรีจนถึงสิ้นปี อะไรถ้าเกิน 5 แอมป์ บิลเท่าไร ลดให้ 50 เปอร์เซ็นต์ จบ แค่นี้ ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหม มันไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องมาตั้งเงื่อนไขว่าถ้าใช้เกินเท่านี้ ใช้เกินเท่านั้น จนกระทั่งวันนี้ แม้กระทั่งระบบคิดค่าไฟ ระบบก้าวหน้า เลิกได้ก็เลิกไป จบ ในขณะนี้ หรืออย่างน้อยที่สุดระบบไฟก้าวหน้าเลิกกันไปเลยทั้งปี จนกระทั่งถึงสิ้นปีนี้ เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤต แต่ก็ไม่ทำกัน



เอาล่ะ เรากลับมาว่า การเมืองทุกวันนี้เล่นกันในเรื่องที่ไร้สาระ ทำไมไร้สาระ เป็นเรื่องที่สัมผัสไม่ได้ มันสัมผัสได้อย่างไร เป็นเรื่องประชาธิปไตย กับเผด็จการ ซึ่งมันเถียงกันมาเป็นสิบๆ ปี แล้วจะต้องเถียงกันต่อไปอีกเป็นร้อยปี จบหรือไม่จบผมยังไม่รู้ ใครถูกหรือใครผิดผมก็ยังไม่รู้ บางครั้งเผด็จการถูก บางครั้งประชาธิปไตยถูก แต่เอาเป็นว่า คนที่โชคร้ายที่สุดคือประชาชน พวกนี้กำลังโต้เถียงกันในเรื่องที่อยู่บนเมฆ ยืนอยู่บนเมฆ เป็นเทวดายืนอยู่บนเมฆ เถียงกันไปเถียงกันมา เทวดากลุ่มหนึ่งก็ยืนอยู่บนเมฆฝั่งหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งก็ยืนอยู่บนเมฆอีกกลุ่มหนึ่ง แล้วชี้หน้าด่ากัน แต่ไพร่ฟ้าประชาชีที่อยู่ข้างล่างนี่โดนค่าไฟกัน 67 ล้านคน อย่างไม่เป็นธรรม พวกนี้ไม่มีใครสนใจเลย ถ้าคุณเห็นด้วยกับผม ถ้าคุณรู้ว่าประชาชน 67 ล้านคน ไม่จำเป็นว่าเขาลงคะแนนเสียงให้คุณหรือเปล่า เขาอาจจะลงให้ฝั่งตรงข้าม แต่คุณก็ยังมีฝั่งที่ลงให้คุณ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล คนรุ่นใหม่ พรรคพลังประชารัฐ เป็นที่รวมของเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งหลาย หลายๆ พรรค พรรคเล็กพรรคน้อย ทุกพรรคเกิดขึ้นมาแล้วในที่สุดแล้วมันก็เป็นตัวแทนของประชาชน ถ้าคุณทำงาน ร่วมมือกัน โดยที่คุณเอาผลประโยชน์ จัดการให้ประชาชนได้ใช้ไฟได้ถูกลง ผมคิดว่าไม่มีสี ผมไม่มีสีเรื่องนี้ ผมไม่มีสีเหลือง ไม่มีสีแดง ไม่มีสีฟ้า ไม่มีสีโน่นสีนี่ ผมมีอยู่อย่างเดียวคือ ทำอย่างไรให้ประชาชนคนไทย 67 ล้านคน ได้ใช้ไฟได้ถูกลง แล้วสิ่งที่ผมเสนอไป หรือนำไป หรือสิ่งที่ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ท่าน ส.ว. ซึ่งกินเงินเดือน แล้วก็ได้รับเชิญเข้ามา แต่งตั้ง โดยที่ไม่มีศักดิ์ศรี โดนเขาดูถูกเหยียดหยาม โดนหมานินทา โดนคนนินทา หมาดูถูก หาว่ามาโดยไม่ได้รับการเลือกตั้ง ท่านทำไมไม่ออกมาแสดงอาการที่แก้ปัญหาในเรื่องที่คุณสัมผัสได้ ประชาชนสัมผัสได้ เออ ถึงแม้เขาจะเป็น ส.ว.นะ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ลงการเลือกตั้ง เขาก็ยังใส่ใจในเรื่องความเดือดร้อนของพวกเรานะ หรือ ถึงเขาจะเป็น ส.ส. พรรคเพื่อไทย ซึ่งผมไม่ลงคะแนนเสียงพรรคเพื่อไทย ผมลงคะแนนเสียงพรรคพลังประชารัฐ เขาก็ยังออกมาช่วยพวกเรานะ เออ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ผมเป็นคนเพื่อไทย เขาก็ยังออกมาช่วยเหลือ ทำไมท่านไม่คิดเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ท่านไม่คิด เพราะว่าท่านมีอัตตากันทุกคน ego จัด หลงตัวเอง ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ไม่สนใจ จะโค่นลงก่อนแล้วกัน เรื่องอื่นไม่สนใจ ขอโค่นก่อน ส่วนรัฐบาลก็ไม่สนใจเช่นกัน สนใจแต่เรื่องที่ใกล้ตัว ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่ามันเกินจะเยียวยาแล้ว มันเกินจะเยียวยาจริงๆ


แล้วประเทศไทยทุกวันนี้ เขาถึงบอกว่า มีคนพูดว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ดีมาก เพอร์เฟกต์ อยู่ในลักษณะที่ตั้ง ฮวงจุ้ยดี หลังพิงเขา พิงเขาก็คือทางด้านเหนือของประเทศไทย ยาวไป คือภูเขาหิมาลัย หน้าชนน้ำ น้ำก็คือมหาสมุทรแปซิฟิก ฮวงจุ้ยดีมาก ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นนักการเมืองและคนไทยบางคนที่ทำให้ประเทศไทยไม่ดี


ท่านผู้ชมครับ เรื่องบางเรื่อง ก่อนที่ผมจะเข้าเรื่องอนาคตของไฟฟ้าและพลังงานของประเทศไทย ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ เรื่องบางเรื่องมันเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัด แต่ว่านักการเมืองที่เกี่ยวข้อง มีส่วนเกี่ยวข้อง และสามารถจะทำตัวเข้าไปเกี่ยวข้องได้ กลับไม่ได้คิด หรือกลับไม่ได้สนใจ อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า การไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ผลิต นครหลวง และภูมิภาค 3 แห่งนี้ผมเล่าให้ฟังว่า กำไรไป 60,000 กว่าล้าน แล้วก็ส่งเงินเข้าคลังแค่ 30,000 กว่า ยังเหลืออีก 20,000 กว่าล้าน ที่เก็บไว้ในตัว แล้วก็ท่านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยมาว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และการไฟฟ้านครหลวง มีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร ทั้งสองแห่งรวมแล้ว 370,000 กว่าล้าน



ท่านผู้ชมครับ นี่ยังไม่รวมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนะ ถ้ารวมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคด้วย ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้นคุมภูมิภาคทั่วประเทศไทย เพราะฉะนั้นแล้วรายได้และกำไรจะต้องมากกว่านครหลวง ถ้าเอาตัวเลขซึ่งเรายังไม่ได้เอามา มารวมเข้าไปด้วย ท่านผู้ชมเชื่อไหม ฟังแล้วอย่าตกใจนะ กำไรสะสมของ 3 ตัวนี้ ก็คือ ผ. น. และ ภ. ผลิต นครหลวง และภูมิภาค รวมแล้วร่วม 500,000 ล้านบาท ท่านผู้ชมตกใจไหม อะไรกัน 3 องค์กรนี้มีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรเกือบ 500,000 ล้านบาท งบประมาณแผ่นดิน 3 จุดกว่าล้านล้านบาท ถ้าคิดไปอีกทีก็เกือบๆ 15 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบๆ 20 เปอร์เซ็นต์ ของงบประมาณแผ่นดิน แล้วเงินก้อนนี้จอดเอาไว้เพื่ออะไร ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง


ฉะนั้น ถ้าหากรัฐบาล นายกรัฐมนตรี หรือท่านนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งคุมการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ซึ่งคุมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ถ้า 2-3 คนนี้มีจิตใจที่ต้องการช่วยประชาชน 67 ล้านคนจริงๆ ก็บอกว่า พวกคุณมีเงินอยู่ทั้งหมดเกือบ 500,000 ล้าน คุณตัดมาสัก 100,000 ล้านได้ไหม หรือ 150,000 ล้านได้ไหม ให้ประชาชนเขาใช้ไฟฟรี จากวันนี้จนกระทั่งถึงสิ้นปี อย่างมากกำไรสะสมของคุณที่คุณไม่ได้จัดสรร ก็จะลดลงจากเกือบ 500,000 ล้าน เหลือประมาณ 300,000 ล้าน ก็ยังโอเคอยู่ ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ ให้ประชาชนผ่านตรงนี้ไป ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหม เพียงแค่นี้ ก็สามารถทำได้ และไม่มีเหตุผล ทำไมรัฐจะต้องเอาเงินไปช่วยการไฟฟ้า ก็ในเมื่อการไฟฟ้ามีเงินอยู่แล้ว แต่ไม่ทำ ท่านผู้ชมเข้าใจสิ่งที่ผมพูดหรือยัง เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ว่า เป็นเรื่องที่ผมรับไม่ได้ และผมไม่คิดว่าท่านนักการเมืองทั้งหลาย หรือผู้มีอำนาจในรัฐบาลจะรับได้ ถ้าประชาชน 67 ล้านคนเดือดร้อน พวกท่านรับได้กันไหม ท่านมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขพี่น้องประชาชนทั้งหลาย ไม่ว่าท่านจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน หรือไม่ว่าท่านจะเป็นพรรครัฐบาล แต่วันนี้ทุกคนเงียบหมด พรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐบาล แทนที่จะออกมาต่อสู้ในเรื่องนี้ กลับมาทะเลาะเบาะแว้งกัน คุณสุชาติ ชมกลิ่น หรือที่เขาเรียกว่าเสี่ยเฮ้ง เสี่ยเฮ้งนี่อยากเป็นรัฐมนตรีใจแทบขาด คุณอนุชา นาคาศัย เสี่ยแฮ้ง ท่านก็อยากเป็นรัฐมนตรี คุณสันติ พร้อมพัฒน์ มีชื่ออยู่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีฯ คลัง ถ้าหากมีการโค่นล้มอุตตม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้ ท่านก็จะขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีฯ คลัง คนหนึ่งจะเป็นรัฐมนตรีฯ คลัง เสี่ยเฮ้งจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ อว. อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือแม้กระทั่งคุณณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ซึ่งอยู่เบื้องหลัง คนๆ นี้อยู่เบื้องหลังการออกจดหมายเชิญเจ้าสัว 20 คน ทีมงานคุณณัฏฐพลเป็นคนคิดหมด แล้วก็หน้าแตกยับเลย เพราะว่าโดนก่นด่าไปทั้งสังคม คุณณัฏฐพล ข่าวว่า ... จริงหรือไม่จริงผมไม่รู้ จะมานั่งกระทรวงพลังงาน พวกคุณนี่กระสันจะมีอำนาจกันทุกคนเลย อยากมีอำนาจ อยากมีอำนาจตัวสั่นงันงก แต่พวกคุณไม่เคยเห็นความเดือดร้อนของประชาชน พวกคุณไม่เคยโผล่หน้ามาสักครั้งหนึ่ง คุณณัฏฐพลเอย คุณอนุชา นาคาศัย เอย คุณโน่นคุณนี่ นี่คือพรรครัฐบาล ทะเลาะเบาะแว้งกัน กัดกันอย่างกับหมา เพียงเพื่อกระดูกชิ้่นหนึ่ง คืออำนาจในการเป็นรัฐมนตรี แต่ประชาชนที่จะล้มหายตายจากกัน ลำบากยากเข็ญ คุณไม่เคยออกมาทำหน้าที่เป็นตัวแทน


ท่านผู้ชมครับ แล้วเรามีนักการเมืองไปทำไม มีประโยชน์อะไรคนพวกนี้ คนพวกนี้ขึ้นมาอ้างคำว่าเป็นตัวแทนของประชาชน ผมไม่ฟังแล้ว ท่านผู้ชมก็ไม่ควรจะฟัง


ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าต้นทุนพลังงานมันกระทบกับชีวิตเราขนาดไหน ท่านผู้ชมเคยสำรวจดูบัญชีรายรับ-รายจ่ายไหมว่าค่าไฟ ค่าน้ำมัน ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ คิดเป็นสัดส่วนรายจ่ายเท่าไรของเงินในกระเป๋าเรา ผมมีคำตอบให้แล้ว ท่านผู้ชมลองไปสำรวจและเปรียบเทียบกับเงินในกระเป๋าของท่านดู




สมมุติว่าท่านผู้ชมหาเงินได้ประมาณเดือนละ 100 บาท ค่าใช้จ่ายพลังงานของพวกราจะตกประมาณ 13 บาท หรือคิดเป็น 13 เปอร์เซ็นต์ อัตราการต้องใช้เงินเพื่อดูแลพลังงาน น้ำมัน ค่าไฟ ของเราตกประมาณ 13-18 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ว่า ถ้าใครมีเงินเดือน 10,000 บาท ค่าใช้จ่ายก็คือ 1,300 บาท หรือ 1,700-1,800 บาท ขึ้นอยู่กับค่าน้ำมันว่าขึ้นหรือลง แต่ค่าไฟมีแต่ขึ้น ลงไม่ค่อยมี นานๆ จะลงมาสักที ท่านผู้ชมลองคิดดูว่า ถ้ามันเป็นเช่นนี้แล้ว ถ้า 1 ครัวเรือนมีเงินเดือนประมาณ 30,000 บาท ก็ต้องมาจ่ายค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าพลังงาน 3,900 บาท หรือ 4,000 บาท ท่านผู้ชมคิดว่ามันเป็นเงินจำนวนน้อยนักหรือ นี่เป็นตัวเลขแค่ปี 2562 นะ แต่บางปีตัวเลขเฉลี่ยค่าใช้จ่ายพลังงานของคนไทยอาจจะพุ่งไปแตะเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ คืออยู่ที่ 17 และ 18 เปอร์เซ็นต์ ท่านผู้ชมครับ เกือบ 1 ใน 5 ของรายได้ที่ท่านหามา ถ้าเราสามารถจะลดต้นทุนในการใช้ชีวิตของเรา ลดลงมาสู่ระดับไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ หรือต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ระหว่าง 5-10 เปอร์เซ็นต์ มันหมายถึงเงินในกระเป๋าที่เหลืออยู่ ที่จะเอาไปใช้ได้



ท่านผู้ชมครับ ในช่วงอดีต 40 ปีที่ผ่านมา ผมยอมรับ ท่านผู้ชมก็ต้องยอมรับว่า การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ซึ่งหมายถึงฝ่ายผลิต นครหลวง และส่วนภูมิภาคนั้น มีประโยชน์และคุณูปการต่อการพัฒนาประเทศอย่างมาก ในยุคที่ผมเคยพูดว่าในน้ำมีปลา ในนามีข้าว น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี ในยุคที่ประเทศพัฒนาต้องมีการตัดถนน ทำน้ำประปา ต่อโยงสายไฟเข้าถึงทุกหมู่บ้าน ท่านผู้ชมจำได้ไหม ผมจำได้เพราะผมผ่านตรงนี้มาแล้ว ท่านผู้ชมซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่ได้ผ่านเรื่องนี้มา สมัยที่ผมกลับมาจากต่างประเทศ เรียนจบใหม่ๆ ผมสร้างบ้านหลังหนึ่งในที่ดินของบรรพบุรุษของภรรยาผม ซึ่งอยู่ในซอยสุทธิสาร อินทามระ 41 ยังจำได้ เนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา ตอนหลังเพิ่มอีก 100 ตารางวา เพราะซื้อต่อจากน้องสาวของภรรยา ท่านผู้ชมเชื่อไหม ท่านผู้ชมที่อายุใกล้ๆ กับผม หรือมีประสบการณ์ จะต้องจำได้ว่า โทรศัพท์บ้านในขณะนั้น ต้องจองเป็นปี แล้วถ้าจะได้ต้องเสียเงินประมาณ 60,000-70,000 บางคนเสียถึง 100,000 บาทนะ ท่านผู้ชมครับ 40 ปีที่แล้ว เงิน 100,000 นี่ขนาดไหน เพียงเพื่อต้องการใช้โทรศัพท์บ้าน แต่พอเทคโนโลยีมาแล้ว ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด โทรศัพท์มือถือ จากสมัยก่อนถือเป็นกระเป๋า เปลี่ยนจากกระเป๋ากลายมาเป็นกระติกน้ำ จากกระติกน้ำมาเป็นสากกระเบือ จากสากกระเบือค่อยมาเป็นสมาร์ทโฟน จนวันนี้โทรศัพท์มือถือไม่ถึง 3,000-4,000 บาท อย่างดีๆ ก็ซื้อได้ แล้วเดี๋ยวนี้คนให้เบอร์โทรศัพท์กัน เขาไม่ได้ให้เบอร์บ้านเลยนะ แล้วเขาก็ไม่ได้ให้เบอร์มือถือด้วยนะ เขาให้ไลน์ เห็นหรือยังท่านผู้ชม




เพราะฉะนั้นแล้ว การไฟฟ้าก็เช่นกัน ใน 40 ปีที่แล้ว ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งมีคุณูปการกับประเทศชาติมาก แต่พอเทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ การไฟฟ้าจากผู้ที่มีคุณูปการในการช่วยพัฒนาประเทศ กลับกลายเป็นตัวถ่วงความเจริญของชุมชน เป็นตัวถ่วงในการพัฒนาเศรษฐกิจ เพราะการไฟฟ้ามีนิสัยผูกขาด และเผอิญมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง


ท่านผู้ชมจำเรื่องของคุณศรีสุวรรณ จรรยา ได้ไหม พี่ศรีของผม เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พี่ศรีมาแฉเรื่องรถเข็น ท่านผู้ชมคงเห็น ทราบกันอยู่แล้วว่ารถเข็นบ้าบอคอแตก เข็นผักผลไม้ ซื้อมาราคาต่อ 1 คัน 152,000 กว่าบาท หลายคนบอกว่าต่อให้อุปกรณ์ก็แค่หลักหมื่น แต่ กฟผ.กลับซื้อในราคาที่แพงลิบลิ่ว


และพี่ศรีก็เอาเครื่องดักจับแก๊สมาด้วย ว่า กฟผ.ใช้เงินซื้อ 350,000 บาท แต่ในอะลีบาบา ขาย 5,000 กว่าบาท เครื่องดักจับแก๊ส ผมก็จะให้ประโยชน์กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ขึ้นอยู่กับว่าซื้อตอนไหน อาจจะซื้อตอนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เมื่อ 10 ปีที่แล้วเทคโนโลยีไม่ได้พัฒนา ก็เลยดูแพง เหมือนอย่างผมทำสถานีโทรทัศน์ ห้องส่งก็จะมีสตูดิโอ เป็นห้องเครื่องที่สำหรับดูบริหารบริการในการถ่ายทำ ถ่ายทอดสด สมัยนั้นเมื่อประมาณสัก 10 กว่าปีที่แล้ว ผมลงทุนห้องส่ง 12 ล้านบาท วันนี้ คุณค่าลักษณะงานที่ทำอยู่ด้วยเครื่องนี้ สามารถจะใช้เครื่องปัจจุบันซื้อได้ใหม่เอี่ยม ไม่เกิน 1 ล้านบาท ห่างกัน 12 ล้านบาท เหลือ 1 ล้านบาท ก็อาจจะเป็นไปได้ ว่าคุณอาจจะซื้อเครื่อง 350,000 บาท ชุดนี้ในสมัยหนึ่งที่ยังแพง แล้วมาวันนี้เหลือ 5,000 บาท


แต่จะอย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่พี่ศรี หรือคุณศรีสุวรรณ จรรยา ให้มา มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ ท่านผู้ชมตามผมมาแล้วจะคิดเหมือนผมหรือเปล่า เอ๊ะ แสดงว่าเราควรจะตั้งข้อสงสัยไหมว่าการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ใช่เฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ต้องรวมนครหลวง และภูมิภาค และอาจจะรวมหลายหน่วยงานในวงการราชการ ว่ามันซื้อของแพง แล้วมันโกงกินคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้างกันมาเป็นสิบๆ ปีแล้วนะท่านผู้ชม เงินที่มันกินเข้าไปจากส่วนต่างของคอร์รัปชัน รวม 10 ปีที่ผ่านมา มันเป็นเงินเท่าไร ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง เพราะว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มันเป็นแดนสนธยาจริงๆ ด้วยเหตุนี้ คนการไฟฟ้าทั้งหลายถึงพอใจที่จะอยู่การไฟฟ้าทั้งหลาย และผมก็ไม่ได้ประหลาดใจที่อาทิตย์ที่แล้วที่ผมออกรายการนี้ไป ผมก็มีคนอยู่บางส่วน บางกลุ่ม ซึ่งเป็นพนักงานการไฟฟ้าฯ เขาไม่ปิดหน้าปิดตาของเขาเลยนะ เขาเอาเฟซบุ๊กของเขามาเขียนด่าโคตรพ่อโคตรแม่ผม คนหนึ่งทำงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ส่วนใหญ่จะเป็นคนทำงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่มาด่าผม ฝ่ายผลิตไม่ค่อยมี มีไม่ได้ นครหลวงก็น้อย แต่ภูมิภาคนี่้ (ขอโทษนะครับ) ไอ้ห่า สนธิ คือพูดจาค่อนข้างจะหยาบคาย แต่ผมไม่ถือสาเรื่องนี้ เพราะว่ายังไม่ได้ให้ของลับผม แต่ถ้าให้ของลับมาผมยื่นฟ้องศาลทันทีเลยนะ



ไม่เป็นไร แต่มันสะท้อนให้เห็นว่าเมื่อไรก็ตาม ถ้าเราไปแตะต้องหม้อข้าวของเขาเมื่อไร หม้อข้าวกูใครอย่ามาแตะ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคของกู ใครอย่ามาแตะ การไฟฟ้านครหลวงของกู ใครอย่ามาแตะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ของกู ใครอย่ามาแตะ เพราะว่าการไฟฟ้าเป็นของกู ไม่ใช่เป็นของพวกมึง พวกมึงมีหน้าที่อย่างเดียวคือจ่ายค่าไฟตามที่กูคิดไป รวมทั้งค่าบริการ อย่างที่ผมเรียนให้ทราบเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ว่าในชีวิตนี้เกิดมาไม่เคยเจอว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง คิดค่าวางบิล ทั้งๆ ที่ค่าบริการ 38.22 บาท ที่จดลงไปในบิลนั้น มันต้องหักออกจากกำไรที่การไฟฟ้าได้ ไม่ใช่มาคิดเป็นต้นทุนค่าไฟ ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง


เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่าขนาดเรื่องเล็กๆ รถเข็น ยังหมกเม็ดกันขนาดนี้ แล้วเรื่องใหญ่ๆ จะหมกเม็ดขนาดไหน ท่านผู้ชมตอนนี้เข้าใจหรือยังว่าทำไมการไฟฟ้าถึงมีงบลงทุนเยอะ ต้องการสร้างโรงไฟฟ้า ต้องการโน่น สร้างโรงไฟฟ้าก็ต้องซื้อที่ดิน นายหน้าค้าที่ดิน ใครเป็นใคร ต้องบวกเท่าไรเราก็ไม่รู้ พอได้ที่ดินมาแล้วต้องเอามาปรับดิน เอามาจ้างผู้รับเหมากัน ก็แบ่งเปอร์เซ็นต์กันไป เสร็จเรียบร้อยแล้วซื้อเครื่องไม้เครื่องมือ ซื้อเครื่องจักร ซื้อเครื่องปั่นไฟ ซื้อโน่นซื้อนี่ แม้กระทั่งรถเข็นก็ต้องซื้อ โน่นนี่นั่น เห็นหรือยังท่านผู้ชม นั่นคือที่มาว่าทำไมการไฟฟ้าทั้งหลายถึงต้องทำประมาณการว่าความต้องการใช้ไฟฟ้ามันสูงเหลือเกิน ที่ผมเคยเอาตัวอย่างกราฟให้ดู อาทิตย์ที่แล้ว ท่านผู้ชมที่จำไม่ได้เดี๋ยวผมจะเอาขึ้นให้ดูอีกทีหนึ่ง



ทั้งๆ ที่ความต้องการไฟไม่ได้ถึงขนาดนั้น เพราะอะไร เพราะถ้ายอมรับตรงนี้ไปก็แสดงว่ายอมรับว่าเขาต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม แล้วปรากฏว่าใครได้ล่ะ ก็ปรากฏว่าผู้บริหารการไฟฟ้าได้ แล้วนักการเมืองที่คุมการไฟฟ้าได้ มิหนำซ้ำ จึงไม่น่าประหลาดใจว่าการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รังแกประชาชนขนาดนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยท่านยังนั่งนิ่งเฉย นี่ผมไม่ได้ว่าท่านมีส่วนได้ส่วนเสีย แต่มันอดคิดไม่ได้ เหมือนกับคราวที่แล้วที่ผมบอกว่า การค่าบริการ 38.22 บาทนั้น outsource ให้คนอื่นทำ แล้วคนที่ทำ ourtsource ก็คืออดีตผู้บริหารการไฟฟ้าที่ไปตั้งบริษัท outsource กำไรเท่าไรล่ะ กี่ล้านครอบครัวที่ต้องจ่าย 38.22 บาท เดือนละหลายร้อยล้านบาท อาจจะเป็นพันล้าน แล้วพวกนี้ก็จะได้กำไรมา กำไรมาเสร็จก็จัดแบ่งสิท่านผู้ชม คนนี้ได้เท่านี้ ผู้ใหญ่ในการไฟฟ้าได้เท่านี้ คือพูดง่ายๆ ว่า ใครขึ้นมาตำแหน่งพวกนี้ก็จะได้เงินเดือนจากบริษัท outsource นี้ แล้วใครจะไปเลิกบริษัท outsource ล่ะ ท่านผู้ชมเข้าใจที่ผมพูดหรือยัง


แล้วที่ตลกที่สุด ผมตลกมาก และผมอยากจะฝากสิ่งนี้ให้กับ ป.ป.ช. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กฟผ. เป็นองค์กรที่ได้รับรางวัลองค์กรโปร่งใสมาอย่างต่อเนื่อง จาก ป.ป.ช. เป็นไปได้อย่างไร หรือว่าการให้รางวัลคือการโกหกตอแหลไปด้วย


ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง มันผิดปกติไหมว่าจู่ๆ ค่าไฟก็แพงขึ้นมาโดยกะทันหันเลย ไม่มีเหตุไม่มีผล ผมกำลังคิดอย่างนี้ท่านผู้ชม ถ้ารัฐบาลชุดนี้จริงจังและจริงใจกับเรื่องราวพวกนี้ ควรจะตั้งคณะกรรมการอิสระที่มีภาคประชาชนร่วมด้วย ไม่ใช่คณะกรรมการอิสระที่มาจากหน่วยงานการไฟฟ้า เพื่อตรวจสอบเรื่องค่าไฟ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านต้องลงมาแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ท่านมีโอกาสที่จะทำได้แล้วตอนนี้ เพราะดูซิว่าท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาตั้งกี่ปีแล้ว ผมยังไม่เห็นผลงานที่จริงจังของท่านสักครั้งหนึ่ง ท่านทำครั้งนี้ให้เป็นผลงานหน่อยได้ไหม


ท่านผู้ชมครับ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กกพ. ก็เหมือนองค์กรลับ องค์กรนี้ องค์กรเป็นคนกำหนดค่าไฟ พวกคุณต้องอธิบายให้ผมว่าค่าเอฟที คุณคิดอย่างไร เพื่ออะไรรู้ไหม เพื่อให้นักวิชาการอิสระที่มีความรู้ ความเข้าใจ เขาได้รับรู้และตรวจสอบได้ และโต้เถียงคุณได้ และทุกครั้งที่คุณมีการประชุมเพื่อขึ้นหรือลดค่าไฟ เพราะมันกระทบกับประชาชน 67 ล้านคน คุณควรจะทำตัวให้โปร่งใส ผมไม่คิดว่าคุณจะทำหรอก แต่ผมเสนอว่าคุณควรจะให้มีการถ่ายทอดสด ทุกครั้งที่คุณประชุม คุณจะประชุมค่าไฟ คุณกำหนดเลย คุณรู้อยู่แล้วว่าคุณจะประชุมวันไหน เวลาใด ถ้าคุณจริงใจกับประชาชน คุณใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานซื้อเวลาของทีวีถ่ายทอดสด เพราะการตัดสินใจของคุณมันกระทบทุกคนในประเทศ แต่ว่าถ้าหากคุณยังหน้าด้าน ผมคงต้องทำใจ เพราะคนระดับนี้ส่วนใหญ่จะหน้าด้าน


ท่านผู้ชมครับ ทุกวันนี้ผมได้ข้อมูลวิธีคำนวณค่าเอฟที ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าค่าคำนวณค่าเอฟทีมีกี่หน้า 8 หน้า เดี๋ยวผมจะขึ้นให้ดู ผมถามท่านผู้ชมว่าใครจะเข้าใจ ค่าเอฟทีต้องขึ้นเท่านี้ ค่าเอฟทีต้องขึ้นเท่านั้น พ่อแม่พี่น้องประชาชนและท่านผู้ชมหลายคนก็บอกว่า เอฟที คิดกันอย่างไร ยังไม่รู้เลยเอฟทีคืออะไร ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง อุปมาอุปไมยเหมือนมีคนมาปล้นท่านผู้ชมนะ ปล้นแล้วท่านผู้ชมยังต้องช่วยมันนับเงินอีกน่ะ เท่าไร เอาไปเลย ขนไปเลย ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยังว่า เกิดเป็นคนไทยทำไมมันขมขื่นอย่างนี้ แล้วสูตรค่าเอฟที ผมดูแล้วยังลึกลับซับซ้อนมากกว่าสูตรนักฟิสิกส์ที่มันคิดระเบิดนิวเคลียร์เสียด้วยซ้ำ



อีกประการหนึ่ง สุดท้าย ก่อนที่ผมจะก้าวไปสู่อนาคตของพลังงาน สุดท้าย สื่อมวลชนทั้งหลาย ผมผิดหวังในตัวพวกคุณมาก คุณไม่เคยคิดเลยหรือว่าค่าไฟที่ชาวบ้านเขาโวยวายกันว่าแพง ผมอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน ผมเปิดแอร์มากหน่อย มันน่าจะขึ้นสัก 50 แต่เอ๊ะ ทำไมมันขึ้น 3 เท่า มันเกิดอะไรขึ้น ทุกคนปิดปากเงียบ กฟผ. กฟภ. กฟน. ปิดปากเงียบ สื่อมวลชนก็แค่รายงานเฉยๆ แต่ไม่เคยสนใจที่จะมารายงานเลยแม้แต่นิดเดียว อะไรกัน สิ่งที่มันกระทบประชาชน 67 ล้านคน คุณยังคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกเหรอ นี่คือสิ่งที่ผมผิดหวังในรุ่นน้อง รุ่นลูก รุ่นหลาน มิหนำซ้ำในบางสื่อมวลชนยังทะลึ่ง เขาเคยพาไปดูงานต่างประเทศ เขามีโฆษณาให้ ยังเสือกมาเขียนเชียร์การไฟฟ้าฯ อีก พวกคุณอายกันบ้างหรือเปล่า ผม 73 ปีแล้ว ผมอายุถึงพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ววันนี้ ผมต้องเดินหน้าหาความจริงเพื่อเอาความถูกต้องออกมา นำความถูกต้องไปสู่ความยุติธรรม


ท่านผู้ชมครับ การพัฒนาพลังงานที่ถูกต้อง ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าประชาชนต้องใช้พลังงานของตัวเอง ทางดีที่สุด รัฐบาลต้องผลักดันโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานออกมา การไฟฟ้าต้องหดตัวลง บริการเฉพาะอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เท่านั้น



การไฟฟ้าทั้งหมด ทั้งผลิต ทั้งนครหลวง และภูมิภาค ต้องทำใจให้ได้ว่าพวกท่านจะผูกขาดต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะว่ามีประชาชน 67 ล้านคน เดิมพันในเรื่องนี้ ที่ผ่านมา ท่านผู้ชมครับ ฟังผมให้ดีๆ การไฟฟ้า การพลังงาน หรือว่ากระทรวงพลังงาน ไม่เคยมีวิธีการบริหารจัดการพลังงาน หรือที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Energy Management เขาเพียงแต่คิดว่า สร้างโรงไฟฟ้ามา ซื้อไฟเข้ามา ถ้าผลิตไม่พอ แล้วขายไป แล้วกินหัวคิวอย่างเดียว คิดได้เพียงแค่นี้ ท่านผู้ชม 40-50 ปีที่ผ่านมา มีอยู่เพียงแค่นี้


ท่านผู้ชมครับ เราต้องเรียกร้องการกระจายการผูกขาด และเราต้องเรียกร้องประชาธิปไตยทางพลังงาน ท่านผู้ชมครับ วันนี้เรียกร้องประชาธิปไตยทางการเมืองมันสู้เรียกร้องประชาธิปไตยทางพลังงานไม่ได้



บางคนก็บอกว่า ต้องมีประชาธิปไตยทางการเมืองก่อนถึงจะมีประชาธิปไตยทางพลังงาน ไม่ใช่ เรามีเสียงประชาชนที่เห็นด้วย คำถาม ท่านผู้ชมคิดว่าค่าไฟแพงไปหรือเปล่า คำตอบ 67 ล้านคน ผมคิดว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์ อาจจะต้องตอบว่าค่าไฟแพงไป คำถามข้อที่ 2 ถ้าแพงไป คุณสนับสนุนไหมที่จะให้ประชาชนมีพลังงานของตัวเอง ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ เกิน 70-80 เปอร์เซ็นต์ แม้กระทั่ง 90 เปอร์เซ็นต์ ก็บอกว่าเห็นด้วย ถ้าอย่างนั้นผมถามว่า พวกเราที่จ่ายค่าบริการคนละ 38.22 บาท แล้วค่าไฟเพิ่ม 3-4 เท่า เป็นผู้ลงคะแนนเสียง


ท่านผู้ชมครับ เรื่องปลดแอกพลังงานที่จั่วหัวมานี่ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ในแวดวงพลังงานระดับโลก เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องประชาธิปไตยทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่เขามีการคิด ศึกษาวิจัย และนำมาสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริงมาหลายสิบปีแล้ว เรื่องนี้เป็นประเด็นของการกระจายการผูกขาด และการสร้างประชาธิปไตยทางพลังงาน ท่านผู้ชมอย่าทำเป็นเล่นไป


ท่านผู้ชมอย่าลืมว่าเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปมาก เมื่อมันเปลี่ยนไปมากแล้ว ลักษณะการซื้อมาแล้วก็ขายไป และก็ผูกขาด มันเป็นเรื่องที่โบราณและเป็นเรื่องที่ดึกดำบรรพ์เขาทำกัน คนสมัยหินเขาทำกัน แต่ไม่ใช่สมัยนี้ที่มีโซเชียลมีเดีย ไม่ใช่สมัยนี้ที่มีไว-ไฟ และไม่ใช่สมัยนี้ที่มีแอปพลิเคชันต่างๆ ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ไม่มีใครโง่นะท่านผู้ชม จะโง่ได้อย่างไร อาทิตย์ที่แล้วที่ผ่านมา เรื่องพลังงาน เรื่องไฟฟ้าแพง คนเข้ามาชมรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ดูคลิปไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ท่านผู้ชมคิดว่า 10 ล้านคนโง่เหรอ ไม่โง่ แล้วเขาก็เล่าต่อไปๆๆ



ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมอย่าลืมนะ ถ้าเรายอมรับว่าการเมืองคือตัวเปลี่ยนแปลงได้ พวกเรา 67 ล้านคน หรือพวกเราที่ดูรายการนี้ ต้องตัดสินใจกดดันทางการเมืองให้ทำงานตามที่เราต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความเป็นอยู่ของพวกเรา ท่านผู้ชมครับ ท่านจะเชื่อพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล พรรคกล้า ของคุณกรณ์ จาติกวณิช พรรคอะไรก็ตาม วันนี้ท่านผู้ชมต้องไม่มีพรรคแล้ว ท่านผู้ชมต้องไม่มีสี ท่านผู้ชมมีอยู่อย่างเดียว ใครก็ตามที่รับปากว่าถ้าได้มีอำนาจแล้ว จะเอาอำนาจนี้มาสร้างประชาธิปไตยทางพลังงาน เพื่อให้เราได้ใช้ต้นทุนทางพลังงานที่ถูก แล้วอยู่อย่างสมศักดิ์ศรี



ท่านผู้ชมหลายคนอาจจะไม่คิดว่าพลังงานและเทคโนโลยีทางพลังงานมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม อย่างมหาศาล ท่านผู้ชมครับ การสนับสนุนโซลาร์เซลล์จะทำให้เกิดประชาธิปไตยด้านพลังงาน เป็นการสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานสะอาดด้วยตัวเอง เป็นการสร้างงานที่ยิ่งใหญ่มาก แม้แต่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเองก็สามารถออกมาร่วมทำงานด้วยได้ จะเป็นการสร้างงานทั่วประเทศ แก้ปัญหาราคาน้ำมัน ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นได้ทันที


ท่านผู้ชมครับ ผมยังยืนยันว่าพลังงานที่ถูกที่สุด คือพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ ในการทำรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทโตโยโต้า บอกว่าเขาจะไม่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เขาจะใช้พลังงานไฮโดรเจน อีลอน มัสก์ เขาพูดอยู่คำหนึ่ง ซึ่งเป็นสัจวาจาและสัจธรรมมาก เขาบอกว่า ไปทำทำไม จะไปหาทำไม ไฮโดรเจน ให้มันลำบากยากเย็น ก็พระผู้เป็นเจ้าได้มอบพระอาทิตย์ให้เราแล้วนี่ เช้ามา 6 โมงเย็น พระอาทิตย์ก็ออกแล้วก็ส่องแสงมา ตกเย็นพระอาทิตย์ก็ลง ทำไมไม่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์



โซลาร์เซลล์คือพลังงานสะอาด ราคาถูก ตอนต้นราคาแพงแน่นอนที่สุด อย่าไปมองว่าราคาน้ำมันตอนนี้มันต่ำ และราคาแก๊สมันถูก จะใช้ไฟฟ้าราคาถูก เพราะว่ามันเป็นสถานการณ์ชั่วคราว เราต้องทำให้พลังงานราคาต่ำอย่างยั่งยืน รัฐบาลต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ของแพง ราคาไม่แพง เทคโนโลยีในระยะแรกจะแพงมาก แต่เมื่อมีการใช้มากขึ้น ก็จะเกิดเส้นโค้งของการเรียนรู้ และทำให้ต้นทุนถูกลง


ท่านผู้ชมจำได้ไหม โทรศัพท์มือถือที่เป็นรูปของสากกระเบือ Motorola ราคา 100,000 นะสมัยก่อน 20 กว่าปีที่แล้ว 100,000 ท่านว่าแพงไหม แล้วมาวันนี้โทรศัพท์มือถือ 3,000 บาท โทรทัศน์จอ LED จอแบน ออกมาใหม่ๆ 40,000-50,000 กว่าบาท วันนี้ท่านผู้ชมซื้อได้ 50 นิ้ว 55 นิ้ว ในราคา ต่อรองดีๆ ซื้อราคาถูกหน่อย ไม่ถึง 10,000 เห็นหรือยังครับมันถูกลงมา 10 เท่า แม้กระทั่งแบตเตอรี่ทุกวันนี้ที่เขาผลิตกันเพื่อจะกักของ ณ วันนี้ แบตเตอรี่ที่เขาผลิตมา ราคาถูกกว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ และผู้เชี่ยวชาญหลายคน รวมทั้งหลานสาวของผม ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล เขาบอกว่า อาตั๊บ อีก 2-3 ปีข้างหน้า ราคาที่ลดมาจากเมื่อสิบปีที่แล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ ก็จะลดได้อีก 50 เปอร์เซ็นต์ ก็หมายความว่าแบตเตอรี่ที่กักไฟได้ 1 กิโลวัตต์ ราคาจะไม่เกิน 200 เหรียญสหรัฐ หรือ 6,000 กว่าบาท ถ้าทำในจีนก็อาจจะแค่ 3,000-4,000 บาทเท่านั้นเอง


ท่านผู้ชมครับ สมัยก่อนแผงโซลาร์แผงหนึ่ง ราคาหลักหมื่นบาท ทีนี้พอจีนเริ่มผลิต มีการนำเข้ามา ราคาแผงโซลาร์เหลือหลักพัน แผงโซลาร์ขนาดใหญ่ 330 วัตต์ ราคาแค่ 3,000 กว่าบาทเอง และก็มีอายุการใช้งาน 20 ปี 25 ปี และอาจจะถึง 30 ปีเสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชม ที่การไฟฟ้าอ้างว่ามันแพงๆ ไม่คุ้ม มันจะคุ้มได้อย่างไร ก็มันยังมีคนใช้น้อยอยู่ จะต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเข้ามาช่วยชดเชยหลายๆ เรื่อง เพื่อให้ปริมาณคนใช้งานเยอะขึ้น



ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมรู้จักนายอีลอส มัสก์ ใช่ไหม นายอีลอน มัสก์ เป็นคนสร้างรถยนต์ที่ชื่อเทสล่า ที่ใช้แบตเตอรี่ ในยุคแรกที่นายอีลอส มัสก์ สร้างเทสล่าขึ้นมานั้น รถยนต์เทสล่าวิ่งได้ไม่เกิน 120 ไมล์ 120 ไมล์ (หารด้วย 5 คูณด้วย 8) ก็เกือบ 200 กิโลเมตร ท่านผู้ชมรู้ไหมวันนี้เทสล่าวิ่งได้ 341 ไมล์ คิดเป็นระยะทางคือ 545 กิโลเมตร กรุงเทพฯ-พิษณุโลก สบายๆ ต่อไปยังสุโขทัยก็ยังได้ ประมาณ 400 กว่ากิโลเมตร อีก 2-3 ปีข้างหน้า เทสล่าก็จะวิ่งได้ประมาณ 800 กิโลเมตร หรือกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ อีก 2-3 ปีต่อไปข้างหน้า ก็สามารถวิ่งไป-กลับกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ได้ ท่านผู้ชมเห็นหรือยังว่าเทคโนโลยีมันไม่ได้หยุดอยู่กับที่ วันนี้แบตเตอรี่อาจจะดูแพง จุได้ทีละ 1 กิโลวัตต์ ราคา 200 เหรียญ แต่อีก 3 ปีข้างหน้า ผมเชื่อว่ามันจะต้องพัฒนาต่อไป สามารถจะจุได้ถึง 5 หรือ 10 กิโลวัตต์ และในราคาแค่ 200-300 เหรียญเช่นกัน แปลว่าอะไร แปลว่าแบตเตอรี่ตัวหนึ่ง ถ้าจุได้ 5 กิโลวัตต์ หรือ 10 กิโลวัตต์ หรือซื้อมา 2 ตัวก็ได้ สามารถจะจุไฟได้ถึง 20 กิโลวัตต์ ท่านผู้ชมครับ บ้านหลังหนึ่งมีห้องนอน 3 ห้องนอน มีแอร์ 3 ตัว แล้วใช้ไฟฟ้า ใช้คอมพิวเตอร์ ใช้พัดลมเย็น ใช้ไมโครเวฟ ใช้โน่นใช้นี่ วันหนึ่งใช้ไม่น่าจะเกิน 20 กิโลวัตต์ โดยใช้โซลาร์เซลล์ แปลว่าอะไรท่านผู้ชม แปลว่าบ้านหลังนั้นลงทุนเฉพาะแบตเตอรี่ ซึ่งในอนาคตจะต้องถูกลง โซลาร์เซลล์อาจจะต้องติดถึง 10 แผง หรือ 15 แผง ติดหลังคา โซลาร์เซลล์ไปเลย และผมเชื่อว่าบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ในขณะนี้กำลังคิดวัสดุหลังคา ที่เป็นหลังคาติดโซลาร์เซลล์ได้ ทุกอย่างมันพัฒนาไปแล้ว แต่นโยบายรัฐบาลอยู่ที่ไหน ยังย่ำอยู่กับที่ เพราะว่าถูกคณะกรรมการ กกพ.กำกับการพลังงาน ล็อกเอาไว้ ล็อกเอาไว้เพื่อให้การไฟฟ้าผูกขาดต่อ และเพื่อให้การไฟฟ้าต้องซื้่อไฟฟ้าต่อจากเอกชน เพื่ออะไร เพื่อมากระทืบท่านผู้ชมและผม คือพูดง่ายๆ ว่า พวกเราคือทาสที่ถูกโซ่ตรวนพลังงานของรัฐบาล ของ กกพ. มันล็อกเอาไว้ กกพ.มีเหมือนกัน บอกว่าถ้าใครใช้โซลาร์เซลล์ ถ้าจะเชื่อมเข้าไปกับระบบ On grid สมมุติว่าท่านมีบ้านอยู่หลังหนึ่งอยู่ในภูมิภาค ท่านต้องการติดโซลาร์เซลล์ แล้วใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ แล้วเชื่อมต่อเข้าไปกับพลังงานกลาง ท่านทำได้ เขาให้ทำ แต่ท่านต้องไปยื่นขออนุญาตที่ กกพ. และ กกพ.อนุญาตให้ท่าน แต่ว่าเงื่อนไขกติกาทุกอย่างก็คือการไม่อนุญาต เข้าใจหรือเปล่าท่านผู้ชม นี่คือวิมาร วิชามารของการผูกขาดทางด้านพลังงาน



เมื่อกี้ผมยกตัวอย่างเทสล่าให้ดู แล้วผมก็ยกตัวอย่างว่า ในขณะนี้อีลอน มัสก์ ก็เอาแบตเตอรี่ที่วิ่งได้ 341 ไมล์ เอามาทำ Battery Wall ติดผนัง Battery Wall ก็คือว่า รับโซลาร์มาจากข้างบน ส่งมาข้างล่าง จ่ายไปให้กับรถยนต์ของเขา จ่ายไปเครื่องใช้ไฟฟ้าของเขา เสร็จเรียบร้อยแล้วส่งกลับไปสู่สายเมน ตรงนี้ต่างหากที่จะทำให้ประเทศชาติไปได้ไกล ไปได้ไกลตรงไหนท่านผู้ชม ท่านผู้ชมตัดคำว่าราคาแพง ยังไม่พร้อม ไม่คุ้ม ตัดตรงนี้ทิ้งไป สมมุติว่าราคาไม่ใช่ปัญหา ซึ่งมันต้องไม่ใช่ปัญหาแน่นอน เพราะว่าเมื่อมีคนใช้มากขึ้น และไม่ต้องตกใจ เผลอๆ เมืองไทยจะได้อานิสงส์จากประเทศจีนและประเทศอื่นที่ใช้กันมากขึ้น ทำให้ข้าวของพวกนี้มันถูก ทั้งที่พวกเราควรจะใช้ล่วงหน้ากันตั้งนานแล้ว แต่เนื่องจากว่าผู้บริหารของเรามันไม่เคยเห็นประชาชนอยู่ในหัว เราก็เลยต้องใช้หลังสุด แต่ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าวันหนึ่งข้างหน้าของพวกนี้ราคา ... ตีเสียว่า ทั้งโซลาร์เซลล์ และมีแบตเตอรี่สามารถจะกักไฟได้ถึง 20 กิโลวัตต์ ในบ้าน เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากแก้กฎหมายแล้ว แก้ระเบียบแล้ว ยังสามารถขายไฟที่เหลือ ที่บ้านใช้ไม่หมด คืนเข้าสายส่ง คืนให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็จะได้รับไฟจากบ้านกี่ล้านครอบครัวที่ส่งกลับมา ผมเชื่อว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคซื้อไฟจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ต่อหน่วยต้องแพง ต้องมี 2-3 บาท แต่ประชาชนเมื่อใช้ไฟฟ้าที่ได้จากโซลาร์ แล้วใช้ไม่หมด แล้วขายคืนให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แค่บาทเดียวเขาก็เอาแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วต้นทุนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะถูกลง แต่คุณจะกำไรน้อยลง เพราะว่าปริมาณไฟฟ้าที่คุณเคยขายให้ชาวบ้าน ปริมาณมันลดน้อยลง แต่เนื่องจากต้นทุนมันถูกลง คุณก็ยังได้กำไรพอสมควร




ท่านผู้ชมดูนะ บ้านหลังหนึ่ง โซลาร์สัก 30 แผง แผงหนึ่งในวันหนึ่งข้างหน้าก็ไม่ควรจะเกิน 2,000 กว่าบาท 30 แผง ก็เกือบ 100,000 บาท 30 แผง คูณ 2,000 ก็คือ 60,000 บาท ตีให้สัก 120,000 บาท แบตเตอรี่ 2 ตัว ตัวละ 10,000 ก็ 20,000 รวม 120,000 บาท บวกอินเวอร์เตอร์ (inverter) ตัวแปลงไฟ จาก DC มาเป็น AC อะไรก็ว่ากันไปตามภาษาช่างไฟ เบ็ดเสร็จ ทั้งแผงโซลาร์เซลล์ ทั้งแบตเตอรี่ 2 ตัว และทั้งอุปกรณ์ ทั้งเครือข่าย network ที่สร้างอยู่ในนี้ เบ็ดเสร็จไม่เกิน 200,000 บาท ท่านผู้ชมใช้ไปได้อีก 10 ปี 10 ปีท่านผู้ชมไม่ต้องเสียค่าไฟแม้แต่บาทเดียว ท่านผู้ชมลองคำนวณดูว่า ถ้าบ้านของท่านผู้ชมมีแอร์ 3 ตัว เสียบรถยนต์ไฟฟ้าของท่านด้วย ใช้เครื่องปั่น ภรรยาเปิดไมโครเวฟบ้าง ใช้ตู้อบ เตาอบบ้าง เปิดดูทีวีบ้าง เล่นคอมพิวเตอร์บ้าง โน่นนี่นั่น ที่เคยจ่ายเดือนละ 4,000 บาท ท่านไม่ต้องจ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว เผลอๆ ท่านจ่ายแค่ 50 บาท หรือ 100 บาทเอง ท่านเซฟเงินไปเดือนละ 3,000 ปีละ 36,000 สิบปีก็ 360,000 ท่านลงทุนเบ็ดเสร็จไม่เกิน 200,000 แล้วท่านยังใช้ต่อไปได้อีกตามอายุของโซลาร์เซลล์ เพียงแต่ว่าท่านต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ตอนนี้อายุประมาณ 10 ปี แต่ใครจะไปรู้ล่ะ เทคโนโลยีอาจจะทำให้แบตเตอรี่อายุเกินไปอีก 10 ปีก็ได้ เมื่อใดก็ตามแบตเตอรี่อายุเกิน 20 ปี ท่านจะถูกปลดปล่อยจากการเป็นทาสที่ถูกโซ่ตรวจพลังงานที่เอารัดเอาเปรียบตีตรวจเอาไว้


ท่านผู้ชมรู้ไหม ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง บริษัทเทสล่า มูลค่าหุ้นของรถยนต์บริษัทเทสล่า ท่านรู้ไหม ในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าหุ้นของบริษัทเทสล่า บริษัทเดียว ยังมากกว่ามูลค่าหุ้นของบริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส กับฟอร์ด รวมกัน แสดงว่าทิศทางที่นายอีลอน มัสก์ มานั้นคือทิศทางของโลก คือทิศทางของโลก เพราะฉะนั้นแล้ว ผมไม่ชอบและผมไม่อยากได้ยินคำพูดจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ หรือกระทรวงพลังงานว่า เมืองไทยยังไม่พร้อม คุณเอาอะไรมาวัดว่าเมืองไทยยังไม่พร้อม ก็คุณเอาโซ่มาผูกมือเขา เอากุญแจมือมาใส่มือประชาชน เอาโซ่ตีตรวจ เอาการผูกขาดพลังงานมาใส่ข้อเท้าเขา แล้วคุณบอกว่าเมืองไทยยังไม่พร้อม ก็แน่นอนที่สุด ก็ยังไม่พร้อมเพราะคุณทะลึ่งผูกขาดไง แต่เมื่อใดที่คุณปลดโซ่ตรวจนี้ออก ทางออกของประชาชนจะมีหมด




ตอนนี้ถามว่ามีโซลาร์ไหม มีโซลาร์ฟาร์มใหญ่มาก 99 เปอร์เซ็นต์ อีก 1 เปอร์เซ็นต์ คือประชาชน ในขณะซึ่งในทางเยอรมนี ส่วนใหญ่แล้วเขาให้พลังงานโซลาร์ลงไปสู่บ้านของประชาชน ส่วนฟาร์มมีจำนวนน้อย ก็คือกลับหัวกลับหางกับประเทศไทย และโซลาร์ฟาร์มทำไปเพื่ออะไร ก็เพื่อผลิตไฟฟ้าและขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เพื่ออะไร เพื่อเอามาขายให้พวกท่าน เพื่อผูกขาดต่อไป ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง เกิดมาเป็นคนไทยยุคนี้ซวยอิ๊บอ๋ายเลยท่านผู้ชม มันน่าช้ำใจไหม และนี่คือปัญหาที่ทุกชาติ ทุกครัวเรือนในประเทศไทย 67 ล้านคน เจอเหมือนกันหมด ไม่มีข้อยกเว้น เพียงแต่ท่านไม่รู้สึก ท่านรู้สึกอยู่เฉยๆ ว่าถึงเวลาต้องจ่ายบิลค่าไฟแล้ว ท่านก็จ่ายไป ทำไมเดือนนี้มันแพงจัง ท่านคิดแค่นั้น แต่เผอิญมีผมมาอธิบายให้ท่านฟังว่า ท่านโดนเขาเตะ โดนเขาถีบ โดนเขาเอาไม้หน้าสามตีหัว แล้วท่านยังให้เงินเขาต่อ แล้วท่านยังยกมือขอบคุณนะครับที่กระทืบผม ขอบคุณนะครับที่ผูกขาดผม ขอบคุณนะครับที่โกงผม ทุกเม็ดเลย ท่านยังชอบอกชอบใจ เหมือนกับว่าเขามาปล้นท่านแล้วท่านช่วยเขานับเงินจากเก๊ะส่งให้เขา ท่านผู้ชมครับถึงเวลาที่จะต้องปลดปล่อยหรือยัง



วันนี้ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าเรามีโซลาร์อยู่แล้ว ทุกวันนี้ เขาเรียกว่าโซลาร์กองโจร โซลาร์กองโจร หมายความว่าอย่างไร หมายความว่าประชาชนหลายๆ แห่งติดตั้งไว้ ท่านผู้ชมรู้ไหม มีวัดๆ หนึ่งที่ จ.อุบลราชธานี อ.โขงเจียม เขาเรียกว่า ต.ห้วยยาง เขาเรียกวัดป่าศรีแสงธรรม หลวงพ่อวิมล ปัญญาคุณ ท่านได้ใบอนุญาตก่อตั้งโรงเรียนวัดศรีแสงธรรม และหลวงพ่อท่านได้รับแรงบันดาลใจจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ท่านก็เลยใช้พลังงานจากโซลาร์ ท่านติดโซลาร์รูฟ (solar roof) ติดหลังคา roof top ผลิตไฟฟ้าใช้เองในโรงเรียน ท่านประหยัดค่าไฟถึงเดือนละ 20,000 กว่าบาท แต่กว่าท่านจะได้วิธีนี้ ท่านต้องเรียนรู้มาหลายอย่าง และในที่สุดแล้วท่านก็เลือกตัดปัญหาเพื่อไม่ต้องวุ่นวายกับระบบที่ไม่เอื้อนี้ เพราะว่าเขามาบีบท่าน


ระบบที่ท่านทำคือระบบ on grid หมายความว่า ใช้ไฟโซลาร์จากพลังงานแสงอาทิตย์ ลงมาบรรจุในแบตเตอรี่ เสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถผลิตไฟได้ 40 หน่วยต่อวัน และใช้แค่ 30 หน่วย อีก 10 หน่วยมันก็เลยหมุนมิเตอร์การไฟฟ้ากลับไปที่ 0 เหมือนเดิม ก็เท่ากับว่าการไฟฟ้าไม่ได้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว กลางคืนใช้ 10 หน่วย เช้า-กลางวันใช้ 30 หน่วย ผลิตมา 40 ก็เท่ากับ 0 มิเตอร์ก็เท่ากับ 0 การไฟฟ้าไม่ยอม มันบอกว่าไม่มีระเบียบนี้ ไฟฟ้าออกจากมิเตอร์แล้วต้องจ่ายเงิน ไม่ใช่เอาไฟฟ้าเข้าไปหมุนคืน ก็คือว่า ไฟฟ้าออกมาปั๊บ ท่านได้โซลาร์มาปั๊บ ท่านก็เอาไปหมุนมิเตอร์คืน คือท่านก็บอกว่าเอาไฟฟ้าเข้าระบบยุ่งยากไหม หนึ่ง ต้องไปแจ้งที่ กกพ. กรรมการกำกับกิจการพลังงาน เมื่อได้ใบนี้แล้ว ก็ยื่นขอขนานไฟฟ้า ตรงนี้จะยุ่งยากมากขึ้นอีก การไฟฟ้าจะตรวจอุปกรณ์ว่าตามมาตรฐานหรือไม่ แน่นอน เมื่อมันจะไม่ให้เราแล้ว ก็ต้องบอกว่าไม่ตามมาตรฐาน ทดสอบผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็ไม่เชื่อม ไม่ขนาน สำหรับบางคนระเบียบแบบนี้มันยุ่งยากจนเขาไม่ไปขอขนานไฟ ก็เลยเกิดลักษณะโซลาร์กองโจรขึ้นมา คุณอยากติดก็ติดไปเลย เพราะทั่วโลกเขาก็ให้ส่งขายอยู่แล้ว มาติดที่ประเทศไทยด้วย ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง นี่ไงโซลาร์กองโจร



ระบบโซลาร์ทุกวันนี้ ถ้าจะเป็นหมู่บ้าน หมู่บ้านเสนา ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เขามีนะ บ้านที่ไม่มีโซลาร์ ค่าใช้ไฟตกประมาณเดือนละ 1,967.19 บาท บ้านที่มีโซลาร์ ใช้ไฟ 310 หน่วย (ยูนิต) ค่าไฟแค่ 639 บาทเองต่อเดือน เขาประหยัดปีละประมาณ 15,935 บาท นี่คือหมู่บ้านเสนา หรืออีกกรณีหนึ่ง ที่ จ.พิจิตร มีร้านกาแฟร้านหนึ่ง เปิดร้านกาแฟและกินอยู่ในร้านนั้นด้วย เจ้าของร้านท่านบอกว่าท่านมีที่พัก ที่นอน มีแอร์ 2 ตัว 24,000 btu แบบ off grid ก็คือต่อมาเพื่อใช้แอร์โดยเฉพาะ ต่อโซลาร์มาเพื่อใช้แอร์โดยเฉพาะ เน้นใช้กลางวัน ส่วนแอร์อีกตัวหนึ่งคือ 9,000 btu แบบไฮบริด เน้นใช้กลางคืน ผสมไฟฟ้าจาก กฟภ.มาด้วย งบประมาณที่เขาทำประมาณ 140,000 บาท เขาบอกว่ากลางวันไม่ต้องเสียค่าไฟเลย เพราะไฟใช้จากโซลาร์เซลล์ แต่แบตเตอรี่ช่วยให้ไฟเสถียร แม้แบตเตอรี่จะเสื่อม ก็ไม่ได้เสื่อมมาก อายุการใช้งานจริงๆ น่าจะเกิน 5 ปี สามารถใช้ได้ทั้งแอร์ 24,000 btu จอทีวี LED พัดลม ตู้เย็น ตู้แช่ กลางคืนก็สามารถลดค่าไฟ เพราะเปิดแอร์ 9,000 btu โดยใช้ระบบไฮบริดในเวลากลางคืน เขาใช้เวลาทั้งหมดคุ้มทุนประมาณ 5 ปี




ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่า ถ้าเราเดินหน้าไปทางนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไร เราปลดล็อกต่างๆ พวกนี้ ถ้าของยังแพงอยู่ก็ไม่เป็นไร แต่ต้องปลดล็อก การทำโซลาร์เซลล์มันไม่ได้ต่างจากการที่ท่านผู้ชมไปซื้อตู้เย็น ไปซื้อตู้แช่ หรือไปซื้อไมโครเวฟ ทำไมจะต้องไปจดทะเบียน ทำไมจะต้องไปขออนุญาต กกพ. ไม่จำเป็น เพราะฉะนั้นแล้ว ของพวกนี้เมื่อโซลาร์เกิดขึ้น ปัจจัยในการใช้คำนวณ ท่านก็คำนวณได้ ว่าขนาดกองกำลังใช้ไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าแต่ละวันท่านผลิตได้เท่าไร ปริมาณของแดดใช้ผลิตแต่ละวัน เงินลงทุน เพื่อคำนวณจุดคุ้มทุนในแต่ละขนาด กำลังการผลิต อัตราค่าไฟฟ้า ตั้งไว้ที่ 4.50 บาทต่อหน่วย แปรผันตามความจริงแต่ละสถานที่ ถ้าท่านใช้กำลังผลิตไฟฟ้า 3.5 กิโลวัตต์ต่อ 1 วัน เฉลี่ยค่าผลิตไฟ 15 หน่วยต่อวัน 450 หน่วยต่อเดือน ประหยัดค่าไฟฟ้าได้มูลค่า 2,025 ต่อเดือน หรือ 24,300 บาทต่อปี เรทค่าไฟฟ้า 4.50 บาทต่อหน่วย ท่านลงทุนค่าอุปกรณ์ ค่าติดตั้ง 140,000 บาท ระยะเวลาคืนทุน 6 ปี ปีที่ 7 ขึ้นไป ท่านใช้ไฟฟรี เดือนละ 2,000 กว่าบาท ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง




ทีนี้ท่านผู้ชมลองหลับตาวาดภาพแล้วเดินตามผมมา หลับตาวาดภาพ ถ้าอีกหน่อยชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ พลังงานแสงแดด แล้วสามารถจะใช้คู่ขนานกับไฟของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ในกรณีที่ไฟโซลาร์เซลล์ไม่พอ นี่หมายความว่ารัฐบาลต้องแก้กติกาต่างๆ พวกนี้ใหม่หมดนะ สิ่งนี้เกิดอะไรขึ้นรู้ไหมท่านผู้ชม งานจะเกิดขึ้นเป็นล้านๆ ที่ทั่วประเทศไทย เด็กที่จบใหม่ จบช่างกลเอย จบราชมงคลเอย จบโรงเรียนสารพัดช่างเอย ก็จะสามารถไปสมัครงานหรือไปตั้งร้านค้า หรือไปทำกิจการอิสระในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้บ้านแต่ละบ้าน มันมีการต่อยอดออกไปอีกเยอะแยะไปหมด มันมีการต่อยอดไปทางด้านหลายๆ ด้าน ไปจนกระทั่งถึงหมู่บ้านๆ หนึ่งใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ แล้วมีไฟเหลือ หมุนไฟนี้เข้ามาแล้วทำเป็นปั๊มไฟฟ้า ปั๊มไฟฟ้าก็คือว่า ถ้าท่านมีรถยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน ซื้อเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านก็ไม่สามารถขับไปต่างจังหวัด เพราะว่าท่านต้องไปเสียบปลั๊กเวลาไฟหมด แต่ถ้ากรณีที่มีทุกอำเภอ เท่ากับรถไฟฟ้ามันเกิดเลย ท่านผู้ชม รัฐบาลก็ต้องให้ภาษีรถไฟฟ้า 0 เปอร์เซ็นต์ วันนี้บริษัทเอ็มจี เขาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเอ็มจี ขายแค่ 1.2 ล้านบาท ทำไมถึงขายถูก เพราะว่าเอฟทีเอระหว่างไทยกับจีนไม่มีภาษี เมื่อไม่มีภาษีแล้ว ค่าไฟรถเอ็มจีที่ใช้ไฟฟ้าก็ไม่ต้องเสียภาษีเลยแม้แต่บาทเดียว ทำไมประเทศไทยถึงไม่ลดค่าภาษีไฟฟ้า หรือว่าโดนบริษท เช่น โตโยต้า หรือบริษัทอื่นๆ กีดกัน วิ่งเต้นเพื่อไม่ให้ลดภาษี


ท่านผู้ชมครับ นิสสัสก็มีรถไฟฟ้า ทำไมเราต้องไปเกรงใจโตโยต้า โตโยต้าไม่ใช่พ่อเรานะท่านผู้ชม โตโยต้ากีดกันเพราะโตโยต้ากำลังจะผลิตรถที่ใช้ไฮโดรเจน ก็เลยไม่อยากให้รถไฟฟ้าเกิดในเมืองไทย นี่คือความเห็นแก่ตัวของโตโยต้า มันเห็นแก่ตัวมาก แล้วทำไมเราต้องให้มันเห็นแก่ตัวกับเราล่ะ ถ้ามันไม่อยากอยู่ในเมืองไทย ก็ให้มันออกไป อย่างน้อยนิสสันยังอยู่ นิสสันมีรถไฟฟ้าอยู่แล้ว LEAF ไง นิสสันก็ต้องเจริญเติบโตจากรถไฟฟ้าที่เรา ที่สำคัญพอรถไฟฟ้ามันมีแล้ว สิ่งแวดล้อมมันดีขึ้น PM 2.5 ก็ดีขึ้น ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่าว่า ที่ประเทศจีนมีโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ชื่อ BYD (Build Your Dreams)



BYD เป็นผู้ส่งออกรถบัสไฟฟ้า ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลายประเทศในยุโรป ยุโรปตะวันออก ซื้อรถบัสไฟฟ้าจาก BYD ของประเทศจีนใช้กันเต็มไปหมดเลย ท่านผู้ชม เรามัวแต่มะงุมมะงาหราอะไรกันทุกวันนี้ ท่านผู้ชมนึกดูสิ ถ้าเราเริ่มใช้โซลาร์เซลล์ เริ่มใช้ไฟฟ้าเข้ามา กิจกรรมซึ่งคนจะต้องมาดูแลซ่อมบำรุงรักษา มาขายของ มาเพิ่มเติม มาต่อยอด โอ้โห จ้างงานได้เป็นล้านๆ คน กิจการทางเศรษฐกิจของอำเภอก็เกิด ของตำบลก็เกิด ของหมู่บ้านก็เกิด นี่คือการปฏิวัติประเทศไทย ท่านผู้ชม ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยังครับ


วันนี้ต้องถือว่าเป็นฟินาเล่ของการไฟฟ้า ท่านผู้ชมครับ คำพูด คอมเมนต์จะต้องมี ไม่คุ้ม มันแพง ผมบอกท่านผู้ชมแล้วไง ก็เหมือนกับสมัยก่อน คนใช้โทรศัพท์บ้าน กว่าจะได้สักเครื่องที่บ้าน 02 นี่ล่ะ ก็ไม่คุ้ม แพง แล้วต่อมาก็เป็นมือถือ Motorola รุ่นสากกะเบือ ก็ 100,000 ก็ไม่คุ้ม ก็แพง แล้วเป็นอย่างไร เห็นหรือยัง จอ LED ออกใหม่ จอแบน เปิดมาใหม่ๆ 60,000 บาท วันนี้ 50-55 นิ้ว เจรจาดีๆ ไม่ถึง 10,000 บาท เห็นหรือยังท่านผู้ชม คนที่จะมาออกความเห็นอย่ามาออกความเห็นในเรื่องการไม่คุ้มและแพง คุณควรจะไปคิดดีกว่าว่า บทบาทของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ บทบาทของการไฟฟ้านครหลวง และบทบาทของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะปรับตัวอย่างไรที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีตรงนี้ คุณไม่เปลี่ยนไม่ได้ เพราะมันมาอยู่แล้ว มันเหมือนคุณยืนอยู่บนรางรถไฟ แล้วรถไฟวิ่งมา เพียงแต่ว่าเมื่อไรมันจะชนคุณเท่านั้นเอง ถ้าคุณยังมัวงี่เง่า อยากจะผูกขาดอยู่เหมือนเดิม อยากจะซื้อมาราคาถูก ขายไปราคาแพง แล้วก็บังคับให้คนเขาใช้กับคุณอย่างเดียว ไม่ให้เขามีทางเลือกของเขาเลย แล้วคุณไม่คิดว่าวันหนึ่งทาสจะกบฏเหรอ ถ้ามันกบฏได้ ปลดโซ่ตรวจออกได้ คุณจะเป็นใครในอนาคตข้างหน้า ผมถึงบอกว่าคุณไม่รู้จักตัวคุณเอง คุณรู้อยู่อย่างเดียว คุณรู้ว่าวิธีทำมาหากินด้วยการผูกขาดนั้นมันหอมหวาน หมดยุคของคุณแล้ว ท่านผู้ชมเข้าใจผมหรือยัง วันนี้ผมพูดให้คุณเข้าใจ คนที่อยู่ฝ่ายไฟฟ้า ว่าอย่างไรคุณหนีการเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก เชื่อผมสิ




ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมถามมาเยอะว่าให้ผมพูดเรื่อง CPTPP (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership) แต่ก่อนจะถึงเรื่องนี้ผมจะเล่าให้ฟังนิดหนึ่ง เผอิญผมมีเรื่องที่จะพูด แต่วันนี้เวลามันเลยเถิดมาแล้ว ผมอยากจะพูด 2 เรื่อง สถานการณ์โควิด-19 ในอเมริกา และในโลกนี้ อันนี้พูดสั้นๆ ได้ ตอนนี้ท่านคงจะรู้แล้วว่ามีคนติดเชื้ออยู่ประมาณ 3 ล้านกว่าคน อเมริกาติดเกินล้าน และคนตายในอเมริกา 60,000 กว่าแล้ว ยอดคนตายในอเมริกา มากกว่ายอดคนที่ตายในสงครามเวียดนาม สงครามเวียดนามตาย 58,000 คนในอเมริกาตาย 60,000 กว่า ตอนนี้จีนกับอเมริกากำลังทะเลาะกันหนัก ทำสงครามไอโอ อเมริกาด่าจีน จีนด่าอเมริกา สลับกันไปสลับกันมา อเมริกาจะฟ้องจีน หาว่าจีนเป็นต้นเหตุของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ที่ทำให้เขาเสียหาย ทำให้โลกเสียหาย ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหาย เสร็จเรียบร้อยแล้วจีนก็สวนกลับหลายเรื่อง เขาสวนกลับอย่างไร เก็บเอาไว้ แล้วเอาไว้ผมจะเล่าให้ฟังในอาทิตย์หน้า


อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องของสงคราม ผมกำลังจะเล่าให้ฟังว่า ผมกำลังหวั่นวิตกว่าอาจจะมีสงครามเกิดขึ้นหลังจากโควิด-19 จบแล้ว และผมมีเหตุผลของผม ผมจะอธิบายให้ฟัง ไม่ใช่อาทิตย์นี้นะครับ


มาต่อเรื่อง CPTPP เรื่องนี้ลงรายละเอียดไม่ได้ เพราะรายละเอียดมันเยอะเหลือเกิน และมันมีวิชาการมาก เอาเป็นหลักการ ผมจะอธิบายป่าทั้งป่าให้ฟังแล้วกัน


CPTPP เดิมทีมันชื่อ TPP คือ Trans-Pacific Partnership ที่มันเกิดขึ้นเมื่อสมัยก่อน เกิดขึ้นก็เพราะว่าอเมริการต้องการจะบล็อกจีน อเมริกาก็เลยเป็นโต้โผใหญ่ ตั้งมาเมื่อปี 2549 (ค.ศ.2006) โดยมีคนเข้ามาร่วม 12 ประเทศ อเมริกาไม่เชิญจีนมาร่วม เหตุผลเพราะว่าอเมริกาต้องการให้ 12 ประเทศนี้ผลักดันและสร้างมาตรฐานการค้าการขาย ให้อยู่ในมาตรฐานที่อเมริกาชำนาญ ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ใครจะเข้ามาร่วม จะต้องเจอมาตรฐานที่สูงของอเมริกา แล้วก็มีเรื่องของเงื่อนไขต่างๆ ที่อเมริกามากดดันบริษัทประเทศนี้ อย่างเช่น สิทธิบัตรยา ถ้าใครเข้ามาร่วมแล้วต้องยอมในหลักการว่าสิทธิบัตรยา ซึ่งแต่ก่อนมีอายุสัมปทาน อายุแค่ 20 ปี ต้องขยับไปเป็น 30 ปี 50 ปี ซึ่งช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่จีนไม่สนใจที่จะเข้า เพราะว่าจีนเจรจาตรง เขาเรียกว่า Bilateral FTA คือการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ โดยตรง จีนไม่แคร์ แต่วัตถุประสงค์ก็คืออเมริกาต้องบีบจีน พอนายทรัมป์เข้ามา นายทรัมป์ประกาศให้ถอนอเมริกาออกจาก TPP (Trans-Pacific Partnership) ในที่สุดแล้วก็เหลือญี่ปุ่นซึ่งเป็นขาใหญ่ ญี่ปุ่นก็เลยเดินหน้าต่อ โดยมี 11 ประเทศทั้งหมด ในทางเอเชียมีญี่ปุ่น มีเวียดนาม มีมาเลเซีย มีบรูไน มีสิงคโปร์ 5 ประเทศ แล้วทางใต้ก็มีออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และมีทางตะวันตกของทวีปอเมริกา ก็จะมีชิลี เปรู เม็กซิโก แคนาดา ทั้งหมดเบ็ดเสร็จ 11 ประเทศ


ทีนี้ ข้อตกลงของ TPP ได้มีการเจรจากันมาตั้งแต่ญี่ปุ่นเป็นโต้โผ เจรจามาประมาณ 5 ปี แล้วคนที่เป็นหัวหน้าเจรจาที่เหน็ดเหนื่อยสาหัสสากรรจ์คือ ท่านอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ คือท่านอธิบดีอรมน ท่านอธิบดีอรมน และทีมของท่านเจรจามาประมาณ 5 ปี ท่านอธิบดีอรมนท่านชำนาญมากในเรื่องการเจรจาการค้า เพราะท่านเจรจาในเรื่องของการค้าเสรี FTA มาตั้งหลายยุคหลายสมัย หลายกรณีแล้ว เจรจา FTA ไทย-จีน เจรจา FTA ไทยกับโน่นนี่นั่น เอาล่ะ ก็ปรากฏว่าในที่สุดแล้ว อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศนั้น สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ในกรณีวันนี้คือคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ จะต้องรับผิดชอบ ก็เจรจามาตลอดเวลา ระหว่างเจรจาก็มีการโต้แย้งคัดค้านกันเป็นของปกติธรรมดา ฝ่ายองค์กรเอกชน NGO ไทย ไบโอไทย ที่ต่อต้านเรื่องสารพิษ การแบนสารพิษ ก็บอกว่าเราจะเสียเปรียบ เพราะว่าเราจะถูกขโมยเมล็ดพืชพันธุ์ไปได้ แล้วอีกหน่อยประเทศไทยจะไม่ใช่ประเทศเกษตรกรรมต่อไป ท่านอธิบดีอรมนก็ชี้แจงว่า ที่กังวลนั้น กังวลอย่างไม่จริง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ 1..2..3..4..



แล้วอีกอย่างหนึ่งท่านอธิบดีท่านก็พูดชัด ท่านบอกว่า 13 ปีที่ผ่านมา NGO เอาข้อมูลเมื่อ 13 ปี เอาขึ้นมา ซึ่ง ณ วันนี้เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว 13 ปีอะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะแล้ว นวัตกรรมใหม่ๆ ก็เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่ NGO พูด ณ วันนั้นอาจจะจริง แต่วันนี้ไม่จริงแล้ว และข้อดีอย่างหนึ่ง เมื่ออเมริกาไม่อยู่แล้ว ปัญหาสิทธิบัตรยา ซึ่งทุกประเทศลำบากใจ เราก็ลำบากใจ ก็จบสิ้นไป ซึ่งสิทธิบัตรยาก็เป็นเรื่องที่ผมก็ขำท่านรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ท่านกระโดดห้อยโหนทันทีเลย ท่านบอกทันทีเลยว่าไม่ได้ กระทรวงสาธารณสุขไม่เห็นด้วย จะมีปัญหาเรื่องยา ท่านลืมนึกไปว่า เรื่องสิทธิบัตรยาจบไปแล้ว ไม่มี ตั้งแต่อเมริกาถอนตัวออกไป น่าเห็นใจท่าน ท่านถูกยึดอำนาจไปในการทำงาน ท่านก็เลยอยากมีซีนบ้าง ผมเป็นเพื่อนรักท่าน รู้จักท่านดีนะ ก็ขอเล่าแบบขำๆ ให้ฟังว่าท่านเล่นผิดวิกแล้วงานนี้ แต่เอาล่ะ ไม่เป็นไร เรื่องนี้


เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ แต่เผอิญท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะท่านเป็นประธานยุทธศาสตร์ในการเรื่องเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ท่านก็มอบให้รองฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธาน แต่ท่านรองฯ สมคิดไม่ได้ทำอะไรเลย ท่านแค่เรียกประชุม เพราะว่าตัวหลักอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ คือท่านอธิบดีอรมน ทรัพย์ทวีธรรม ท่านรายงานโดยตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นยุคไหนสมัยไหนก็ต้องเป็นคนนั้น แต่เผอิญยุคนี้สมัยนี้เป็นคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เมื่อเป็นคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ แล้ว เผอิญ NGO ก็ใช้ Influencer หลายคน อย่างเช่น หมอมงคล นายแพทย์มงคล ซึ่งอดีตท่านเป็นเลขาธิการ อย. ออกมาผ่านไลน์เลย ถ้าเอาเข้าไป สมคิดเคยทำอะไรให้กับชาติบ้าง



คือพูดง่ายๆ ว่า ใครก็ตามที่เห็นด้วยกรณีของ TPP นี้ ก็คือคนที่ขายชาติ คุณอรมน ท่านก็เป็นข้าราชการประจำ แล้วทีมท่านทำมา 5 ปีเต็มๆ ท่านเจรจามา 5 ปี ท่านรู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน และที่สำคัญที่สุด ในเอเชียอาคเนย์ ในเอเชียมันมีสิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย เวียดนาม เข้าไปแล้ว ประเทศไทยยังไม่ได้เข้า อาจจะมีการเสียเปรียบการค้ากัน แต่ประเด็นเสียเปรียบการค้าสำหรับผม ผมเฉยๆ ผมมองว่าจุดยืนของแต่ละฝ่ายไม่เหมือนกัน


จุดยืน NGO ก็กังวลในเรื่องนี้ จุดยืนของรัฐบาล โดยเฉพาะท่านสมคิด ท่านกังวลเรื่องการลงทุนมากกว่า หมายความว่าอย่างไร หมายความว่าถ้าประเทศต่างๆ ที่เข้าไป join TPP แล้ว ถ้าเราไม่เข้าไป การลงทุนจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้ญี่ปุ่นเป็นพระเอก เพราะว่าโควิด-19 ทำให้วงจรอุปทาน ห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ที่เคยมีอยู่ในประเทศจีน มันต้องหยุดหมดเลย นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ก็เลยให้เงินอุดหนุน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 60,000 กว่าล้านบาท ให้กับบริษัทญี่ปุ่นต่างๆ ในอนาคตที่จะย้ายบริษัท โรงงาน ที่สร้างห่วงโซ่อุปทานอยู่ในจีน ย้ายออกมาเอเชีย ก็เหลือ 3 ประเทศที่จะเป็นคู่แข่ง มีไทย มีมาเลเซีย และมีเวียดนาม เผอิญไทยกำลังสร้าง EEC ไทยก็อยากได้ EEC มีนักลงทุนจากญี่ปุ่น เอาห่วงโซ่อุปทานจากประเทศจีนมาลงทุนใน EEC แต่ถ้าไทยไม่ได้เข้า TPP ตัวนี้โอกาสที่จะไปที่มาเลเซีย และเวียดนาม มันสูงกว่าไทยเยอะ ไทยก็จะสูญเสียเงินลงทุนก้อนนี้ไป เอาล่ะ นี่คือมุมมองของคุณสมคิด ซึ่งเขามองในแง่ของผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย จะสูญหายไป เขาเป็นห่วงตรงนี้ เขามองภาพรวมประเทศไทยว่า ประเทศไทยในที่สุดจะสูญเสียอะไรบ้าง




ทีนี้ ข้อเป็นห่วงของพวก NGO ก็คือว่า เมล็ดพันธุ์พืชจะโดนขโมยไป อันโน้น อันนี้ โน่นนี่นั่น ซึ่งรายละเอียดมันเยอะเหลือเกิน ผมขี้เกียจเอามาอ่านให้ฟัง ผมอ่านน่ะพอเข้าใจ แต่ว่าจะผมสรุปเป็นข้อๆ ผมคิดว่าวันหนึ่งก็ไม่พอ เอาเป็นว่า โดยหลักการแล้ว สิ่งที่ NGO เขาไม่เห็นด้วย คุณอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ท่านบอกว่า ตอบคำถาม NGO ได้ทุกข้อเลย ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ที่ NGO ห่วงเรื่องนี้ เรื่องนี้ไม่จริงค่ะ เพราะเป็นอย่างนี้ๆๆ ที่เป็นเรื่องนี้ กฎหมายบีบบังคับไว้แล้ว เรามีสิทธิที่จะทำได้อย่างนี้ๆ คือสรุปง่ายๆ ว่า NGO ถามเรื่องอะไรที่ไม่พอใจ หรือไม่สบายใจ ท่านอธิบดีท่านตอบได้ แต่ผมสรุปอย่างนี้


เรื่องของเรื่องไม่ใช่อะไรหรอก NGO เขาไม่ไว้ใจรัฐบาล สมมุติว่าคุณอรมนบอกว่าไม่มีปัญหาๆ เขาเพียงแต่กลัวว่า ในอดีต ตัวแทนรัฐบาลจะไปยอมทุกครั้งในการเจรจา ผมคิดว่าปัญหาอยู่ที่ความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย


สมมุติว่าเราตั้งสมมติฐานว่า สิ่งที่คุณอรมนพูด ถูกต้องหมด ก็คือว่าไม่มีผลกระทบเลย สิ่งที่ NGO กังวล ไม่มีอะไรเลย ถ้าตรงนี้เป็นจริง และถ้าคุณอรมนยืนยันตรงนี้ และรัฐบาลยืนยันว่าจะเจรจาบนพื้นฐานอันนี้ ผมคิดว่าไทยก็ควรจะเข้า CPTPP แต่คำถามในขณะนี้คือ จะทำอย่างไรที่จะให้ NGO เข้าใจเรื่องนี้ จริงๆ แล้วในอดีตมันก็มี NGO หลายๆ ฝ่ายที่เคยทำหลายๆ เรื่อง และไม่เข้าใจในหลายๆ เรื่อง แต่รัฐบาลก็ยังทำไป ตรงนี้ก็เลยทำให้ NGO เป็นห่วง



ทีนี้เรื่องนี้ ถ้าเราตั้งข้อสมมติฐานแล้วเราเริ่มเปิดฉาก แล้วเราบอกว่าสิ่งที่ท่านอธิบดีอรมนพูดนั้นถูกต้องหมด เพราะทีมท่านทำงานมา 5 ปี 5 ปีนั้นท่านไปสืบเสาะข้อมูลมา คุยกับคนโน้น คุยกับคนนี้มา นิวซีแลนด์ เป็นประเทศหลักในการที่จะทำเรื่องกฎระเบียบต่างๆ ไปคุยกับทางนิวซีแลนด์มาว่าข้อนี้ว่าอย่างไร ตกลงเมล็ดพันธุ์พืชไทยมีสิทธิใช่ไหม สมาชิกที่เข้าไปแล้วสมาชิกไม่มีสิทธิที่จะมาขโมยเมล็ดพันธุ์พืช เขาตอบคำถามได้หมดแล้ว ตีซะว่าเรื่องนี้จบตรงนี้ ถ้าจบตรงนี้ ผมคิดว่าถ้าเราตั้งข้อสมมติฐานตรงนี้ไว้ก่อน อย่าเพิ่งไปกล่าวหาท่านอธิบดีอรมน ถ้าท่านอธิบดีอรมนตอบคำถามได้หมด ซึ่งท่านยืนยันว่าท่านตอบได้หมด ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น อย่าไปกล่าวหาท่านว่าท่านไม่รักชาติ เพราะระหว่าง NGO ซึ่งคุณก็รับเงินต่างประเทศมาเคลื่อนไหวในประเทศไทย และท่านอธิบดีอรมน ทรัพย์ทวีธรรม ท่านเป็นผู้หญิง อายุ 51-52 ปี ท่านทำงานมา 5 ปี และท่านก็เป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ ท่านก็คงจะรักชาติเหมือนที่ท่านรักชาติล่ะครับ ให้เกียรติท่านนิดหนึ่ง เพราะข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างนี้ท่านผู้ชม ข้อเท็จจริงมันมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง


สิ่งซึ่งคุณอรมนพูดในตอนเช้า วันนั้น ที่ประชุม ครม. ว่าเรื่องนี้เข้า ครม.แน่นอน แต่ปรากฏว่ากลุ่ม NGO ได้กระจายข่าวเรื่องนี้ออกไป ก็เลยทำให้คนใกล้ชิดของคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ คนหนึ่ง อย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลย ก็มาบอกคุณจุรินทร์ว่า ไม่ได้นะ โซเชียลมีเดียกำลังต่อต้านเรื่องนี้ คุณจุรินทร์ ท่าทางชาติก่อนคงจะเป็นทาร์ซาน ก็เลยห้อยโหนทันทีเลย โหนกระแสเลย โหนไปเลย ก็เลยเปลี่ยนทีท่าตอนบ่ายว่าเรื่องนี้ไม่เอาเข้าแล้ว



ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ไม่ได้เข้าไปเพื่อขออนุมัติให้เข้า join CPTPP ไม่ใช่ เรื่องนี้ขั้นตอนมันอีกยาว เรื่องนี้คือสิ่งแรกต้องเอาเข้า ครม.เพื่อให้รับทราบว่าขออนุญาตเข้าไปเจรจา แค่การเจรจาเฉยๆ เพื่อครั้งนี้จะได้เข้าไปอย่างเป็นทางการ ไปเจรจาว่า ที่คุณบอกว่าเรื่องนี้ คุณจะเอาเมล็ดพันธุ์พืชไป แล้วคุณบอกว่าไม่ใช่ ข้อนี้ใช่หรือไม่ใช่ ทำเป็นหลักฐานมาเจรจา เมื่อเจรจาอย่างรอบด้านเสร็จเรียบร้อยแล้วตามที่คุณอรมนพูด ก็เอาผลการเจรจามานั่งปรึกษาหารือกันก่อน เมื่อปรึกษาหารือแล้ว ตรงนั้นก็สามารถจะเชิญ NGO เข้ามาถล่มกัน แล้วก็ทะเลาะเบาะแว้งกัน คุณอรมนก็อาจจะบอกว่าเรื่องนี้ที่คุณกังวล ฉันไปเจรจามาแล้ว เป็นทางการนะ เขาบอกไม่จริง ที่คุณอ้างมาอย่างนี้ไม่ต้องกังวลทั้งสิ้น อย่างน้อยที่สุด คุณยังไม่ทันเข้าไปคุยกับเขาเลย แล้วคุณจุรินทร์บอกว่าไม่เอาแล้ว ไม่เอาเข้าทั้งสิ้น ทาร์ซานจุรินทร์จอมห้อยโหน บอกไม่เอาแล้ว เรื่องนี้ เพราะมีความขัดแย้งกันในสังคม มันจะมีความขัดแย้งอะไร คุณยังไม่ทันไปเจรจาเลย เป็นเพียงแต่ว่า เขาบอกว่าทางนี้เขามีเงื่อนไขอย่างนี้ มีบทนี้ มีกฎหมายข้อนี้ๆๆ คุณอรมนก็บอกว่าเขาเคลียร์ได้หมด และเขาขอเข้าไปอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ไปเป็นสมาชิก เขาขอเข้าไปอย่างเป็นทางการเพื่อไปนั่งเจรจากันอย่างเป็นทางการเสียที การเจรจาแล้วเราไม่เข้าก็ได้นี่ ไม่จำเป็นต้องเข้า คุณต้องรู้เขารู้เรา คุณจะรู้ได้อย่างไร คุณมาเออออห่อหมกกัน เพียงแต่ว่าคุณออกโซเชียลมีเดียกัน แล้วคุณก็บอกว่าคนนี้ขายชาติ คนนี้ทำงานทำร้ายชาติบ้านเมือง สนุกสนานกันไปหมดเลย


คุณอรมนกับทีมของเขาทำงานกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อยสาหัสสากรรจ์ 5 ปีเต็มๆ แล้วผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าคุณอรมนทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทย ผมคิดว่าต้องให้โอกาสคุณอรมน และงานนี้เป็นงานของคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ไม่ใช่งานของคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์




แล้วคุณดูพรรคประชาธิปัตย์เล่นงานสิ นี่คือข่าว ปชป. ท่านผู้ชม เก่งมาก พรรคประชาธิปัตย์ "จุรินทร์หักสมคิด ถอน CPTPP ออกจากวาระ ครม. ลั่นอย่าเอากลับเข้ามาอีกถ้าสังคมไม่เห็นไปในทางเดียวกัน" ท่านผู้ชม คุณจุรินทร์เป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ ไม่ใช่คุณสมคิด คุณจุรินทร์หักสมคิดได้อย่างไร คุณจุรินทร์ขี้ขลาดตาขาวต่างหาก ไม่ได้หักสมคิด เอาตัวรอด เพราะคุณจุรินทร์เคยเป็นทาร์ซานมาก่อนในชาติก่อน ก็เลยห้อยโหนกระแสโซเชียลมีเดีย ทำให้ตัวเองเป็นฮีโร่ เป็นพระเอกขึ้นมา คุณจุรินทร์จะได้เป็นพระเอกแน่นอนในอีก 2-3 อาทิตย์ เพราะว่าผมมีเรื่องคุณจุรินทร์ ผมมีเรื่องคุณจุรินทร์โดยเฉพาะ อีก 2-3 อาทิตย์ เรื่องเก่าเล่ามาแล้วกี่ครั้งๆ ก็ไม่น่าเบื่อ และเรื่องนี้อีก 2-3 อาทิตย์ จะเป็นฟินาเล่แล้ว จะเป็นฟินาเล่เรื่องหน้ากากอนามัยในที่สุด ท่านผู้ชมครับ เชื่อผมสิ เชื่อสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่เคยทำให้ท่านผิดหวัง


เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อความเป็นธรรม คุณจุรินทร์อาจจะเป็นนักการเมือง แล้วงานพวกนี้ถ้ามาเป็นนักการเมืองสายพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ท่านผู้ชมเชื่อใจผมอย่างหนึ่ง ไม่มีวันสำเร็จหรอก ขี้กลัว อะไรที่เป็นความขัดแย้งจะไม่แก้ไข แต่จะเดินหนีไปเลย แล้วโยนขี้เลย เอ้า คุณสมคิด คุณรับขี้ไป นั่นคือที่มาของคำว่า "จุรินทร์หักสมคิด ถอน CPTPP ออกจากวาระ ครม. ลั่นอย่าเอากลับเข้ามาอีกถ้าสังคมไม่เห็นไปในทางเดียวกัน" เท่เป็นบ้า เท่มากๆ เท่จริงๆ เพื่อความยุติธรรม สมคิดไม่รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ คุณอรมน ทรัพย์ทวีธรรม เป็นอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ในกระทรวงพาณิชย์ แล้วระหว่างเขาเจรจากันคุณไม่รู้เลยเหรอ คุณเคยเรียกเข้ามาถามไหมว่าประเด็นนี้ที่ NGO เขาโต้เถียงมา ว่าอย่างไรๆๆ คุณอรมนต้องออกหน้าอยู่คนเดียว คือพูดง่ายๆ ว่าให้คุณอรมน ภาษาอังกฤษเรียกว่า faced the music เป็นหนังหน้าไฟอยู่คนเดียวเลย น่าสงสารคุณอรมนแล้วก็ทีมงานที่เขาทำงานมา 5 ปีเต็มๆ


วันนี้ ท่านผู้ชมครับ ผมไม่ได้เข้าข้างใคร แต่ผมกำลังจะบอกว่าถ้าจะเข้าขออนุมัติเพื่อจะเข้าไปขอเจรจาขอข้อมูลกันอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ได้ไปขอเข้า ผมคิดว่าเรากำลังทำพลาด ได้ข้อมูลกลับมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอามาประชุมกัน พอใจหรือไม่พอใจก็ไม่เป็นไร ถ้าพอใจก็ยังต้องเข้าสภาฯ อีก ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยังครับ ต้องเข้าสภาฯ อีกทีหนึ่งก็ไปทุบตี ตีกันในสภาฯ อีกครั้งหนึ่ง เห็นหรือยังครับ นี่้ยังไม่ทันไรเลย ปิดประตูโครม โยนขี้ให้คนอื่น แล้วตัวเองก็โหนต่อไป NGO ก็ปรบมือดีๆๆๆ ดีจังๆ



ท่านผู้ชมครับ เรื่อง CPTPP ก็มีอยู่แค่นี้ เป็นเรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของคนที่ชอบห้อยโหนกระแส และเป็นคนที่ชอบโยนขี้ให้คน เรื่องมีอยู่แค่นี้จริงๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลย เชื่อผมสิไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่อีก 2-3 อาทิตย์ ที่มีจริงๆ คอยดูเป็นฟินาเล่เรื่องของหน้ากากอนามัย ที่ผมเป็นคนเปิดประเด็น แหม่มโพธิ์ดำเปิด แล้วผมเอามาต่อเรื่อง แล้วผมจะจบอีก 2-3 อาทิตย์ข้างหน้านี้


ท่านผู้ชมครับ ก่อนจบรายการวันนี้ ก็นานพอสมควร ชั่วโมงครึ่งแล้ว ผมขอฝากของหน่อยนะครับ ก็คือขอฝากร้านเช่นเคย สัปดาห์นี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ขอเชิญแฟนๆ เอาสินค้าและบริการมาฝากกันได้ในโพสต์ที่ลงไว้ โดยแยกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ไว้ให้แล้ว ท่านผู้ชม เราต้องช่วยกันนะครับ นี่คือไทยช่วยไทย ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์หน้าเราค่อยเจอกันวันศุกร์หน้า ใจเย็นๆ ท่านผู้ชม มีแต่เรื่องดุเดือดเผ็ดร้อนอย่างแน่นอนที่สุด วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ


วันนี้ผมจะมาบอกให้ฟังว่าช่องทางการติดต่อของ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK ได้ทางไหนบ้าง ทางแรกคือทางเฟซบุ๊ก ให้กด Like หรือกด Follow แล้วกดติดตาม แล้วเลือก See First ไปเลยในเพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เมื่อชมแล้วก็ช่วยกันแชร์ออกไปมากๆ เพื่อให้บางคนที่ยังไม่ได้อยู่ดูได้ความรู้กับสิ่งที่ผมพูด แล้วเดี๋ยวนี้เราก็ไลฟ์สดผ่านยูทูปเช่นกัน ให้เข้าไปใน YouTube ค้นหาคำว่า SONDHI TALK กด Subscribe เอาไว้ เปรียบเสมือนห้องสมุดเคลื่อนที่ รวบรวมทุกอย่างตั้งแต่รายการในอดีต "มองโลก มองเรา กับสนธิ" "บันทึกลับบ้านพระอาทิตย์" จนมาถึงรายการ "SONDHI TALK"


สำหรับแฟนรายการคนไหนอยากดูเนื้อหา ตลอดจนการถอดคำพูดเป็น text ก็ให้เข้าไปที่ www.sondhitalk.com เพราะจะรวมไว้ในเว็บไซต์โดยแยกเป็นแต่ละหมวดหมู่ครบทุกเรื่องทีเดียวครับ


สุดท้าย สำหรับท่านผู้ชมที่ไม่อยากเห็นหน้าผม แต่อยากฟังเสียงผม อยากฟังเรื่องราวที่ผมพูด ก็เข้ามาฟังที่ podcast ถ้าท่านที่ใช้ iPhone - iOS ก็เข้าไปที่แอปฯ podcast เมื่อกดเข้าไปแล้วก็ search คำว่า SONDHI TALK ก็จะมีให้ทุกรายการ ส่วนท่านผู้ชมที่ใช้โทรศัพท์ระบบ android ก็กดเข้าไปเหมือนกัน แต่จะมีคำว่า Podbean แล้วก็กดเข้าไป


กำลังโหลดความคิดเห็น