xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าน “สงกรานต์” ไทยรอดแน่!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

ถือว่า “ดีต่อใจ” แบบต่อเนื่องสำหรับตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ “โควิด-19” จากการแถลงล่าสุดของ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 13 เมษายน ว่า


มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวน 28 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย โดยมีผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,579 ราย เสียชีวิตสะสม 40 ราย มีผู้หายป่วยกลับบ้านแล้ว 1,288 ราย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ดังกล่าวเป็นตัวเลขที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมา 2-3 วัน โดยยอดล่าสุดที่ลดลงมาเหลือ 28 คน น้อยกว่าวันก่อนหน้า ที่มีผู้ป่วยใหม่ 33 ราย เสียชีวิต 3 ราย ก็ถือว่าเป็นข่าวดีที่น่าชื่นใจที่ได้ยินได้ฟัง แม้ว่าที่ผ่านมาพอจะเห็นแนวโน้มแล้วว่าผลจะต้องออกมาอย่างนี้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากตัวเลขของผู้ป่วยที่รอสอบสวนโรคที่มีจำนวนลดลงเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดี ผลจากที่มีตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ และผู้เสียชีวิตที่ลดลงส่วนที่สำคัญที่สุดน่าจะมาจากความตื่นตัว และความร่วมมือร่วมใจกันของประชาชนคนไทยที่ทำตามคำแนะนำของคณะแพทย์เป็นจำนวนมาก

ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกันสวมหน้ากากอนามัย การรักษาระยะห่างทางสังคม ประกอบกับคำสั่งและข้อห้ามต่างๆ มากมายที่ทางรัฐบาลและทางจังหวัดทั่วประเทศออกมาในช่วงก่อนหน้านี้

ไม่ว่าการประกาศบังคับใช้พระราชกำหนดบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ การประกาศเคอร์ฟิว เพื่อป้องกันการมั่วสุมตามสถานที่ต่างๆ

มาตรการดังกล่าวถือว่าได้ผลดีใช้ได้

เพราะเมื่อพิจารณาจากตัวเลขเปรียบเทียบจากโฆษก ศบค.ที่แจกแจงให้เห็นทั้งในช่วงก่อนและหลังออกมาตรการบังคับใช้ถือว่าเห็นภาพอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

เมื่อพิจารณาจากตัวเลขที่เห็นมาอย่างต่อเนื่อง 2-3 วันดังกล่าว เชื่อว่า ทำให้คนไทยมีความชื่นใจ ดีใจ เพราะผลจากมาตรการต่างๆที่ทุกคนร่วมกันเสียสละ มีความเจ็บปวดร่วมกันมาระยะหนึ่งแล้วเริ่มเห็นผล และได้แต่หวังว่าตัวเลขแบบนี้จะลดลงไปเรื่อยๆจากตัวเลขสามหลัก ลงมาเหลือสองหลัก และเหลือแค่หลักเดียว

จนในที่สุดให้เป็น “หลักศูนย์” นั่นคือ ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ รวมไปถึงไม่มีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกสักคนเดียว นั่นคือสิ่งที่ที่ทุกคนปรารถนา

อย่างไรก็ดี อย่าเพิ่งลิงโลดดีใจไปก่อน เพราะจากการแถลงของ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.ที่ย้ำอยู่ตลอดเวลาว่า “การ์ดอย่าตก”

ความหมายคืออย่าประมาท ที่ผ่านมา ถือว่าทำได้ดีแล้ว มีคนให้ความร่วมมือราวประมาณ 70-80% แต่เขาย้ำว่าถ้าให้ดีกว่านี้อยากเห็นตัวเลขความร่วมมือไปถึงกว่า 90% จึงจะได้ผลดีกว่านี้

ในทางตรงกันข้าม หาก “การ์ดตก” นั่นก็เท่ากับว่า ทุกอย่างจะสูญเปล่า ตัวเลขก็จะกลับพุ่งสูงใหม่อีกรอบ และที่สำคัญเขาบอกว่าตัวเลขวันนี้เป็นผลมาจากร่วมมือร่วมใจเมื่อราว 5-7 วันที่แล้วมา

ดังนั้น หากเข้มงวดเพิ่มขึ้นวันนี้ผลที่จะได้เห็นก็จะเป็นในอีกราว 7 วันข้างหน้า

แต่ถึงอย่างไร เขาบอกว่า เวลานี้ทุกอย่างมีแนวโน้มดีขึ้นหมด อย่างไรก็ดี ยังมีสิ่งที่น่าเป็นห่วงและต้องจับตากัน ก็คือ ในช่วง “สงกรานต์” จะสามารถร่วมมือร่วมใจกันอย่างเข้มงวดได้แค่ไหน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องท้าทายพอสมควร เพราะเป็นเทศกาลการเฉลิมฉลองที่คนไทยเคยชินและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในปีนี้เมื่อต้องเว้นระยะห่าง หรือมีการห้ามอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
ต้องถือว่าเป็นการ “วัดใจ” อยู่เหมือนกันว่าจะทำได้แค่ไหน เป็นเรื่องที่ต้องลุ้น ต้องพิสูจน์

ถือว่าในช่วงสงกรานต์ในเวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า “คนไทยจะรอดหรือเปล่า” ซึ่งมีอยู่สองทางคือ “รอด” กับ “ไม่รอด”


แต่เมื่อพิจารณาจากความร่วมมือและความตื่นตัวในช่วงที่ผ่านมาที่ถือว่าพวกเราทำได้ดีเชื่อว่าเราจะ “ผ่านไปได้แน่นอน” เมื่อดูจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดที่ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ความร่วมแรงร่วมใจเวลานี้ถือว่า “จุดติดแล้ว”

ดังนั้น ทำให้มั่นใจได้ว่าในช่วงสงกรานต์ในเวลานี้ ที่หลายคนเป็นกังวลว่าจะมีการติดเชื้อแบบแพร่ระบาดกันอีกครั้งนั้น น่าจะพอเบาใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับความตื่นตัว ร่วมมือกันให้เข้มกว่าเดิม มีการปรับตัวใหม่อีกระยะหนึ่ง เชื่อว่าจะผ่านไปได้ นั่นคือ “คนไทยต้องรอด” อย่างแน่นอน

โดยเฉพาะการหยุดการแพร่ระบาดให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยมาสู่การควบคุม ซึ่งเป็นอีกขั้นตอนที่มาทีหลัง แต่ตอนนี้ถือว่ามาได้ดีแล้ว!!



กำลังโหลดความคิดเห็น