ศบค.แถลงผู้ป่วยรายใหม่ 45 ราย ห่วงติดเชื้อในครัวเรือน เปอร์เซ็นต์สูง วอนอยู่ในบ้านนั่งห่างจากกัน ยันรัฐบาลให้ตัวเลขจริง ไม่เหมารวมโควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ วอนคนไทยเลิกขัดแย้งร่วมมือสู้โควิด-19
วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45 ราย ซึ่งในจำนวนนี้อยู่ในสถานที่กักกันตัวของรัฐ 9 คน จากกทม. 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา และใน จ.สงขลา เป็นผู้กลับจากอินโดนีเซีย 8 ราย ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อในประเทศไทยอยู่ที่ 2,518 ราย ใน 68 จังหวัด ยอดผู้ป่วยหายแล้วสะสม 1,135 ราย และผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวม 35 ราย โดยรายที่ 34 เป็นชายไทย อายุ 36 ปี ทำงานในโรงรับจำนำ เป็นโรคอ้วน อาศัยกับแม่และน้องสาว ที่เป็นผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 และอยู่ระหว่างรักษาตัว โดยผู้ป่วยรายนี้มีอาการไข้สูง 39 องศา และไอ เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน กทม. ซึ่งวันที่ 1 เม.ย. จากการตรวจไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอและบี แต่พบไวรัสโควิด-19 และเพาะเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 2 จากนั้น วันที่ 9 เม.ย.มีการหอบเหนื่อยใช้เครื่องช่วยหายใจ และเสียชีวิตในวันเดียวกัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนรายที่ 35 เป็นชายไทย อายุ 65 ปี เป็นพนักงานทำความสะอาดในพื้นที่ กทม. ป่วยวันที่ 11 มี.ค. และเดินทางกลับ จ.พะเยา วันที่ 19 มี.ค. รักษาตัวโรงพยาบาลใน จ.พะเยา วันที่ 24 มี.ค.ตรวจไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่.แต่ผลตรวจเป็นโควิด-19 วันที่ 27 มี.ค. และวันที่ 28 มี.ค.มีอาการหนักหอบเหนื่อย ใช้เครื่องช่วยหายใจและไม่รู้สึกตัว จนเสียชีวิตในวันที่ 10 เม.ย. อย่างไรก็ตาม ที่มีคำถามเข้ามาว่า ผู้ป่วยโควิดที่ตัวเลขน้อยเพราะนำไปรวมผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่หรือไม่นั้น จากข้อมูลผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่า ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบมีตัวเลขน้อยลง เป็นผลจากที่ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยทำให้การติดเชื้อลดลง ยืนยันเราไม่ได้มีการปิดบังตัวเลข เราอยากให้ทุกคนทราบข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ในการระวังตัว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่ ระหว่างวันที่ 4-10 เม.ย.มีทั้งสิ้น 495 คน ในจำนวนนี้พบว่าเป็นผู้ป่วยที่มีสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน 144 คน เป็นการติดภายในครอบครัว 56 เปอร์เซ็นต์ สถานที่ทำงาน 23 เปอร์เซ็นต์ กิจกรรมรวมกลุ่ม 18 เปอร์เซ็นต์ และอื่นๆ 3 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น จึงอยากให้ประชาชนระวังการใกล้ชิดในครอบครัว เพราะเป็นสาเหตุติดเชื้อได้ง่าย หากอยู่ร่วมกันให้เว้นระยะห่าง 2 เมตร และสวมใส่หน้ากาก
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า และในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ที่อาจมีกิจกรรมรวมกลุ่ม ซึ่งจะตรงกับกิจกรรมที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อถึง 18 เปอร์เซ็นต์ ก็ขอให้งดเว้นเพราะเราไม่อยากให้มีคนป่วยเพิ่มขึ้น อายุน้อยก็เสียชีวิตได้เหมือนกัน และถ้าไปดูปริมาณผู้ขับขี่และดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ที่พบปริมาณผู้ขับขี่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าช่วงอื่นๆ ในทุกปี เราก็ขออยากให้ลด กระทรวงวัฒนธรรมก็ออกระเบียบมาแล้ว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ขอให้พระงดกิจกรรมรวมกลุ่มลงมา วัฒนธรรมถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่สุขภาพต้องมาก่อน เพราะถ้าสุขภาพมีปัญหาวัฒนธรรมจะส่งต่อรุ่นต่อรุ่นไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลได้มีแนวทางงดทำกิจกรรมทั้งหมดแล้ว หากจะไปกินดื่มกันก็มีโอกาสในการแพร่เชื้อ เราไม่อยากให้ป่วย เพราะจากข้อมูลคนอายุน้อยๆก็เสียชีวิตได้เหมือนกัน วันนี้การช่วยชาติง่ายมากแค่อยู่กับบ้านห่างกัน 2 เมตรก็ทำได้แล้ว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันมาตรการเคอร์ฟิวยังเหมือนเดิมไม่ขยายเวลา ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่คืนวันที่ 10 เม.ย.ต่อเนื่องเช้าวันที่ 11 เม.ย. พบผู้ออกนอกเคหะสถาน 1,065 ราย น้อยกว่าคืนก่อนหน้า 87 คน การชุมนุมมั่วสุม 109 ราย มากกว่าคืนก่อน 14 คน เราอยากขอความร่วมมือดำเนินการตามมาตรการไม่ให้ออก หากท่านอยู่ตรงไหนท่านก็ต้องช่วยเหลือตัวเองโดยการไม่ทำให้เป็นภาระของใคร ไม่ออกมาข้างนอก ตำรวจอาจจะได้พักผ่อนบ้าง เพราะเขาก็มีภาระกิจอื่นๆ ที่ต้องปฏิบัติ และล่าสุด จ.สกลนคร มีมาตรการเพิ่มเติมสั่งปิดโรงแรมทุกแห่งห้ามรวมตัวกันเกิน 5 คน คนต่างพื้นที่หากเข้ามาต้องรายงานตัวกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อสม. เพื่อตรวจโรคและซักประวัติหากพบมาจากพื้นที่เสี่ยงสาธารณสุขจะประเมินเพื่อกักตัว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า รัฐบาลอนุญาตให้คนต่างด้าวที่มาเป็นแรงงานในประเทศไทย อยู่ต่อเป็นกรณีพิเศษ โดยขยายเวลาการต่อใบอนุญาตเพื่อให้เกิดการเคลื่อนตัวน้อยที่สุด เพราะจากตัวเลขมีคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทย 1.6 ล้านคน
เมื่อถามว่า ประชาชนอยากให้นำเครื่องตรวจแบบแรบบิตเทสต์ที่ตรวจสะดวกและได้ผลเร็วมาใช้ให้มากขึ้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การตรวจด้วยวิธีการตรวจสารคัดหลั่งในโพรงจมูกที่กระทรวงสาธารณสุขใช้อยู่ เป็นการตรวจที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ยืนยันกระทรวงสาธารณสุขคิดมาทุกสเต็ป เป็นการตรวจหาเชื้อโดยตรงที่จะพบเชื้อภายใน 3 วันแรก นับตั้งแต่ผู้ป่วยได้รับเชื้อ แต่ถ้าเป็นวิธีแรบบิทเทสกว่าจะพบเชื้อใช้เวลา 10 วัน เพราะการตรวจดังกล่าวจะตรวจหาภูมิคุ้มกันในหยดเลือด วันนี้เราพัฒนาการตรวจให้สะดวกยิ่งขึ้น ให้หมอไปยืนในตู้คล้ายตู้โทรศัพท์ให้ผู้มีอาการเสี่ยงเดินเข้ามาตรวจ ซึ่งจะทำให้การตรวจรวดเร็วขึ้น และบุคลากรที่ทำการตรวจมีความปลอดภัย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอบคุณคำแนะนำจากทุกฝ่ายถึงตน. ตนได้รับทราบและยอมรับทุกเรื่อง เพราะตนเป็นจิตแพทย์ แต่จะพยายามทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการแถลงข่าวให้ดีที่สุด หน้าที่ของตนบางเรื่องเชื่อมโยงไปในส่วนต่างๆ แต่ขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาโยงไปเรื่องการเมือง ตอนนี้เรามีศัตรูร่วมกัน คือ โควิด-19 ต้องอยู่กับเราไปอีกหลายเดือน ดังนั้นต้องทำให้ตัวเลขผู้ป่วยเป็นศูนย์เร็วที่สุด ประเทศไทยต้องละทิ้งความขัดแย้ง ต่อสู้กับโควิด-19 และต้องการความร่วมแรงร่วมใจกันร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่อสู้กับโควิด-19 และทำให้ทั่วโลกได้เห็น