“ปลัด มท.” สยบปมร้อนโควิด-19 ไม่ใช่ “สาธารณภัย” บีบท้องถิ่นตั้งงบกลาง จัดการเองไม่ได้ ร่อนหนังสือ แจงด่วน! ไฟเขียว อปท.ทั่วประเทศ ใช้งบกลางท้องถิ่น ตามระเบียบฯ มท.ช่วยเหลือด้านส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามระเบียบฯ ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อได้ พร้อมสั่งผู้ว่าฯ ทำความเข้าใจกับผู้บริหารด่วน!
วันนี้ (9 เม.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า ภายหลังกระทรวงมหาดไทยจัดการประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล (VCS) เพื่อซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 63 ที่ผ่านมา โดยมีนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม
ต่อมามีความสับสนในมติดังกล่าว ทั้งในส่วนของ อปท.ระดับปฏิบัติการ มีการวิพาษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจาก อปท.หลายแห่งดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 เนื่องจากในการประชุมดังกล่าว มีการตั้งคำถาม-คำตอบในที่ประชุมว่า อปท.จะสามารถใช้ “งบกลาง” ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่ ซึ่งกลับมีคำตอบว่ากรณีโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ “ยังมิใช่สาธารณภัย” จึงไม่สามารถเบิกจ่ายจากงบกลางได้
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่าย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อซักซ้อมแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือประชาชนระบุว่า
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มีการแพร่กระจายซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนเป็นวงกว้างทั่วทั้งประเทศ ประกอบกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้รับการสอบถามจากจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถึงความชัดเจนในการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการดำเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 ในกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
กระทรวงมหาดไทยจึงขอซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติในการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการดำเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 ในกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนี้
1. เนื่องจากขณะนี้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มีการแพร่กระจาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนเป็นวงกว้าง และเป็นอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายของประชาชน ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงสามารถใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ ดังนี้
“1.1 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้จ่ายงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ด้านสาธารณภัย ตามระเบียบฯ การให้ความช่วยเหลือประชาชน ด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามระเบียบฯ และการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อตามระเบียบฯได้”
1.2 การใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามข้อ 1.1 ให้ดำเนินการ ตามระเบียบๆ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง ประเภทเงินสำรองจ่าย และหมวดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือเงินสะสม ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือก่อนหน้านี้ อนุมัติให้ยกเว้นการใช้จ่ายเงินสะสมหรือเงินทุนสำรองเงินสะสม หรือโอนงบประมาณไปตั้งจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว
2. ให้จังหวัดชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้บริหารท้องถิ่นและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องให้มีความเข้าใจตรงกัน ถึงแนวทางปฏิบัติตามข้อ 1. หากมีปัญหาในการปฏิบัติ ให้จังหวัดหารือกระทรวงมหาดไทย
ตั้งแต่ค่ำวานนี้ (8 เม.ย.) ฝ่ายปฏิบัติท้องถิ่นหลายแห่ง แสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง ในสื่อสังคมออนไลน์ ในประเด็น อปท.จะสามารถใช้งบกลางในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่ ซึ่งกลับมีคำตอบว่ากรณีโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ “ยังมิใช่สาธารณภัย” จึงไม่สามารถเบิกจ่ายจากงบกลางได้
และต่อคำถามที่ว่าโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขแล้วหรืออย่างไร แต่กลับได้รับคำตอบจากมหาดไทยว่า กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้โรคไวรัสโคโรนา เป็นโรคติดต่ออันตราย เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 63 แต่ยังไม่ได้ประกาศให้เป็นโรคระบาดตาม พรบ.โรคติดต่อ 2558 จึงไม่จัดว่าเป็น “สาธารณภัย”
ต่างจากคำประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 63 ก็ระบุไว้ชัดเจนว่าโรคโควิด-19 เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย และเป็นอันตรายอย่างมากต่อชีวิตของผู้ได้รับเชื้อ ซึ่งองค์การอนามัยโลกยังต้องประกาศใการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นการระบาดใหญ่ รัฐจึงต้องใช้มาตรการเข้มงวดและเร่งด่วนเพื่อควบคุมมิให้โรคแพร่ระบาดออกไปในวงกว้าง ฯลฯ แต่กระทรวงมหาดไทยกลับตีความว่าการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ไม่จัดว่าเป็น “สาธารณภัย” ซึ่งทำให้ อปท. ไม่สามารถใช้งบกลางมาช่วยเหลือประชาชนได้
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้า นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ตั้งข้อสังเกตเชื่อว่า อาจเป็นความพยายามของกระทรวงมหาดไทย ในการกีดกัน อปท.ในการนำงบกลางมาช่วยเหลือประชาชนในแต่ละท้องที่ เพื่อที่ตนจะได้ใช้งบกลางแต่เพียงผู้เดียวในการสร้างผลงานของตนโดยมีชาวบ้านเป็นตัวประกัน