“เทวัญ” เผย ยอดผลิตหน้ากากทะลุ 2 ล้านชิ้นต่อวัน โฆษก รบ. แจง ทุกวันนี้มาตรการเข้ม คล้ายปิดประเทศแล้ว “หมอยง” ไม่มีข้อมูลโควิด-19 ติดผ่านเยื่อเมือก-อสุจิ ระบุแม่ตั้งครรภ์ป่วย ลูกเกิดมาไม่ติดเชื้อ ผู้ค้าปลีก ยันสินค้าบริโภคมีพอทั้งปี
วันนี้ (20 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ตัวเลขการผลิตหน้ากาก จากเดิม 1.2-1.3 ล้านชิ้นต่อวัน แต่ขณะนี้สามารถผลิตได้ 2.28 ล้านชิ้นต่อวัน โดยจะจัดสรรให้บุคลากรแพทย์ 1.3 ล้านชิ้นต่อวัน กระทรวงพาณิชย์ จัดสรรให้ประชาชน 9 แสนกว่าชิ้น ส่วนหน้ากากทางเลือกนั้น เราอยากให้ประชาชนได้ใช้ กระทรวงมหาดไทย และจิตอาสาร่วมกันผลิต มียอดสะสม 12.8 ล้านชิ้น มีเป้าหมายให้ได้ 50 ล้านชิ้นในเดือน มี.ค.นี้ ส่วนกรมราชทัณฑ์ผลิตได้ยอดเกือบ 8 แสนชิ้น กระทรวงกลาโหม 2 แสนกว่าชิ้น และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 2 แสนกว่าชิ้น
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากให้ประชาชนยึดติดกับคำว่าปิดประเทศ แต่ให้ดูผลลัพธ์ คือ การควบคุมเชื้อจากต่างประเทศและภายในประเทศว่าเราควบคุมได้แค่ไหน สำหรับเชื้อจากต่างประเทศ โอกาสที่จะมีคนเดินทางมาได้น้อยมาก วันนี้ทุกคนที่เดินทางเข้ามาไทยทั้ง บก น้ำ อากาศ ต้องมีใบรับรองแพทย์ ต้องมีอายุไม่เกิน 3 วัน ต้องมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพ และต้องกักตัว 14 วัน เชื้อจากต่างประเทศเข้ามาแทบไม่มี แม้ไม่ปิดประเทศ แต่ผลลัพธ์ก็คล้ายๆ กัน เรื่องใบรับรองแพทย์ ทีมไทยแลนด์จะให้การอำนวยความสะดวก ซึ่งย่อมมีผลกระทบเกิดขึ้นบ้าง อาจมีกระบวนการขั้นตอนยุ่งยาก แต่อยากให้อดทนเพื่อจะกรองเชื้อได้
นางนฤมล กล่าวว่า ส่วนเชื้อในประเทศนั้น ที่พูดถึงคำว่า ปิด กทม.หมายความว่า แค่ไม่ให้คนเข้าออก กทม. หรือไม่ให้ออกจากบ้านเลย ถ้าไม่ให้ออกจากบ้านจะส่งผลกระทบต่อชีวิตทุกคนใน กทม. ถ้าประกาศเปรี้ยงไปเลยจะเกิดผลอย่างมาเลเซีย คนจะแห่ออกไปต่างจังหวัดทันที เชื้อจะออกจาก กทม.อย่างรวดเร็วจนควบคุมไม่ได้ เราจึงเลือกใช้วิธีการที่จะควบคุมเชื้อใน กทม.และปริมณฑล และถ้าไม่ให้ออกจากบ้านต้องมีแผนรองรับ ทั้งการเตรียมอาหาร ของใช้จำเป็น ต้องมีการเตรียมพร้อมให้เพียงพอ รวมถึงกระบวนการลำเลียงสิ่งของไปให้ ซึ่งได้มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนอยู่ ตอนนี้เป็นการปรับพฤติกรรมคนไทยในการดูแลตัวเอง บุคลากรทางแพทย์เหมือนอยู่ในสนามรบ ด่านหน้า ปะทะกับเชื้ออยู่ ถ้าอยากช่วยขอให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ หากยกระดับ พวกเราจะได้พร้อมที่จะเข้าสู่การยกระดับ จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกับรัฐ ถ้าจะมีการปิดสถานที่อะไรเพิ่มเติม ขอให้รับฟังจากศูนย์ฯนี้เท่านั้น
นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แนวทางในอดีตที่มีโรคระบาดใหม่จะปล่อยให้มีการระบาดไป โดยจะมีคนติดเชื้อจำนวนมาก แต่การระบาดจะใช้เวลาไม่นาน วิธีการนี้เกิดการสูญเสียมาก ปัจจุบันเราจึงไม่ใช้แนวทางดังกล่าว เพราะถ้าเป็นแบบนั้นระบบสาธารณสุขจะรับไม่ได้ จึงวางกลยุทธ์ระยะยาว โดยพยายามชะลอการติดโรคหรือการระบาดของโรคให้ช้าที่สุด เพื่อจะรอมาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ใหม่ และยาที่จะใช้ลดความสูญเสีย ขณะนี้เริ่มมียาแล้ว แม้ไม่เพอร์เฟกต์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ลดอาการปอดบวมและอัตราการเสียชีวิตได้ รัฐบาจะพยายามหามาให้เพียงพอ
นพ.ยง กล่าวว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 80% อาการไม่หนัก บางครั้งไม่รู้ตัว และไม่ได้ไปตรวจ แต่หายเองได้ คนไข้ที่มีอาการหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลมีประมาณ 15-16% มีอาการเข้าขั้นวิกฤต 4% ผู้ที่ต้องใช้ยาจะอยู่ในส่วนของผู้มีอาการและเข้าขั้นวิกฤตที่ประมาณ 20% สำหรับยาที่มีอยู่ขณะนี้ 2 แสนเม็ด ใช้ 70 เม็ดต่อคน รักษาได้ 2-3 คน ในกรณีมีผู้ป่วย 1 หมื่นคน หากยาที่มีอยู่ใกล้หมดก็จะหายาชุดใหม่เข้ามา ขอให้สบายใจได้ว่ามียารักษาเพียงพอ ส่วนเรื่องเตียงผู้ป่วยนั้น ในระยะแรกทุกคนที่ติดเชื้อก็อยากนอนโรงพยาบาลหมด แต่หากมีผู้ติดเชื้อมากขึ้นรัฐบาลก็ต้องมีการคัดกรองผู้ป่วยอาการน้อย รักษาหายแล้ว แต่เชื้อยังไม่หมด ก็จะหาโรงพยาบาลเสริมสำหรับให้รอกลับบ้าน สำหรับห้องความดันลบที่ใช้รักษาผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ เนื่องจากในระยะแรกยังไม่ทราบว่าโรคดังกล่าวแพร่เชื้ออย่างไร จึงให้อยู่ห้องดังกล่าวเพื่อป้องกันอากาศไม่ให้แพร่กระจายออกไป แต่ขณะนี้ทราบแล้วว่าไม่กระจายทางอากาศ ต้องเกิดจากการสัมผัส ทำให้มั่นใจว่าผู้ป่วยทั้งหมดไม่ต้องอยู่ห้องความดันลบ เพียงแต่ต้องแยกจากผู้ป่วยปกติ รวมถึงอยู่ในโรงแรมที่จัดสำหรับผู้ป่วยที่เตรียมกลับบ้านได้
นพ.ยง กล่าวอีกว่า เราสู้ศึกมาตั้งแต่โรคซาร์ส โรคเมอร์ส การทำศึกกับโรคเหล่านี้จะไม่ให้สูญเสียเลยไม่มี ต้องมีสูญเสีย แต่เราต้องมีกลยุทธ์ในการทำให้สูญเสียน้อยที่สุด ซึ่งศึกครั้งนี้ใหญ่หลวง ยาวนาน เราต้องเตรียมมาตรการเพื่อให้เกิดความสมดุล การใช้ยาแรงอาจตายจากอย่างอื่น ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าโรคจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าจะมีการติดต่อผ่านเยื่อเมือก หรือ น้ำอสุจิ ขณะเดียวกัน แม่ที่ตั้งครรภ์ซึ่งป่วยเป็นโควิด-19 ลูกที่เกิดมาก็ไม่ได้มีการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม โรคทางเดินหายใจพบน้อยในช่วงฤดูร้อน บางคนคิดว่าจะพบมากในช่วงฤดูหนาว แต่พบมากในช่วงฤดูฝนตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.เป็นต้นไป ช่วงนั้นจะมีโรคทางเดินหายใจหลายอย่าง เช่น ไข้หวัดใหญ่ หากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยก็อาจจะแยกไม่ออกว่าเป็นอะไรกันแน่ จะวุ่นไปหมด เราจึงพยายามลดการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด เตรียมความพร้อม มียาดี ก็จะพาให้เข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น
นายคมสัน ขวัญใจธัญญา รักษาการประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ยืนยันว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะสินค้าเรามีเพียงพอ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่ผลิตอาหารส่งออกเป็นลำดับต้นๆ ของโลกอยู่แล้ว ปริมาณข้าวที่มีเราสำรองไว้บริโภคได้ทั้งปี หากเทียบเคียงกับตอนน้ำท่วมปี 54 ตอนนั้นโรงงานผลิตและคลังกระจายสินค้าถูกน้ำท่วมหมด อาหารยังไม่ขาดแคลน แต่ครั้งนี้โรงผลิตและคลังสินค้าไม่ได้รับผลกระทบอะไร และหากสินค้าบนชั้นวางหมด สามารถเติมได้ทันทีภายในเวลา 12 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ขณะนี้การสั่งสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น การจัดส่งอาจล่าช้าจากเดิมบ้าง แต่ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง