ผู้จัดการรายวัน 360 - สมาคมผู้ค้าปลีกไทยยืนยันต้องเดินหน้าต่อไปโครงการรณรงค์งดให้งดแจก “ถุงพลาสติกหูหิ้ว” ไม่เลิกแน่นอน เผย ม.ค. 63 เดือนเดียวงดแจกถุงพลาสติกหูหิ้วแล้ว 3,750 ล้านใบ
รายงานข่าวจากสมาคมผู้ค้าปลีกไทยแจ้งว่า นับจากวันที่ 1 มกราคม 2563 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศให้ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ภาคีเครือข่ายสมาชิก สมาคมผู้ค้าปลีกไทย 90 แห่ง ที่มีช่องทางจำหน่ายมากกว่า 24,500 ช่องทาง เข้าร่วมโครงการ EVERYDAY SAY NO TO PLASTICS BAGS เลิกให้ถุงพลาสติกแก่ลูกค้าอย่างถาวร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้มีความพยายามที่จะให้ข้อมูลแก่สาธารณชนว่า การที่ภาครัฐได้ออกมาตรการงดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว นับตั้งแต่วันพุธที่ 1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและร้านค้าปลีก รวมถึงภาคการผลิตถุงพลาสติก และเรียกร้องให้ร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายสมาชิก สมาคมผู้ค้าปลีกไทยทั้ง 90 แห่ง กลับไปแจกถุงพลาสติกหูหิ้ว ขนาดเกินกว่า 36 ไมครอนได้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นถุงหนาใช้ได้หลายครั้ง Reusable และกำหนดให้มีโครงการ Drop Point กับห้างค้าปลีกเพื่อให้ประชาชนนำถุง Reusable มาทิ้งเพื่อนำไป Recycle ต่อได้ ซึ่งก็ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน
ทั้งนี้ ทางร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายสมาชิก สมาคมผู้ค้าปลีกไทยทั้ง 90 แห่งมองว่าหากมีการนำโครงการให้ถุงพลาสติก Reusable (ให้ฟรี) กลับมาปฏิบัติอีกครั้ง นั่นหมายความว่าการรณรงค์ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่า และไร้ผลอย่างสิ้นเชิง ร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายสมาชิก สมาคมผู้ค้าปลีกไทยทั้ง 90 แห่งยืนยันต้องเดินหน้าดำเนินการโครงการ “EVERYDAY SAY NO TO PLASTICS BAGS” ลดใช้ถุงพลาสติกใช้ครั้งเดียวอย่างต่อเนื่อง การกลับมาให้ถุงพลาสติกหูหิ้วแม้จะเป็นแบบหนาก็จะเป็นการสร้างภาระให้สิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาจากต้นเหตุอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ สาระบางส่วนของแถลงการณ์สมาคมฯ ระบุไว้ เช่น จำนวนถุงพลาสติกหูหิ้ว 3,750 ล้านใบ คือจำนวนถุงที่ภาครัฐร่วมกับร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายสมาชิก สมาคมผู้ค้าปลีกไทย 90 แห่ง สามารถรณรงค์ให้ประชาชนงดรับ ภายในเวลา 1 เดือนนับแต่เริ่มการรณรงค์วันที่ 1 มกราคม 2563, จากการติดตามและประเมินผลระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-12 ก.พ. 2563 โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่าร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายสมาชิก สมาคมผู้ค้าปลีกไทย งดให้ถุงพลาสติกหูหิ้วตามนโยบายภาครัฐถึง 97% นอกนั้นอีก 3% เป็นการให้หรือจำหน่ายถุงชนิดอื่นๆ
โครงการนี้ได้รับการตอบรับดี มีการร่วมมือจากประชาชนเกินคาด จนต่างประเทศได้สอบถามถึงความสำเร็จในการรณรงค์งดให้งดแจกถุงนี้ได้จนจะนำไปสู่การลดขยะพลาสติกอย่างถาวร
จากการสำรวจผลกระทบต่อมาตรการโครงการนี้ พบว่า 61% ให้ความร่วมมือ 36% เฉยๆ และไม่ให้ความร่วมมือเพียง 3% เท่านั้น ตลอดเวลาเกือบสองเดือนที่ผ่านมา ในภาคปฏิบัติหน้างานผู้บริโภคส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ มีการตระหนักรู้และเข้าใจเหตุและผลในการรณรงค์และให้ความร่วมมือกันด้วยดี การวางเป้าให้ร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายสมาชิก สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เลิกให้ถุงพลาสติกหูหิ้วพร้อมๆ กันทั่วประเทศจึงเป็นปรากฏการณ์ที่ได้ผลเกินความคาดหมาย
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายสมาชิก สมาคมผู้ค้าปลีกไทย จะมีเพียง 28% ของปริมาณถุงพลาสติกหูหิ้วที่ใช้ภายในประเทศ เราเป็นผู้เริ่มต้น ซึ่งจะต้องช่วยกันขยายผลไปสู่อีกสองภาคส่วนที่ใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วที่เหลืออีก 72% ซึ่งก็คือ ร้านขายของชำ ตลาดนัด ตลาดสด
ถุงพลาสติกหูหิ้วที่ร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายสมาชิก สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ที่ให้แก่ลูกค้าและผู้บริโภค ที่ผ่านมาไม่ได้มีการบวกเข้าเป็นต้นทุนสินค้า การงดให้ถุงพลาสติกหูหิ้วจึงไม่ใช่เป็นการผลักภาระแก่ผู้บริโภคแต่อย่างใด