นายกฯ ลั่น กำลังใจไม่หมด ชมบุคลากรทางการแพทย์ สู้โควิด-19 สั่งดูแลพิเศษให้ค่าเสี่ยงภัย เปิดทางเอกชนตั้ง รง.ผลิตหน้ากากเพิ่ม ขอโซเชียลอย่าเปิดประเด็นไร้ประโยชน์ หวั่นโยงการเมือง แจง ครม.บริจาคช่วยแพทย์-พยาบาล-ปชช. เงินหลวงไม่รั่วไหล
วันที่ 10 มี.ค. เวลา 15.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า รัฐบาลมีความตั้งใจมุ่งมั่นในการแก้ปัญหานี้ให้ได้ ถ้าจะบอกว่ารัฐบาลทำไม่สำเร็จ ทำมาไม่ดีสักอย่าง เจ้าหน้าที่ก็หมดกำลังใจ ตนไม่ห่วงตนเอง เพราะยังไงก็ไม่หมด การดำเนินการเป็นไปตามลำดับสถานการณ์ หากเปรียบเทียบกับหลายประเทศ ตอนแรกๆ บางประเทศไม่พบติดเชื้อเลย แต่วันนี้วันเดียวพบ 200-700 คน ประเทศเราไม่ขึ้นมาก ยังไม่มีตายมาก ต้องชื่นชมการทำงานของบุคลากรทุกส่วน วันนี้เราทำงานภายใต้กฎหมาย 3 ตัว ประกอบด้วย พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ร.บ.บรรเทาสาธารณภัย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการเชิงนโยบาย ดังนั้น ศูนย์บริหารสถานการณ์ที่ตนบัญชาการจะทำหน้าที่กรั่นกรองมาตรการต่างๆ ที่ฝ่ายแพทย์เสนอขึ้นมา โดยจะไม่ซ้ำซ้อน แต่จะนำทุกศูนย์มารวมกันไม่ได้ เพราะเป็นคนละระดับกัน ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัย ทางกระทรวงมหาดไทยให้ท้องถิ่นผลิตหน้ากากผ้า 50 ล้านชิ้นนั้น จะส่งถึงมือประชาชนอย่างแน่นอน อย่างน้อยได้คนละ 1 ชิ้นนอกจากนี้ยังให้กระทรวงอุตสาหกรรมผลิตหน้ากากฯ ผ้าเพิ่มอีกด้วย จำนวน 20 ล้านชิ้น โดยหน้ากากฯผ้า กระทรวงสาธารณสุขยืนยันแล้วว่าป้องกันได้ อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปที่อยู่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากากฯ หากไม่ติดเชื้อ ถ้าอยู่ในบ้านบางทีไม่ต้องใช้ เพราะจะเปลืองไป ใช้เมื่อออกจากบ้านหรืออยู่ในที่ชุมชน จะลดการใช้ไปได้เยอะ
“วันนี้รัฐบาลได้ให้นโยบายไปคือจัดตั้งโรงงานทำหน้ากากอนามัยแบบครบวงจร ซึ่งมีบริษัทใหญ่ๆ เสนอเข้ามาแล้ว อันนี้ต้องไปหามาตรการสร้างแรงจูงใจในการตั้งโรงงาน ซึ่งไม่ได้มีเจ้านี้เจ้าเดียว ให้ดูเจ้าอื่นด้วยเดี๋ยวจะหาว่าเอื้อประโยชน์กันอีก ถือเป็นสิทธิในการเสนอขอรับมาตรการต่างๆ ของบีโอไอ ถ้าจะทำหน้ากากให้ครบวงจร ทั้งนี้ ทราบว่า 5 สัปดาห์ก็ตั้งได้แล้ว” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น ไว้ใจระบบสาธารณสุขของไทย การเสพโซเชียลอะไรต่างๆ บางทีไม่ใช่ข้อเท็จจริง ตนก็ไม่รู้เขียนเพื่ออะไร พอไปตรวจสอบก็ไม่มี อย่านี้จะต้องลงโทษสถานหนัก ตนให้มาตรการไปแล้วให้จับกุมทุกเรื่อง การกักตุนหน้ากาก การเดินทางเข้ามาในประเทศแล้วไม่แจ้ง หรือหลบหนีกระบวนการต่างๆ ต่อไปจะต้องให้มีกระบวนการจากสนามบินให้ยินยอมใส่ข้อมูลในแอพลิเคชั่น ไปไหนมาไหนจะเช็กได้หมด หากหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ต้องลงโทษ ทั้งจำและปรับ ขอให้ระมัดระวังในเวลาที่ประเทศอ่อนไหว ต้องรู้จักเสพสื่อโซเชียลและขอร้องสื่อโซเชียลด้วย อะไรที่สร้างประโยชน์ อะไรที่เป็นข้อเท็จจริง อะไรที่คิดว่าไม่ใช่ ก็อย่าเปิดประเด็นให้เขาเลย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการเปิดประเด็น ตนไม่อยากให้มายึดโยงกับสถานการณ์ทางการเมือง
นายกฯ กล่าวว่า การดำนเนินการในวันนี้ อาจจะช้าไปบ้าง เพราะเราทำเพื่อคนส่วนใหญ่ของทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่คนไม่กี่คนเราดูแลทุกภาคส่วน วันนี้แถลงในนามรัฐบาลกับคณะทำงาน ยังไม่ได้แถลงในนามศูนย์โควิด-19 เพราะหลายอย่างเป็นหลักการวิธีการทำงาน จะต้องสอดประสานกันตั้งแต่ต้นทางยันปลายทางจะทำอย่างไรถึงจะบริหารคนเป็นแสนที่จะเข้ามา จึงต้องมีมาตรการคัดกรองติดตามตัว และระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วย สิ่งสำคัญคือต้องช่วยกันเตือนแบบปากต่อปากแล้วแจ้งมา ขอชมเชยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ จนได้สั่งการไปแล้วให้ดูแลเป็นพิเศษ ให้มีค่าเสี่ยงภัย เพราะทำงานเสี่ยงทุกวัน
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องรับบริจาคนั้น ไม่ใช่เงินไม่พอ แต่มีการเสนอมาในครม.ว่า ครม.ควรจะบริจาคดีหรือไม่ ซึ่งตนเห็นว่าดี และเพิ่งเริ่มบริจาคกันในวันนี้ ยืนยันว่าไม่ได้นำมาใช้อย่างอื่นเลย เก็บไว้เป็นก๊อกสองในการดูแลแพทย์พยาบาล รวมถึงวิกฤตกาลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนก็นำไปใช้เหมือนตอนอุทกภัยที่ใช้เงินบริจาคซื้ออุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านให้ประชาชน และผ่านพ้นมาด้วยดี เหลือก็เก็บรักษาไว้ ไม่มีใครใช้จ่ายได้ เงินหลวงไม่มีรั่วไหล โดยเฉพาะตน ไม่ใช่อะไรเปอะปะอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า กรณีผีน้อยที่ถูกกักตัวมีการมีตั้งวงดื่มสุรานั้น นายกฯ กล่าวว่า สั่งให้ติดตามแล้ว พวกก๋ากั๋น ทราบว่าเป็นที่ชลบุรี นี่คือสิ่งที่เราต้องบอกและขอร้องกัน นายกฯ จะไปขอเขาได้อย่างไร มาตรการชุมชนรู้กันอยู่แล้ว ต้องปฏิเสธเรื่องเหล่านี้ ตนไม่ได้บอกให้เกลียดชังกัน บอกให้เตือนกันว่าอย่าทำ ส่วนคนที่หลบหนีไม่ยอมกกักตัวที่บ้าน ขอให้แจ้งมา เรามีมาตรการลงโทษอยู่แล้ว วันนี้ขอให้ช่วยกันแจ้งมาจะทำทันที ได้สั่งการไปแล้วกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง