xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลให้ความมั่นใจวันสตรีสากล ทำงานร่วมภาค ปชช.ขับเคลื่อนวาระสตรี-เด็ก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองโฆษกรัฐบาล เผย เนื่องในวันสตรีสากล รัฐบาลให้ความมั่นใจ ทำงานร่วมเครือข่ายภาคประชาชนขับเคลื่อนวาระสตรีและเด็ก สร้างทัศนคติทุกเพศศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ยินดีตั้งใจรับฟังข้อเรียกร้อง

วันนี้ (8 มี.ค.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการดำเนินงานของรัฐบาลเรื่องการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้หญิงและเด็ก เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคม ว่า เพื่อเป็นการสร้างทัศนคติที่ถูกต้องของสังคมว่าคนทุกเพศมีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่าเทียมกัน ไม่มีเพศใดด้อยกว่าใคร กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ดึงเอาภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา รวม 24 แห่ง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย บรษัท สหพัฒนพิบูล ม.ธรรมศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ร่วมประกาศเจตนารมณ์ยุติการกีดกันการจ้างงานด้วยเหตุแห่งเพศ การยอมรับให้บุคลากรแต่งกายตามเพศสภาพแม้ต่างจากเพศกำเนิด การป้องกัน และแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน ซึ่งกระทรวงจะขยายแนวร่วมต่อไปอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนเครือข่ายภาคประชาชน อาทิ ภาคีเครือข่ายสตรี 4 ภาค มูลนิธิเพื่อนหญิง มูลนิธิชุมชนไท มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก ที่ได้มีข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแล ซึ่งประเด็นต่างๆ ที่เสนอมานั้นเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง นายวิษณุ จึงได้เชิญเครือข่ายมาหารือร่วมกับ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ได้ข้อสรุปร่วมเป็นที่พอใจ เช่น 1) การแก้ปัญหาแม่วัยใส กระทรวงศึกษาฯได้เริ่มสอนวิชาเพศวิถีและทักษะชีวิตในโรงเรียน จะพัฒนาเนื้อหาให้ครอบคลุมชั้นประถม มีนโยบายตั้งศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน กรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศ การลงโทษทางวินัยอย่างจริงจังจริงจัง 2) การลดความรุนแรงในครอบครัว โดยการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นมีความเข้าใจในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และสิทธิ/สวัสดิการที่แม่และเด็กจะได้รับหากตกเป็นผู้ถูกกระทำความรุนแรง เจ้าหน้าที่จะได้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจ 3) การเสนอให้บิดามีสิทธิ์ลาเลี้ยงดูบุตรได้ในบริษัทเอกชน มอบหมายให้กระทรวงแรงงานไปพิจารณา และ 4) การให้มีหน่วยงานเฉพาะมาดูแลเรื่องการค้ามนุษย์และอุ้มบุญ มอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ทำการศึกษา

“ยังมีประเด็นอื่นๆ อีก ที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ข้อเสนอใดที่ทำได้ต้องทำเลย แม้อาจใช้เวลาในการสัมฤทธิ์ผล หากมีที่ติดขัดด้วยข้อกฎหมายหรืองบประมาณให้เสนอมา โดย รองนายกฯ วิษณุ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาโดยเร็วที่สุด และหากวันนี้จะมีข้อเรียกร้องจากกลุ่มสตรีหรือแรงงานสตรีเพิ่มเติม รัฐบาลยินดีและตั้งใจรับฟัง” นางสาวรัชดา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น