“บิ๊กตู่” เผยจัดชุดไล่ล่าต้นตอหน้ากากอนามัยแพง-ขาดตลาด เช็กย้อนศรจากร้านค้าถึงต้นทางโรงงาน ย้ำคอนโทรลราคาขาย 2.50 บาท สั่งบีโอไอวางแผนขยายตั้งโรงงานเพิ่ม เล็งผลิตวัสดุต้นทุนในประเทศเอง
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงปัญหาหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอความต้องการประชาชนว่า กำลังให้ชุดติดตามช่องทางการขายหน้ากากดูว่ามาอย่างไร เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ได้เคลียร์ไปแล้วจากโรงงานไปสู่ผู้แทนการขาย ร้านค้า ร้านจำหน่าย เดี๋ยวจะไปตรวจร้านค้าย้อนกลับขึ้นไปข้างบนว่าสั่งซื้อที่ไหนอย่างไร ทำไมไม่ได้ของ หรือว่าของมันน้อย เพราะปริมาณที่เขาสรุปมาในขณะนี้มีประมาณวันละล้านกว่าชิ้น หากจำหน่ายตามช่องทางและร้านค้าที่ว่าจริงก็จะโอเค ส่วนหนึ่งได้แบ่งให้กระทรวงสาธารณสุขไปใช้ทางด้านบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล และบางส่วนนำไปจำหน่ายในร้านค้าขององค์การเภสัชกรรม รวมประมาณ 3 แสนกว่าชิ้น ที่เหลือ 7-8 แสนชิ้นไปอย่างไร เพราะตอนนี้เราคุมได้จากโรงงานผลิตได้เท่าไหร่ เดี๋ยวจะไปตรวจบัญชีว่าส่งไปที่ไหนบ้าง เพื่อที่จะหาให้เจอว่าหายไปไหน กักตุนหรือเปล่า ลักลอบขายต่างประเทศหรือไม่ เพราะตอนนี้ต่างประเทศให้ราคาสูงขึ้น ถ้าเทียบราคาหน้ากากอนามัยในหลายประเทศราคาสูงมาก แต่เราจะคอนโทรลให้อยู่ในราคา 2.50 บาท ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพและให้ความเป็นธรรมกับบรรดาผู้ผลิตด้วย ไม่อย่างนั้นไปกันไม่ได้ ไม่ใช่ตั้งราคากันไปเรื่อยเปื่อย
นายกฯ กล่าวว่า ได้เคยบอกแล้วว่าวัสดุต้นทุนการผลิตต้องซื้อมาจากต่างประเทศ เรายังทำเองไม่ได้ นี่คือปัญหาของเรา ไม่เช่นนั้นเราสามารถเพิ่มได้ ทำอะไรได้ ตั้งโรงงงานใหม่ได้ วัสดุในวันนี้มาจากจีน ไต้หวัน อินโดนีเซียเป็นหลัก เวลานี้ลดส่งเข้ามาครึ่งต่อครึ่ง เพราะเขาก็ต้องใช้ในประเทศเหมือนกัน นั่นคือประเด็นของเราที่พยายามขยายโรงงานตรงนี้ จากเดิมโรคพวกนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อย การลงทุนสิ่งเหล่านี้จึงมีน้อย เวลานี้ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปดูเรื่องการขยายโรงงงาน และจะหาวัสดุต้นทุนได้อย่างไร ทำเองได้หรือไม่ เพราะโรงงานพวกนี้เราไม่มี ดังนั้นขอให้เข้าใจกันด้วย