กรณีราษฎรชุมชนสระต้นโพธิ์และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) ได้เรียกร้องต่อรัฐบาลให้เร่งรัดแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พร้อมขอให้แก้ไขปัญหาขาดแคลนที่อยู่อาศัยของชุมชน ในการนี้ มีชาวบ้านเข้าหารือและรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหากว่า 300 คน รัฐบาลยืนยันจะเร่งแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ด้วยความเป็นธรรมและเท่าเทียม ทำให้ราษฎรและกลุ่มผู้เรียกร้องต่างพอใจ ด้านกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยผลงานที่ผ่านมอบหนังสืออนุญาตแล้วกว่า 75 ฉบับ มีครัวเรือนได้รับประโยชน์กว่า 3,300 ครัวเรือน ประชาชนได้ประโยชน์ไม่น้อยกว่า 18,900 คน พร้อมย้ำ จะเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายและจัดที่อยู่อาศัยตามโครงการ คทช.ให้ราษฎรได้อยู่อาศัยอย่างถูกต้องในพื้นที่โดยเร็วที่สุดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
วันนี้ (21 ก.พ.) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม กล่าวว่า ภายหลังจากพบเจรจาร่วมกับราษฎร์ชุมชนสระต้นโพธิ์และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) นับตั้งรัฐบาลได้มีแนวคิดจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2558 เห็นชอบในหลักการการจัดที่ดินทำกินและจัดที่อยู่อาศัยให้ชุมชนในลักษณะแปลงรวม โดยมิให้กรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยขน์และอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐเป็นกลุ่มหรือชุมชนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) กำหนด
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (20 ก.พ.) ตนพร้อมด้วยนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต , นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เห็นพ้องกันในการลงพื้นที่เพื่อพบหารือกับราษฎร์ในพื้นที่และกลุ่ม P-Move รวมกว่า 300 คน ในพื้นที่ชุมชนโหนทรายทอง หมู่ที่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
"รวมถึง ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยของชุมชนสระต้นโพธิ์ พร้อมพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้กำลังใจและสร้างความมั่นใจว่า รัฐบาลพร้อมช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ตนพร้อมและยินดีรับฟังทุกปัญหา เพื่อแก้ไขและหาทางออกให้ได้อย่างดีที่สุด สุดท้าย วอนขอทุกฝ่ายเข้าใจการทำงานของรัฐบาล เนื่องจาก ทุกอย่างมีระเบียบ กฎหมายและขั้นตอน ซึ่งตนก็พร้อมที่จะช่วยผลักดันให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็วที่สุด" นายเทวัญ กล่าว
ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการจัดหาและจัดที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนตามนโยบาย คทช. มาตั้งปี 2559 โดยในปี 2559 - 2560 ได้จัดที่ดินทำกินให้กับชุมชน โดยออกหนังสืออนุญาตเรียบร้อยแล้วจำนวน 12 ฉบับ เนื้อที่กว่า 14,376 ไร่ ครัวเรือนได้รับประโยชน์กว่า 1,100 ครัวเรือน และประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 3,200 คน สำหรับในปี 2561 จ.นครศรีธรรมราชได้ยื่นแบบคำขออนุญาตและตรวจสภาพป่ามาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาต ต่อไป
นายโสภณ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนไว้ที่ 18,000 ไร่ นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการจัดที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยกว่า 10,789 ไร่ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 โดยระหว่างปี 2559 - 2560 ได้ออกหนังสืออนุญาตไปแล้วจำนวน 63 ฉบับ เนื้อที่กว่า 548 ไร่ มอบให้กับชุมชนจำนวน 51 ชุมชน มีครัวเรือนได้รับประโยชน์กว่า 2,029 ครัวเรือน ประชาชนได้รับประโยชน์ 7,180 คน สำหรับในปี 2562 - 2563 จะเร่งดำเนินการออกหนังสืออนุญาตให้ครบทั้ง 10,789 ไร่ คาดว่าจะมีชุมชนได้รับประโยชน์ทั้งสิ้นกว่า 494 ชุมชน 21,600 ครัวเรือน ประชาชนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 60,000 คน
นายโสภณ กล่าวต่อว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการโครงการตามนโยบาย คทช. โดยให้ลำดับความสำคัญของพื้นที่ที่มีความเดือดร้อนเร่งด่วน ให้รีบดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สำหรับพื้นที่ชุมชนโหนทรายทอง หมู่ที่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นชุมชนเป้าหมายภายใต้โครงการ คทช. ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินการสำรวจรังวัดรูปแปลงแล้ว เนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 98 ไร่ มีราษฎรอยู่อาศัยจำนวน 256 ครัวเรือน 1,168 คน อยู่ระหว่างจังหวัดภูเก็ตยื่นคำขออนุญาตต่อกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำหรับพื้นที่ชุมชนสระต้นโพธิ์ ภายหลังจาก จ.ภูเก็ตได้ส่งมอบพื้นที่คืนให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เนื้อที่รวมประมาณ 50 ไร่ ซึ่งพื้นที่บริเวณที่มีความเสื่อมโทรม ประมาณ 4 ไร่ จะจัดที่อยู่อาศัยให้ชุมชนสระต้นโพธิ์ ตามนโยบาย คทช. ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหาภายใต้อนุกรรมการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินทำกิน ที่กลุ่ม P-Move ได้เรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ช่วยแก้ไขปัญหา
"ขอฝากถึงพี่น้องประชาชน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะเร่งรัดดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย และขั้นตอนอย่างเต็มที่ รัฐบาลเห็นความสำคัญและความสุขของพี่น้องประชาชนและกลุ่ม P-Move ที่ได้พยายามเรียกร้องมาโดยตลอด ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจรัฐบาลจะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนและออกหนังสืออนุญาตให้พี่น้องประชาชนอยู่อาศัยอย่างถูกต้องโดยเร็วที่สุด" นายโสภณ กล่าวทิ้งท้าย