ประชุมสภาฯ ส.ส.รุมตำหนิความหละหลวมเก็บอาวุธ จนมีเหตุกราดยิง พท.ขยี้ความล้มเหลว ถึงเวลาปฏิรูปกองทัพ "บิ๊กช้าง" พร้อมเพิ่มมาตรการดูแล นำเป็นบทเรียน โต้ปมขัดแย้งไม่ใช่ที่ราชพัสดุ
วันนี้ (12 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ได้เปิดโอกาสให้ส.ส.หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ปรากฏว่า ส.ส.นครราชสีมาหลายคน นำเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา กราดยิงประชาชนเสียชีวิตจำนวนมากที่จ.นครราชสีมามาขอหารือต่อสภา ส่วนใหญ่ตำหนิถึงความหละหลวมด้านการรักษาความปลอดภัยของกองทัพในการเก็บรักษาอาวุธ ปล่อยให้คนเพียงคนเดียว ปล้นอาวุธออกไปได้ง่ายๆ และให้เร่งตรวจสอบนายทหารที่ทำธุรกิจเอาเปรียบลูกน้อง จนเป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุร้ายขึ้น นอกจากนี้ยังเรียกร้องไปยังหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยว ให้จัดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ นักธุรกิจในพื้นที่จ.นครราชสีมา หลังจากที่ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากเหตุการณ์ทหารคลั่งกราดยิงประชาชนภายในห้างสรรพสินค้าทำให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวหวาดผวา กระทบการท่องเที่ยวซบเซา
จากนั้นเข้าสู่กระทู้ถามสด ที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้สอบถามถึงเหตุการณ์กราดยิงที่จ.นครราชสีมาว่า เหตุใดรัฐบาลไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อระงับความรุนแรงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งที่สาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างเจ้านายและลูกน้องในกองทัพ รวมทั้งความบกพร่องในการดูแลอาวุธ ถ้าเป็นต่างประเทศจะมีการลาออกแล้ว
“ผู้ก่อเหตุเป็นทหาร อาวุธเป็นของกองทัพ และมูลเหตุมาจากคนในกองทัพแล้วทำไมประชาชนต้องมารับผลไปด้วย ตอนเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผมมีข้อสังเกตุว่าภาคราชการไม่ได้มีการแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนได้รับรู้ แต่วันที่เกิดเหตุการณ์ประชาชนอาศัยข่าวทางสื่อต่างๆแทน และหลังจากเกิดเหตุไม่ได้มีการศูนย์เฉพาะกิจ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นความหละหลวมและถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้องปฏิรูปกองทัพ “
พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น นายกฯได้รับรายงานสถานการณ์เหตุการณ์ตลอด และหารือหลายฝ่ายว่าควรประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ และเตรียมกำลังสำหรับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่หากประกาศออกมาอาจทำให้สถานการณ์บานปลาย ขยายวงกว้าง อีกทั้งผบ.ตร.สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ การดำเนินการของเจ้าหน้าที่มีการวางแผนให้ประชาชนปลอดภัยมากที่สุด และสุดท้ายสามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้เด็ดขาดในเวลาต่อมา ส่วนการรักษาอาวุธนั้น ผู้ก่อเหตุเป็นกำลังพล เป็นผู้บังคับกองรักษาการย่อมรู้ดีว่า แต่ละหน่วยมีอาวุธและกระสุนอยู่ตรงไหน ใครเป็นผู้เฝ้าเวรยาม ประกอบกับมีทักษะการใช้อาวุธ ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมจะเพิ่มมาตรการดูแลรักษาอาวุธมากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนนำไปสู่การสร้างการเรียนรู้เพื่อหาทางป้องกันปัญหาต่อไป
ขณะที่นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นคราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ สอบถามถึงมาตรการป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ เพราะมีหลายคนในโลกโซเชียลไปข่มขู่จะก่อเหตุในลักษณะเดียวกันตามสถานที่ต่างๆ จนสร้างความหวาดผาแก่ประชาชน โดยพล.อ.ชัยชาญชี้แจงว่า เรื่องพฤติกรรมการเลียนแบบที่ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว และอาจเป็นต้นแบบให้ผู้นิยมความรุนแรงไปก่อเหตุตามนั้น รัฐบาลได้มอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไปติดตามจับกุมผู้มีพฤติกรรมเลียนแบบในโลกโซเชียล จนจับกุมผู้เลียนแบบได้สองราย อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะครอบครัวต้องช่วยดูแลสมาชิกในครอบครัวที่มีพฤติกรรมรุนแรงและพวกติดเกม จากข้อมูลของผู้ก่อเหตุมีลักษณะชอบเล่นเกม และมักชนะทุกครั้งที่เล่นเกม และเป็นคนเงียบขรึม เก็บความรู้สึก ครอบครัวจึงต้องช่วยกันดูแลพฤติกรรมคนในครอบครัวไม่ให้มีการสร้างความรุนแรงด้วย
จากนั้นนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ สอบถามว่า การก่อเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องความขัดแย้งในปมที่ราชพัสดุ อยากถามว่ากองทัพมีการนำเอาที่ดินราชพัสดุ ซึ่งเป็นที่ของแผ่นดินนำไปจัดสรรขาย โดยผู้ขายเป็นผู้บังคับบัญชาในกองทัพจริงหรือไม่ พล.อ.ชัยชาญชี้แจงว่า ยืนยันกรณีที่เกิดขึ้น ไม่ใช่โครงการที่ดินราชพัสดุ แต่เป็นที่ดินทั่วไปที่ผู้ก่อเหตุไปกู้เงินจากกองทัพบกมาสร้างบ้าน และไปตกลงการสร้างบ้านกับเจ้าของโครงการ เป็นเรื่องของคน2คน ส่วนการที่มีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น กองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว โดยให้ขยายผลไปในทุกโครงการด้วย ส่วนการจ่ายเงินชดเชยหรือเยียวยาให้ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บนั้น กองทัพสั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลือโดยเร็ว ให้เป็นไปตามขั้นตอนเบิกจ่าย
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเยียวยาประชาชนที่ประสบเหตุจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือภายใน 7-10 วัน โดยจะจ่ายให้กับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบ
