นายกฯ นำ ครม.เยือนพะเยา แจงแผนบริหารจัดการน้ำ ช่วยกักเก็บน้ำเพิ่มหลายเท่า ชี้เร่งทุกโครงการ แต่ติดปัญหางบล่าช้า เหตุทำตามกรอบเลือกตั้ง ย้ำอย่าฟังคนบิดเบือน ขี้เกียจทะเลาะ ยันรถไฟมาแน่ สัญญาคือสัญญา พร้อมโชว์สวมเสื้อม่อฮ่อม
วันนี้ (12 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.05 น. ที่หนองเล็งทราย อ.แม่ใจ จ.พะเยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาหนองเล็งทราย โดยนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังบรรยายสรุปจากผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา จากนั้นนายกฯ ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีถึงแนวทางการบริหารจัดน้ำ โดยนายกฯ ยืนยันว่า แผนการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ขณะนี้จะทำให้การกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นหลายเท่า ซึ่งผิดจากเมื่อก่อนที่มีระบบการจัดการน้ำที่ค่อยข้างน้อยและจำกัด แต่ทุกวันนี้สิ่งที่ต้องมาคิดกันใหม่ คือ การดำเนินการที่ไม่ให้กระทบต่อระบบนิเวศ และปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้ทันสมัย เพื่อจะพัฒนาพื้นที่ออกไปในอนาคต
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงพื้นที่ทำกินของประชาชนซึ่งต่างก็มีปัญหาในเรื่องของการรุกล้ำที่ดิน บางครั้งหน่วยงานที่ต้องการทำเขื่อนก็ทำไม่ได้ จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันมองไปถึงอนาคตว่าจะสามารถช่วยเหลือ หรือแก้ไขอย่างไรได้บ้าง แต่ขอยืนยันว่างบประมาณที่เข้ามาเสริมในจังหวัดพะเยา ได้เตรียมไว้เพียงพอและมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่การเบิกจ่ายทั้งหมด สิ่งสำคัญคือ ต้องมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ งบประมาณต้องถูกจัดการให้เกิดการใช้แบบบูรณาการ โดยงบในแต่ละจังหวัดสอดคล้องกันในหลายกระทรวง อยากให้ทุกคนเข้าใจการจัดการงบประมาณของรัฐบาลเพื่อลูกหลานในอนาคต รวมถึงการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในอนาคตก็ต้องควบคู่กับศีลธรรมทางจิตใจด้วย เมื่อเช้าได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และนมัสการเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง ก็รู้สึกสดชื่นที่ได้เห็นประชาชนที่มาทำบุญ ต่างมีหน้าตาเบิกบานและแจ่มใส และน่ารักกันทุกคนก็ขอให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ต้องการในเรื่องของความขัดแย้ง ไม่จำเป็นต้องรักคนใดคนหนึ่ง แต่ก็ขออย่างเดียว ขอให้รักประเทศของตัวเอง
นายกฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มีการเตรียมหนุนงบประมาณให้ลงไปในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ในทุกหมู่บ้านให้มากขึ้น ตามแผนยุทธศาสตร์ที่มีการกำหนดไว้แล้ว เพื่อต้องการให้ชุมชนผลักดันการท่องเที่ยวและประเพณีให้เป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น เพื่อดึงดูดธุรกิจการท่องเที่ยว แต่สิ่งสำคัญคือ การพัฒนาในแต่ละส่วนของธุรกิจการท่องเที่ยว ไม่อยากให้เกิดการพัฒนาที่ซ้ำเหมือนกัน อยากให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งกันและกัน เพื่อนำสิ่งที่แตกต่างกันของแต่ละตำบลมาเป็นจุดขายในธุรกิจการท่องเที่ยว
นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องคุณภาพชีวิต ทุกกระทรวงก็มีนโยบาย และรัฐบาลก็ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เด็กในครรภ์ จนถึงเด็กโต รัฐบาลกำลังทยอยดำเนินการ ขอให้รัฐบาลหาเงินด้วย มีหลักการเยอะแยะหมด ตามที่ทุกพรรคพูดมา แต่รัฐบาลเป็นคนทำ ดังนั้น รัฐบาลต้องมากลั่นกรองรายละเอียด ไม่ใช่ตนสั่งอยู่เพียงคนเดียว เพราะถ้าทำทั้งหมดก็ไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะไม่มีเงินจะทำอะไรแล้ว ทุกคนต้องมาหารือกัน ขอให้ช่วยกันคิดแบบนี้ รวมถึงโครงการสังคมคุณภาพชีวิต ก็ต้องทยอยดำเนินการ เพราะปัญหาติดอยู่ที่งบประมาณ ประกาศเมื่อใดก็ได้เมื่อนั้น แต่เงินจะมาเมื่อไหร่ก็ต้องรองบประมาณก่อน หลายอย่างปีนี้ล่าช้า แต่ไม่ได้ล่าช้าเพราะรัฐบาล ตนไม่อยากโทษใคร เพราะตั้งแต่แรกการจัดทำงบประมาณก็ตรงไปตามการเลือกตั้ง เพราะทุกคนอยากเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งแล้วขั้นตอนแต่ละขั้นตอนก็มีระยะเวลาอยู่ ต่อมาก็ดันมีปัญหาในสภาฯ รัฐบาลไม่อยากให้เกิดอยู่แล้ว แยกแยะให้ออก เกิดที่ไหนใครจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็ตีกันไปทั่วหมด ก็ไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนปัญหาที่ดินก็มีโครงการของคณะกรรมการนโนยายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่จะต้องเดินหน้าทุกจังหวัดต่อไป ส่วนผู้ที่บุกรุกก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ขอให้คำนึงถึงคนที่ไม่มีทำกินและไม่ได้บุกรุก ตลอดจนการส่งเสริมการรวมกลุ่มชุมชน การค้าขายออนไลน์ รวมถึงการดูแลสุขภาพประชาชนที่ต้องทำให้ดีขึ้น เช่น ผลักดันยาเข้าระบบ การรักษาอุบัติเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมง เป็นต้น
“ขอฝากทุกคนให้ทำงานร่วมกัน ช่วยกันพัฒนาท้องถิ่น และต่อยอดภูมิปัญญาของเรา ลดความขัดแย้ง อย่าไปฟังคนบิดเบือน บางอย่างมันไม่ใช่ ท่านก็เห็นอยู่ ผมขี้เกียจไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น ขอเวลาทำงานดีกว่า วันนี้ทุกคนก็ตั้งใจทำงาน ไม่เคยหยุดงาน เมื่อวานก็ไปโคราช แล้วก็มีประชุม ครม. แต่อย่างไรเราก็ต้องดูแลทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ผมมาต่างจังหวัดแล้วกว่า 95 ครั้ง เกือบทุกกลุ่มจังหวัดแล้ว ขอให้ทุกคนเข้าใจรัฐบาล ร่วมมือกับรัฐบาล เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องปรับตัวใหม่ ไม่ใช่ข้าราชการกับประชาชนเดินกันคนละถนน ไม่อยากเจอกัน ต้องหารือร่วมกัน เสนอขึ้นมาตามทุกลำดับชั้น ผู้ว่าฯ มายังกระทรวง เสนอมายังรัฐบาล ผมแก้ให้หมดด้วยกฎหมายที่มีอยู่ให้สามารถดำเนินการได้ ทำตามใจมากก็รวนไปหมด ต้องมีความเป็นธรรมและโอกาส” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ในช่วงท้าย นายกฯ ถามประชาชนที่มาร่วมรับฟังว่า รถไฟอยากได้จริงหรือ ขอมานานแล้ว ขอมาหลายรัฐบาลแล้วใช่ไหม แล้วไม่เคยได้ใช่ไหม แล้วรัฐบาลนี้ได้แล้วยัง ชาวบ้านตอบว่า “ให้แล้ว” ก่อนนายกฯ ตอบว่า “ให้แล้วแต่ยังไม่มา รอไปก่อน เดี๋ยวก็มี สัญญาคือสัญญา” และว่า มีหลายอย่างที่จะทำไว้ให้ ต้องไปดูแผนแม่บทที่มี ไม่ใช่ใช้งบ 3 ล้านล้านจนหมด จะต้องชำระของเก่าด้วย จึงจะเกิดโครงการใหม่ อยากได้อะไรก็เสนอขึ้นมา แต่ต้องมีแผนงานให้ละเอียดเรียบร้อย
หลังจากนายกฯ กล่าวบรรยายสรุปเสร็จสิ้น ก็ได้พบปะประชาชนที่มาร่วมรับฟังและรอต้อนรับ ซึ่งประชาชนบางส่วนได้ตะโกนชื่นชมนายกรัฐมนตรีเป็นภาษาเหนือ “หล่อขนาด” ซึ่งแปลว่า หล่อมาก ก่อนนายกฯ กล่าวตอบว่า “งามเหมือนกั๋น” พร้อมถ่ายรูปร่วมกับประชาชน อย่างเป็นกันเอง นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้เดินไปเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าโอทอปของจังหวัดพะเยา พร้อมอุดหนุนสินค้าโอทอปในทุกร้าน เช่น กระเป๋าผักตบชวา กาแฟ ข้าว และเสื้อม่อฮ่อม พร้อมเลือกเสื้อม่อฮ่อมสีน้ำเงิน โดยนายกฯ ได้ถอดเสื้อคลุมสีดำของตัวเองออก และสวมเสื้อม่อฮ่อมทับแทนที่ ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่อไปยังจังหวัดน่าน เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดน่าน