ผู้จัดการรายวัน360- นายกฯทีมขึ้นเหนือ ไปพะเยา-น่าน ติดตามการบริหารจัดการน้ำ-แก้ปัญหาหมอกควันจากไฟป่า รับปากคนพะเยาได้นั่งรถไฟแน่ในรัฐบาลนี้ มอบเอกสารโฉนดที่ดิน ที่จ.น่าน ย้ำให้รักษาให้ดี รัฐบาลมอบให้เป็นชิ้นสุดท้าย ส่วนปัญหาหมอกควันวอนทุกส่วนร่วมมือแก้ อย่าให้ใครมาบิดเบือนข้อมูล
วานนี้ (12ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะเดินทางไปตรวจราชการ ที่ จ.พะเยา และจ.น่าน เพื่อติดตามความคืบหน้า เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ แก้วิกฤตภัยแล้ง โดยคณะของนายกฯ เดินทางถึง ท่าอากาศยานน่านนคร ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน เมื่อเวลา 08.25น. จากนั้น ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 ไปยัง วัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง อ.เมืองฯ จ.พะเยา เข้าสักการะพระเจ้าตนหลวง พระประธานในพระอุโบสถ กราบสรีระสังขารพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมมปญโญ) ก่อนนมัสการพระสุนทรกิตติคุณ (เดชา อินทปญโญ) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดศรีโดมคำ และได้สอบถามถึงสภาพอากาศ และสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ตลอดจนเรื่องความรัก ความสามัคคี ของคนในพื้นที่
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ โดยขอให้ทุกคนมั่นใจกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องค่าครองชีพ ราคาสินค้าเกษตร รวมถึงปัญหาฝุ่นควัน โดยเฉพาะเรื่องของการเกษตร อยากให้ทุกคนช่วยกันคิดว่าจะพัฒนาการทำการเกษตรกันต่อไปอย่างไร
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้รับชมการแสดงเพลงบรรเลงจากอังกะลุง ก่อนร่วมเล่นอังกะลุง ในบทเพลง“พะเยารอเธอ”ของศิลปิน สุริยัน บุญยศ จากกลุ่มผู้สูงอายุเทศบาลเมืองพะเยาด้วย จากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง หนองเล็งทราย อ.แม่ใจ จ.พะเยา เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนาหนองเล็งทราย
หลังจากรับฟังการบรรยายสรุป จากผวจ.พะเยาแล้ว นายกฯได้ขึ้นกล่าวบนเวที ถึงแนวทางการบริหารจัดน้ำว่า จากเดิมที่มีการกักเก็บน้ำได้น้อย ก็จะพัฒนาให้กักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น แต่การดำเนินการต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ด้วย เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
ส่วนเรื่องที่ดินทำกินของประชาชน ที่มีปัญหาในเรื่องของการรุกล้ำ บางครั้งหน่วยงานที่ต้องการทำเขื่อน ก็ทำไม่ได้ จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันมองไปถึงอนาคตว่าจะสามารถช่วยเหลือ หรือแก้ไขอย่างไรได้บ้าง แต่ขอยืนยันว่างบประมาณที่เข้ามาเสริมใน จ.พะเยา ได้เตรียมไว้เพียงพอ แต่การใช้จ่ายต้องมีประสิทธิภาพให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชน เพื่อผลักดันการท่องเที่ยว และประเพณี ที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ด้วย
"ขอฝากทุกคนให้ทำงานร่วมกัน ช่วยกันพัฒนาท้องถิ่น ลดความขัดแย้ง อย่าไปฟังคนบิดเบือน บางอย่างมันไม่ใช่ ท่านก็เห็นอยู่ ผมขี้เกียจไปทะเลาะกับใคร ขอเวลาทำงานดีกว่า รัฐบาลต้องดูแลทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ขอให้ทุกคนเข้าใจ ร่วมมือกับรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องปรับตัวใหม่ ไม่ใช่ข้าราชการกับประชาชนเดินกันคนละถนน ต้องหารือร่วมกัน แล้วเสนอขึ้นมายังรัฐบาล ผมแก้ให้หมดด้วยกฎหมายที่มีอยู่ให้สามารถดำเนินการได้ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ในช่วงท้าย นายกฯ ถามประชาชนที่มาร่วมรับฟังว่า รถไฟอยากได้จริงหรือ ขอมานานแล้ว ขอมาหลายรัฐบาลแล้วใช่ไหม แล้วไม่เคยได้ใช่ไหม แล้วรัฐบาลนี้ได้แล้วยัง ชาวบ้านตอบว่า "ให้แล้ว" ก่อนนายกฯ ตอบว่า "ให้แล้วแต่ยังไม่มา รอไปก่อน เดี๋ยวก็มี สัญญาคือสัญญา"
จากนายกฯและคณะ ออกเดินทางไป จ.น่าน เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาหมอกควันจากไฟป่า และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ของจังหวัดน่าน
เมื่อเดินทางไปถึง นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผวจ.น่าน กล่าวรายงานความก้าวหน้าการบริการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเศรษฐกิจของ จ.น่าน และ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานความก้าวหน้าการบริหารพื้นที่รูปแบบพิเศษ (Nan Sandbox)พร้อมประกาศเดินหน้านโยบายรัฐบาลของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่จะขับเคลื่อนทั่วประเทศ
ต่อมานายกฯ ได้มอบที่ดินโฉนด คืนให้แก่เกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวน 2 ราย และเป็นประธานสักขีพยาน ร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.) โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ให้แก่ผวจ.น่าน รวมถึงมอบเอกสารโครงการจัดระเบียบการใช้ที่ดินป่าไม้ ให้แก่ชุมชน จำนวน 5 ราย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง เรื่องปัญหาหมอกควันจากไฟป่า และการเผาพื้นที่ไร่นาว่า อยากให้มาร่วมมือกัน เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น อย่าสร้างปัญหาใหม่มาแทนปัญหาใหม่ขึ้นมาแทนปัญหาเก่า
วันนี้ได้มีการมอบโฉนดที่ทำกินให้กับประชาชน และจะเดินหน้าปลดล็อกที่ดินให้ได้ทั่วประเทศ จึงขอให้ทุกคนนำไปใช้ประโยชน์ในเรื่องของการเกษตรให้ได้มากที่สุด ขออย่านำที่ดินที่รัฐบาลได้มอบให้ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือขายต่อให้บุคคลอื่น เพราะเป็นที่ดินผืนชิ้นสุดท้ายที่รัฐบาลทำให้ อย่าให้หลุดมือไปอีก
"ที่ผมทำให้นี้ไม่ใช่ต้องการให้มารักผม แต่ผมทำเพื่อให้รักประเทศชาติ รักแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชนเผ่า ทั้งหมด เราเป็นคนไทยจะแตกแยกกันไม่ได้ ใครมาสอนให้แตกแยก ไม่รักกัน ผมคิดว่าใช้ไม่ได้ เวลานี้คนไทยไม่ต้องการคนแบบนี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการการพัฒนา จ.น่าน ในมิติต่างๆ รวมถึงได้ชิมกาแฟ “ภูมิใจ๋ คอฟฟี่”ของคนเมืองน่าน พร้อมชิมอาหารเหนือ แกงฮังเล และถ่ายภาพร่วมกับนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเด็กๆ ต่างรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ถ่ายภาพร่วมกันนายกฯ อย่างใกล้ชิด
วานนี้ (12ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะเดินทางไปตรวจราชการ ที่ จ.พะเยา และจ.น่าน เพื่อติดตามความคืบหน้า เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ แก้วิกฤตภัยแล้ง โดยคณะของนายกฯ เดินทางถึง ท่าอากาศยานน่านนคร ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน เมื่อเวลา 08.25น. จากนั้น ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 ไปยัง วัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง อ.เมืองฯ จ.พะเยา เข้าสักการะพระเจ้าตนหลวง พระประธานในพระอุโบสถ กราบสรีระสังขารพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมมปญโญ) ก่อนนมัสการพระสุนทรกิตติคุณ (เดชา อินทปญโญ) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดศรีโดมคำ และได้สอบถามถึงสภาพอากาศ และสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ตลอดจนเรื่องความรัก ความสามัคคี ของคนในพื้นที่
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ โดยขอให้ทุกคนมั่นใจกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องค่าครองชีพ ราคาสินค้าเกษตร รวมถึงปัญหาฝุ่นควัน โดยเฉพาะเรื่องของการเกษตร อยากให้ทุกคนช่วยกันคิดว่าจะพัฒนาการทำการเกษตรกันต่อไปอย่างไร
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้รับชมการแสดงเพลงบรรเลงจากอังกะลุง ก่อนร่วมเล่นอังกะลุง ในบทเพลง“พะเยารอเธอ”ของศิลปิน สุริยัน บุญยศ จากกลุ่มผู้สูงอายุเทศบาลเมืองพะเยาด้วย จากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง หนองเล็งทราย อ.แม่ใจ จ.พะเยา เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนาหนองเล็งทราย
หลังจากรับฟังการบรรยายสรุป จากผวจ.พะเยาแล้ว นายกฯได้ขึ้นกล่าวบนเวที ถึงแนวทางการบริหารจัดน้ำว่า จากเดิมที่มีการกักเก็บน้ำได้น้อย ก็จะพัฒนาให้กักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น แต่การดำเนินการต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ด้วย เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
ส่วนเรื่องที่ดินทำกินของประชาชน ที่มีปัญหาในเรื่องของการรุกล้ำ บางครั้งหน่วยงานที่ต้องการทำเขื่อน ก็ทำไม่ได้ จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันมองไปถึงอนาคตว่าจะสามารถช่วยเหลือ หรือแก้ไขอย่างไรได้บ้าง แต่ขอยืนยันว่างบประมาณที่เข้ามาเสริมใน จ.พะเยา ได้เตรียมไว้เพียงพอ แต่การใช้จ่ายต้องมีประสิทธิภาพให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชน เพื่อผลักดันการท่องเที่ยว และประเพณี ที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ด้วย
"ขอฝากทุกคนให้ทำงานร่วมกัน ช่วยกันพัฒนาท้องถิ่น ลดความขัดแย้ง อย่าไปฟังคนบิดเบือน บางอย่างมันไม่ใช่ ท่านก็เห็นอยู่ ผมขี้เกียจไปทะเลาะกับใคร ขอเวลาทำงานดีกว่า รัฐบาลต้องดูแลทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ขอให้ทุกคนเข้าใจ ร่วมมือกับรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องปรับตัวใหม่ ไม่ใช่ข้าราชการกับประชาชนเดินกันคนละถนน ต้องหารือร่วมกัน แล้วเสนอขึ้นมายังรัฐบาล ผมแก้ให้หมดด้วยกฎหมายที่มีอยู่ให้สามารถดำเนินการได้ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ในช่วงท้าย นายกฯ ถามประชาชนที่มาร่วมรับฟังว่า รถไฟอยากได้จริงหรือ ขอมานานแล้ว ขอมาหลายรัฐบาลแล้วใช่ไหม แล้วไม่เคยได้ใช่ไหม แล้วรัฐบาลนี้ได้แล้วยัง ชาวบ้านตอบว่า "ให้แล้ว" ก่อนนายกฯ ตอบว่า "ให้แล้วแต่ยังไม่มา รอไปก่อน เดี๋ยวก็มี สัญญาคือสัญญา"
จากนายกฯและคณะ ออกเดินทางไป จ.น่าน เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาหมอกควันจากไฟป่า และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ของจังหวัดน่าน
เมื่อเดินทางไปถึง นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผวจ.น่าน กล่าวรายงานความก้าวหน้าการบริการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเศรษฐกิจของ จ.น่าน และ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานความก้าวหน้าการบริหารพื้นที่รูปแบบพิเศษ (Nan Sandbox)พร้อมประกาศเดินหน้านโยบายรัฐบาลของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่จะขับเคลื่อนทั่วประเทศ
ต่อมานายกฯ ได้มอบที่ดินโฉนด คืนให้แก่เกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวน 2 ราย และเป็นประธานสักขีพยาน ร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.) โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ให้แก่ผวจ.น่าน รวมถึงมอบเอกสารโครงการจัดระเบียบการใช้ที่ดินป่าไม้ ให้แก่ชุมชน จำนวน 5 ราย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง เรื่องปัญหาหมอกควันจากไฟป่า และการเผาพื้นที่ไร่นาว่า อยากให้มาร่วมมือกัน เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น อย่าสร้างปัญหาใหม่มาแทนปัญหาใหม่ขึ้นมาแทนปัญหาเก่า
วันนี้ได้มีการมอบโฉนดที่ทำกินให้กับประชาชน และจะเดินหน้าปลดล็อกที่ดินให้ได้ทั่วประเทศ จึงขอให้ทุกคนนำไปใช้ประโยชน์ในเรื่องของการเกษตรให้ได้มากที่สุด ขออย่านำที่ดินที่รัฐบาลได้มอบให้ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือขายต่อให้บุคคลอื่น เพราะเป็นที่ดินผืนชิ้นสุดท้ายที่รัฐบาลทำให้ อย่าให้หลุดมือไปอีก
"ที่ผมทำให้นี้ไม่ใช่ต้องการให้มารักผม แต่ผมทำเพื่อให้รักประเทศชาติ รักแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชนเผ่า ทั้งหมด เราเป็นคนไทยจะแตกแยกกันไม่ได้ ใครมาสอนให้แตกแยก ไม่รักกัน ผมคิดว่าใช้ไม่ได้ เวลานี้คนไทยไม่ต้องการคนแบบนี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการการพัฒนา จ.น่าน ในมิติต่างๆ รวมถึงได้ชิมกาแฟ “ภูมิใจ๋ คอฟฟี่”ของคนเมืองน่าน พร้อมชิมอาหารเหนือ แกงฮังเล และถ่ายภาพร่วมกับนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเด็กๆ ต่างรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ถ่ายภาพร่วมกันนายกฯ อย่างใกล้ชิด